เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
One Day Trip NAKORNPATHOMCats_Clover
One Day Trip นครปฐม(ครั้งแรก)ด้วยรถสาธารณะ

  • One Day Trip นครปฐมครั้งแรก ไปนครปฐมครั้งแรกหรอ? เปล่า... แต่ไปเที่ยวแบบจริงจังครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่เราแทบไม่ดูนาฬิกาเลย ไปแบบเรื่อยๆ หมดความสนใจที่นึงก็ย้ายไปอีกที่นึง ไม่ได้กำหนดว่าต้องไปที่ไหนบ้าง เรียกว่าหาเอาหน้างานนั่นแหละ

    คำเตือน : การเดินทางใน Trip เป็นแบบหาเอาหน้างาน มีวิธีเดินทางที่สะดวกกว่านี้ ใครจะไปเที่ยวก็หาข้อมูลเดินทางเพิ่มเติมก่อนนะ ด้วยรักและหวังดี

    เราไปนครปฐมครั้งนี้ด้วยรถเมย์ ปอ.84 เริ่มจากวงเวียนใหญ่ไปลงวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นั่งสายเดียวไปถึงเลยไม่ต้องวุ่นวายต่อรถ อาจจะนั่งนานเล็กน้อยแต่ในความรู้สึกเราเหมือนไม่นานเท่าไหร่ นั่งฟังเพลงไปชิวๆก็ถึงแล้ว (ขึ้นรถตอน 8.30 น. ไปถึง 10.00 น.)


    พอถึงวัดไร่ขิงก็แวะไหว้พระทำบุญกันก่อนเลย โชคดีที่มาช่วงประเทศไทยอากาศหนาว (หลังจากไม่หนาวมานาน) ทำให้เราจิตใจค่อนข้างสงบ ไม่หงุดหงิดกระวนกระวายเพราะร้อน ฮ่าๆๆ ที่นี่มีให้ทำบุญครบวงจรเลย ถวายสังฆทาน ทำบุญโรงศพ หรือจะให้อาหารปลา จุดถ่ายรูปก็มีนะ


    หลังไหว้พระขอพรและถ่ายรูปเสร็จก็เดินไปทางท่าน้ำ จะมีเรือไปกลับ วัดไร่ขิง-ตลาดน้ำดอนหวาย ค่าบริการท่านละ 60 บาท จะอยู่เดินเล่นที่ตลาดน้ำดอนหวายนานเท่าไหร่ก็ได้ เดินซื้อนู้นซื้อนี้เสร็จก็โดดลงเรือ (ล้อเล่น ค่อยๆเดินดีกว่านะเดี๋ยวตกน้ำตกท่า) ลำไหนก็ได้กลับมาที่วัดไร่ขิง จะบอกว่าตอนนั่งเรือหนาวมากแต่แฮปปี้มาก ก็ไม่ได้หนาวมานานอ่ะเนอะ

    (เรือไปกลับ วัดไร่ขิง-ตลาดน้ำดอนหวาย)
    (เก้าอี้ไฮโซมักๆ)
    (บรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน)

    เนื่องจากพวกเรายังไม่ได้กินมื้อเช้า ณ จุดๆนี้จึงค่อนข้างกระวนกระวายหาข้าวกินกัน แล้วอะไรเป็นของขึ้นชื่อของนครปฐมล่ะ พอไม่รู้ก็ต้องเสิร์ชGoogleอีกครั้ง และได้คำตอบว่าเป็นส้มโอกับเป็ดพะโล้ แต่ส้มโอไม่ได้กิน เราไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้และข้าวหน้าเป็ดที่ร้านแพท่าจีน ซึ่งร้านเป็นแบบยื่นออกไปในแม่น้ำท่าจีน รับลมเย็นอีกแล้วจ้าแต่ชอบมาก

    (วิวจากร้านแพท่าจีน)
    (บะหมี่เป็ดพะโล้ของช้านนนน)
    (ขากลับมาวัดไร่ขิงแวะให้ขนมปังปลา)
    (แวะให้นมปลาคาร์ฟ น้องปลากินไม่อ่อนโยนเลย)

    กินข้าวเสร็จ เดินซื้อของต่ออีกนิดหน่อยก็กลับมาที่วัดไร่ขิง เราเลือกจะไปไหว้พระที่วัดพระปฐมเจดีย์กันต่อ(อย่าเพิ่งตกใจว่าทริปนี้เป็นทริปไหว้พระนะ) ซึ่งต้องเข้าเมือง แล้วเขาเข้ากันยังไง!! เราก็แก้ปัญหาโดยการถามคนแถวนั้นและถามพี่วินมอเตอร์ไซค์ ได้ความว่าเราจะนั่งวิน 20 บาทออกไปหน้าปากซอย จากนั้นข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่งขึ้นรถเมล์สาย 402 ไปถึงหน้าวัดพระปฐมเจดีย์เลย


    ไปถึงวัดพระปฐมเจดีย์นอกจากไหว้พระก็เดินวนรอบเจดีย์สักรอบเพื่อถ่ายภาพ ได้ภาพสวยๆมาเยอะเหมือนกัน คนไม่ค่อยเยอะเท่าไรทั้งๆที่เป็นวันหยุด เราเดินถ่ายภาพกันไปแวะเข้าไปไหว้พระบ้าง กลับออกมาก็ถ่ายรูปกันต่อจนกระทั่งเดินวนกลับมาจุดเดิม


    จากวัดพระปฐมเจดีย์เราก็มาเลือกจุดที่จะไปต่อ ครั้งแรกเลือกจะไปพระราชวังสนามจันทร์ แต่หลังจากเสิร์ชGoogleแล้วพบว่าปิด(ไม่แน่ใจเวลาเปิดปิด) เราจึงเปลี่ยนจุดหมายเป็นหอภาพยนตร์ เมืองมายา ศาลายาแทน วิธีการเดินทางคือข้ามไปฝั่งสำนักงานตำรวจแล้วนั่งรถเมล์ไปศาลายา แต่ตอนนั้นเพราะไม่รู้ว่ามีรถเมล์เราจึงเรียกTaxi ซึ่งไม่น่าเลยเพราะโดนค่ารถไป 250 บาท โอ้วววว


    หอภาพยนตร์ เมืองมายา จะมีฉากจำลองสถานที่ในภาพยนต์ให้เราถ่ายรูป โดยก่อนเข้าเราต้องไปรับตั๋วและแผนผังการเที่ยวชมก่อน เข้าฟรีไม่เสียเงิน แต่จะมีบ้างจุดที่ฉายภาพยนต์เก่ากับพิพิธภัณฑ์ที่ต้องเสียเงินเข้า ซึ่งเราไม่ได้เข้าเพราะต้องรอรอบ และเป้าหมายของเรามาเพื่อถ่ายรูปอย่างเดียว ฮ่าๆๆ


    ด้านในแต่ละแห่งจะมีวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับภาพยนต์ด้วยนะ ซึ่งบางอย่างเราเองเพิ่งจะรู้ เช่นจุดกำเนิดภาพยนต์ รถไฟเกี่ยวข้องยังไงกับภาพยนต์ รถหนังขายยา ใครอยากรู้ต้องลองไปเองนะ จุดที่เราชอบมากสุดคงเป็นรถไฟ เพราะสามารถขึ้นไปข้างบนนั้นจริงๆได้ด้วย

    (หอภาพยนต์แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่มุมถ่ายภาพเยอะแยะเลยนะ)

    ครั้งหน้าจะลองเข้าชมภาพยนต์เก่าและพิพิธภัณฑ์ พนักงานบอกว่าใช้เวลาเข้าชมรอบละชั่วโมงเลย น่าจะคุ้มกับค่าเข้าชมอยู่

    จบจากหอภาพยนตร์ เมืองมายา ความจริงทริปเราจบแล้ว ควรจะเดินทางกลับบ้านได้แล้ว แต่เพื่อนเราดันไม่จบ! ถึงตอนนี้เพิ่งก้มลงดูนาฬิกาพบว่าเพิ่งจะ4โมงเย็นนิดๆ เราจึงหาสถานที่ไปต่อเป็นที่สุดท้ายก่อนกลับบ้าน แล้วตกลงกันได้ว่าจะไปร้าน After the rain coffee and gallery  คาเฟ่ในสวน


    วิธีเดินทางคือโบกTaxi นั่งรถประมาณ 11 นาทีก็ไปถึง ตอนแรกพอไปถึงใจแป้วแล้ว คิดว่าก็แค่ร้านอาหาร+คาเฟ่ริมถนนธรรมดา แต่พอเดินเข้าไปและเดินลงไปอีกนิดเท่านั้นแหละ พบว่าที่นี่คือสวนของจริงเลย! มีร่องน้ำให้พายเรือเล่น(เสียเงินนะ) และในน้ำมีปลาซึ่งเราสามารถให้อาหารปลาได้ และที่ว้าวกว่านั้นคืออาหาร ทั้งคาวทั้งหวานดีหมด ราคาไม่แรงเกินไป บรรยากาศร้านในสวนก็ดีมากๆเลย เรียกว่าปิดทริปได้ดี ถึงขนาดปักหมุดว่าต้องกลับมาที่นี่ซ้ำอีก (ที่อวยขนาดนี้เพราะยังไม่ได้ลองไปที่อื่นนะ ถ้าไปนครปฐมอีกจะไปลองที่อื่นบ้าง)


    (อร่อยจนต้องกลับไปซ้ำ!!!)

    อิ่มกับอาหารคาวหวาน อิ่มกับบรรยากาศแล้ว ก็ถึงเวลากลับบ้านสักที(เกิดอาการงองแงกันทั้งคู่) ที่นี้เราก็มาหาวิธีกลับบ้านกัน บอกแล้วว่าหน้างานสุดๆ ไม่ได้เตรียมแผนอะไรกันเลย

    เริ่มจากเดินออกจากซอย ข้ามสะพานลอยไปฝั่งเซ็นทรัลศาลายา บังเอิญเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจเราจึงสอบถามเส้นทางเข้ากรุงเทพฯ และพบว่าเรามาถูกทางแล้ว(ตอนแรกคิดว่าต้องข้ามสพานลอยกลับไป) คือนั่งรถเมล์สาย 556 กลับไปลงเมเจอร์ปิ่นเกล้านั่นเอง

    ตอนไปก็รถเมล์ตอนกลับก็รถเมล์ จบทริปนี้ได้ยินเพื่อนเปรยๆว่าจะซื้อรถ สงสัยทริปหน้าจะได้ขับรถไปเองซะแล้ว แต่หลังจบทริปนี้ทำให้เรารู้ว่าระบบขนส่งสาธารณะประเทศไทยก็ไม่ได้แย่นะ(บางแห่ง) และทำให้รู้ว่าประเทศไทยก็เที่ยวสนุกได้

    สรุปสถานที่ที่เราไป
    1.วัดไร้ขิง
    2.ตลาดน้ำดอนหวาย
    3.วัดพระปฐมเจดีย์
    4.หอภาพยนต์ เมืองมายา
    5.ร้าน After the rain coffee and gallery

    เจอกันทริปหน้าค่ะ ไม่รู้จะได้ใช้บริการรถสาธารณะอีกไหม ฮ่าๆๆ



    ติดตามทริปอื่นๆได้ที่
    Twitter @BOOKS_NANA11
    นอกจากเรื่องเที่ยว แอคนี้ยังรีวิวหนังสือน่าอ่านด้วยนะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in