เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FanDayPongsak Rak-RandomAct OfKindness
สปอยล์ แฟนเดย์ แบบ INCEPTION

  • สมบูรณ์แบบกับบทภาพยนต์ครับมีการทิ้งไว้รายละเอียดไว้มากพอสมควรขึ้นอยู่กับว่าใครจะเก็บได้เพียงใดและประติดประต่อ เนื้อเรื่องตามจินตนาการ หรือประสบการณ์ของตนได้มากน้อยแค่ไหน


    หนังกล่าวถึงความรู้สึกในเวลา 3 ปีมาสรุปให้ชัดเจน 1วัน แต่ต้องแสดงออกมาให้ครบในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงของหนัง......ความชัดเจนในเนื้อหาจึงเกี่ยวเนื่องกับเวลาใน 1 วันและช่วงเวลาที่ไม่ได้แสดงให้เห็นในหนัง



    จะว่าไปหนังมีกลิ่นอายคล้ายๆ กับinception ก็เลย ขออนุญาตสปอยล์แบบ inception นะครับ

    (อย่างที่เกริ่นว่าขึ้นอยู่กับประสบการณ์และจินตนาการของแต่ละคนครับ)


    (... ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ค่อยชอบ จนอาจจะเรียกว่าไม่ดูละคร รวมถึงไม่รู้จักมิวมาก่อน เคยเห็น teaser โฆษณาหนังเรื่องนี้ผ่านตาบ้าง ยังรู้สึกไม่ชอบเหมือนกับพยายามยัดเยียดให้เห็นว่า นางเอกสวยและร่าเริงเพราะมีแต่ฉากยิ้มตลอด ส่วนเต๋อพระเอก ก็ดูไม่ได้เลย

    หลังจากได้ดูทัศนคติต่อหนังก็เปลี่ยนไป ที่แสดงให้ นางเอกร่าเริงเพราะต้องการสื่อถึงความรู้สึกและความทรงจำที่พระเอกมีต่อนางเอก ....แต่ที่ไม่เปลี่ยน คือหลังจากดูจบแล้ว ผมไม่พยายามหาความเป็นตัวตนจริงของ นักแสดงเพราะมีความรู้สึกอยากจะเก็บความรู้สึกที่มีต่อตัวละครมากกว่า โดยเฉพาะกับบทของนุ้ย อาจจะมีบ้าง แต่ก็เฉพาะบทสัมภาษณ์เพื่อตามหาคำตอบของบางคำถามที่ยังค้างคาอยู่ในใจ เหมือนคนชมภาพยนต์ทั่วๆไป ...)



    เริ่มต้นเลยต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน


    ถามว่า เด่น รู้ว่า นุ้ยมีแฟน(ท็อป)แล้วหรือไม่ ? ....

    ตอบว่า รู้


    ถามว่า เด่น รู้ว่า นุ้ยมีแฟนแล้วเด่นพยายามทำอะไรหรือไม่ ? .... 

    ตอบว่า พยายามแล้ว โดยพยายามมอบความรู้สึกดีๆ เช่น หาที่จอดรถโหลดเพลงและจัดโต๊ะ และไปสารภาพความรู้สึกกับนุ้ยตอนหลังเลิกปาร์ตี้..แต่ไม่ประสบความสำเร็จ


    ถามว่า หลังจากความพยายามเด่นปล่อยวางหรือพยายามต่อ? .... 

    ตอบว่า พยายามต่อ แม้จะแสดงความรู้สึกไปแล้ว (นุ้ยบอกว่าโคตรหลอน) แต่เมื่อมีโอกาสเด่นก็สั่นระฆังขอเป็นแฟน นุ้ย 1วัน



    ในท้ายเรื่อง....เด่นจะไม่สนใจว่าในชีวิตจริงจะถูกปฏิเสธอีกหรือไม่เขาก็จะพยายามต่อไป


    เมื่อยังไม่ได้เป็นแฟนอาจจะขอ และอยากได้แค่วันเดียวแต่ เมื่อต่างได้รับรู้ความรู้สึกที่มีต่อกันแล้วจะไม่จบที่วันเดียว


    สำคัญที่สุดคือน้ำตาของผู้หญิงมีอานุภาพรุนแรงมาก....โดยเฉพาะในฉากที่เธอมาอ้อนวอนขอร้องร้องไห้ ให้เด่นกลับมาบอกกับนุ้ยคนพรุ่งนี้ว่า เคยรักกันอย่างไร .... ถ้าคุณเป็นเด่น คุณจะปฏิเสธได้หรือไม่ 
    (เป็นฉากเดียวในเรื่องที่ได้เห็นน้ำตา ลูกผู้ชาย ซึ่งจะต้องมีความหมายกับตัวเด่นชัย มากๆ)



    ส่วนเด่นเองก็เคยบอกว่า...ความรักทำให้เราทำเรื่องงี่เง่าได้ เด่นน่าจะตัดสินใจที่จะไม่เก็บความทรงจำ 1 วันนี้ไว้เพียงคนเดียวแน่นอน

    เด่นจึงตัดสินใจที่จะหาทางเข้าไปหานุ้ยอีกครั้งแต่ ไม่ใช่วิธีการเดิมเพราะ Ctrl+Z จะไม่ได้ผล


    ผมจะมาสปอยล์ว่าเด่นจะทำอย่างไรต่อไป

    --------------------------------------------


    ขอนอกเรื่องนิดนึ่งก็จากประสบการณ์ ผมจำได้จากหนัง Sherk

    เป็นเรื่องของยักษ์เชร็คที่หลงรักเจ้าหญิงฟีโอน่าและได้แต่งงานกันในภาคแรก

    มาในภาคที่ 4 forever after เวทย์มนต์ทำให้ เชร็คกลายเป็นคนแปลกหน้าของฟีโอน่า

    เพื่อทำลายเวทย์มนต์นั้น เชร็คต้องได้ จุมพิศรักแท้ จากฟีโอน่า ภายใน 1วันนั้นให้ได้

    เชร็คบอกเพื่อนลาด็องกี้ว่า  “ข้าเคยทำให้ฟีโอน่ารักข้าได้ครั้งนึงแล้ว...ก็ต้องทำได้อีก”

    รายละเอียดไปหาดูเอานะครับ


    --------------------------------------------


    แผนการของเด่นก็คือทิ้งร่องรอยไว้เพื่อให้ติดตาม

    (เพราะถ้ามีตัวตนของเด่นปรากฎก็จะกลายเป็น Ctrl+Z และไม่ได้ผล)


    1. นุ้ยตื่นขึ้นมาพร้อมความเรียบร้อยของ ของใช้ซึ่งไม่ใช่นิสัยของนุ้ย

    เพื่อเริ่มความสงสัยว่าต้องมีใครอยู่ด้วยเพราะก่อนหน้านั้นนุ้ยอยู่คนเดียว




    .....

    (สังเกตว่าถ้าเป็นแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องก็ไม่น่าจะใช่

    เพราะตอนเธอกลับเข้ามาพร้อมกับเด่นก่อนเด่นจะสารภาพนุ้ยก็บอกว่ากี่ปีกี่ปี

    ห้องเธอก็ยังรกอยู่ เป็นอีกจุดของรายละเอียดบทภาพยนต์)


    2. แหวนติดไว้ที่นิ้วนางด้านซ้าย

    เพื่อให้รู้ว่า 1วันนั้นลึกซึ้งขนาดถึงขั้นที่มีการขอแต่งงานและรับแหวน

    แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและนึกแทบตายก็นึกไม่ออกมีฉากซูมที่มือตอนนุ้ยลากกระเป๋าออกจาก โรงแรม



    ซึ่งเด่นเห็นแล้วก็ถอดแหวนตัวเองออกมากิน

    ......

    (สอดคล้องกับวันก่อนหน้าที่ ท็อป บอกนุ้ยว่า กลับไปจะเสกแหวน ให้หายไป

    และขอนุ้ยแต่งงานซึ่งทำให้นุ้ยมีความหวัง ใช้แหวนสื่อเหมือนกันแต่คนละความหมาย

    ในฉากนั้นเด่นก็เห็นเหตุการณ์ด้วยใช้แหวนเป็นสื่อเหมือนค็อปใช้ในเรื่องinception เลย คหสต.)


    3. ถามเคาน์เตอร์โรงแรมไม่ได้รับคำตอบ กลับยิ่งตอกลิ่มความสงสัย

    ......

    เพราะฟร้อนท์กำลังอาสาจะหาข้อมูลให้อยู่แล้วแต่รถก็กำลังจะออก

    แต่ความสงสัยเมื่อออกจากรร.คงจะถูกพับเก็บไปก่อนเพราะจะต้องเดินทางกลับ

    ทำให้ต้องกลับมาสู่ความเป็นปัจจุบันคือเรื่องนุ้ยกับท็อป 

    .......

    โลกความจริงเมื่อขึ้นรถไปสนามบินก็มาคิดถึงท็อป เริ่มจากสงสัย

    ว่าจะเป็นคนใน1 วันหรือเปล่าหลังจากโทร.เสร็จจึงรู้ว่าท็อปไม่ได้รู้เรื่องอุบัติเหตุจึงไม่ใช่คนใน 1วัน

    ความรู้สึกในวันก่อนกลับมาวันที่ รู้ว่า ท็อปจะมีลูกอีกคนโอกาสที่จะได้แต่งงานคงไม่มีแล้ว


    อย่าลืมว่าจริงๆแล้วนุ้ยหลังจากรู้ว่าท็อปกำลังจะมีลูกใหม่นุ้ยมีเวลาหนึ่งคืนก่อนเพื่อนกลับประเทศไทย

    ต้องคิดเรื่องนี้ซ้ำๆ 



    เช้าวันต่อมา จึงฉีกแผนที่เมื่อได้เห็นงานแต่งก็ยิ่งตอกย้ำ

    จึงออกสกีออกไป ตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย สำคัญที่ความรู้สึกขณะที่สกีออกไปทุกอย่างคงจะตกผลึกเรื่องการคบกับท็อปแล้ว

    -- แต่การจะฆ่าตัวตายในหิมะจะทำอย่างไรดีหว่าถ้าไม่โดดลงเหว คหสต.--


    แต่... ในเรื่องบอกว่ายังมีแม่ คิดว่าหลังจากสกีออกไปน่าจะเปลี่ยนใจไม่ฆ่าตัวตาย

    จึงเป็นเหตุผลว่านุ้ยพยายามกลับมา แต่สภาพอากาศทำให้เหนื่อยอ่อน จนสลบไปเพียงไม่นาน

    แต่ก็ทำให้เพียงพอต่อการเกิด TGA ไม่ถึงกับหนาวตายอีกอย่างคือพบว่าสลบอยู่ใกล้ๆกับระฆัง

    ...ในเอกสารที่นุ้ยเซ็นต์ที่รพ.บอกว่าadmit วันที่10 คือน่าจะยังไม่ข้ามคืน



    4. ไคลแมกซ์ คือ ของที่เด่น ทิ้งไว้ในกระเป๋านุ้ย 


    แผนที่ ซึ่งได้ถูกนุ้ยฉีก และทิ้งไปแล้ว เด่นจึงไปเก็บมา  ตัวนุ้ยคิดว่าแผนที่ได้ถูกทิ้งไว้ที่ญี่ปุ่น

    จึงประหลาดใจมากที่เห็นแผ่นที่อยู่ในกระเป๋าอีกทั้งยังมีการซ่อมแซมพร้อมทั้ง ได้ประทับตราทุกๆสถานที่เหมือนว่าจะได้ไปมาหมดแล้ว


    (พูดถึงแผนที่นี่ต่างคนต่างทิ้ง นุ้ยฉีกทิ้งและเด่นก็ปล่อยทิ้งบนถนน

    แต่เหตุการณ์ทั้งสองถูกนำมาเพื่อเปลี่ยนการดำเนินเรื่อง คนเขียนบทคิดได้ไง)


    ต่อมาคือ ตุ๊กตา Secret (นุ้ยเคยพูดว่าตุ๊กตาใส่แว่น เหมือนเด่น) 

    เมื่อนึกย้อนกลับถึงอุบัติเหตุและเพื่อนนิรนามที่พานุ้ย จากโรงพยาบาลกลับมาส่งที่โรงแรม 

    เพื่อนคนนี้จะน่าจะได้ หาตัว Secret ไว้ให้นุ้ย (หายากมาก ต้องใช้เวลาหานานเท่าใด)


    หากเขาเป็นคนอื่นๆ แล้ว จอยซึ่งเป็นเพื่อนสนิทหรือแม่ของนุ้ย จะต้องรู้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุ

    (ซึ่งนุ้ยอาจจะอยากปิดเป็นความลับ เพราะทำอะไรโง่ๆ ลงไป) 

    แต่กับเพื่อนคนนี้เขาช่วยปกปิดอุบัติเหตุนี้ไว้ให้นุ้ย เพราะรู้ว่าจะทำให้คนสนิท รวมถึงตัวนุ้ย ไม่สบายใจ

    เขาเป็นคนที่ไม่อยากเปิดเผยตัวแม้กระทั่งกับเธอเพราะเหตุผลอะไรซักอย่าง

    สำคัญคือทำไม เธอจึงคิดถึงเขาคนนั้นไม่ออก


    ......


    5. ขณะที่นุ้ยเดินไปเอาสาย sync ที่ IT (แผนกของเด่น)


    ความทรงจำเรื่องเด่น ในวันปารตี้ปีใหม่ ปรากฎขึ้นมาในความทรงจำ

    ปกติแล้ว คนทั่วไปจะจำหน้าคนอื่นได้ชัดเจนอยู่ 2 ประเภทคือ 


    1.คนที่หน้าตาดีที่สุด หรือ 

    2.คนที่หน้าตาไม่ดีที่สุด


    เด่นจะอยู่ในแบบหลัง แต่เป็นเพราะ อาการโคตรหลอน ที่ทำให้นุ้ยจำเด่นได้ และพยายามเลี่ยงอยู่ตลอด



    ด้วยความสงสัยที่อยากจะได้คำตอบ เกี่ยวกับแผนที่และตุ๊กตา secret ที่อยู่ในกระเป๋า

    ....

    คนที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้ นุ้ยได้ จะเป็นไปได้ ซักกี่คน คำตอบนี้ น่าจะผุดขึ้นในใจ ของนุ้ย

    ....

    และถ้าคุณเชื่อว่า นุ้ยเหลือบตามองโต๊ะเด่นจริง .....

    คุณก็จะเห็นว่า...นุ้ยเหลือบมองโต๊ะเด่นอีกหลายครั้ง 

    จะสังเกตว่า สายตานุ้ย เหลือบมองไปที่โต๊ะของเด่น ถึง 3 ครั้ง ก่อนที่จะถามหาสาย sync



    แต่.....ทำไมเด่น ต้องลาออกอย่างกระทันหัน 


    ......................................


    ความทรงจำในมือถือ เมื่อถูกนำออกมา

    ความทรงจำที่มีอยู่ คือภาพที่ถ่ายกับ เพื่อน

    แต่สิ่งที่ไม่ได้อยู่ในความทรงจำ อยู่ในไฟล์สุดท้าย 

    กับใครสักคนที่ไม่มีทางจำได้ ตามทฤษฎีของTGA  

    .....

    คลิปที่เด่น บอกว่า .. เป็นรอยยิ้มที่ตรงกับความรู้สึกข้างในจริงๆ ของนุ้ย

    เมื่อนุ้ยได้ดูคลิป ก็จะเห็นสิ่งเดียวกัน กับที่เด่นเห็น

    แต่ใครกันที่อยู่กับเธอ....แล้วทำให้เธอ....แสดงความรู้สึกได้ขนาดนั้น



    นุ้ยจะรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนที่เธอไปเมืองหิมะด้วย 


    (........เรื่องเฉลยไว้แล้วตอนที่จอยถามว่า เอาเสื้อใครมาใส่ ?)



    (inception ให้น้ำตาของนุ้ยไหลเลยพรากโดยไม่ทราบสาเหตุเลย เพราะ ความทรงจำถูกเก็บลงไว้ในจิตใต้สำนึก กลายเป็นความรู้สึก ไม่ใช่ความทรงจำ ไปแล้ว)


    6. ท็อปมาตอกย้ำว่าปีหน้าค่อยไปงานเทศกาลหิมะจึงไม่ใช่ คนใน 1วัน ที่เธออยู่ด้วยแน่นอน

    (เรื่องของท็อปนั้นนุ้ยก็คงจะได้ตัดสินใจจากทั้งตอนออกไปสกีจนเจออุบัติเหตุ

    ตอนนั่งเครื่องบินกลับและในคืนก่อนวันมาทำงานแล้ว ทั้งหมดคือเรื่องของเวลาที่ไม่ปรากฎในภาพยนต์

    จึงคาดว่า เรื่องของท็อป จะไม่มีการต่อยอดไปทางไหน)


    7. สุดท้าย นุ้ยจึงน่าจะเดินหน้าออกตามหาคนใน 1 วัน

    และ เป็นไปตามแผน

    ที่เด่นเคยรับปากว่าจะกลับมาบอก อย่าลืมว่ากระทู้นี้เป็น inception

    แนวโน้มจึง happyending แน่นอนครับ (ผมไม่ชอบหนังเศร้า)


    8.  ร่องรอย สุดท้าย คือเงื่อนไขระยะเวลา ของบทภาพยนต์

    1 วันที่นุ้ยความจำเสื่อมเป็น วันที่ 11 FEB 2016

    (เซ็นต์เอกสารที่รพ. เอกสารก็ใส่ซองให้ด้วยจะตามร่องรอยก็ไม่น่าจะยาก)

     

    วันที่ 12 กลับไทยและได้ความจำคืนมา
    วันที่ 13  เป็นวันที่ไปทำงานวันแรก
    วันถัดไปเป็น  วันที่ 14   น่าจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ บทภาพยนต์ ต้องการสื่อบางอย่าง


    ...................

    ผมได้เขียนสปอยล์ไว้ แต่สุดท้ายจะสรุปอย่างไรขึ้นอยู่กับประสบการณ์และจินตนาการของแต่ละคน


    แต่ผมอยากจะเปรียบเทียบการไปรับประทานอาหารซักอย่างว่า เราอยากทานอาหารที่ ทานแล้วอร่อย เพราะหากอาหารไม่อร่อยแล้วก็คงจะไม่อยากจะลิ้มรสและซึมซับกับรสชาติที่ได้


    ในแง่ของภาพยนต์ สุดท้ายหากในจินตนาการ แล้วจบเป็นอย่างที่เราต้องการเราก็อยากจะซึมซับความรู้สึกของตัวละคร ดูซ้ำแล้ว ซ้ำอีก แล้วก็เลยไปถึง ความละเมียดละไมของบทภาพยนต์ พลอยทำให้เลยลึกไปถึง ความรู้สึก นักแสดง ผู้กำกับ และทีมงาน ในขณะที่ กำลังสร้างผลงานขึ้นมา


    สุดท้ายเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย ลงผมก็อยากกลับไปนั่งชมภาพยนต์ใหม่อีกครั้ง 

    โดยวางความรู้สึก อยากรู้อยากเห็น ทุกอย่างลง แล้วก็ชมให้เหมือนกับครั้งแรกที่ดู


    แต่อีกใจก็คิด อยากให้เกิด TGA ขึ้นกับผม เพื่อจะได้ลืมไปว่าได้เคยชมภาพยนต์เรื่องนี้มาก่อน...




    ..........................................................



    ขออภัยต่อ GDH ที่ได้ ดึงภาพ ออกมา โดยไม่ได้ขออนุญาต ก่อนครับ

    ถ้าจะมีประโยชน์บ้าง จะรบกวนขอชมคลิ๊ปเต็มๆ ที่เด่น เก็บไว้ให้นุ้ย ครับ

    ขอบคุณครับ 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Hacker Dewdie (@A-SOKE)
เหอะๆๆ...ผมก็ดูนะ บทสรุปของคำตอบของเรื่องนี้มีหลายอย่างนะ หนังพยายามทิ้งท้ายสร้างให้คนดูจินตนาการไปเองซะมากกว่า

ผมชอบนะที่มีใครพยายามเล่าว่าตอนสุดท้ายของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เพราะมันทำให้ผมเปิดมุมมองให้กว้างขึ้นดี อย่างความคิดของคุณก็เออเนอะก็ทำให้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่ผมไม่ได้สังเกตนะ