เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไม่อยากโต Teerut Yangkheiosod

ความเร็วประมาณ 50 กิโลเมตร​ต่อ​ชั่วโมง​ เป็นความเร็วที่ไม่สูงนัก คงเพราะเหนื่อยมาจากการเรียนมหาลัยมาทั้งวัน วันนี้ขี่มอเตอร์​ไซค์ช้าๆ ถึงบ้านตอน 6 โมงเย็นก็คงไม่เป็นอะไร ลมเย็นผ่านร่างกายไปอย่างช้า ๆ ต้นหญ้า​ไหวไปตามแรงลม แดดอ่อน ๆ ในตอน 5 โมงเย็นก็ไม่ได้ร้อนมากนัก รถมอเตอร์ไซค์​แล่นผ่านถนนเกษตร​มาได้ซักพัก มีป้ายรถเมล์​ป้ายหนึ่ง​ที่มีนักเรียนมัธยม​จำนวนมากรอรถเมล์​อยู่​ บ้างพูดคุย บ้างตบหัวเล่นกัน ใช่ ครั้งหนึ่ง​เราก็เคยเป็นแบบนี้ เพื่อนเก่าเราจะเป็นยังไงบ้างนะ "ครั้งหนึ่ง​เรา​เคย​เป็นแบบนั้น" สิ่งที่น่าตลกคือเมื่อเรารู้สึกตัวว่ารู้สึกแบบนี้ มันทำให้เรารู้ว่าเราแก่ขึ้น ถึงจะผ่านมาไม่กี่ปีก็เถอะ​ เราจำได้ว่าเราเคยเป็นทุกข์​มากแค่ไหนในตอนที่เราอยู่มัธยม หรือแม้กระทั่ง​ตอนประถม​ แต่เมื่อมองกลับ​ไป​ กลับพบว่าเราช่างแสนสบาย เป็นความสุขที่สัมผัส​ได้แค่ในความทรงจำเท่านั้น​ ทุกครั้งที่เรารู้สึก​ได้​ว่า​เรา​โตขึ้​น เราจะพบว่าเราใช้เหตุและผลในการตัดสินใจ​มากขึ้น แต่กลับละเอียดอ่อนต่อความรู้สึก​น้อยลง เรามองและเชื่อในตัวเลขมากขึ้น และเชื่อในหัวใจน้อยลง ห้องนอนเราไม่ได้มีของเล่นวางอยู่บนชั้นแล้วแต่ถูกแทนที่ด้วยเอกสาร​ บนกำแพงก็ไม่มีรอยสีเทียนแล้ว แต่ถูกแทนที่ด้วยนาฬิกา​แขวนแทน ทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงไม่ใส่ใจความรู้สึกเลย เราเคยคิดมาตลอดว่าไม่ชอบผู้ใหญ่ พวกนั้นเห็นทุกอย่างเป็นผลประโยชน์​ แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกหดหู่​มาก คือ​การ​ที่​เรา​ได้รู้ว่าตนเองก็อาจจะกำลังโตเป็นผู้ใหญ่​แบบนั้นทีละก้าวทีละก้าว หัวใจของเรากำลังแข็งแรง​ขึ้น​เรื่อย ​ๆ เพื่อแบกรับสิ่งที่เจอในวัยนี้ ปัญหา​ที่เราเจอมันแก้ไม่ได้ถ้ามัวแต่แคร์ความ​รู้สึก​ บางอย่างต้องมองข้ามไป กลัวเหลือเกินว่าวันหนึ่ง​เราอาจจะมองข้ามทุกความรู้สึกไปเสีย วันหนึ่งเราอาจจะกลายเป็นผู้ใหญ่ใจดำที่มองทุกอย่างเป็นผลประโยชน์ "ไม่อยาก​โต" แต่เราห้ามธรรม​ชาติไม่ได้ จินตนาการ​เราค่อย ๆแคบลงเรื่อยๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ รถมอเตอร์ไซค์​ขับมาถึงหน้าบ้าน จอดรถเก็บหมวกกันน็อก​ให้เรียบร้อย​ ปิดประตูรั้ว​ วันนี้เหนื่อยมามากอยากจะนอนพักก่อนซักตื่น เจ้าแมวเดินเข้ามาทักทาย "เจ้าแมวเอ๋ย ฉันไม่อยากโตเลย" เมื่อเราโตขึ้นเราก็จะรู้ตัวว่าเราไม่สามารถพูดหรือระบายทุกเรื่องได้ ไม่ว่าจะเพื่อนเราหรือใครก็ตามก็มีเรื่องทุกข์ใจ​กันทั้งนั้น​ ต่างคนก็ต่างมีเรื่องที่แบกรับไว้ คงไม่มีใครอยากจะทนรับฟังเรานักหรอก หากจะบ่นกับใครซักคน ขอบ่นกับแมวดีกว่า แต่ดูเหมือนสิ่งมหัศจรรย์​เกิดขึ้นกับเราแล้ว ในตอนที่เราลูบหัวเจ้าแมว เราพูดว่า "เจ้าแมว เอ๋ย ฉันไม่อยากโตเลย ทันใดนั้น​แมวของเราพูดตอบเราว่า "บ้ารึเปล่า​ คนมันจะโตห้ามได้ที่ไหน" เราตกใจมาก คงจะเหนื่อยเสียจนได้ยินเสียงหลอน "แกไม่ได้คิดไปเอง ฉันพูดกับแกอยู่" เหมือนว่าธรรมชาติจะเห็นว่าเราแบกรับหน้าที่ไว้และอยากระบายกับใครซักคน จึงบันดาล​ให้แมวของเราหันมาพูดกับเราอย่างกับมนุษย์ ถึงแม้จะอธิบายเหตุผลอะไรไม่ได้ แต่ก็รู้สึกซาบซึ้ง​จากก้นบึ้งของหัวใจ "เหนื่อยใช่มั้ย ฉันจะรับฟังแกเอง" น้ำตาของเราตกลงมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ​ อาจเป็นเพราะไม่ได้ยินคำพูดแบบนี้มานานเหลือเกิน ความรู้สึกเหมือนกับเด็กที่ได้พูดคุยทุกสิ่งที่เจอมากับเพื่อน ที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนจริง ๆ ว่าไปนั่น แมวจะพูดได้ยังไงหล่ะ เลิกเล่นกับแมวแล้วเข้านอนดีกว่า วางกระเป๋า​ลงบนเก้าอี้ วางเอกสารไว้บนชั้น มองนาฬิกา​ที่กำแพง เวลาประมาณหกโมงครึ่ง พักซักหน่อยดีกว่า วันนี้เหนื่อยมาก พรุ่งนี้​มีเรียนเก้าโมง เห้อ... "ไม่อยากโต"

ALL POSTS
Views