อุปกรณ์ครบ ใจพร้อม มาเริ่มต้นอ่านกันเถอะ!
1. เลือกหนังสือที่อ่านไม่ยากมาเริ่มอ่านก่อน
ถ้าจะให้อ่านหนังสือนิทานก็คงไม่ได้ แต่มีหนังสือ นิยายอยู่หมวดนึงครับที่ผมรู้สึกว่า คำศัพท์ไม่ยาก รูปประโยคไม่ซับซ้อน แถมยังเนื้อเรื่องสนุก นั่นก็คือหมวด YA Fiction (Young-Adult Fiction) นั่นเอง! หลายๆ คนคงจะคุ้นกับหนังสือในหมวดนี้อยู่ไม่น้อย เพราะหนังสือเหล่านี้มักเอามาทำเป็นหนังหรือซีรี่ส์อยู่บ่อยๆ เพราะเนื้อหาง่ายๆ กินใจ ถูกใจวัยรุ่น แล้วยังอ่านง่าย เพลินๆ อีกต่างหาก หนังสือที่แนะนำ เช่น Love, Simon, 13 Reasons Why, The fault In Our Star, The Sun Is Also A Star
ป.ล. ไม่ต้องกลัวว่าเคยดูหนัง ซีรี่ส์เรื่องนี้มาแล้ว กลัวจะอ่านไม่สนุก แต่ๆๆๆ ผมแนะนำนะครับให้ดูหนังหรือซีรี่ส์ของเล่มที่จะอ่านมาก่อน เพื่อจะได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จินตนาการท่าทาง หน้าตาตัวละครออก จะได้ไม่นั่งงงมาก เพราะเริ่มอ่านแรกๆ นี่บางทีมันจินตนาการตามตัวหนังสือไม่ออกจริงๆ แถมในหนังสือจะมีรายละเอียดมากกว่าในหนังอยู่แล้ว ยิ่งดูแล้วมาอ่านตบท้าย ยิ่งช่วยให้เรื่องราวสมบูรณ์ขึ้นด้วยนะครับ
2. เตรียม Dictionary ให้พร้อม มาสแกนศัพท์ที่เจอบ่อยๆ กันเถอะ
ภาษาอังกฤษก็มีภาษานิยายที่คนชอบใช้มาบรรยายลักษณะ ทำเป็นกริยาอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกัน เช่นคำว่ามอง ก็จะใช้คำว่า Stare หรือ Glance แทน Look หรือ Sigh ที่แปลว่าถอนหายใจมาแสดงอาการของตัวละคร เป็นคำที่เจอบ่อยมากๆ ในนิยายเพราะมันก็ทำหน้าที่ให้ภาษามันสวยขึ้น ซึ่งบางคำก็สามารถข้ามๆ หรือเดาจาก Context ได้ แต่ถ้าไม่รู้เปิด Dictionary จะดีที่สุด แล้วยิ่งเจอคำพวกนี้ซ้ำๆ เราก็จะจำได้อย่างขึ้นใจเลยล่ะ
และอีกปัญหาในช่วงแรกๆ ที่อ่านคือไม่รู้ว่าตัว Adj. Adv. พวกนี้มันขยายอะไร แปลว่าอะไร ซีึ่งคำเหล่านี้ก็สำคัญไม่แพ้คำกริยาหรือคำนามอื่นๆ เลย เพราะยิ่งรู้ความหมายและรู้ว่ามันทำหน้าที่กับคำไหน ยิ่งทำให้เราอ่านได้สนุกและมีอรรถรสยิ่งขึ้น
(เพิ่มเติม)
3. ดินสอ ไฮไลท์ ตัวช่วยกันลืม
อันนี้แล้วแต่คนจริงๆ ครับ บางคนแค่ดูคำแปลก็จำได้แล้ว แต่บางคนต้องจด ต้องไฮไลท์ให้สมองจำได้ง่ายๆ ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคนนั่นเอง แต่แนะนำจดศัพท์เฉพาะที่คิดว่าสำคัญจริงๆ นะครับ ถ้าจดทุกคำที่ไม่รู้มันจะเบื่อและขี้เกียจซะก่อน (จากประสบการณ์จริง ;___;)
สามารถจดได้ทั้งในหนังสือเลยหรือหาโพสอิทมาแปะข้างๆ โดยที่ถ้าเริ่มเซียนแล้วจะมีอีกเทคนิคนึงที่ส่วนตัวผมชอบทำมากๆ นั่นก็คือการ Annotating นั่นเอง!!
การ Annotating ก็คือการจดไอเดีย ความรู้สึกต่างๆ หรือจะไฮไลท์ข้อความ ประโยค หรือศัพท์ที่โดนใจ กินใจ เป็นต้น การทำ Annotating จะยิ่งช่วยให้เราซึมซับเรื่องราวและมีส่วนร่วมในหนังสือได้ดียิ่งขึ้นครับ หรือยังช่วยให้เราทวนความจำอีกครั้ง เมื่อกลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้อีกรอบ
จบไปแล้วนะครับ กับการแนะนำการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษฉบับเริ่มต้นจริงๆ รับรองว่ายิ่งอ่านยิ่งรู้เรื่องมากขึ้นแน่นอนครับ ขอแค่สิ่งเดียวคือ อย่ายอมแพ้และอย่าย่อท้อ มันอาจยาก วุ่นวายหรือเหนื่อยในช่วงแรกๆ แต่ถ้าทำต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่าการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ไปเองครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ สู้ๆ ❤️
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาวิทยาการคำนวณ ใครมีข้อสงสัย อยากถามเพิ่มเติม หรืออยากร่วมพูดคุยก็สามารถคอมเม้นท์กันมาได้เลยนะครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in