เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บทกวีไม่มีแพนด้าOrraphansilp
๙ บาท ๒ ชม. จากราชดำเนินถึงบางนา
  •           ความฝันครั้งนี้จุดประกายขึ้นโดยน้องสาวเราที่ส่งประกาศของโครงการบ่มเพาะนักเขียนหน้าใหม่ครั้งที่ ๔ มาให้ ซึ่งตอนนั้นเหลือเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็จะหมดเขตรับสมัครแล้ว เราจึงรีบอ่านรายละเอียดทันที ปรากฏว่า ต้องส่งผลงานตามหัวข้อที่เราสมัครอย่างน้อย ๒ หน้าเอสี่ (นี่สมัครหมวดกวีนิพนธ์ไป ก็เลยต้องค้นงานเก่าเอามาเกลาใหม่) พร้อมทั้งเขียนวิจารณ์หนังสือที่อ่านอย่างน้อย ๑ เล่ม ๒ หน้าเอสี่อีกเช่นกัน ส่งอีเอ็มเอสไปในวันพฤหัสด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวว่าจะไม่ทัน เพราะหมดเขตวันศุกร์ ๕๕๕ แต่ก็ทันเพราะ.....

              อีกสามสี่วันมีเบอร์แปลกโทรเข้ามาแจ้งว่าผ่านรอบคัดเลือกแล้ว และจะมีรอบสัมภาษณ์อีกรอบในวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ เวลา ๑๐.๓๐ น. (แต่นี่ฟังเป็นสี่โมงเย็นไง) ให้เราไปที่ศูนย์ศิลป์ราชดำเนินตามวันเวลาที่แจ้งด้วย เราก็รับคำเป็นอันดี พร้อมทั้งดูแผนที่ ดูสายรถเมล์ที่วิ่งผ่าน

              พอถึงวันสัมภาษณ์ ด้วยความที่ฟังผิดคิดว่านัดสี่โมงเย็น จึงเอ้อระเหยลอยชายอยู่มหาลัย (นครปฐม) เพื่อรอเรียนตอนเที่ยง สักพักมีคนโทรมาตามถามว่าอยู่ไหนแล้ว เราก็ห้ะ? นัดกี่โมงคะ สิบโมงเช้าหรอ หนูฟังผิดอ่ะคะ คิดว่าสัมภาษณ์สี่โมงเย็น เขาบอกว่า ถ้าอย่างนั้นคุณต้องสละสิทธิ์นะคะ ตอนนั้นในใจเสียวแวบ ชวดแน่กูววว แล้วเขาก็เงียบไปก่อนจะบอกว่า มีผู้สมัครท่านอื่นเลื่อนเวลาสัมภาษณ์เป็นสี่โมงเย็น ให้เรามาตอนนั้นก็ได้ เย้ ดีใจมาก ไม่เป็นอันเรียนเลย พอเลิกเรียนจึงรีบขึ้นรถตู้ไปปิ่นเกล้าทันทีก่อนจะต่อรถเมล์ไปราชดำเนิน ถึงที่หมายก่อนเวลานัดเป็นชั่วโมง

              สัมภาษณ์เสร็จก็กลับบ้านสิคะ (บ้านอยู่สมุทรปราการ) แต่เพราะมาราชดำเนินเองครั้งแรกในชีวิตเลยออกจะเด๋อๆ กลัวหลง แต่สุดท้ายก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ เราขึ้นรถเมล์สายอะไร รถวิ่งผ่านถนนเส้นไหนบ้างตามไปอ่านข้างล่างเลยยย

              มองหาป้ายรถเมล์อยู่แห่งไหน
    ราชดำเนินถนนใหญ่ออกไพศาล
    อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเคยเบ่งบาน
    ดุ่มเดินผ่านเหลียวมองจ้องตะลึง
             โลหะปราสาทราชนัดดาอยู่นี่หรือ
    อ่านหนังสือเขาว่างามนามที่หนึ่ง
    ภูเขาทองแสงส่องสวยตราตรึง
    สะพานผ่านฟ้าพาเราถึงป้ายรถเมล์
              รอสักพักรถฟรีวิ่งรี่มา
    ป้ายบอกว่าไปคลองเตยไม่หันเห
    โดดขึ้นรถได้ที่นั่งไม่ลังเล
    รู้สึกเท่ขึ้นรถเมล์ไม่เสียเงิน
              รถวิ่งฉิวลิ่วผ่านดำรงรักษ์
    มือวางตักมองทิวทัศน์ไม่ขัดเขิน
    รถขวักไขว่มอเตอร์ไซค์ให้เพลิดเพลิน
    ผู้คนเดินสวนมาทางม้าลาย
              ถึงจักรพรรดิพงษ์ตรงไปอีก
    วิ่งหลบหลีกบีบแตรระส่ำระส่าย
    บำรุงเมืองรถติดกระวนกระวาย
    ได้เวลารถหลายคนเลิกงาน
             สนามกีฬาแห่งชาติบีทีเอส
    ปทุมวันปริ้นเซสรถวิ่งผ่าน
    พญาไทชื่อเสียงขรมมานมนาน
    ถิ่นจุฬาสามย่านเตรียมอุดม
             รถเลี้ยวซ้ายเข้าสู่พระรามสี่
    MRT มีไว้ไม่ขื่นขม
    จะไปไหนสะดวกดายใจภิรมย์
    ดีกว่านั่งจ่อมจมแยกไฟแดง
             ถึงจุดหมายลงรถต่อ ๔๖
    ผ่านบางนาไม่วิตกทุกหนแห่ง
    รถวิ่งเอื่อยเรื่อยไปคล้ายหมดแรง
    ตะวันจวนสิ้นแสงคล้อยลับลง
             เห็นตึกใหญ่ช่องสามสูงเทียมฟ้า
    เห็นชินตามาลีนนท์ไม่ลืมหลง
    ตึกข้างกันเอสโซ่โอ่ยืนยง
    ถึงสามแยกพระโขนงปลงเสียที
             รถเลี้ยวขวามาถนนสุขุมวิท
    อ่อนนุชติดบางจากลุ้นปุณณวิถี
    ถึงสามแยกอุดมสุขสุขไม่มี
    เบียดเสียดคนล้นปรี่อนาถใจ
             เลี้ยวเข้าเส้นบางนายังไม่หยุด
    ห้างเซนทรัลติดสุดสุดแทบโหยไห้
    โทรหาพ่อรอรับเร่งเร็วไว
    แว้นมอไซค์กลับบ้านศรีนครินทร์

              สรุปเย็นวันนั้นเสียค่ารถเมล์ไป ๙ บาท เสียเวลาไป ๒ ชั่วโมง แต่สิ่งที่ได้กลับมามันคุ้มค่ายิ่งกว่าเพราะได้เห็นถนนหนทางในเส้นที่ไม่เคยไป ได้เห็นสถานที่มากมายที่เคยได้ยินแต่ชื่อ แถมยังได้ลายเซ็นจากนักเขียนที่โคตรเท่คนหนึ่งอีก แล้วอย่างนี้จะไม่คุ้มค่ายังไงไหว :)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in