เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
End Storysleeperrp
1:12
  • ตั้งแต่ขึ้นปีสาม ตอนนั้นผมอายุได้21ปี ในขณะที่เพื่อนของผมเพิ่งจะย่างเข้า20ปี ผมคิดตลอดว่าทำไมแม่ไม่พาผมเข้าเรียนเร็วนี้นะ ผมแก่ที่สุดในพี่น้องเพราะเป็นคนโตและยังต้องมาแก่ที่สุดในบรรดาเพื่อนฝูงอีก อายุขนาดผมตอนนี้ไม่เรียกว่าวัยรุ่นแต่ก็ไม่ถึงกับเรียกได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ เป็นอะไรที่กึ่งๆ สำเร็จรูปละนะผมว่า ขอแค่มีน้ำร้อนและเครื่องครบรส ผลลัพธ์จะอร่อยหรือจะกินไม่ได้จนต้องเททิ้ง เรื่องที่ผมจะเล่าต่อจากนี้ ผมว่ามันเกือบๆจะต้องได้เททิ้ง อีกเสียงในหัวผมบอกว่าเปรียบเทียบเกินจริงไป ผมก็ว่างั้น ที่พูดมาทั้งหมดนี้ แค่อยากโชว์ทักษะการใช้คำและการเล่าเรื่องที่ฟุ่มเฟือยไร้ความจำเป็น เห็นมั้ย ไร้ความจำเป็นจริงๆด้วย เรื่องที่ผมจะเล่าแทบไม่ต้องเสียเวลาถามเพื่อหย้่งเชิง คุณรู้ ผมรู้ มีไม่กี่เรื่องบนโลกที่ต้องเขียนถึงและมันก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานนี้ทั้งนั้น รัก โลภ โกรธ หลง เพราะเวลาที่อารมณ์ของคนเรามีค่าเป็นกลาง คงไม่เสียเวลามานั่งพรรณนาถึง ช่วงเวลานั้นคือการเก็บเกี่ยว ซึมซับ ผ่อนคลาย โปร่งใสจนรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับ แสงแดด สายลม อากาศธาตุโดยที่จิตใจไม่ได้กลวงเปล่า แต่รับรู้และเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง ว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป อันเป็นความจริงพื้นฐานในโลกหน้า คงไม่ใช่โลกที่ผมอยู่ตอนนี้ โลกของผมเพียงคนเดียว ที่ที่ตัวผมนั้นรู้สึกเหมือนตัวผมเองใหญ่โตจนไม่เหลือพื้นที่ให้หายใจ ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ ใหญ่โตบีบรัดตัวเองและเพียงเสี้ยววิกลับรู้ว่าตัวหดเล็กลง เกิดขึ้นรวดเร็วไวยิ่ง
    กว่าความคิด หดเล็กจนเหมือนกับแบกพื้นฟ้าและอากาศรอบตัวเอาไว้หรือไม่ก็ทั้งหมดนั้นกำลังกดทับตัวผมไว้ อึดอัดอยู่ภายในขณะก้าวเดิน แต่กลับพบว่าไม่ได้เคลื่อนไปไหนเลย ตัดไปเป็นร่างใหญ่โต ตัดไปเป็นร่างหดเล็ก ซ้ำๆซากๆ ความทะเยอทะยานที่จะหลุดพ้นมี แต่ไม่เคยถูกใช้อย่างเต็มกำลัง รอน้ำร้อนและเครื่องปรุงรส ใช่ ผมใช้คำว่ารอ ความทะเยอทะยานที่มีคงถูกใช้ไปกับคำนี้ ไม่เต็มกำลังแต่นานนับปี หลังจากเคยเจอเครื่องปรุงรสหนึ่งเป็นรสที่ชวนให้คิดถึงได้ตลอด 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in