ขณะที่อิฉันติดไฟแดงสี่แยกราชภัฏ อิฉันรู้สึกถึงไอร้อนระอุที่กระทบแขนขวาราวกับเตาผิงซึ่งมาจากใต้ท้องรถเก๋ง ECO สีขาวคันหนึ่ง พร้อมทั้งสูดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่พ่นออกมาจากท่อไอเสียพี่แกร๊บอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพี่แกก็สิงอยู่ข้างหน้าอิฉันเพียง 2 ก้าวเท้าเท่านั้น
ทันทีที่ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว ก้อนเหล็กน้อยใหญ่ต่างเร่งหมุนล้อของตัวเองเพื่อพากันเบียดเสียดราวกับแย่งชิงเส้นชัยบนลู่วิ่งคอนกรีต
เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น ผู้เข้าแข่งขัน ECO สีขาวเลือกเปลี่ยนเลนลู่วิ่ง แล้วตัดหน้าเลนอิฉันโดยกะทันหัน ส่งผลให้พี่แกร๊บและชะนีโง่ๆอย่างอิฉัน จำต้องเบรคหน้าคะมำทันควัน
"อร๊ายยยย!!!!" อิฉันร้องเสียงหลงจนดึงดูดสายตาประชาชีเป็นอย่างมาก รู้ตัวอีกที ข้อเท้าซ้ายก็ติดแหงก ระหว่างกันชนมอไซต์ตัวเองและท้ายป้ายทะเบียนพี่แกร๊บ
อิฉันเสียสติไปชั่วขณะแล้วรวบรวมพลังเสียงเพื่อ ขอโทษขอโพยพี่แกร๊บเป็นยกใหญ่ แต่พี่แกกลับยิ้มร่า บอกไม่เป็นไรครับ จนอิฉันหายห่วงค่อยแยกย้ายกันไป สุดท้ายแล้ว นักวิ่งที่แพ้แบบอิหยังวะอย่างอิฉัน ต้องกอดตีนแสนเจ็บปวดไปร่านต่อที่สุนีย์เพื่อนั่งจกทาร์ตไข่เกร๋ๆค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in