•สวัสดีค่ะ ทุกคน เป็นยังไงบ้างคะสองเดือนที่ผ่านมา ปี2022 มีความสุขกันบ้างมั้ยเอ่ย วันนี้เรามีหนึ่งบทเพลงดีๆมาฝากกัน เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ one for the road นั่นเอง แต่ถึงไม่ได้ดูหนังก็ยังเข้าใจเนื้อหาของเพลงได้เหมือนกันค่ะ
•ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่าตัวเราเองได้ฟังเพลงนี้เพราะเพื่อนคนนึงส่งมาแล้วบอกว่า มันดีมาก เราเชื่อในจริตการฟังเพลงของมันเพราะพวกเราชอบเพลงคล้ายๆกัน
•เราเพียงกดฟังได้แค่เสียงดีเจพูดเกริ่นก่อนเข้าตัวเพลง เราก็ชอบไปเสียแล้ว ได้แต่คิดว่าถ้าบทเพลงนี้ผ่านมาช่วงสิ้นปีจะเป็นยังไงกัน บางทีการค้นพบเพลงดีๆ และเรื่องราวของเราถูกเล่าผ่านบทเพลง แค่นี้ก็เย็นใจแล้วค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราลองเปิดเพลงฟังแล้วอ่านความหมายไปด้วยกันนะคะ (ลองใส่หูฟังแล้วหาที่นั่ง ให้ลมพัดผ่านตัวดู // ถึงอากาศบ้านเราจะร้อนมากก็ตาม)
All the faces flashing by
Said hello, we've said goodbye
Maybe we'll meet up again in the next life
No one said it'd be easy
But I never dreamed it would turn out like this
ทุกคนผ่านเข้ามาทักทาย
แล้วเราก็กล่าวลากัน
บางทีพวกเราอาจจะเจอกันอีกครั้งในชาติหน้าก็ได้นะ
ไม่เคยมีใครพูดว่ามันง่ายหรอก
ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่เคยฝันเหมือนกันว่าเรื่องของเรามันจะเป็นแบบนี้
Nobody knows where all the years go
Our stories unfold
What a time, what a time
What a time to be alive
ไม่มีใครล่วงรู้ช่วงเวลาที่ผ่านไปหลายปี
เรื่องราวของเราก็ค่อยๆถูกเปิดออก
เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจริงๆ
Nobody knows where all the years go
Our stories unfold
What a time, what a time
What a time to be alive
Nobody knows
ไม่มีใครรู้ช่วงเวลาที่ผ่านไปหลายปี
เรื่องราวของเราก็ค่อยๆถูกเปิดออก
เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจริงๆ
Live for today
And own your mistakes
Remember that all your cuts and scars revealed the way
มีชีวิตอยู่เพื่อวันนี้
และยอมรับ เรียนรู้ ข้อผิดพลาดของคุณ
จำไว้ว่าทุกๆรอยแผลจะช่วยให้เจอหนทางไปต่อ
The world is alive
Even though I'm losing time
I'm so lucky that I found the path back to you
โลกนี้ยังคงหมุนต่อไป
แม้ฉันกำลังเสียเวลา
แต่ฉันโคตรโชคดีที่ค้นพบเส้นทางกลับไปเจอคุณ
All the faces flashing by
Said hello, we've said goodbye
Maybe we'll meet up again in the next life
No one said it'd be easy
But I never dreamed it would turn out like this
ทุกคนผ่านเข้ามาทักทาย
หลังจากนั้น เราก็กล่าวลากัน
บางทีพวกเราอาจจะเจอกันอีกครั้งในชาติหน้าก็ได้นะ
ไม่เคยมีใครพูดว่ามันง่ายหรอก
ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่เคยฝันเหมือนกันว่าเรื่องของเรามันจะเป็นแบบนี้
Nobody knows where all the years go
Our stories unfold
What a time, what a time
What a time to be alive
ไม่มีใครรู้เวลาที่ผ่านไปหลายปีหายไปไหน
เรื่องราวของเราก็ค่อยๆถูกเปิดออก
เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจริงๆ
Nobody knows where all the years go
Our stories unfold
What a time, what a time
What a time to be alive
ไม่มีใครรู้เวลาที่ผ่านไปหลายปีหายไปไหน
เรื่องราวของเราก็ค่อยๆถูกเปิดออก
เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจริงๆ
Nobody knows
Where we're heading to
Nobody knows
Who will win or lose
ไม่มีใครล่วงรู้
ว่าพวกเรากำลังจะมุ่งหน้าไปไหนกันแน่
ไม่มีใครทราบได้
ว่าใครจะชนะหรือแพ้
Nobody knows where all the years go (Where all the years go)
Our stories unfold
What a time, what a time
What a time to be alive
ไม่มีใครรู้เวลาที่ผ่านไปหลายปีหายไปไหน (เวลาหลายปีหายไปไหน)
เรื่องราวของเราก็ค่อยๆถูกเปิดออก
เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจริงๆ
Nobody knows where all the years go (Where all the years go)
Our stories unfold
What a time, what a time
What a time to be alive
Nobody knows
ไม่มีใครรู้เวลาที่ผ่านไปหลายปีหายไปไหน (เวลาหลายปีหายไปไหน)
เรื่องราวของเราก็ค่อยๆถูกเปิดออก
เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจริงๆ
•จบไปแล้วสำหรับบทเพลงเพราะๆ ทุกคนมีช่วงเวลาแบบนี้กันมั้ยเอ่ย อาจจะเป็นเพื่อนตอนมัธยมต้น คนที่เคยผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เคยใช้เวลาร่วมกันมาช่วงนึง แต่ตอนนี้พวกเราก็กล่าวลากันไป คิดถึงกันอยู่บ้าง แต่คงไม่ได้กลับไปใช้เวลาร่วมกันได้อีก ความจริงแล้ว ชีวิตก็คงเป็นแบบนี้แหละ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
หากผิดพลาดประการใด สามารถเขียนติชมได้เลยค่ะ พร้อมจะแก้ไขเสมอค่ะ
ขอบคุณฝ่ายผลิตทุกคนบนโลกที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆให้คนที่รอคอย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in