เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryFayathi Sorap
ลัดคิว?!
  •      สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน

         จบไปแล้วสำหรับบอลโลก ขอแสดงความยินดีกับทีมชาติอาร์เจนติน่า และแฟนบอลอาร์เจนติน่าทุกคนนะคะ ไหนๆเมสซี่แกก็จะวางมือละ ยกแชมป์ให้แกไปละกัน หุหุ 

         ลุ้นกับเรื่องไกลตัวไปแล้วก็มาลุ้นกับเรื่องใกล้ตัวกันต่อ พวกเรายังคงต้องสวดมนต์กันอย่างต่อเนื่องเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ให้ "พระองค์ภาฯ" ของพวกเรา หายจากพระอาการประชวร ทั้งยังต้องเอาใจช่วยให้คนใน "เรือรบหลวงสุโขทัย" ปลอดภัยอีกด้วย
         มาส่งแรงใจไปด้วยกันค่ะ     
         
         ส่วนวันนี้ 

         มีเรื่องจะเล่าค่ะ 

         ควรจะเรียกว่า ดวงไม่ดี​ หรือ​ ​นิสัยไม่ดี ก็ไม่แน่ใจ​ ที่แน่ๆคือไม่สบายใจเลย จะว่าไป นี่อาจเป็นกระทู้พลีชีพก็ได้นะ หึหึ 


         ก่อนอื่น ขอเล่าปูพื้นสักนิดหนึ่ง 

         ตอนนี้ป้า(พี่สาวแม่)เราเป็นมะเร็งไขกระดูกค่ะ เพิ่งได้รับการตรวจพบเมื่อประมาณเดือนสองเดือนก่อน เรากับแม่จึงรับป้ามาอยู่ด้วยเพื่อช่วยดูแล
          คุณหมอบอกว่ามะเร็งไขกระดูกของป้ายังไม่ลุกลามไปจุดอื่น สามารถรักษา/สกัดได้โดยการทำเคมีบำบัดเพื่อให้เนื้อร้ายฝ่อลง หากโชคดีเนื้อร้ายฝ่อลงก็จะไม่ลุกลามและสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้อีกหลายปี ป้าจึงตัดสินใจรักษา และเพิ่งจะรับเคมีบำบัดครั้งแรกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
         การรักษาด้วยเคมีบำบัดทำให้ป้าร่างกายอ่อนแอลง และถูกจำกัดวิถีแห่งการกินหลายอย่าง เป็นต้นว่า ต้องกินไข่(ขาว)อย่างน้อยวันละ 6 ฟอง(ตอนนี้พยาบาลบอกว่า 5 ฟองก็ได้) เพราะร่างกายต้องการโปรตีนในปริมาณมาก ต้องดื่มน้ำต้มสุก(ต้องผ่านการต้มเท่านั้น) อย่างน้อยวันละ 4.5 ลิตร ห้ามกินของดิบ ฯลฯ 
         พอร่างกายอ่อนแอลง ป้าจึงไม่ค่อยไปไหนมาไหน อยู่ติดบ้านเป็นส่วนใหญ่ 

         ทดเรื่องนี้ไว้ในใจกันก่อนนะคะ


         ส่วนเรื่องก็มีอยู่ว่า

         บ่ายวันสุดสัปดาห์วันหนึ่ง จู่ๆป้าซึ่งไม่ได้ออกไปไหนมาหลายวันก็บอกว่า ป้าอยากกินสเต็กร้าน...(ร้านสเต็กชื่อดังร้านหนึ่งที่มีสาขาหลายสาขา) ไปกินกันเถอะ 
         เราก็ตะโกนบอกแม่ แม่ก็ เออ ปะ กินข้าว


         ไปถึงห้างฯใกล้บ้าน กำลังจะเดินเข้าร้านสเต็กตามรีเควสป้า พบว่าคนเยอะพอสมควร เหมือนจะไม่มีที่นั่ง ตอนแรกก็คิดกันว่า กินร้านอื่นมั้ยอะไรงี้ 

         แล้วจู่ๆแม่ก็เดินเข้าไปในร้าน ไปถามว่ามีคิวรึเปล่า ป้ากับเราเดินตามไป แม่เหลือบไปเห็นว่ามีโต๊ะๆหนึ่ง นั่งได้สองคน ว่างอยู่ เลยถามๆพนักงานว่านั่งนี่ได้ไหมๆ พนักงานตอนแรกจะให้ไปนั่งอีกที่นึง ไม่เชิงตอบรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ แม่จึงบอกว่า เรากับป้านั่งๆ แม่ไม่กิน 
         ...เราก็เดินเข้าไปนั่ง 
         ตอนแรกป้าจะให้เปลี่ยนร้าน เพราะอยากให้แม่นั่งกินด้วย แต่แม่ยืนยันว่ายังไม่หิว ป้าจึงยอมนั่งที่โต๊ะกับเรา

         หลังจากนั่งลงและกำลังดูเมนู ป้าก็เห็นว่ามีโต๊ะสำหรับ 4 คน ว่างลง ป้ากับแม่จึงจัดแจงไปยืนจองโต๊ะดังกล่าว พร้อมกับบอกพนักงานว่า "เปลี่ยนโต๊ะนะ" 
         เราก็เดินตามไป

         จากนั้นพวกเราก็สั่งอาหาร ระหว่างที่รออาหารมา พนักงานนำผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงหนึ่งคน มานั่งโต๊ะข้างๆเรา 


         เมื่ออาหารมา เรากับป้าก็เริ่มจัดการอาหารตรงหน้า ส่วนแม่เดินไปทำธุระก่อน

         ขณะกำลังง่วนกับอาหารนั้นเอง เราได้ยินผู้ชายโต๊ะข้างๆพูดขึ้นว่า

         "ลัดคิวน่ะ เขามีคิวกันอยู่" และเรารู้สึกได้ว่า เขาหันมาทางโต๊ะเรา และเจาะจงจ้องหน้าเราด้วย

         เรานึกในใจว่า "อิหยังวะ" 

         ระหว่างนั้นรู้สึกว่าเขาหันมามองเราเป็นระยะ

         เวลาผ่านไป เราจัดการอาหารตัวเองแล้ว นั่งรอแม่กับป้ากินอาหารอยู่ เราได้ยินผู้หญิงโต๊ะข้างๆพูดว่า

         "เขายังเด็กอยู่ คุณไม่ควรไปว่าเขา" ส่วนผู้ชายพึมพำอะไรสักอย่างจับความไม่ได้

         เราก็ยังคงสงสัยว่าเขาพูดถึงเรารึเปล่า เพราะเราเองก็หน้าเด็ก แต่ครั้นจะให้ชะโงกไปถามตรงๆ เราก็ไม่อยากหน้าแตก พอไม่รู้จะทำไง เราเลยเงียบ ไม่ได้บอกป้ากับแม่ด้วย 

         และที่สุดแล้วพวกเราก็จัดการอาหารเรียบร้อย ไปจ่ายเงิน และจากมา โดยที่เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่า เมื่อกี้คนคู่นั้น เขาพูดถึงเรารึเปล่า

         และมันยังคงติดอยู่ในใจมาจนวันนี้


         ตอนแรกเราสงสัยว่า ทำไมเขาเจาะจงโจมตีเรา ทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ คิดไปคิดมาก็ เอ้อ เราเป็นคนแรกที่เดินไปนั่งนี่หว่า

         ขากลับ จู่ๆเราก็คิดขึ้นว่า "หรือตอนนั้นตูควรพูดในเชิงคุยกับป้าแม่ไปวะว่า นี่ตกลงเราไม่ได้แซงคิวใครใช่มั้ย​ ?" 
         ...เรื่องที่เกี่ยวกับคน เรามักจะโง่เป็นประจำ


         ตอนที่เดินออกมา เราลอบมองแถวๆหน้าร้านว่า มีบัตรคิวเป็นกิจลักษณะหรือไม่ ก็ไม่เห็น 

         และเราไม่เคยคิดอยากแซงคิวใคร หากรู้ว่าเขาเข้าคิว มีคิวกันอยู่ เราคงไม่เดินไปนั่งที่โต๊ะนั้นเป็นแน่

         แต่ที่จำไม่ได้จริงๆก็คือ ขณะที่พวกเราเดินเข้าร้านไปนัั้นน่ะ ชายหญิงที่ทำท่าเหมือนจะว่าเรา เขารอคิวอยู่ก่อนหรือเปล่า
         ...แต่จำได้ว่า พนักงานไม่ได้ว่าอะไรที่เดินไปนั่ง 

         
         มีสิ่งหนึ่งที่เราอยากบันทึกไว้ คือสิ่งที่เราอยากบอกกับคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงสองคนนั้น แม้จะค่อนข้างมั่นใจว่า ทั้งสองคนคงจะไม่ได้มาอ่านบทความนี้เป็นแน่

         หากคุณรอคิวอยู่ก่อนเรา และการมาของเราและครอบครัวทำให้คุณได้รับความสุขที่ร้านอาหารช้าลงจริงๆ เรา​ ทั้งในนามส่วนตัวและตัวแทนของครอบครัว​ ต้องขอโทษจากใจจริงสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ หากเราทราบว่าทางร้านมีการจัดคิวอยู่​ พวกเราคงไม่ "ลัดคิว" ของคุณ อย่างแน่นอน 


         สุดท้าย ข้อคิดที่ได้จากเหตุการณ์นี้

         - ก่อนเดินเข้าร้านควรถามพนักงานให้ดีก่อนว่า ขณะนั้นที่ร้านมีคิวอยู่หรือเปล่า จะได้ไม่ต้องก่อกรรมเรื่องการแซงคิวหรือลัดคิวชาวบ้านให้โดนโกรธเคืองไปเปล่าๆ
         - อย่าเป็นคนแรกที่ขยับตัว บางทีคนเขาไม่ดูหรอกว่าใครสั่ง เขาดูคนลงมือ ขืนทำตามสั่งคนอื่นไม่ดูตาม้าตาเรือ เราจะตกเป็นจำเลยสังคมได้ง่ายๆ
        - อยากฝากถึงร้านอาหารค่ะ ถ้าวันไหนร้านคุณมีลูกค้ามากและมีการจัดคิว กรุณาจัดให้เป็นกิจลักษณะ พร้อมทั้งให้พนักงานคอยดูและแจ้งผู้ที่จะเข้าร้านด้วย เดี๋ยวคนโน้นเดินไปคนนี้เดินมา เกิดการลัดคิวกัน ลูกค้าแต่ละคนจะผิดใจกันไปโดยใช่เหตุ
         - สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เราไปอ่านพันทิปตะกี้ เห็นมีคนคอมเม้นท์ในกระทู้ว่า พนักงานร้านที่เราไปกินเนี่ย(สาขาไหนไม่รู้นะในกระทู้) มีคิวก็ไม่บอก ปล่อยลูกค้าคนใหม่เข้ามานั่งจนโดนต่อว่าเรื่องแซงคิว คนที่คอมเม้นนี่เขาก็เจอเหตุการณ์แบบเราเลย แต่เขาโดนพนักงานว่าตรงๆไม่ได้โดนเหน็บจากลูกค้าอื่น แสดงว่าสำหรับร้านชื่อนี้ เราคงไม่ใช่ "เหยื่อ" รายเดียว จากกรณีแนวนี้แน่ๆ หึ คราวหน้าป้าจะกินร้านนี้ เราจะปล่อยป้าไปกับแม่สองคนละนะ... 


         ก็นี่แหละ เรื่องเล่าของเรา นี่ถ้าไม่ได้เช็คดวงตัวเองมาก่อน ว่าตามดวงแล้ว มีโอกาสจะเสียชื่อเสียงได้ง่ายๆแล้วล่ะก็ คงจะจิตตกไปมากกว่านี้ 
         
         ถึงจะยังเคลียร์เรื่องไปจากใจไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี 

         สวดมนต์ แผ่เมตตาไปละกัน 


         คุณผู้อ่านก็ ทำอะไรดูตาม้าตาเรือกันดีๆนะคะ จะได้ไม่เดินไปล่วงเกินใครโดยไม่ตั้งใจ ในทางกลับกันหากคุณรู้สึกว่าเป็นผู้ถูกกระทำ อย่าเพิ่งตัดสินอะไรล่วงหน้าจากสิ่งที่เห็น บางที คนที่คุณคิดว่าเขาไม่มีมารยาทและล่วงเกินคุณ เขาอาจไม่รู้และไม่มีเจตนาจริงๆก็ได้ 

         จะว่าไป โลกนี้อยู่ยากนะ ไม่น่าเกิดมาเลย พับผ่า


         สวัสดีค่ะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in