1. เรื่องของเรื่องคือจองตั๋วโปรข้ามปีไว้ตั้งแต่ปีก่อนเพิ่งจะได้บินก็ตอนต้นสิงหาปีนี้ (2016) ในตอนแรกจองไปคนเดียว ทำไปทำมาได้เพื่อนไปด้วยอีกคนนึงให้อุ่นใจ
2. เนื่องจากเป็นการไปสิงคโปร์ครั้งแรก ทุกสิ่งทุกอย่างเลยโอ้โหอเมซซิ่งไปหมดเลยสำหรับเรา จริงๆถามว่าไปทำไมก็ไม่รู้ เห็นตั๋วถูกดีเลยไป อย่างเดียวที่ตั้งใจไปดูคือ Garden by the Bay แผนทั้งหมดครั้งนี้เลยยกให้เพื่อนเป็นคนจัดการ
3. เราเริ่มต้นทริปไม่ค่อยดีเพราะวันไปฝนตกหนักมากๆ เครื่องออกจาดอนเมืองไม่ได้เลยทำให้เลทไปเกือบสองชั่วโมง จากตอนแรกต้องถึง 20.05 กลายเป็น 21.40 ซึ่งเวลาที่สิงคโปร์จะไวกว่าประเทศไทยอยู่ 1 ชั่วโมง
4. เนื่องจากถึงดึก เคาน์เตอร์ขายตั๋วรถไฟแบบ pass เลยปิดไปแล้วต้้งแต่สามทุ่ม ซึ่งไม่เคยมีรีวิวไหนบอกว่าเคาน์เตอร์นี้มีเวลาเปิดปิด ทำให้วันแรกเราต้องซื้อตั๋วนั่งรถไฟเข้าเมืองเป็นแบบเที่ยวเดียว แล้วก็ต้องคำนวณค่าเดินทางใหม่เพราะพรุ่งนี้จะออกเที่ยวแต่เช้าโดยยังไม่มีตั๋ว
5. กว่าจะถึงที่พักย่าน Geylang ก็เกือบห้าทุ่ม ตรงนั้นเป็นย่านที่พักอาศัยซึ่งก็เหมือนแบ่งโซนตามแต่ฐานะกันไปอีก ที่เราอยู่ค่อนข้างหรู เงียบถึงเงียบมาก ผิดกับย่านของกินแถวๆนั้นที่คึกคักมาก มากจนเกินไป
6. เนื่องจากดึกมาก การออกหาอะไรกินในคืนแรกเลยมีตัวเลือกไม่มากนักนอกจากกินร้าน local แถวๆนั้น เราโคตรประทับใจความวุ่นวายเหล่านั้น ระหว่างทางเราเจอร้าน sex shop อยู่ตรงกลางระหว่างร้านทำผมที่เที่ยงคืนแล้วยังมีคนตัดผมทำผมอยู่เลย ร้าน sex shop ก็มีอยู่ทั่วไปแบบไม่สนว่าฉันจะเปิดข้างใคร นั่งกินโจ๊กไปข้างๆก็เปิดจู๋ปลอมไฟแว้บๆให้ดูไปเพลินๆ
7. ทุกคนที่เจอพูดภาษาจีนใส่พวกเราหมด พอบอกว่า English, please ก็ทำหน้างงใส่ สุดท้ายภาษามือนั่นแหละเวิร์คสุด ชี้ๆจิ้มๆเอา
6. ร้านอาหารจะอยู่ติดๆกันเป็นหย่อมๆ มีอาหารหลายอย่างเหมือนโรงอาหารในมหาวิทยาลัย มีร้านอาหารอีสานที่ดูขายดีด้วย พอเลือกโต๊ะนั่งก็ถูกจู่โจมโดยป้าร้านน้ำเข้ามาถาม เราบอกเอาน้ำเปล่าป้าก็บอกน้ำแร่นะ เลยเออออไปด้วยแต่พอมาถึง อ้าว มันก็น้ำเปล่าธรรมดาอะป้า แล้วขวดละ 1.2 เหรียญ ป้าโกหกเราทำไม ซื้อเซเว่นยังถูกกว่าเลย
7. อาหารมื้อแรกในสิงคโปร์ของเราเป็น Shrimp Noodle เป็นบะหมี่แห้ง มีหมูสไลด์บางๆมา 4 - 5 ชิ้น กุ้ง 2 ตัว 3.6 เหรียญ รสชาติประหลาดๆ เลี่ยนๆแล้วก็เผ็ดๆ มีกลิ่นใบชาด้วย กินไปครึ่งนึงก็ยอมแพ้ ของเพื่อนสั่ง Cake Carrot ซึ่งก็คือผัดซีอิ๊วบ้านเราแต่เปลี่ยนเส้นเป็นแป้งคล้ายๆขนมเข่ง ผลการทดลองครั้งนี้สรุปว่าจะไม่กิน local อีกแล้วถ้าไม่จำเป็น ตั้งแต่มื้อหน้าเป็นต้นไปจะกินร้านดีๆ คือมันไม่ได้แย่มากนะแต่มันไม่ถูกปากเรา
8. สิงคโปร์มีทุกอย่างที่เราไม่คิดว่าจะเจอ มีแขกเดินขายถุงเท้าเหมือนเด็กขายทิชชู่ขายลูกอมบ้านเราด้วย
9. คนที่นี่คงชอบกินน้ำผลไม้ปั่น เจอได้ตลอดทางแล้วก็มีคนซื้อกินเยอะด้วย เหมือนเป็นแหล่งแฮงเอ้าท์ ส่วนผลไม้ฮอตฮิตที่นี่ก็คือทุเรียน เยอะมากๆแล้วก็แพงมากๆด้วย แพ็กนึงประมาณ 2 พู ราคา 4 - 8 เหรียญ
10. ตอนเดินกลับแวะเซเว่นซื้อของจุกจิก นมขวดละ 13 บาทบ้านเรามาอยู่นี่กลายเป็น 2 เหรียญกว่าแหนะ น้ำก็ขวดละเหรียญกว่าๆ
11. ตอนกลางคืนรถไม่ค่อยพลุกพล่าน ตอนแรกคิดว่าอาจเป็นเฉพาะโซนที่เราอยู่แต่หลังจากเที่ยวหลายๆที่ก็เลยรู้ว่าทุกที่ไม่ค่อยมีรถแหละ แล้วเพราะไม่ค่อยมีรถมั้งพี่เจ้าถิ่นที่นี่เลยเดินข้ามถนนกันหน้าตาเฉย ทำเอาละอ่อนไทยอย่างเรางงเลย ภาพสิงคโปร์ที่แสนจะเพอร์เฟคในหัวพังหมด ความศิวิไลซ์ ทุกคนมีระเบียบเคารพกฏหมายโดนพี่แกยำเละตั้งแต่วันแรก ก็ดี สนุกดี
12. ในสิงคโปร์จะเจอคนหลายเชื้อชาติ ที่เยอะๆก็จะเป็นจีนกับแขก ซึ่งหน้าตาคนที่นี่ดูแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากคนไทยเท่าไหร่ หลายครั้งเลยที่เรางงๆแล้วจะมีคนเข้ามาช่วยโดยพูดภาษาจีนใส่แต่พอเราขอภาษาอังกฤษก็จะขอโทษแล้วทิ้งให้เรางงต่อไป
13. วันแรกเหนื่อยเพราะต้องรับทำหลายอย่างแล้วก็หิวด้วย แต่ก็สดชื่นขึ้นมาหน่อยนึงเพราะที่โรงแรมมียาสีฟันกลิ่นเก๊กฮวย แปรงสีฟันก็ขนนุ่มดีแต่เหมือนจะนุ่มไป แปรงครั้งเดียวก็แหกหมดแล้ว
ป.ล. มีรูปถ่ายจากทริปนี้อยู่ในนี้นะ medium.com/@Alekleks เอาลงในนี้ไม่ได้เพราะไฟล์ใหญ่ไปน่ะ
ป.ล. 2 ทริปนี้กลับมาเดือนนึงแล้วแต่เพิ่งเอามาเขียน ตอนไปเที่ยวจดไว้ทุกวันว่าเจออะไรบ้าง สนุกดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in