เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
How to read an English bookPoonyapat Intangam
เริ่มอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ฉบับมือใหม่หัดอ่าน!
  •           จุดเริ่มต้นของการอยากอ่านหนังสือภาษาอังกฤษของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกัน บ้างต้องอ่านเพื่อใช้สอบ หรือฝึกภาษา บ้างไม่มีแปลไทยจึงต้องอ่านเป็นภาษาอังกฤษหรือแปลเป็นไทยแล้วสำนวนไม่ดี เสียอรรถรสในการอ่านก็มี ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้นทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเลยครับ แต่การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเป็นเล่มๆ เลยนี่ ชักจะยากเอาการอยู่นะ บางทีทำข้อสอบภาษาอังกฤษยังตกเลย แล้วจะอ่านรู้เรื่องไหม หลายๆ คนคงคิดเช่นนี้ แต่ครั้งนี้ผมจะพาทุกคนข้ามอุปสรรคเหล่านี้ แล้วกลายเป็นนักอ่านหนังสือภาษาอังกฤษตัวยงให้ได้! ?


    อยากเริ่มอ่าน ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

    1.หนังสือภาษาอังกฤษ
         ไอเท็มหลักของเรานั่นเอง หนังสือภาษาอังกฤษที่เรานั้นอยากอ่าน แหล่งที่ซื้อนั้นก็ไม่ไกลที่ไหน ร้านหนังสือ Asia Books หรือร้าน Kinokuniya ตามห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านก็มีให้เลือกซื้ออย่างหลากหลาย หรือจะเป็นร้านหนังสือมือสองอย่าง Dasa Book Cafe หรือร้าน DKTODAY หรือจะช็อปปิ้งออนไลน์ก็มีกลุ่มในเฟซบุ๊คที่โพสท์ขายเป็นประจำทุกวัน หรือถ้าหาซื้อไม่ได้จริงๆ ก็สามารถพรีออเดอร์จากเว็บ Book Depository ได้ เพราะที่สำคัญ ค่าส่ง 'ฟรี'!!!!!


    2. พจนานุกรม, Dictionary 
         ถือได้ว่าเป็นอเท็มหลักอีกชิ้นที่ต้องมีติดตัวเลยในช่วงเริ่มต้น เพราะเริ่มอ่านแรกๆ แน่นอนว่าจะมีอีกหลายคำมากๆ ที่เราไม่รู้และไม่เคยเห็น ถึงบางคำจะสามารถเดาจาก Context ได้ แต่มีติดตัวเผื่อไม่รู้จริงๆ ก็ไม่เสียเปล่า แถมยังมีแอพพลิเคชันพจนานุกรมโดยเฉพาะ ไม่ต้องพกหนังสือหนักๆ ให้ลำบาก *แนะนำว่าถ้าอยากฝึกภาษาจริงๆ ล่ะก็ สามารถใช้ Dictionary ที่แปลเป็น Eng-Eng ก็จะทำให้สกิลภาษาเราพุ่งพรวดได้ไม่ยาก

    (เพิ่มเติม)
    3. ดินสอ ปากกาไฮไลท์ 
         สำหรับบางคนที่อยากจดศัพท์ เขียนโน๊ตเพิ่มเติมต่างๆ แล้วแต่สะดวกเลยครับ


  • อุปกรณ์ครบ ใจพร้อม มาเริ่มต้นอ่านกันเถอะ!

    1. เลือกหนังสือที่อ่านไม่ยากมาเริ่มอ่านก่อน
         ถ้าจะให้อ่านหนังสือนิทานก็คงไม่ได้ แต่มีหนังสือ นิยายอยู่หมวดนึงครับที่ผมรู้สึกว่า คำศัพท์ไม่ยาก รูปประโยคไม่ซับซ้อน แถมยังเนื้อเรื่องสนุก นั่นก็คือหมวด YA Fiction (Young-Adult Fiction) นั่นเอง! หลายๆ คนคงจะคุ้นกับหนังสือในหมวดนี้อยู่ไม่น้อย เพราะหนังสือเหล่านี้มักเอามาทำเป็นหนังหรือซีรี่ส์อยู่บ่อยๆ เพราะเนื้อหาง่ายๆ กินใจ ถูกใจวัยรุ่น แล้วยังอ่านง่าย เพลินๆ อีกต่างหาก หนังสือที่แนะนำ เช่น Love, Simon, 13 Reasons Why, The fault In Our Star, The Sun Is Also A Star

    ป.ล. ไม่ต้องกลัวว่าเคยดูหนัง ซีรี่ส์เรื่องนี้มาแล้ว กลัวจะอ่านไม่สนุก แต่ๆๆๆ ผมแนะนำนะครับให้ดูหนังหรือซีรี่ส์ของเล่มที่จะอ่านมาก่อน เพื่อจะได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จินตนาการท่าทาง หน้าตาตัวละครออก จะได้ไม่นั่งงงมาก เพราะเริ่มอ่านแรกๆ นี่บางทีมันจินตนาการตามตัวหนังสือไม่ออกจริงๆ แถมในหนังสือจะมีรายละเอียดมากกว่าในหนังอยู่แล้ว ยิ่งดูแล้วมาอ่านตบท้าย ยิ่งช่วยให้เรื่องราวสมบูรณ์ขึ้นด้วยนะครับ

    2. เตรียม Dictionary ให้พร้อม มาสแกนศัพท์ที่เจอบ่อยๆ กันเถอะ
         ภาษาอังกฤษก็มีภาษานิยายที่คนชอบใช้มาบรรยายลักษณะ ทำเป็นกริยาอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกัน เช่นคำว่ามอง ก็จะใช้คำว่า Stare หรือ Glance แทน Look หรือ Sigh ที่แปลว่าถอนหายใจมาแสดงอาการของตัวละคร เป็นคำที่เจอบ่อยมากๆ ในนิยายเพราะมันก็ทำหน้าที่ให้ภาษามันสวยขึ้น ซึ่งบางคำก็สามารถข้ามๆ หรือเดาจาก Context ได้ แต่ถ้าไม่รู้เปิด Dictionary จะดีที่สุด แล้วยิ่งเจอคำพวกนี้ซ้ำๆ เราก็จะจำได้อย่างขึ้นใจเลยล่ะ 
         และอีกปัญหาในช่วงแรกๆ ที่อ่านคือไม่รู้ว่าตัว Adj. Adv. พวกนี้มันขยายอะไร แปลว่าอะไร ซีึ่งคำเหล่านี้ก็สำคัญไม่แพ้คำกริยาหรือคำนามอื่นๆ เลย เพราะยิ่งรู้ความหมายและรู้ว่ามันทำหน้าที่กับคำไหน ยิ่งทำให้เราอ่านได้สนุกและมีอรรถรสยิ่งขึ้น 

    (เพิ่มเติม)
    3. ดินสอ ไฮไลท์ ตัวช่วยกันลืม
         อันนี้แล้วแต่คนจริงๆ ครับ บางคนแค่ดูคำแปลก็จำได้แล้ว แต่บางคนต้องจด ต้องไฮไลท์ให้สมองจำได้ง่ายๆ ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคนนั่นเอง  แต่แนะนำจดศัพท์เฉพาะที่คิดว่าสำคัญจริงๆ นะครับ ถ้าจดทุกคำที่ไม่รู้มันจะเบื่อและขี้เกียจซะก่อน (จากประสบการณ์จริง ;___;)  
         สามารถจดได้ทั้งในหนังสือเลยหรือหาโพสอิทมาแปะข้างๆ โดยที่ถ้าเริ่มเซียนแล้วจะมีอีกเทคนิคนึงที่ส่วนตัวผมชอบทำมากๆ นั่นก็คือการ Annotating นั่นเอง!!
         การ Annotating ก็คือการจดไอเดีย ความรู้สึกต่างๆ หรือจะไฮไลท์ข้อความ ประโยค หรือศัพท์ที่โดนใจ กินใจ เป็นต้น การทำ Annotating จะยิ่งช่วยให้เราซึมซับเรื่องราวและมีส่วนร่วมในหนังสือได้ดียิ่งขึ้นครับ หรือยังช่วยให้เราทวนความจำอีกครั้ง เมื่อกลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้อีกรอบ

    จบไปแล้วนะครับ กับการแนะนำการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษฉบับเริ่มต้นจริงๆ รับรองว่ายิ่งอ่านยิ่งรู้เรื่องมากขึ้นแน่นอนครับ ขอแค่สิ่งเดียวคือ อย่ายอมแพ้และอย่าย่อท้อ มันอาจยาก วุ่นวายหรือเหนื่อยในช่วงแรกๆ แต่ถ้าทำต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่าการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ไปเองครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ สู้ๆ ❤️
    บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาวิทยาการคำนวณ ใครมีข้อสงสัย อยากถามเพิ่มเติม หรืออยากร่วมพูดคุยก็สามารถคอมเม้นท์กันมาได้เลยนะครับ




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in