เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
AU : Spacealwaysinmyheart
[DAY6:SF]space object(Jae x YoungK) **Space AU** #1
    • -เรื่องนี้เป็นSFนะคะ ซึ้งยังไม่แน่ใจว่าจะมีกี่ตอนแตไม่น่าจะเกิน4ตอน..
    • -ตอนแรกตั้งใจจะให้เป็นแค่OSแต่ไปๆมาๆยาวเกิ๊นน เลยแบ่งลงดีกว่า
    • -เนื้อเรื่องไม่มีอะไรเลย555 เรื่อยๆแต่งมาอวยความน่ารักของน้องยยเฉยๆ
    • ปล.ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ กราบบบบบบ <3




    โดอุน เมื่อคืนกูกลับมาคอนโดไงวะ

    ผมกับพี่ซองจินลากกลับมาเองพี่แม่งเมาอย่างหมา

    มึงได้ส่งกูถึงห้องป่ะหรือทิ้งกูไว้หน้าคอนโด

    เหี้ยไรวะพี่ ผมไปนอนต่อก่อนนะมีเรียนบ่าย

    .

    .

    .

    ไอ้เหี้ยจินเมื่อคืนกูได้พาใครขึ้นมาเอาบนห้องป่ะ

    ยังไม่สร่างอีกเหรอวะ มีแรงเอาก็เทพแล้วสัดเมาหัวราน้ำขนาดนั้น

    เหี้ยยยยยยย!!!

    .

    .

    .

    พัคเจฮยองรู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเมาแอ๋จนจำอะไรไม่ได้หรือไร้สติจนทำเรื่องน่าอาย แต่ภาพตรงหน้าในตอนนี้ทำให้เขาไม่แน่ใจเอาเสียเลย เขาพยายามสั่งสมองให้รวบรวมสติที่ยังเหลืออยู่ควานหาโทรศัพท์บนเตียงอย่างเบามือที่สุดไม่ให้รบกวนคน ( ที่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร )ที่กำลังนอนหลับอยู่อีกซีกหนึ่งของเตียง รีบกดโทรตรงรายชื่อของบุคคลที่เขาออกไปสังสรรค์ด้วยเมื่อคืน

     คำตอบของเพื่อนทั้งสองบวกกับความเชื่อใจในตัวเองค่อนข้างชัดเจนพอ ว่าเขาไม่มีทางเมาจนไปนอนกับใครที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน 

    แล้วมึงเป็นใครวะเนี่ย

    เจฮยองรวบรวมสติให้มากกว่าหนก่อน เดินตรงไปยังคนที่กำลังซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงของเขา

    เชี่ยแม่ง! ถ้าเป็นผีล่ะวะ เจฮยองชะงักไปจังหวะนึงก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าผีคงไม่มาหลอกกันตอนกลางวันแสกๆหรอกมั้ง

    เหี้ย! หรือจะเป็นขโมยขโมยบ้าอะไรจะมานอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงแบบนี้วะ

    จบความคิดทุกอย่างเจฮยองตัดสินใจกระชากผ้าห่มออกจากเตียง หวังจะปลุกให้คนตรงหน้าตื่น แต่ผิดคาด...

    เฮ้ยยยยยย!!!” ทันทีที่ผ้าห่มหลุดออก ตัวเจ้าปัญหาบนเตียงไร้ซึ่งสิ่งปกคลุมร่างกายอีกต่อไป...และใช่ เจฮยองหมายถึง ไร้ซึ่ง จริงๆ

     ‘ก็แม่งเล่นมานอนแก้ผ้าบนเตียงกูเนี่ย!!’

    .

    .

    .

    "ไงมึง กูจะโทรมาชวนไปประเดิมร้านใหม่คืนนี้"

    "เอาไว้ก่อนไอ้บ็อบ มึงฟังกูนะถ้าสมมติมึงเจอ.. อ่าาา เจอนางเงือก มึงจะทำไงวะ"

    "เจฤทธิ์เหล้าเมื่อคืนทำมึงเพี้ยนเหรอวะ"

    "กูจริงจังเว้ย ตอบกูมา"

    "เออๆๆถ้าสวยกูก็ลากแม่งขึ้นห้องอ่ะ"

    ถ้าเจอผีอะ

    วิ่งสิไอ้เหี้ยยืนให้ผีแม่งเล่นกูเหรอ

    "...แล้วถ้ามึงเจอมนุษย์ต่างดาวอะ"

    .

    .

    .

    สาบานได้เลยว่าหากเจฮยองสามารถย้อนเวลากลับไปได้  เขาจะไม่ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นมาอย่างเด็ดขาด

    ตึงงง!

     “โอ๊ยยยเจ็บเหี้ยไรของมึงเนี่ย” 

    ปรอทความหัวร้อนของเจฮยองพุ่งสูงขึ้นตอนที่ร่างเปลือยเปล่าล้มลงใส่เขาทันทีที่เริ่มก้าวขาออกจากเตียง

    มึงเป็นง่อยเหรอวะ สั----

    พลาดแล้วกู... เจฮยองแทบจะสาบานอีกครั้งหากเขาย้อนเวลากลับไปได้เขาจะหนีออกไปจากตรงนี้ให้ไกลที่สุด ไม่สิ...เขาควรจะระเบิดบ้านหลังนี้ไปเสียด้วยซ้ำ

    ถึงแม้เจฮยองจะไม่เคยเห็นผี ปีศาจหรือสัตว์ประหลาดในชีวิตจริงแต่เขามั่นใจว่าสิ่งที่นอนทับตัวเขาอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน

    มีสองแขนสองขา มีหน้าหู จมูก ปาก และตาสีดำสนิท.... ที่แม่งแทบจะกินพื้นที่เศษสามส่วนห้าของหน้าเลยโว้ยยยตาหรือหลุมดำวะเนี่ย

    อ้ากกกก!มึงเป็นตัวไรวะ เฮ้ย! กูขอโทษ กูผิดไปแล้วที่ไปทำให้คุณมึงตื่นกูกลั---” กลัวจนพูดไม่ออก..เจฮยองไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสียงใดๆตอนที่ตาโตคู่นั้นมองจ้องเข้ามาในดวงตาของเขาและเคลื่อนเข้ามาใกล้

    เจฮยองสังเกตเห็นจุดสว่างเล็กๆหลายจุดในดวงตาคู่ตรงหน้า จุดสว่างวิบวับคล้ายกับหมู่ดาวสุกสว่างบนฟ้ามืด

    สวยจัง...

    เจฮยองนึกอยากจะลืมความคิดก่อนหน้าไปเสียให้หมดเพราะ...

    เหี้ยยยยย! ตาแม่งปล่อยแสงได้ด้วย

    เจฮยองรีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบังหน้าแล้วหลับตาปี๋ไม่ใช่เพราะแสบตาจากแสงตรงหน้าแต่เป็นเพราะเขากลัว

    ก..ก..กลัวแล้ว อย่าทำอะไรผมเลยอย่ากินผมเลย ผ..ผมไม่อร่อย เจฮยองร้องเสียงสั่น

    อ.. อะ..อา-หร่อย.. คราวนี้ไม่ใช่เสียงร้องสั่นด้วยความกลัว แต่กลับเป็นเสียงเอ๊าะแอ๊ะฟังไม่ชัดคล้ายกับเสียงของเด็กวัยกำลังหัดพูดซึ่งเจฮยองมั่นใจว่าเป็นเสียงของตัวประหลาดนั่นอย่างแน่นอน

    เจฮยองค่อยๆลืมตามองภาพตรงหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไป นอกเสียจากตาที่โตผิดปกติก่อนหน้านั้นมีขนาดเล็กลงเท่ากับตาของมนุษย์โลกทั่วไปไม่มีแสงออกมาจากตาแล้ว ตอนนี้คนตรงหน้าแทบไม่มีส่วนใดผิดแปลกไปจากคนปกติแต่เจฮยองกลับรู้สึกว่าตาทั้งสองข้างนั้นดูพิเศษและดึงดูดสายตาของเขาได้มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป

    เจฮยองใจกระตุกวูบตอนที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าร่างเปลือยเปล่าบนตัวเขานั้นอยู่ในท่าล่อแหลมขนาดไหน ใจเต้นถี่รัวขึ้นตอนที่ร่างด้านบนเผลอขยับสะโพกไปมาใกล้กับส่วนอ่อนไหวของเขา มือนิ่มเอื้อมมาแตะลงบนปากของเจฮยองก่อนที่จะลากนิ้วลูบสัมผัสอย่างสนอกสนใจ ราวกับเป็นสิ่งแปลกใหม่ ราวกับเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เจฮยองทำสติหลุดหายไปได้สักพักแล้ว เขาปล่อยให้มือนิ่มไล้สัมผัสหนักเบาไปทั่วทั้งใบหน้ายิ่งร่างด้านบนขยับเคลื่อนไหวอยู่บนตัวมากเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกเหมือนล่องลอยไปไกลมากเท่านั้น เจฮยองไม่แน่ใจว่าเผลอยกมือขึ้นจับสะโพกมนตั้งแต่ตอนไหน เขาออกแรงบีบเนื้อนิ่มเบาๆอย่างเผลอไผล

    ครืดดดดดด...

    เสียงสั่นจากโทรศัพท์มือถือกระชากเจฮยองให้หลุดจากความเคลิบเคลิ้มทั้งหมดทันทีที่สติกลับมา เจฮยองจึงได้รู้ว่ามือทั้งสองของเขาอยู่ในที่ที่ไม่ควรเอาเสียเลย

    วินาทีถัดมาเจฮยองก็ได้รู้อีกว่าไม่ใช่แค่มือที่อยู่ผิดที่ผิดทาง...ตัวเขาเองด้วยเช่นกัน

    พลั่กกก!...

    ตึงงง!...

    โครมม!...

    ปัง!!..

    เจฮยองเชื่อว่าชื่อของเขาจะต้องถูกจารึกไว้ในฐานะ‘ผู้ที่วิ่งเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์’อย่างแน่นอนเขามั่นใจว่าใช้เวลาแค่เสี้ยววินาทีในการพาตัวเองออกมาจากห้องนอน ‘ขืนอยู่ต่อมีหวังได้โดนแดกหัวแน่ๆ’

    นึกสงสัยว่าเสียงดัง โครม ที่ได้ยินก่อนออกจากห้องคือเสียงอะไร ความคาใจทั้งหมดจบลงทันทีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง

    "...แล้วถ้ามึงเจอมนุษย์ต่างดาวอะ"

    จับมาแล้วขายต่อNASA แม่งซื้อแน่นอน กูจะตั้งราคาสักพันล้าน

    แล้วมึงว่าNASAจะเอาไปทำอะไรวะ

    หน้ากูดูเหมือนทีมวิจัยอวกาศNASAเหรอสัส เอาไปทดลองมั้ง จับผ่าแยกชิ้นส่วนแล้วศึกษา

    พัคซองจิน มึงเตรียมตัวมีเพื่อนเป็นเศรษฐีได้เลย

    .

    .

     .

    แม้ว่าเจฮยองไม่ได้มีหัวด้านการจัดการทรัพยากรเงินมากนัก แต่คำพูดของพัคซองจินเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วได้กระตุกสัญชาตญาณของนักลงทุนในตัวของเจฮยองออกมา โดยเฉพาะคำว่าพันล้าน สมองของเจฮยองคิดคำนวณได้ดีขึ้นเมื่อตัวเลขสิบหลักวิ่งวนอยู่ในหัว

    เอาเว้ย !การลงทุนมีความเสี่ยง เสี่ยงโดนมนุษย์ต่างดาวแดกแลกกับพันล้านกูยอมว่ะ’

    เจฮยองสูดหายใจเข้าออกลึกๆเป็นครั้งสุดท้าย ทำใจกล้าผลักประตูห้องแล้วพุ่งตัวเข้าไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ในนั้นอีกครั้ง แต่ทุกอย่างกลับผิดจากที่คิดเอาไว้มาก

    เฮ้ยมึง... ร้องเหรอ

    เจฮยองไม่แน่ใจกับภาพตรงหน้ามากนัก ข้าวของที่เดิมเคยวางอยู่บนตู้หล่นกระจายเต็มพื้นและถัดไปใกล้ๆคือร่างของคน(?) ที่เขาเตรียมใจมาเผชิญกำลังนั่งกอดเขาอยู่บนพื้น ดวงตาบวมชื้นเอ่อล้นไปด้วยของเหลวสีเงินจางๆ ใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดหันมองมาทางเจฮยองก่อนที่จะรีบมุดหน้าลงไปซบกับเข่าตัวเอง

    เป็นอะไร... เจฮยองถามเสียงแผ่ว เร่งก้าวขายาวตรงไปหาร่างที่นั่งตัวงอบนพื้น เจฮยองย่อตัวลงนั่งให้อยู่ในระดับเดียวกันกับร่างตรงหน้า สายตาเหลือบไปเห็นรอยแดงช้ำเป็นแถบบนหลังเนียน...

    มึงไปโดนอะไร.. มาวะ เจฮยองพูดขาดช่วง

    ภาพเหตุการณ์ไม่กี่นาทีก่อนหน้าย้อนกลับมาเข้าในหัวของเจฮยองเป็นฉากๆ ภาพก่อนที่เขาจะวิ่งออกมาจากห้องด้วยความเร็วแสง ภาพของร่างที่เคยคร่อมทับตัวเขากระเด็นออกไป และแน่นอนว่าเสียงดัง โครม ที่เจฮยองสงสัยนั้นก็คือฉิบหายแล้วไงกู ผลักมันไปชนขอบตู้ เป็นแผลขนาดนี้โดนยานแม่มันตามไล่ฆ่าแน่นอน

    ผมขอโทษๆๆๆเจฮยองรีบยกมือขึ้นไหว้ พูดคำขอโทษซ้ำๆเผื่อว่าอีกฝ่ายจะให้อภัยเขา

    คนเจ็บตรงหน้าไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง ไหล่ที่สั่นระริกกับเสียงสะเอื้อนที่ดังออกมาทำให้เจฮยองรู้ว่ารอยแดงที่หลังสร้างความเจ็บปวดไม่น้อย

    อยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวมา

    เจฮยองวิ่งหายออกไปจากห้อง ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมกับยาที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บของคนที่เขาทำร้ายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เจฮยองนั่งลงตรงหน้าคนเจ็บที่ตอนนี้ยังคงก้มหน้าร้องไห้ เขาบีบยาจากหลอดลงบนนิ้วมือแล้วจัดการทาลงไปเบาๆบนรอยแดงช้ำ

    ขอโทษ ขอโทษที่ทำให้นายเจ็บขอโทษจริงๆ เจฮยองหมายความอย่างที่พูดจริงๆ เขารู้สึกผิดจริงๆ

    เจฮยองไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ แต่ในที่สุดคนที่เจฮยองพร่ำขอโทษก็ยอมเงยหน้าขึ้นมา เจฮยองใช้โอกาสนี้สังเกตใบหน้าคนตรงข้าม ปลายจมูกโด่งรั้นขึ้นสีแดงจัด ดวงตาเรียวยังคงเอ่อล้นไปด้วยของเหลวสีเงิน

    เจ็บมากมั้ย

    เพราะน้ำตาของอีกฝ่ายไม่ได้เป็นสีใส เจฮยองจึงมองเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายร้องไห้เยอะแค่ไหนจากคราบสีเงินจางๆบนใบหน้า 

    เจฮยองยกมือขึ้นจับหน้าคนที่เพิ่งร้องเสร็จไป ใช้นิ้วเกลี่ยไล่น้ำตาเบาๆลงบนเปลือกตาจนหมดแล้วค่อยเคลื่อนนิ้วลงมาตามสันจมูกไปยังแก้มนิ่ม เจฮยองลากนิ้วไปมาตรงส่วนนี้นานเป็นพิเศษ ตั้งใจจะลบคราบน้ำตาออกไปจนหมด

    เป็นแผลนิดเดียวยังร้องไห้ขนาดนี้ถ้ามึงโดนจับแยกชิ้นส่วนไปทดลองมึงไม่ร้องตายไปเลยเหรอวะ

    เจฮยองลบความคิดเรื่องเงินพันล้านออกไปจนหมด  สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจฮยองตอนนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาเคยคิดแต่กลับดูนุ่มนิ่ม บอบบางน่าปกป้องและ..น่าแกล้งฉิบหาย พ่อจะแกล้งให้ร้องอีกเยอะๆเลย ทำกูตกใจดีนัก

    __________________________________ To becontinued.1___________________________________

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in