เปิดกรุเพลงบรรเลงวังเวงแว่ว
ฟังผาดผาดไม่คลาดแคล้วเราเศร้าหมอง
ด้วยถ้อยคำตำใจในทำนอง
ผ่านเสียงร้องตอนเที่ยงคืนสิบห้านาที
คิดคำนึงถึงคนที่จากไป
ลมเปลี่ยนทิศเปลี่ยนใจเธอหน่ายหนี
ไหนว่าจะไม่หลอกกันไงคนดี
มาวันนี้เรายิ่งรักยิ่งห่างกัน
เชือกวิเศษเลอเลิศประเสริฐนัก
ก็ไม่อาจหยุดรักเอาไว้มั่น
ทำได้เพียงยื้อเธอไปวันวัน
ท้ายที่สุดเชือกสะบั้นเธอจากไป
ฉันรู้ดีที่เกิดมาแค่รักกัน
ปลายทางนั้นพูดแล้วอยากร้องไห้
ความรักแท้ไม่มีจริงเหนือสิ่งใด
ทนทำใจให้ชินและยินยอม
ในขั้นแรกอาจเจ็บแปลบแบบเจ็บปวด
ลืมไม่เป็นช่างร้าวรวดทรวดผ่ายผอม
ขอบใจจริงจริงกับทุกสิ่งอันจอมปลอม
ต่อแต่นี้ฉันพร้อม "เราจบกัน"
ไม่รู้จักฉันและฉันไม่รู้จักเธอ
เมื่อพลั้งเผลอจึงเป็นเธอที่ฆ่าฉัน
เคยวาดไว้ว่ารักนี้จะนิรันดร์
เกาะกุมมั่นจนอ่อนล้าต้องรามือ
พรหมลิขิตผิดเวลาปล่อยมันเถิด
อะไรจะเกิดก็เกิดไปไม่ยึดถือ
เคยร้องไห้ฟายหน้าจนตาปรือ
วันนี้หรือเลิกแล้วเราแคล้วกัน
ในห้องนอนที่เคยรกด้วยของเธอ
เก็บกวาดทิ้งถุงเบ้อเร้อเหนื่อยจริงฉัน
หมอนผ้าห่มร่มหมวกทุกสิ่งอัน
แปรงสีฟันเสื้อผ้าอย่าให้มี
แล้วปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่
เฉิดไฉไลฉายเดี่ยวเฉี่ยวโฉบศรี
หน้าเด็ดเด้งหุ่นเด็ดดวงทรวงเด็ดดี
พอกันทีรักครั้งเก่าเน่าเหลือทน
ถึงเวลาต้องเรียนรู้อยู่คนเดียว
อาจเปล่าเปลี่ยวร่ำร้องและหมองหม่น
เรื่องจริงยิ่งกว่านิยายจงเตือนตน
รักเวียนวนกลบฝังไว้ในผืนดิน
คนไม่ใช่คือไม่ใช่ให้จำไว้
คนหมดรักรักหมดใจใกล้สูญสิ้น
ฉุดรั้งไว้ก็มีแต่จะโบยบิน
เหมือนนกน้อยดีดดิ้นในกรงทอง
หน้าที่สุดท้ายคือฉันต้องเปิดกรง
ปลดปล่อยเจ้าบุหรงให้ลอยล่อง
ไปตามทางฝั่งฝันอันใจปอง
ตามครรลองคนไม่มีสิทธิ์ย่อมปลิดปลิว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in