เราชอบตอนได้อ่านข้อความที่เพื่อนส่งมาชวนเราไปเที่ยวที่ต่างๆ

เพราะมันให้ความรู้สึกว่า เพื่อนอยากให้เราไปเที่ยวด้วยจริงๆ

และคำตอบที่เราให้กับเพื่อน จึงเป็นข้อความสั้นๆว่า

"ไปดิแก"

วันเดินทาง เราออกเดินทางกันแต่เช้า ไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ก็ถึงสถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี

จุดหมายปลายทางแรกที่เราจะไป คือบ้านพักแพริมแม่น้ำไทรโยค 

กิจกรรมเด็ดของที่นี่คือการล่องแพล่องแพทวนกระแสน้ำ แล้วเราก็กระโดดลงจากแพ 

ลอยตัวกลับมาตามกระแสน้ำ น้ำเย็นมากกกกก ชิวมากกกกก และสนุกมาก

เรากับเพื่อนเล่นไป 2 รอบเลย มันเป็นกิจกรรมที่ไม่มีอะไรมากมาย แต่สนุกได้ไงก็ไม่รู้

ลอยกลับที่พัก ก็คุยกับเพื่อนไปด้วย ชมวิวแมกไม้สองฝั่งของแม่น้ำไปด้วย เพลินมาก

ไม่รู้จะบรรยายอะไร ก็ใกล้ชิดธรรมชาติ ประมาณนี้  :D

วันที่ 2 ตอนแรกเรากับเพื่อนวางแผนว่า จะกลับไปเที่ยวที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เพราะจะได้กลับกรุงเทพง่ายๆ เพราะมีเพื่อนมาจากต่างจังหวัดด้วย ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง 

แต่... อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน เพราะคุยกันไปกันมาก็พบว่า สังขละบุรี นั่งรถจากหน้ารีสอร์ทไปไม่นาน

จึงเปลี่ยนแผน ไปเที่ยงสังขละบุรีตอนเช้าก่อน แล้วค่อยกลับมาแวะสะพานข้ามแม่น้ำแคว

แต่ (อีกรอบ) ไอ้ที่เราคิดว่ามันไม่นานอ่ะ มันนานมากกกกกก กว่าจะไปถึงสังขละบุรี มันนานมาก เราต่อรถเมล์ท้องถิ่น ไปลงที่อำเภอทองผาภูมิก่อน แล้วต่อรถเมล์ไปสังขละบุรีอีก โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่าจะถึงสังขละบุรี 6 ชั่วโมงจ้าาาาาาา

จากรีสอร์ทไปทองผาภมูิ 1.30 นาที ถึงทองผาภูมิเราต้องรอรถเพื่อไปสังขละบุรีอีก 2 ชั่วโมง และใช้เวลาเดินทางจากทองผาภูมิไปสังขละบุรีอีก 2.30 ชั่วโมง

เราตัดสินใจไปสังขละบุรีโดยที่ไม่ได้วางแผน และไม่ได้คาดหวังอะไร และสิ่งที่เราได้รับระหว่างทาง มันคุ้มค่ามาก เพราะเราไม่เคยรู้มาก่อนว่า ระหว่างทางไปสังขละบุรี จะได้ต้องขึ้นเขาขนาดนี้ เราคิดมาตลอดว่ามันเป็นทางเรียบๆ แต่นี่เราเดินทางผ่านทางที่ล้อมรอบด้วยภูเขาเขียวขจี และหมอกบางๆหลังฝนตก อากาศเย็นๆที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างของรถเมล์ มันสดชื่นมากๆ ตัดสินใจถูกจริงๆที่มาที่นี่

และเรียนรู้ว่า ระหว่างทาง ก็สำคัญไม่แพ้จุดหมายปลายทางเลย...

ด้วยการเดินทางอันแสนยาวนาน ผิดแผน ทำให้เราไม่ได้ไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว แต่ได้มาที่นี่ ที่ที่เกิดความคาดหมาย แค่นี้ก็คุ้มแล้วแหละ...