วันที่ 18 มกราคม
เวียนกลับมาตรงกับวันศุกร์อีกครั้งหนึ่งเหมือนกับเมื่อ 6 ปีที่แล้วเลย
'เหมือน' เหรอ
ดูเหมือนว่าจะเป็นคำพูดที่ไม่เป็นความจริงเอาเสียเลยนะ
ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่มีสิ่งใดอยู่คงเดิม
แล้วมันจะไป 'เหมือน' เมื่อ 6 ปีก่อนได้อย่างไร
สิ่งที่ยึดติดอยู่ ณ ตอนนั้น ความสุข ณ ขณะนั้น
ไม่สามารถวัดความสุขในอีก 6
ซ้ำร้ายความสุข ณ ขณะนั้น ยังเป็นดาบสองคมที่คอยตำตอกทิ่มแทง
ย่ำยีชีวิตและหัวใจของเด็กหญิงคนหนึ่ง
และหล่อหลอมเธอด้วยเกราะที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะสร้างขึ้น
แต่เป็นเพราะผลพวงของความเจ็บปวดต่างหากที่สร้างมันขึ้นมา
สร้างให้เธอเป็นเธอในวันนี้
5 ปีที่แล้ว
ความเงียบงันเริ่มปกคลุมในหัวใจ บางทีถ้าเราพูดออกไปบางสิ่งจะยังคงอยู่กับเรา...
วันนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเราหล่นหาย
เราวิ่งกลับไปในสถานที่เดิม ที่ ๆ เราพึ่งจากมา
หวังเพียงแค่ว่า มันจะยังคงอยู่
‘ไม่มีมันหายไปแล้ว หายไปไหนนะ’
ไม่มีเสียงตอบใดๆ กลับมา คำถามที่ไม่เคยมีใครได้ยินนอกเสียจากตัวเรา
บางทีคำถามที่ไม่มีคำตอบ คำถามที่ตัวเราสงสัย ก็มีแค่ตัวเราเท่านั้นแหละที่จะตอบปัญหาชวนฉงนนี้ได้
มันหายไป..เพียงเพราะเราไม่อยากดับโลกแห่งจินตนการที่เราสร้างขึ้น
ปิดบัง อย่าให้ใครได้รับรู้ความสุขจากโลกแห่งจินตนการ
‘กลับมาได้ไหม’
ดวงจันทร์คงเห็นใจละมั้งจึงยังผลให้ในหลายอาทิตย์ต่อมา คำอ้อนวอนในเวลานั้นเป็นจริง
‘เราดีใจนะที่ได้เธอกลับมาอีกครั้ง’
อย่างไรก็ตามของฟรีไม่มีอยู่บนโลก
คำอ้อนวอนก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไขนั้น
การได้มาซึ่งสิ่งพึงปรารถนาจำต้องแลกด้วยหยาดน้ำตาและความเจ็บปวดเช่นกัน
โลกแห่งจินตนาการที่มีแค่เราและบางสิ่งสำคัญ
มันพังทลายลงอีกครั้ง
และดูเหมือนว่ามันจะไม่มีทางกอปรกับไปเป็นดั่งเดิม
4 ปีที่แล้ว
รอยต่อรสชาติของความเจ็บปวดยังไม่เจือจาง และดูเหมือนจะเพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
การรอคอย เป็นวลีที่ชวนให้นึกถึงเวลา
ช่วงเวลาที่เราไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะสิ้นสุด
เมื่อไรนะถึงจะกลับมา
การตัดสินใจในช่วงเวลานั้น
ไม่ง่ายเลย
'บางทีการอยู่ต่ออาจไม่น่าจดจำเท่าการจากไป'
คำพูดยอดฮิตในแห่งปีและการให้ความสำคัญกับดาวพลูโตบนโลกโซเชียล
เราเลือกที่จะ 'อยู่ต่อ' เพื่อตอบแทนคุณพระจันทร์
เชื่อในพลังแห่งกาลเวลาว่าในที่สุดมันจะเยียวยาบาดแผลเอง
โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหนไกล
เราต่างเก็บความลับ ตีหน้าซื่อว่าไม่ได้รู้สึก ส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่ได้เจ็บปวด
สีหน้าที่มีความสุข แต่เพลิงในใจแทบจะแผดเผาตัวเราให้ตายทั้งเป็น
เพลิงไหม้ที่ร้อนรุ่มรอคอยวันปะทุ
เรานั้นได้เข้าใจคำว่า น้ำตาตกใน เป็นอย่างไรดี
3 ปีที่แล้ว
ยิ่งใกล้กัน..ยิ่งห่างไกลกัน
สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกรา
วันที่ 18 ปรากฏบนปฏิทิน ในช่องแนวตั้งแถวที่ 2 จาก 7 แถว
เวียนกลับมาแล้ว บางสิ่งที่เราเฝ้าตามหามาโดยตลอด
มันกลับมาอยู่
'ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ'
มีบางอย่างที่เรารู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป
เราชะเง้อมองสิ่ง ๆ นั้นปกคลุมด้วยผ้าสีฟ้า…
ทำไมภาพ ๆ นั้นช่างเลือนรางเหลือเกิน
ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสิ่งที่เราเฝ้าตามหา
เขามายืนอยู่ตรงหน้าเราแล้วนะ
เพียงแค่เอื้อมมือออกไปเท่านั้นเราก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว
..เกือบจะคว้าได้แล้ว
เราพุ่งตัวไปเพื่อที่จะโอบกอดโอกาสในครั้งนี้อีกครั้งจะไม่ยอมให้หายไปไหนอีก
แต่ภาพสีควันเทามันหายไปทันที
ทันทีที่เราเริ่มที่จะเอื้อมมือคว้ามีบางคนฉวยโอกาสแย่งชิง เขา ไปก่อนหน้าเราแล้วต่างหาก
กอด อากาศ แทน โอกาส อีกแล้วนะเรา
2 ปีที่แล้ว
ความจริงทีปรากฏกรีดแทงก้อนเนื้อที่อกด้านซ้าย
บางอย่างที่ไปสะกิดแรงๆ ตรงกลางใจเป็นผู้ทำให้บาดแผลเปิด
งั้นแค่ไม่ได้นึกถึงก็ไม่เจ็บปวดแล้ว
เนื่องจากหัวใจที่มีบาดแผลไม่สามารถเยียวยาตัวมันเองให้หายได้ด้วยกาลเวลา
วิธีที่จะทำให้เราไม่นึกถึงน่ะมันไม่มีหรอก มันฝืนธรรมชาติของจิตใจเกินไป
โดยเฉพาะความจริงที่เราไม่รู้ มันคงจะดีกว่า
ความลับที่เราแอบซ่อน มีพยานยืนยัน
ความจริงอันแสนเศร้าที่เราเข้าใจว่าเป็นเพียงเรื่องแต่ง
ความจริงที่ว่า 'ครั้งหนึ่งหัวใจของเราเคยตรงกัน'
และโลกแห่งจินตนาการที่เราสร้างขึ้น มีเธอเข้ามาอยู่จริงๆ
ทำไมนะ มีอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่หยิบจับและคว้ามันมาครอบครองไม่ได้เลย
เรามองไปที่ดวงจันทร์เจ้าเก่า กล่าว
'ขอบคุณนะ ที่ช่วยรับคำอ้อนวอนของเรามาพิจารณา'
' ในช่วงเวลานี้และตลอดไป ได้โปรด ได้โปรด ให้ เขาคนนั้น ได้พบกับความสุขจริง ๆ..
..ได้พบรักกับคนที่จะไม่ทำให้เขาเจ็บปวดเหมือนอดีตที่ผ่านมา ด้วยเถิด '
เราวอนขอพรจากใจจริง ไม่มีการยื้อยึงให้เขากลับมาอยู่กับเราอีกแล้ว
เพลิงไหม้ที่สุ่มในใจได้ประทุขึ้นและไม่มีท่าทีว่าจะมอดไหม้ลงเลย
เนื้อหนังมีหน้าที่ห่อหุ้มกระดูก
แต่ถ้าวันหนึ่งกระดูกไร้ซึ่งเนื้อหนังมันจะเป็นอย่างไร
ปีที่แล้ว
คงถึงเวลาที่เราจะต้องโผยบินจากที่ ๆ หนึ่งไปยังอีกที่ ๆ หนึ่ง
การเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ใช่เรื่องยาก
พลังที่เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นแม้จะสั่นคลอนไปบ้าง แต่ก็ประคับประคองอยู่
แผลเป็นจากเพลิงไหม้ใหญ่ที่ไหม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คงถึงเวลาที่จะต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังแล้วล่ะ
เราในวันนี้
ชีวิตเราล้วนเป็นดั่ง เส้นขนาน
เดินทางเป็นเส้นตรง
วันหนึ่งเส้นขนานจากทางด้านซ้ายและทางด้านขวามาบรรจบกัน
มีเรื่องราวเกิดขึ้นตรงเส้นตัดมากมาย
และก่อนที่เส้นสองเส้นจะลากผ่านจากกันไป มันทิ้งบางอย่างไว้ให้จดจำเสมอ
..ไม่ง่ายเสียเลยที่จะเขียนเรื่องของตัวเองโดยที่ไม่รู้สึกเจ็บปวด..อีกครั้ง
ปล. ใช้เวลาในวันหยุดกีฬามหาวิทยาลัยเขียนขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่าจะตรวจทานคำผิดเมื่อไร
ลูกไก่ในผ้าขนหนู
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in