เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อิฉัน ไดอารี่fainattasanan
ยายปริก เจ้าที่แรง
  • ด้วยบ่ายวันเสาร์ของสองสัปดาห์ก่อน ณ บ้านแป้งปลื้ม ข้างๆบ้านน้องทั้งสองติดกับโรงงานตู้แช่ฝั่งขวามือ โรงงานดังกล่าวใจดีเหลือที่ว่างให้ครึ่งเมตรไว้เป็นซอยทางเดินเข้าบ้านของคนในละแวกนั้น

    เนื่องจากบ้านยายปริกซึ่งเป็นร้านขายของชำ อยู่ติดหน้าถนน ส่วนฝั่งขวามือเป็นโรงงานดังกล่าว ถัดเข้าแนวลึกหลังที่สองเป็นบ้านแป้งปลื้ม ทำให้ยังมีช่องว่างให้อิฉันและเด็กๆไปปูเสื่อนั่งเล่นกันในซอยทางเดิน

    อิฉันเคยไปนั่งอ่านหนังสือเล่มโปรด 51 Weapon ของพี่ฌอน บูรณะหิรัญ ถึงแม้ว่าจะอ่านเป็นร้อยๆรอบก็ตามแต่(อ่านแค่ฝั่งภาษาไทย) รอบนี้ขออ่าน Version ภาษาอังกฤษ กันบ้าง

    10 นาทีผ่านไป ในขณะที่อิฉันกำลังอ่านหนังสือซึ่งมีปลื้มเด็กข้างบ้านที่กำลังแอบขโมยเด็ดดอกอัญชันข้างรั้วที่ห่างจากอาณาเขตบ้านยายปริก 2 เมตร

    และยายปริกก็ถือตัวเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ต้นอัญชันที่เกิดเองตามธรรมชาติเลื้อยผลิดอกยาวเป็นพุ่มใกล้ๆบ้านของนาง

    ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงวัยกึ่งคนที่เอนเอียงไปฝั่งชราภาพแล้ว ตะโกนออกมาเสียงแหลม
    "นี่ๆ ไอ้เด็กนั้นน่ะ มาปูเสื่อนั่งที่นี่ได้ไง ที่นี่ทางหลวงนะ เป็นที่สาธารณะไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัว ไม่มีสิทธิ์มานั่งแบบนี้"

    ถูกเผง! ไม่ใช่ที่นี่พื้นที่ส่วนตัวอย่างที่ยายแกพูดจริงๆ แต่ที่นี่คือที่สาธารณะจ้า

    สาธารณะ แปลว่า เป็นพื้นที่ส่วนรวมที่ทุกคนมีสิทธิ์มาใช้ชั่วคราวไม่ใช่ถาวร

    และสถานที่ที่ยายแกกล่าวหา เป็นพื้นที่บ้านแป้งปลื้มที่อิฉันเคยมานั่งเล่น ทาเล็บ กินข้าวที่นี่เกิน 100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2019 และแถมแกก็เห็นจนชินตา แกเคยเดินผ่านไปผ่านมาไม่ว่าอะไรสักคำ ทั้งๆที่เห็นพวกเรานั่งเล่นกันหัวโด่ แต่ไม่รู้วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับแก นึกครึ้มอยากจะด่าก็ด่าไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

    อิฉันเห็นว่าปลื้มเก็บอัญชันได้เยอะแล้วแบบหลบๆซ่อนๆเพราะกลัวยายปริกฉอด อิฉันจึงม้วนเสื่อไปเล่นที่อื่นแทน ไม่ใช่ว่ายอมแพ้ มดแดงเริ่มกัดตูดเท่านั้นเอง

    อิฉันเคยฝากเงินให้ปลื้มไปอุดหนุนซื้อขนมร้านแกบ่อยครั้ง จนทำให้อิฉันไม่อยากซื้อของแกอีกแล้ว

    อิฉันไม่เคยทะเลาะกับยายปริก แต่หญิงหญ้าของอิฉันเป็นศัตรูเบอร์ 1 ของแกเลยล่ะ เคยทะเลาะกันมาตั้งแต่เป็นสาวๆ อิฉันเลยไม่แปลกใจที่แกจะพลอยเหม็นขี้หน้าหลานของศัตรูตัวฉกาจไปด้วย

    เพราะฉะนั้น อิฉันต้องรู้จักตัวตนของนางให้ได้ว่านางเป็นใคร อะไรที่ทำให้นางมาพ่นไฟใส่อิฉันแบบนี้ อิฉันเลยถามแป้ง

  • หลังเกิดเหตุการณ์ไล่ที่อิฉันและปลื้มวันนั้น อิฉันพบว่า พวกเราไม่ได้ผิดที่ไปปูเสื่อนั่งตรงนั้น แกไม่ใช่เจ้าของที่โดยกฎหมาย และแกไม่มีสิทธิ์มาไล่พวกเราด้วยซ้ำ

    เมื่อฟังปูมหลังจากปากแป้งเด็กข้างบ้าน แป้งบอกว่า แกก็เป็นอย่างงี้มาตลอด อดีตถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล แจ้งตำรวจเพื่อแย่งสมบัติจากแม่ผู้บังเกิดเกล้า ที่มอบที่ดินให้กับลูกๆ

    ยายปริกผู้เห็นแก่ตัว ขอส่วนแบ่งมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง ส่วนน้องสาวคนสุดท้องที่เปิดร้านเสริมสวยทนอยู่ข้างบ้านแกไม่ได้ จนต้องขนข้าวขนของหนีไปอยู่กับสามี

    ยายแกนี่เจ้าที่แรงจริงๆ ส่วนแม่ผู้บังเกิดเกล้าตอนนี้เสียสติไปแล้ว เนื่องจากโรคส่วนตัว อิฉันขอไม่กล่าวถึง บางทีแม่ของยายปริกก็ถือมีดเดินมา ทำอิฉันที่กำลังเล่นไพ่ UNO กับแป้งและปลื้มต่างวิ่งหนีกันเป็นระนาว

    บางวันแกก็ไหว้บันไดบ้าน ไหว้อากาศ เป็นอัลไซเมอร์จำลูกของตัวเองไม่ได้ กลายเป็นว่า ลูกสะใภ้ซึ่งเป็นยายของแป้งและปลื้ม ต้องมารับบทเป็นนางพยาบาลส่วนตัวให้แก

    ส่วนยายปริกผู้จัดจ้านในย่านนี้ ก็ยังมุ่งหน้าเปิดร้านขายของชำต่อไป โดยไม่สนคำครหา ติฉินนินทาจากเพื่อนบ้านละแวกเดียวกัน แม้จะมีคนเกลียดแกเยอะ แต่แกก็ยังเชิดหน้าทำมาหากินต่อไปและเอาแต่ด่าทอคนอื่นเมื่อมีโอกาส

    เมื่ออิฉันรู้ไส้รู้พุงของศัตรูแล้ว มันถึงเวลาที่อิฉันจะต้องแก้เผ็ดแกซะบ้าง

  • วันนี้เป็นวันแก้เผ็ดล้างตาด้วยวิธีแบบเด็กๆ และติ๊งต๊องพอควร อิฉันทำการสอดข้อมือผ่านรั้วเขียวหน้าบ้านแป้ง ทะลุไปทางซอยทางเดินที่อิฉันเคยปูเสื่อนั่งเล่นกับน้อง แล้วชูนิ้วกลางเด่นตระหง่านชี้ไปยังฝั่งร้านขายของชำยายปริก พร้อมตะโกนว่า "ที่นี่เป็นที่สาธารณะไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัว!"

    เมื่อแกนนำพรรคฉอดไปแล้ว เห็นทีลูกพรรคต้องเป็นฝ่ายสนับสนุนบ้าง แป้งและปลื้ม สองพี่น้องไม่รอช้า รีบหากระดาษลังเบียร์ช้างขนาด 2 หน้ากระดาษเอสี่ มาเขียนด้วยดินสอสีไม้คำว่า "คอ วอ ยอ ป."

    ปลื้มไม่รอช้า คว้าป้ายไฟดังกล่าว วิ่งออกไปกระโดดดึ๋งๆตรงที่แกเคยไล่เรา พร้อมชูป้ายไฟเชียร์ยายปริก " รวยปริก ๆๆๆๆ "(กรุณาเปลี่ยน ร.เรือให้เป็น ค.ควาย)

    แป้งและอิฉันต่างปรบมือเอาใจช่วย จนทำให้ปลื้มรู้สึกเหมือนมีเชื้อเพลิงประทุความฮึกเหิมขึ้นมามากกว่าเดิม และตะโกนพร้อมชูป้ายไฟในมือขึ้นเหนือศรีษะแล้วร้องว่า "ที่นี่เป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่ใช่ที่ส่วนตัวของใคร! "

    ปลื้มได้ทำการ Copy วลีที่แกเคยฉอดใส่พวกเราไว้ ขยี้ซ้ำอีกครั้ง ราวกับว่าเป็นผู้ประท้วง ดูท่าทีฝ่ายจำเลยจะไม่สนใจ แป้งจึงคิดแผนการเด็ดใหม่ นั่นก็คือ แสร้งทำเป็นว่าไปซื้อขนมร้านแก แล้วชูป้ายไฟ "คอ วอ ยอ ป." ให้แกเห็นชัดเจน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ยายปริก ผู้เป็นที่รักของลูกหลานทุกคน

    หลังจากที่แป้งและปลื้มทำตามแผนสำเร็จ และดูเหมือนว่า ยายปริกจะได้อ่านป้ายไฟนั่นแล้ว แต่ก็ยังมุ่งหน้าขายขนมต่อ แถมแสร้งเมินเฉย แต่ก็ยังไงซะ Mission ก็ Completed

    พวกเราทั้งสามแกนนำพรรครักยุติอธรรม ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ พี่น้องชาวไทย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in