สังเกตไหมว่าช่วงที่ผ่านมาเกาหลีขยันทำซีรีส์แนวสืบสวนออกมาบ่อยเหลือเกิน จนบางครั้งเราก็อยากดูซีรีส์เบาสมองบ้าง ดังนั้นวันนี้เราขอมาป้ายยาซีรีส์รอมคอมสุดฟินที่อินจนน้ำตาซึมกับเรื่อง....
So I Married The Anti-Fan
Base on novel ''So I Married an Anti-Fan''
ซีรีส์ที่สร้างจากนิยายในชื่อเดียวกัน...มีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์จีนและเว็บตูนก่อนหน้านี้
เล่าเรื่องราวความรักความวุ่นวายที่เกิดขึ้นระหว่างซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง "ฮูจุน" และ "อีกึนยอง" อดีตนักข่าวสาวที่มีเหตุให้กลายมาเป็นแอนตี้แฟนของเขา ต่อมาทั้งคู่ได้รับข้อเสนอและต้องมาถ่ายรายการวาไรตี้ "ฉันเลยต้องมาแต่งงานกับแอนตี้แฟน" ด้วยกัน จากศัตรูคู่กัดจะพัฒนากลายมาเป็นคู่รักได้ยังไง ความตลกโปกฮา ความฟิน และความสัมพันธ์ต่าง ๆ จะซาบซึ้งและลงเอยยังไง ลองไปสัมผัสกันได้เลย...
คุณคะ !? ถ้าคุณอยากดูซีรีส์รอมคอมตลก ๆ ฟิน ๆ
หมวดเดียวกับเลขาคิม (What's Wrong With Secretary Kim) แล้วล่ะก็
เราขอผายมือมาเรื่องนี้เลยค่ะ รับรองว่าสนุกเกินคาด
แค่อ่านชื่อเรื่องกับพล็อตคร่าว ๆ ก็คงเดาได้ว่าเป็น
ซีรีส์แนวรอมคอมตามสูตรสำเร็จ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่เป็น
รอมคอมในสูตรที่ดีต่อใจนะคะ สำหรับใครที่เป็นสายรอมคอมเสพแนวนี้บ่อย ๆ ก็คงเดาทางได้ไม่ยาก แต่ความสนุกของแอนตี้แฟนสำหรับเรามันคือ การที่เขาเล่าเรื่องโดยภาพรวมออกมาในมู้ดโทนที่อร่อย ที่เราใช้คำว่า
" อร่อย " เพราะมัน
มีทั้งความฟิน ตลก ซาบซึ้ง คละคลุ้งกันอยู่ในนั้น ดราม่ากำลังพอดี มันลงตัวมาก นอกจากนี้ดนตรีประกอบก็เพราะมาก ๆ ยิ่งดูยิ่งสนุก ดูแล้วบันเทิงใจ เป็นรอมคอมที่ไม่ใสไปและมีจุดที่รู้สึกจับต้องได้หลายจุด ตรงนี้แหล่ะที่ทำให้เราและใครหลาย ๆ คนรู้สึกอินและติดซีรีส์เรื่องนี้มาก ๆ รู้ตัวอีกทีก็เฝ้ารอ 4 โมงเย็นทุกศุกร์-เสาร์แล้ว (ช่วงที่ซีรีส์ออนแอร์)
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าเราสนใจซีรีส์เรื่องนี้เพราะ ซูยอง snsd (ผลงานซีรีส์ : Tell Me What You Saw, Run On) เราโดนพี่เค้าตกตั้งแต่ Run On (เรื่องนั้นก็ The Best เลยไว้เราซ้ำรอบสองจะมารีวิวนะคะ) ต้องขอบคุณพี่เค้าจริง ๆ ที่ทำให้เราปักหมุดดูเรื่องนี้จนได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จตั้งแต่ช่วงปี 2018 แต่เพราะติดปัญหาเกี่ยวกับการหาช่องทีวีลงออนแอร์บวกกับชเวแทจุนและชานซอง 2PM สองนักแสดงนำชายเข้ากรมพอดี ส่วนพี่ซูยองก็ติดถ่ายซีรีส์เรื่องอื่น ดังนั้นซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่ได้โปรโมทและโดนดองเกือบ 3 ปีจนได้มาฉายในแพลตฟอร์มออนไลน์ในปี 2021 ที่เราได้ดูกันนี่แหล่ะ ฉะนั้นจึงมีบางอย่างในเรื่องที่ดูเชยไปบ้าง เช่น โทรศัพท์ บรรยากาศ ดนตรี คอสตูม เป็นต้น ก็อย่าไปติดใจอะไร เพราะเรามาโฟกัสที่ความสนุกกันดีกว่า
ความรู้สึกหลังดู |
มีสปอยด์ผสมด้วยนะคะ
* ขอเรียกชื่อซีรีส์ว่า แ อ น ตี้ แ ฟ น นะคะ
จะพูดว่าไงดีล่ะ...
" นี่แหล่ะรสชาติซีรีส์รอมคอมที่อยากดู "
เราชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ดู EP แรกเลย ด้วยความที่เป็นคนชอบเสพรอมคอมอยู่แล้วก็เข้าทาง แค่ฉากเปิดตัวนางเอกก็สัมผัสได้ถึงความบันเทิงแล้วอ่ะ (หรือเพราะเป็นพี่ซูยองกันนะ 5555) ช่วงแรก ๆ รู้สึกว่าบางฉากจะติดความเป็นการ์ตูนหน่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้พาให้ขัดใจอะไร พอดูไปเรื่อย ๆ ด้วยคาแรกเตอร์ตัวละคร การแสดงของนักแสดง เพลง-ดนตรีประกอบ มุมภาพ องค์รวมทุกอย่างมันพาให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละคร บางส่วนที่นำเสนอในซีรีส์ก็ดูเรียลดีและบางอย่างมีการดัดแปลงออกมาได้ดีกว่าในเว็บตูนซะอีกนะ ถึงแม้จะมีจุดที่เราอยากติบ้างแต่เดี๋ยวไว้ไปพูดส่วนท้ายเพราะมันไม่ใช่แกนหลักสำคัญอะไร
ซีรีส์เปิดเรื่องมาให้เราเห็นถึงความโด่งดังความเป็นป๊อปสตาร์ของพระเอก " ฮูจุน " ซึ่งเรียกว่าคนละขั้วกับนางเอกเลย " อีกึนยอง " นางเอกคือมนุษย์เงินเดือนคนนึงที่ขยันทำงานนะ แต่โดนเอาเปรียบตลอด ซึ่ง จุดเริ่มต้น ที่ทำให้ทั้งคู่ไม่ถูกกันเกิดจาก " ความเข้าใจผิดและไม่ยอมคุยกันดี ๆ " แค่นั้นเลย จากการที่นางเอกบังเอิญไปเห็นพระเอกกำลังใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงพอดี และพระเอกก็ดันเห็นนางเอกถือกล้องอยู่ด้วยเลยพาให้ระแวงและหัวร้อนกันไปใหญ่ ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ก็คงไม่มีเส้นเรื่องให้เราตาม หลังจากปะทะฝีปากกันและบวกด้วยสกิลปารองเท้าของนางเอกไปนั้น วันต่อมาชีวิตนางเอกก็ตกต่ำลงทันที ทั้งตกงานถังแตก บ้านไม่มีอยู่ต้องไปอาศัยบ้านเพื่อน โครตจะตามสูตรสำเร็จนางเอกซีรีส์เกาหลีเลย เพราะแบบนี้นางเอกเราจึงตั้งตัวเป็นแอนตี้แฟนพระเอก เพื่อเปิดโปงความลับของพระเอกให้ทุกคนรู้ว่านิสัยที่แท้จริงของพระเอกเป็นยังไง แต่อยู่มาวันหนึ่งก็มีพีดีรายการวาไรตี้ติดต่อมาหาทั้งคู่และเพื่อรักษาภาพลักษณ์ซุปตาร์ รวมทั้งเพื่อทวงความยุติธรรมของนางเอก สุดท้ายทั้งคู่จึงตอบตกลงมาถ่ายรายการด้วยกัน
ซึ่งไอ้พล็อตเรื่องที่พระนางต้องจับพลัดจับผลูมาทำอะไรด้วยกัน ต้องมาเรียนรู้กันและกันนี่เห็นมาเยอะมากทั้งเกาหลีและไทย แต่ก็ เป็นแนวที่ขายได้ตลอด (ถ้าทำออกมาได้สนุกจริง ๆ ในยุคนี้อ่ะนะ)
ความสนุกความบันเทิง จะเริ่มเพิ่มขึ้นหลังจากพระนางเริ่มถ่ายรายการกัน คนหนึ่งก็ขี้เฟคอยู่ต่อหน้ากล้องยิ้มแย้ม สุภาพ อีกคนก็แสร้งยิ้มเจื่อน ๆ ตามน้ำไปเนียน ๆ แต่พอหลังกล้องเท่านั้นแหล่ะ 55555 ขอขำก่อนเลย กัดกันตลอดเหมือนเด็ก 2 คนทะเลาะกัน ทั้งขำทั้งเอ็นดู จนผ่านไป 4 ตอนแล้วก็นึกสงสัยว่าจะเริ่มรักกันตอนไหนเนี่ย !! แต่บอกเลยนะว่าถึงเลิฟซีนจะไม่ได้มารวดเร็วทันใจแต่ไม่น่าเบื่อเลยสักนิดเพราะ ระหว่างทางเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของพระนาง ที่ค่อย ๆ พัฒนาจากที่ทะเลาะกันก็เริ่มเห็นตัวตนของกันและกันมากขึ้น เริ่มเป็นห่วงกันปลอบโยนกัน เกิดความสับสนในใจและค่อย ๆ ยอมรับความรู้สึกของกันและกัน ซึ่ง เคมีที่เข้ากันดีเกินคาดระหว่างชเวแทจุนกับพี่ซูยอง ก็ทำให้เราดูเรื่องนี้สนุกขึ้น ถึงแม้ว่าการเล่าเรื่องจะแอบมีสะดุดบ้างทำให้เรารู้สึกว่ามันยังเบาไป จุดนี้ขยี้ได้อีกนิด แต่เราก็ยังพอเข้าใจและอินไปกับตัวละครได้อยู่
เราว่า...จุดแข็งของเรื่องนี้ที่หลายคนรวมทั้งเราชอบคือ
" ความรักของพระนาง...ที่ต่างเข้าใจกัน
แม้จะเกิดเรื่องราวมากมายถาโถมเข้ามาก็ตาม "
ฮูจุน - กึนยอง เป็นคู่รักพระเอกนางเอกในซีรีส์อีกคู่ที่เราอินมาก คนหนึ่งก็ใส่ใจคนอื่น อีกคนก็เข้าอกเข้าใจคนอื่น ความรักของทั้งคู่เลยไม่งี่เง่า มีเหตุผล ยิ่งช่วงท้ายเรื่องยิ่งเห็นความเชื่อใจและเข้าใจกันของทั้งคู่ชัดเจน ดูรู้เลยว่าพวกเขารักกันมาก และบอกเลยนะคะว่าพระเอกเรื่องนี้คลั่งรักสุด ๆ ทั้งใส่ใจคอยถามไถ่นางเอกอยู่ตลอด พอได้โอกาสก็ขยันชวนกันสร้างโมเม้นต์ฟรุ้งฟริิ้งให้เราคนดูเขินตัวบิดกันอยู่ตลอด เป็นเลิฟไลน์ที่ดูแล้วใจฟูมาก ... และนอกจากนี้ยังมีปมเกี่ยวกับชีวิตพระเอกที่ชวนให้เราติดตาม และเลิฟไลน์น่ารัก ๆ ระหว่างคุณพีดีกับนักเขียนที่มาเบรกอารมณ์เรียกเสียงฮาได้ตลอด
ถ้าใครได้ลองดูซีรีส์เรื่องนี้ไปสัก 6 ตอนคงจะรู้สึกว่าแอนตี้แฟน เป็นซีรีส์ที่มีรสชาติความเป็นรอมคอมเกาหลีอย่างแท้จริง (ดูเวอร์ไปไหมอ่ะ 555) มีความคล้ายเรื่อง Full House บางจุด ซึ่งส่วนตัวเราจัดให้แอนตี้แฟนอยู่ในหมวดเดียวกับเลขาคิม เพราะมันมีความฮา ความสนุกที่ชวนเขินตลอดทุกตอนเลย ถึงแม้ว่าการบิ้วอัพ - จังหวะคอมเมดี้ ความลื่นไหล เราจะรู้สึกถูกจริตกับเลขาคิมมากกว่าก็ตาม แต่ก็นั่นแหล่ะแต่ละเรื่องก็มีเอกลักษณ์ที่ต่างกันไป นอกจากนี้เรากลับรู้สึกว่าเรื่องนี้มีกลิ่นอายความเป็นซีรีส์จีนผสมแทรกเข้ามาหลายฉากอยู่นะ บรรยากาศสบาย ๆ เนื้อเรื่องเบา ๆ ชวนเขินนี่ใช่เลย บางซีนเห็นแวปแรกก็นึกถึงฉากในซีรีส์จีนขึ้นมา
พูดถึงงานโปรดักชั่นกันหน่อยดีกว่า ... ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะโดนดองมานานมากเกือบ 3 ปีแต่บอกเลยค่ะว่า งานโปรดักชั่นไม่ไก่กาอาราเล่นะคะคุณ แถมดูแพงกว่าบางเรื่องที่ใหม่กว่าซะอีก เรื่องงานมู้ดโทนของภาพอาจจะไม่ได้เลิศหรูอะไร เน้นโทนสบาย ๆ มากกว่า ซึ่งส่วนตัวเราชอบมุมกล้องและงานภาพของเรื่องนี้นะ อย่างพวกภาพมุมกว้าง ซึ่งมันอาจดูธรรมดาสำหรับคนอื่นแต่เราชอบมาก ภาพที่ออกมาไม่ได้ดูเชยเลย เราให้ผ่าน ยิ่งภาพบ้านเพื่อนนางเอกถ่ายออกมาสวยทุกมุมจริง ๆ ...
(ภาพมุมห้องนางเอกในอีพี 1)
(ตัวอย่างมุมบ้านเพื่อนนางเอก)
ความที่แอนตี้แฟนจ่อหัวมาแต่แรกแล้วว่าเป็น " ซีรีส์แนวโรแมนติก - คอมเมดี้ " ดังนั้นต้องเข้าใจก่อนว่า ความสมจริงความสมบูรณ์ของบทอาจไม่ได้เนี๊ยบมากอยู่ในหมวดที่ดูสนุก ดูคลายเครียดซะมากกว่า บทเบาบ้างไรบ้างก็อย่าซีเรียสกัน (ถึงบางจุดเราจะอยากให้เขาขยี้กว่านี้ก็ตาม) แม้พล็อตเรื่องของแอนตี้แฟนอาจดูไม่น่าเกิดขึ้นจริงได้หรือขายฝันไปบ้าง แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี
เป็นเรื่องที่ใครหลายคนลองกดดู...แล้วติดหนึบมาเยอะแล้ว
ชอบที่เรื่องนี้มีการสอดแทรกแง่คิด
ผ่านมุมมองปัญหาที่เจอและคาแรกเตอร์ของตัวละคร
...อาจไม่ได้ลึกซึ้งแต่ก็ทำให้เราเข้าใจและรู้สึกอินได้...
อีกึนยอง
(รับบทโดย ชเวซูยอง)
ช่วงแรกคนดูอย่างเราอาจจะมองว่านางเอกเป็น Loser บ้าง เป็นคนที่เหมือนจะกล้าบ้าบิ่นแต่ก็ดูยอมคนง่าย แต่ถ้าลองดูไปเรื่อย ๆ แล้วตัวละครนี้กลับแฝงเมสเสจให้เราได้คิดตามหลายอย่างเลยนะ เราชอบตัวละครนางเอกมาก (ส่วนหนึ่งเพราะเป็นพี่ซูยองเล่นด้วย) เพราะรอบตัวนางเอกมีแต่คนดี ๆ ทั้งครอบครัวที่คอยซัพพอร์ต เพื่อนที่คอย Cheer up ทุกอย่างหล่อหลอมให้นางเอกเป็นคนที่มี Mindset ที่ดี ไม่คิดร้ายกับใคร ถึงแม้จะเจอคนไม่ดีบ้างก็ไม่คิดตอบโต้ ยอมได้ยอม ทนได้ทนจนถึงที่สุด
สิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้จากนางเอกคือ " นิสัยการพยายามเข้าใจ "
ตลอดทั้งเรื่องนางเอกต้องเจอกับปัญหาหลายอย่างที่ประเดประดังเข้ามา ถูกทำให้โดนมองเป็นตัวตลก เป็นที่ระบายอารมณ์ของแฟนคลับพระเอก ไม่ว่าจะมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับพระเอกออกมาทีไรก็จะโดนกล่าวหาว่าเป็นคนทำก่อนและโดนคอมเม้นต์แย่ ๆ อยู่เสมอ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่มีใครรู้ว่านางเอกผิดจริงไหม
อีพีที่ 1 จะมีประโยคหนึ่งที่แฟนเก่าพูดกับนางเอกว่า
" คุณเป็นคนอดทนเก่งมากนี่...งั้นก็ช่วยเป็นคนดี ทนให้ถึงที่สุดสิ "
แล้วนางเอกตอบในใจว่า
" ฉันไม่ได้ทนหรอก...ฉันแค่พยายามเข้าใจ "
เห้ยคุณ!! มันเป็นประโยคที่แทงใจมากตอนดู เป็นประโยคเด็ดของเรื่องประโยคแรกเลยล่ะ คนที่อดทนมาตลอดพอถึงจุดที่ไม่โอเคระบายสิ่งที่เก็บไว้ในใจออกมา กลับถูกมองว่าเป็นคนงี่เง่า ไร้เหตุผล มันยิ่งตอกย้ำด้วยบทสนทนาระหว่างเพื่อนนางเอก (มีจอง) กับนางเอกในอีพีที่ 12 อีกที่ว่า...
" เวลาลำบากฉันทนเก่งนี่นา "
(กึนยอง)
" เธอไม่ได้แค่ทน...แต่พยายามเข้าใจด้วยคนอื่นอาจจะไม่รู้...แต่รู้ใช่ไหมว่าฉันรู้ดี "
(มีจอง)
เป็นอีกฉากที่ทำเราน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวอ่ะ แค่มีคนเข้าใจเราคนหนึ่งมันก็มีกำลังใจแล้ว เมสเสจที่แฝงมากับตัวละครนางเอกมันดีมากดูแล้วเข้าใจและเห็นใจในเวลาเดียวกัน ดูไปเรื่อย ๆ ตัวเราเองก็แอบติดนิสัยนางเอกมาเหมือนกันนะ 555555 เป็นตัวละครที่จัดว่า มีเหตุผลมาก ไม่งี่เง่าเลยสักนิด ใครที่ชอบนางเอกแนวนี้รับรองว่าต้องเอ็นดูกึนยองเบบี้แน่นอน
' นางเอก...มักนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นก่อนเสมอ
แต่บางทีก็ไม่มีใคร...นึกถึงความรู้สึกนางเอกบ้างเลย '
ซึ่งการที่นางเอกตัดสินใจมาออกรายการ นอกจากเรื่องเงินเพราะตัวเองกำลังถังแตกแล้วเนี่ยก็เพื่อหวังว่าตัวเองจะมีจุดยืน มีตัวตัว และคนอื่นจะรับฟังเสียงของตัวเองบ้างนั่นเอง ในเรื่องจะมีหลายประโยคของนางเอกที่ฟังแล้วจี้ใจสุด ๆ เรียกสติได้ดีเลย
(อ่านเรียงขวา-ซ้าย,ขวา-ซ้ายนะคะ)
(คำพูดเรียกสติอินฮยองในอีพี 11 )
(ฉากระบายความอัดอั้นของนางเอกในอีพี 8 : เป็นฉากที่เราชอบที่สุดในเรื่องเลย)
ฮูจุน
(รับบทโดย ชเวแทจุน)
ช่วงแรกเราเชื่อเลยว่าหลายคนคงหมั่นไส้นิสัยพระเอก ก็พ่อคุณเล่นตีสองหน้าขนาดนั้น อยู่หน้ากล้องก็ปั้นหน้ายิ้ม คีพลุคเป็นสุภาพบุรุษดูดี แต่พอหลังกล้องหรือเวลาอยู่กับนางเอกก็หมดมาด ปากเก่งปากดี แต่ตรงนี้มันก็สะท้อนให้เราเห็นในมุมมองของไอดอลอย่างหนึ่งเหมือนกันนะว่า แท้จริงแล้วเบื้องหลังใบหน้าที่ยิ้มแย้มร่าเริง ไอดอลพวกนั้นต้องเจออะไรหรือรู้สึกยังไงบ้าง ขยับตัวนิดนึงก็อาจเป็นข่าวเสียหายได้ เพราะแบบนี้พระเอกจึงระแวงเมื่อเห็นนางเอกถือกล้องแอบมองอยู่ในตอนแรก
ถึงแม้ว่าช่วงแรกพระเอกจะดูนิสัยแย่ แต่ดูไปเรื่อย ๆ เราจะเห็นความอ่อนโยนและความใส่ใจของพระเอกที่ค่อย ๆ เผยออกมา ซึ่ง พระเอกจะดูสบายใจและเป็นตัวของตัวเองมากเมื่ออยู่กับนางเอก มันเป็นความห่วงใยและเอ็นดูนางเอกไปพร้อม ๆ กัน ดูไปก็ยิ้มไปอดเขินไม่ได้
นอกจากนี้ภายในเส้นเรื่องของพระเอกยังมีปมครอบครัว และการเล่าถึงประเด็นเกี่ยวกับเด็กฝึก เช่น ความขัดแย้งระหว่างเด็กฝึกกับเจ้าของค่าย ความสัมพันธ์ของเด็กฝึก บาดแผลในใจของเด็กฝึก เป็นต้น ซึ่งประเด็นที่เล่าก็หนักบ้างเบาบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับลึกซึ้งเจาะลึกในวงการนี้เท่าไหร่ เป็นการแตะผิว ๆ ให้เราพอรู้และเข้าใจเส้นทางการเป็นไอดอลของพระเอกมากขึ้นเท่านั้น และยังปูเชื่อมโยงไปถึงความขัดแย้งปมรักสามเศร้าอีกด้วย
แจจุน
(รับบทโดย ชานซอง 2PM)
เคยเป็นเด็กฝึกรุ่นพี่พระเอกพอออกจากค่ายก็มาทำค่ายเป็นของตัวเอง แต่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่างทั้งเรื่องงานและความรัก เป็นตัวละครที่ดู Toxic ระแวงคนรักและอิจฉาพระเอกหลายคนรำคาญตัวละครนี้นะ แต่สำหรับเรากลับไม่เลย ตอนดูเรามักเกิดคำถามตลอดว่า ทำแบบนี้ทำไม เพราะอะไร ? ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ดูไม่ใช่คนเลวแท้ ๆ แจจุนในซีรีส์จะนิสัยซอฟกว่าในเว็บตูนเยอะมากแถมดูมีมิติกว่า เป็นตัวละครที่แอบน่าสงสารเหมือนกันถ้าใครดูยันจบ
โออินฮยอง
(รับบทโดย ฮันจีอัน)
รักแรกของฮูจุน เป็นเด็กฝึกค่ายแจจุนและเป็นแฟนแจจุน เป็นอีกคนที่เคยเดบิวต์แต่ไม่ดังสักที ส่วนตัวเราชอบตัวละครนี้และเส้นเรื่องในเวอร์ชั่นเว็บตูนมากกว่าในซีรีส์นะ ไม่ใช่นักแสดงเล่นไม่ดี แต่แค่ความคิดของตัวละครมันยังดูเด็กไป ทำบางอย่างโดยไม่คิดให้ดีก่อน ซึ่งแอบน่ารำคาญเหมือนกัน จะสงสารก็สงสารไม่สุดประมาณนั้น
ปมที่พัวพันกันของ 3 คนนี้และประธานค่ายที่แทรกเข้ามาแอบทำให้เราปวดหัวเหมือนกันนะ ตอนดูก็มักเกิดคำถามในหัวอีกแล้วว่า เพราะอะไรที่ทำให้ความสัมพันธ์ที่ดูอบอุ่นแตกหักขนาดนี้ ทำไมประธานค่ายถึงไม่พอใจแจจุนกับอินฮยองขนาดนั้น ทำไมพระเอกถึงรู้สึกผิดต่อทุกคน แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เรารู้สึกอินและซึ้งไปด้วย
แต่ส่วนตัวเราแอบเสียดายที่เขาปูความสัมพันธ์ของตัวละครมาไม่ค่อยต่อเนื่องอ่ะ อย่างของประธานค่ายกับฮูจุน บทจะเล่าก็อัดมาทีเดียวถึงจะมีหยอดมาบ้างบางตอนแต่ก็ยังไม่รู้สึกผูกพันธ์เท่าไหร่อารมณ์ตอนดูเลยไม่สุด ส่วนความสัมพันธ์ความหลังของทั้ง 3 คนเราอยากให้เขาเล่นขยี้กว่านี้อีกหน่อย คิดว่าตอนจบมันน่ารู้สึกอิมแพคกับใจมากกว่านี้ แต่ถามว่าน้ำตาไหลไหม ตอบว่า...ไหลค่ะ 55555
(ความสัมพันธ์ของ 4 คนนี้ถ้าหยอดเรื่อย ๆ เล่าให้ลึกอีกนิดจะดีมาก ๆ)
เพลงประกอบซีรีส์
เป็นอีกครั้งที่เราได้เพลลิสต์เพลงเพราะ ๆ ฟังกัน เรื่องนี้เพลงเยอะและเพราะมาก
โดยเฉพาะเพลง It's You - Moon Kim ซึ้งมาก จี้ต่อมน้ำตาได้ดีเลย
แถมมีเพลงที่พระเอกร้องเองด้วยนะ เสียงหวานมากไอ้ต้าวววว ❤
Official Playlist [Full Album]song + Score
ขออวยในส่วนของนักแสดงสักหน่อย ... แอนตี้แฟน ถือว่า แคสติ้งนักแสดงได้เหมาะกับบทบาทมาก ชเวแทจุน เล่นเป็นฮูจุนได้สมบทบาทมีทรงความเป็นไอดอลและมีเสน่ห์มาก เชื่อว่าคงขโมยหัวใจใครหลาย ๆ คนแน่นอน แต่ใครจะรู้ตัวจริงพี่แกไม่ค่อยกล้าร้องเพลงกับเต้นเลย 555 เอ็นดูนะคะ ส่วน พี่ซูยอง ก็แสดงเป็นกึนยองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เหลือภาพจำจากเรื่องก่อน ๆ เลย เล่นเป็นธรรมชาติมากเล่นยังไงให้คนพูดถึงว่าเล่นเป็นตัวเอง 5555555 จะบททะเล้นหรือบทซึ้ง พี่แกก็เอาอยู่หมด แถมเคมีทั้งคู่ยังดีมาก ๆ เหมือนหลุดออกมาจากเว็บตูนเลย
และส่วนที่เราชอบมาก ๆ อีกอย่างคือ ซีนดราม่าดี ทั้งแทจุนและพี่ซูยองเป็นคนที่เล่นดราม่าได้ดีมาก เล่นถึง มันไม่มากไปไม่น้อยไป กำลังดี แล้วก็เรียกน้ำตาของเราได้ด้วย ประทับใจมาก ส่วน ชานซอง ก็แสดงเป็นแจจุนออกมาได้ดีไม่แพ้กัน มีทั้งขายขำ น่าหมั่นไส้ และน่าสงสารรวม ๆ กัน เราชอบพี่เค้าเล่นซีนอารมณ์มาก นักแสดงทุกคนเล่นกันดีมาก
** สรุปนะคะแอนตี้แฟนเป็น ....
- ซีรีส์รอมคอมที่ดูสนุก ดูแล้วบันเทิง ตลก ซึ้ง ครบรสเรื่องหนึ่ง
- เคมีนักแสดงทุกคนเข้ากันได้ดีมาก ไม่ขัดตา แสดงดี
- เพลงประกอบซีรีส์เพราะมาก Score ประกอบเยอะมาก ฟังแล้วทั้งขำทั้งซึ้ง
- เส้นเรื่องน่าติดตาม โมเม้นต์เล็ก ๆ น้อย ๆ ในเรื่องก็ทำให้เขินและเสียน้ำตาได้
- ออนแอร์จบแล้ว #ทีมดูรวดเดียว แถมดูฟรีได้ใน IQIYI (เขาไม่ได้จ่าย)
- ดูซีรีส์แล้วก็อย่าลืมแวะไปอ่านเว็บตูนด้วย สนุกไม่แพ้กัน
- ก็ยังสงสัยว่าทำไมเกาหลีถึงดองซีรีส์สนุก ๆ แบบนี้ ?!
- อยากเขินตัวบิดยิ้มแก้มปริน้ำตาซึมนิด ๆ จิ้มดูเรื่องนี้เลยค่ะ
ถ้าถามว่าแอนตี้แฟน
ค ว ร ดู ดี ไ ห ม ??
คำตอบคือ
ค ว ร ดู ค่ะ
(ขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกคนค่ะ 감사합니다 )
____________________________________________________________________________________________________
เราจะอวยอย่างเดียวไม่ได้ !!!!
เพราะรักมาก...เลยอยากติติง |
จริง ๆ แอนตี้แฟนเป็นซีรีส์รอมคอมที่ดีมากเรื่องหนึ่งเลยนะ *เป็นเรื่องที่ครบรสหลากหลายอารมณ์ ส่วนใหญ่ใครต่อใครที่ลองดูก็ชอบกันทั้งนั้น แต่ ข้อเสีย ของเรื่องนี้ที่เราเห็นและอยากติสักหน่อย มันขัดใจมาก คือ การตัดต่อและการเล่าเรื่องบางช่วง มันเป็นจุดที่เห็นได้ชัดมากเลย บางช่วงก็ใช้ White flashback พร่ำเพื่อเกินไป (ส่วนตัวชอบการนึกย้อนความหลังแบบตัดไปเลยแล้วย้อมสีภาพเอามากกว่า แบบความหลังของทั้ง 3 คน) บางช่วงอยากจะตัดก็ตัดไปดื้อ ๆ เหมือนกำลังได้ฟีลอยู่ ๆ ก็โดนเบรกกะทันหันอ่ะ มันเลยทำให้รู้สึกไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ อาจเพราะเราชอบดูพวกแนวการตัดต่อจากซีรีส์และดูเรื่องนี้แบบจริงจังไปหน่อย 5555 ก็เลยแอบขัดใจตรงนี้ แถมการเล่าเรื่องบางช่วงก็ชวนงงหน่อย ๆ เรามักบ่นกับตัวเองเสมอว่า เขาจะเล่าแค่นี้เหรอหรือกั๊กไว้แล้วมาเล่าทีหลังกันนะ ?! แต่แค่บางช่วงนะ
ถ้าใครที่ติดตามจนจบจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แอนตี้แฟนจบดีมาก แฮปปี้ ซึ่งใช่ค่ะ! ถือว่าเขาขมวดปมเรื่องได้ดี แต่ถ้าเจาะลงไปดูยังมีหลายส่วนที่ไม่ได้เล่าหรืออธิบายนะ ซึ่งถ้าพูดตรง ๆ คือ บทเบาหวิว แต่อันนี้เราไม่ติดใจอะไร ทั้งหมดทั้งมวลที่เราบ่นมาเนี่ยก็แค่อยากบอกว่า " แอบเสียดาย " แค่นั้นเอง เพราะถึงเราจะบ่นส่วนเทคนิคพวกนี้แต่เราก็รักซีรีส์เรื่องนี้มาก ดังนั้นถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วกลัวว่าซีรีส์จะกร่อย บอกเลยค่ะว่า ไม่ !!! เพราะที่เราติมันเป็นจุดเล็ก ๆ ไม่ได้ส่งผลต่อความสนุกของเรื่อง
ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่เราตกตะกอนได้หลังดูซีรีส์ ... ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
(เด็กน้อยสองคนนั่งด้วยกัน)
#ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
#ขอให้ทุกท่านสุขภาพร่างกายแข็งแรง สู้ ๆนะคะ ✌
จาดู
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in