เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
16 ความหวังที่ริบหรี่ (1/2)
  • เวลาผ่านไปเกือบ 3 อาทิตย์ที่เธอยังคงทำหน้าที่อยู่ภายในตลาดค้าทาสโมเบียสแห่งนี้ วอลล็อคทำตามที่เขาพูดทุกประการไม่สั่งงานอะไรเธอเพิ่มอีก เวลาเช้ากับเย็นช่วยโรงครัว ช่วงกลางวันดูแลบ้านของเขา จะมีก็เพียงแค่อีกฝ่ายจู้จี้เรื่องทำความสะอาดบ้านกับการซักผ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เกรเทลมองออกว่าชายหนุ่มจงใจแกล้งกันมากกว่า เหมือนเขาไม่รู้จะหาเรื่องเธอยังไงก็เลยใช้เป็นข้ออ้าง

    เกรเทลทำไมตรงนี้ยังมีฝุ่น

    เกรเทลทำไมไม่ซักผ้าปูโต๊ะ

    เกรเทลทำไมไม่ขัดพื้นตรงบันได

    เกรเทลทำไมตรงนี้ยังมีขยะอยู่

    เกรเทลทำไมซักผ้าแล้วมีกลิ่นอับ

    คำก็เกรเทล สองคำก็เกรเทล เธอแทบจะว๊ากใส่หน้าเจ้านายผมเขียวอยู่เต็มประดา ถ้าไม่ติดว่าสถานะตนเองในโลกนี้เป็นเพียงแค่ทาส คงด่าไปหนึ่งยกให้หายอึดอัดใจ นอกจากนี้ดูเหมือนว่าเรื่องผีสางภายในบ้านวอลล็อคก็ยังไม่ได้จางหายไปไหน เธอยังคงเห็นมันผ่านไปผ่านมาบ่อย ๆ จะบอกว่าชินก็ชิน จะบอกว่าไม่ชินก็ไม่ใช่ ไม่มีนิยามคำไหนที่เหมาะกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

    การต่างคนต่างอยู่ไม่สนใจจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอ มิฉะนั้นแล้วเธอคงได้ประสาทกินไปก่อน สภาพร่างกายของเธอค่อย ๆ กลับมาแข็งแรงขึ้นทีละนิดทีละน้อย ข้อแขนและขาดูมีน้ำมีนวลขึ้นแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงทันตาคงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ในคืนหนึ่งที่เธอกลับไปบ้านพักเธอได้ถามหาตาชั่งน้ำหนักจากอารอล์ฟเพราะอยากรู้ว่าปัจจุบันเธอมีน้ำหนักแค่ไหน

    อารอล์ฟเลยลุกไปขอยืมตาชั่งน้ำหนักมาจากหน่วยแพทย์ที่อยู่โซนท้ายค่ายมาให้ พอตาชั่งมาถึงร่างเล็กก็ก้าวขาขึ้นไปเหยียบบนแท่งสี่เหลี่ยมโลหะ เข็มหน้าปัดค่อย ๆ ขยับเลยหมุนไปทางขวาอย่างรวดเร็วแล้วเด้งกลับไปหยุด ณ ขีดตัวเลขที่พานทำให้เธอช็อกสุด ๆ เพราะก่อนที่เธอจะตื่นมาที่โลกนี้ เธอเคยมีน้ำหนัก 47 กิโลกรัม แต่ผลปรากฏว่าร่างนี้น้ำหนักเพียงแค่ 34 กิโลกรัมเท่านั้น

    นี่ฉันยังเป็นคนอยู่ไหม?

    อารอล์ที่ยืนอยู่ข้างกันยังทำสีหน้าอึ้งออกมาพร้อมทั้งอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้เห็นบนหน้าปัด น้ำหนักเธอเบาพอ ๆ กับเด็กอนุบาลหรือเด็กตัวเล็ก มิน่าคนงานที่นี่เวลาเห็นเธอไปช่วยทำงานทีไร ต่างคนต่างทำสีหน้าเป็นห่วงกังวลกลัวว่าเธอจะล้มลงพื้นซะงั้น เพิ่งมาเข้าใจก็วันนั้นว่าเธอต้องจริงจังกับการดูแตัวเองให้ดี จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเธอถึงไม่เคยขาดการกินอาหารให้ครบทุกมื้อ

    วอลล็อคยังชอบแซวว่าเธอกินเก่งมากพักหลัง ไม่เคยเห็นขาดอาหารเลยสักมื้อ ใจเธอไม่อยากสวนกลับเขาไปว่าลองตัวเองมาน้ำหนักแค่ 34 ดูไหมจะได้รู้ว่าสภาวะขาดสารอาหารเป็นยังไง

    เมื่อเช้าเธอยืนพูดคุยกับป้ากันนาร์ว่า วันนี้มีวัตถุดิบอะไรที่เธอสามารถเอามาทำอาหารได้บ้าง ยืนคุยอยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงเนื่องจากคนส่งของมาล่าช้า ทำให้โรงครัววันนี้วุ่นวายกันไปหมดเพราะกลายเป็นว่าจะเตรียมอาหารไม่ทันมื้อเช้าให้คนงานกิน

    ก่อนที่เธอจะหอบข้าวของไปบ้านพักเจ้านาย บาสเตียนเล่าให้เกรเทลฟังระหว่างสับเนื้อหมูว่านายใหญ่วอลล็อคเป็นคนเข้มงวดเรื่องเวลามาก ยิ่งเรื่องการส่งมอบสินค้าเคี่ยวยิ่งกว่าเจ้าหนี้ด้วยซ้ำ นอกจากเป๊ะเรื่องเวลาแล้วเขายังสามารถตามล่าจัดการคนงานที่แอบลักลอบค้าทาสเองอย่างลับ ๆ ได้ภายในไม่กี่นาที หูตาเขากว้างไกลจนเป็นที่โจษจันว่าเขาแอบเลี้ยงผีไว้ข้างตัว ร่างบางยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกถึงการเชื่อมโยงจนเกิดภาพปะติดปะต่อว่าที่บ้านพักเขามีผี

    แบบนี้ก็แสดงว่าเขาเลี้ยงผีเอาไว้จริง ๆ เหรอ?

    แต่สำหรับเกรเทลเธอเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ในเมื่อทำงานอยู่ในบ้านนั้นมา 3 อาทิตย์ นอกจากเธอมักได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาเป็นระยะ ข้าวของก็ชอบไหลตกลงมาจากชั้นวาง ไม่รวมกับการเจอสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘งู’ เธอก็ไม่เห็นว่ามีอะไรน่ากลัวอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันเลยสักอย่าง

    มันต้องมีที่มาที่ไปแน่ ๆ แต่ใครมันจะสร้างเรื่องขึ้นมาให้คนอื่นกลัว นอกเสียจากว่าใครบางคนไม่ต้องการให้คนอื่นเข้าใกล้ของบางอย่าง เด็กสาวคิดภายในหัวระหว่างก้าวเท้าไปตามทางเดินว่าภายในบ้านมันมีอะไรซ่อนไว้หรือเปล่า แต่เธอไม่มีความกล้ามากพอที่จะมาสวมบทบาทเป็นคนขี้เสือกค้นบ้านพักเจ้านายหรอก เกิดโดนจับได้ขึ้นมาคนที่โดนหมายหัวคงไม่พ้นเธอ

    คำโบราณกล่าวไว้อย่าสอดรู้สอดเห็นให้มากเดี๋ยวนำภัยมาสู่ตัว

    เกรเทลเดินผ่านต้นไม้วิลโลว์ขนาดใหญ่ ทุกครั้งเธอจะรู้สึกถึงบางอย่างภายในใจ ส่วนลึก ๆ เหมือนมีก้อนขุ่นมัวที่มองไม่เห็น นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกแต่คลับคล้ายคลับคลาจนกระตุกต่อมการรับรู้ อย่างที่คนเขาเรียกกันว่าประสบการณ์เดจาวูละมั้ง เธอว่าเคยเห็นต้นไม้ต้นนี้มาก่อนแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรตอนไหน อาจจะในความฝันช่วงไหนสักช่วงที่เธอนอนหลับ ความเคลือบแคลงใจทำให้เธอตัดสินใจเท้าเล็กหันเปลี่ยนทิศทางไปทางต้นวิลโลว์แทน

     

    …เข้างานช้าหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง…

     

    ร่างบางเดินเหยียบเหล่าก้อนหิน ก้อนกรวด เศษไม้ใบ ใบหญ้าแห้งจนเกิดเสียงดังกรอบแกรบ พอเข้าใกล้ลำต้นเธอต้องค่อย ๆ เหยียบไปตามรากต้นไม้ใหญ่ทีละรากด้วยความใจเย็น เพราะรากขนาดใหญ่ได้ชอนไชขึ้นมาบนดิน เบียดเสียดทุกระเบียบนิ้วจนไม่มีพื้นที่ราบเรียบให้เดินอย่างมั่นคง

    พอมาถึงโคนต้นเธอจัดการวางอุปกรณ์ข้าวของไว้บนพื้นหญ้าชั่วคราว เกรเทลเดินสำรวจรอบต้นไม้อย่างละเอียด เมื่อลองเดินอ้อมมาด้านหลังเธอก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างสลักอยู่กลางลำต้น ถ้าหากไม่เพ่งสายตามองดี ๆ ก็แทบจะจางหายไปกับเปลือกไม้ เนื่องด้วยต้นไม้มีการเติบโตและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งลมฟ้าลมฝน ทว่าภาพที่ปรากฏให้เห็นตรงหน้าทำให้เธอประหลาดใจปนช็อกหนักกว่าเดิม

    GWR forever ♡

    อักขระที่เรียงตัวจากซ้ายไปขวาพร้อมรูปหัวใจปิดท้ายประโยค มันเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษในโลกของเธออย่างแน่นอน เกรเทลฝึกคัดตัวหนังสือที่หยิบมาจากชั้นของวอลล็อคทุกวัน เห็นมาทุกรูปแบบทุกอักขระ ซึ่งไม่มีตัวอักษรไหนเลยที่เหมือนตัวหนังสือในโลกเธอ

    คำถามต่อมาคือใครเป็นคนเขียนขึ้นมา สำหรับเกรเทลที่ยังไม่ค่อยเข้าใจความเป็นอยู่ของโลกที่อยู่นี้ การได้เห็นอะไรที่มาจากอีกโลกของเธอเองมันสร้างความตื่นเต้นเหมือนได้พบเพื่อนเก่าที่ห่างหายกันไปนานแล้วมาเจอกันใหม่

    นั่นหมายความว่าเคยมีคนมาแบบเธออีกใช่ไหม? เกลเทลรู้สึกมีความหวังขึ้นมาแบบริบหรี่ เธอเองไม่อยากคาดหวังเยอะเพราะดูจากสภาพตัวอักษรที่ขีดเขียนลงบนลำต้นน่าจะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว มันเลือนรางจนแทบอ่านไม่ออก เธอคิดไว้แล้วว่าต้องลองตามหาคนคนนี้ให้เจอ แต่ใครล่ะที่จะสามารถตอบคำถามเธอได้

    คงไม่พ้นเป็นนายใหญ่แห่งตลาดค้าทาสวอลล็อค

    พอมาคิดดูอีกทีเธอมั่นใจว่าเขาไม่มีทางตอบคำถามเธอดี ๆ หรอก หมอนั่นชอบต่อรองไม่ยอมโดนเสียเปรียบแน่ ฉะนั้นเธอต้องคิดหาวิธีอื่นในคืนนี้ ว่าแล้วเธอก็เงยหน้าอ่านคำบนต้นไม้อีกครั้งก่อนจากไปเพื่อทำความสะอาดบ้านเจ้านายตนเอง

    GWR หมายถึงอะไร? หรือเป็นตัวย่ออะไรบางอย่างเพราะสมัยเธอเด็ก ๆ ก็เคยเห็นเพื่อนชอบเขียนชื่อเล่นบ้าง ชื่อคนนู้นคนนี้บ้าง ลงตามสิ่งของ เบาะหนัง เก้าอี้ โต๊ะเรียน ทุกอย่างที่จะเขียนลงไปได้จนครูต้องคอยไล่ดุและสั่งให้ลบออกบ่อยครั้ง เกรเทลคิดว่าคงไม่พ้นเป็นชื่อย่อคนไม่ก็ชื่อกลุ่มเพื่อนรักมากกว่า

    เด็กสาวละความสนใจจากข้อความแล้วเตรียมเข้างาน ขาเล็กค่อย ๆ ก้าวเท้าเหยียบรากต้นไม้เพื่อเดินอ้อมกลับมาด้านหน้าอีกครั้ง เมื่อเกรเทลเงยหน้าขึ้นมาเป็นอันต้องผงะตกใจเกือบหงายหลัง ดีที่มือเธอไวคว้าจับลำต้นไ้ม้ไว้ได้ เพราะวอลล็อคยืนทำสีหน้าถมึงทึงยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่

    ชายหนุ่มนึกสงสัยว่าทำไมวันนี้เจ้าเด็กทาสมันเข้ามาบ้านพักเขาช้ากว่าปกติ ตั้งแต่มันเข้ามาทำงานในค่ายแห่งนี้เขายังไม่เคยเห็นว่ามันจะมาสายเลยสักครั้ง จึงตัดสินใจเดินออกมายืนรอดูหน้าบ้านแทน ขายาวก้าวไม่ทันถึงระเบียบหน้าบ้านดี สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับร่างผอมร่างแห้ง ๆ เดินกระโหยงกระเหย่งไปมาบนรากต้นไม้

    วอลล็อคแปลกใจว่าทำไมเจ้าหนูนั่นไปทำอะไรแถวต้นไม้วิลโลว์หน้าบ้านเขา ไม่ยอมเข้างานสักที พอเห็นว่ามันยืนสำรวจรอบต้นไม้อยู่ได้สักพักใหญ่โดยไม่มีทีท่าว่าจะเดินออกมา เขาจึงเป็นฝ่ายเดินไปหามันด้วยตนเองแล้วยืนจังก้ารออยู่ด้านต้นไม้ นอกจากที่มันมีฝีปากกล้าต่อล้อต่อเถียงกับเขาเป็นบางครั้งบางคราวก็ไม่คิดว่ามันจะใจกล้าเข้างานสายไปด้วย

    “น…นายมายืนทำอะไรตรงนี้ขอรับ” 

     

    ------

    กดหัวใจ ❤️หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ

     

    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    เกรเทลนางยังอยากกลับบ้านอยู่นะคะ แม้เห็นว่านางอยู่ทำงานแบบนี้ไปวัน ๆ ก็ตามแต่นางยังโหยหาวิธีกลับอยู่ ไรท์อาจจะเขียนไม่ได้ละเอียดหรือเล่าความรู้สึกนางเยอะนักเพราะมันคือเขียนแล้วอัพลงเลย(ด่วน) ฉะนั้นมีรีไรท์อีกรอบก่อนวางขายแน่นอนค่ะไม่ต้องห่วง😆

    ดิฉันรู้ค่ะว่ามีคนอยากอ่านแบบยาว ๆ เพราะแบบคาใจว่าตกลงหนทางชีวิตน้องจะเป็นยังไง แอบกระซิบเลยนะคะว่าสามารถฉิบหายได้มากกว่านี้อีกค่ะ5555 ถ้าช่วงนี้ถ้าไรท์หายไปวันสองวันไม่ต้องตกใจนะคะ เร่งปั่นเล่ม E-book ให้อยู่อดใจรอกันนิดนึงนะคะ//ไหว้ย่อ

    แวะมาพูดคุยเล่นหรือดูอัพเดตเกี่ยวกับนิยายไรท์ได้ที่

    Facebook : C.T.Tiana

    X (Twitter) : @Ccttiana

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in