เริ่มวางแผนตอนตี4ของวันที่4/5/62
อารมณ์พามาเลยไปเที่ยวเลยทั้งๆที่งานยังไม่เสร็จ
แต่ไปเช้าเย็นกลับ
เดี๋ยวกลับมาทำก็เสร็จ
เริ่มต้นไปขึ้นรถที่ เอกมัย รถออก
7 :30โมง
ค่ารถประมาณ100฿
ระหว่างนั่งรอรถก็ไม่ซื้อของกิน7-11คนเยอะมากกกกกกก
แต่ก็ไม่รีบเพราะตอนั้น 6:30 อยู่เลย
ก็ไปซื้อของมานั้งกินรอรถออก
นั้งรถเป็นคล้ายๆรถทัวร์แต่เล็กกว่าไม่รู้เรียกว่าอะไร
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม กว่าๆ
ไปลงรถที่โรบินสันศรีราชา
ละก็ไถ่สเก็ตไปเกาะลอยเปิด Google map เอา
ระหว่างนั้นฝนมันกำลังจะตกเมฆเยอะมาก
เปิดพยากรณ์อากาศดูแม่งบอกแค่ว่าเมฆเยอะ
แต่แม่งไม่ใช่แค่เมฆเยอะอะ
อันนี้แม่งเยอะมาก
ก็หวังว่าขออย่าให้ตก
ทั้งๆที่แม่งก็ตกมาหยด2หยดละ
ก็มันจะมีลานสเก็ตอยู่ก็เลยแวะเล่นสักหน่อยแดดแม่งsuperเหี้ย
ร้อนมากกกกกกกกก!!!!!
คือร้อนอย่างงี้มึงเปลี่ยนเป็นนรกเหอะ
ละด้านหลังก็คือเมฆแบบพายุมาก
แต่ด้านหน้าทางเกาะสีชังนี้สว่างมาก
เหมือนเกาะสวรรค์เลย
ก็ไม้รู้จะเอาไงต่อนะ
ตอนนั้นคิดแค่ว่า
จะไปต่อดีหรือไม่ไปดีเพราะกลัวว่าออกเรือละฝนตก สภาพแม่งน่าจะแย่มาก
ก็เลยไปเดินคิดบนเกาะลอยขึ้นไปนั้งเล่นบนวัดบนเกาะลอย
ละฝนมันก็ตกลงมานิดๆหน่อยๆละ
แต่ก็มาเอาวะ
อุส่ามาถึงนี้ละ
สภาพอากาศจะเป็นไงก็ชั้งแม่ง
แม่งจะพายุก็มา ได้อีกฟิวเหมือนกัน
จะมีกี่คนได้เที่ยวเกาะสีชังแบบพายุ
ก็เลยถามคนบนวัดว่าไปขึ้นเรือบนเกาะสีชังไปทางไหนเขาก็บอกหนูเดินลงไปเลยลูกเดินลงวัดแล้วก็ไปขึ้นเรือเลย
คนบนวัดอัธยาศัยดีมาก แนะนำเป็นกันเองมาก
พอเสร็จก็เดินไปขึ้นเรือ
ค่าเรือ 50฿
เรือจะออกทุกๆ 1 ชม หรือถ้านักท่องเที่ยวเยอะหรือเต็มก่อนก็จะออกเลย
ตอนนี้11โมงครึ้ง
ก็เลยเข้าไปในเรือนั้งชั้นล่างเบาะเกือบหลังสุดติดหน้าต่างวิวตอนเรือยังไม่ออกก็คือเรืออีกรำที่มีแต่หอยนางรมเกาะอยู่
แต่ก็เหมือนหนังเรื่อง
pirate of the Caribbean ดี
แต่ที่นั้งมันแคบมากเหมือนบังคับให้นั้งหลังตรงเลย
นั้งลำบากมาก
แต่โชคดีว่าตอนนั้นคนยังไม่เยอะ
ก็เลยยืดแขนขาได้อยู่พอไปเร่ยๆคนก็เข้ามาเร่ยๆจนเต็ม
ด้านหลังก็คือ
ครอบครัวนึงมานั้งพ่อแม่ลูกเขาน่าจะไปเที่ยวเกาะสีชังแบบข้างคืนกันได้ยินเขาพูดแต่ที่ได้ยินเยอะกว่าเขาพูดกันคือเสียงลูกเขาโวยวายมากเวอร์เด็ก1,2คนนี้และ
ตอนนั้นก็คือ
หูฟังช่วยชีวิตจ้า
เปิดเพลงไปจนถึงเกาะอะ
หลับไปบางช่วง
เรือเดินทางประมาณ1ชม
พอถึงก็รอคนออกเรือหมดก่อนค่อยออกเพราะคนเยอะมาก
ไม่อยากเบียดกัน
พอขึ้นมาถึงเกาะก็จะมีให้เช่ารถมอไซมีบริการ3ล้อหรือสกายแล็ป
หรือ2แถวอะไรทำนองนี้
แต่คือกูมาคนเดียวไงสกายแลปแม่งก็แพง2แถวแม่วก็แพง
มอไซก็อยากเช่าแต่ก็แพง
แถมยังไม่มีใบขับขี่ด้วยขี่ก็ยังไม่แข็ง
ก็เลยตัดสินใจชั้งแม่ง
เดินแม่ง ชมวิวด้วย
ก็เดินตรงไปไปซื้อน้ำเอาไว้ที่7-11
ละก็เดินไปเที่ยวที่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
เดินแม่งอะแต่โชคดีหน่อยเพราะวันนี้ไม่ร้อน
เมฆเยอะถ้าฟ้าโปร่งคือตายอะละน่าร้อนด้วย
แต่ที่เกาะสีชังฝนไม่ตกเมฆมันไม่ได้
เคลือนมาทางเกาะก็โชคดีไป
เดินไปประมาณ2โลมั้ง
เหมือนเดินขึ้นเขา
มันก็มีเนินขึ้นเนินลงอยู่ตลอดทางและ
แต่ก็อยากสเก็ตนะ
แต่พื้นเหี้ยมาก+กลัวหมาวิ่งไล่ด้วย
ก็เลยเดินเอาซื้อไก่ย่างกับตับย่างมากินเล่น
ตับย่างหรือทรายก็ไม่รู้แม่งร่วนมาก
แต่ไก่ก็อร่อยดีไม้ละ10ซื้อ2ไม้พอประหยัด
เดินไปใกล้ถึงก็มีหมาเดินตามนึกว่าจะมากัด
แต่มาขอกินเป็นหมาบ้านนี้และแต่เจ้าของไม่ให้ไรแดกมั้งเลยมาขอ
ก็เลยให้ตับร่วนไปเพราะไม่ได้กินแม่งร่วนเกินเสียบไม้ยังไม่ติด
ละก็เดินไปจนถึง ศาลเจ้าพ่อเจาใหญ่
ก็จะมีบันไดขึ้นละก็สำหรับใครขึ้นไม่ไหวก็จะมีรถลากขึ้นอยู่ข้างๆ
แต่ชั่งแม่งกูจะเดินอยากเมื่อย
ก็เหนื่อยใช้ได้เลย
เดินมาจากท่าเรือมาถึงศาล
เหงือไม่ค่อยออก
แต่พอขึ้นบันไดเท่านั้นและสัส
เหงื่อท่วมเลย
ขึ้นมาถึงก็จะมีรูปปั้นอะไรหลายอย่างให้กราบไว้
ก็ไปไว้สักหน่อยแต่ไม่ได้ปักธูปหรือไรเพราะ ขี้เกียจ
ก็เดินเข้าไปใน ศาล จะมีให้ไปไว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลและ ก็ให้ถอดรองเท้าก็เอา
สเก็ตไปฝากเขาเพราะไม่อยากเอาเข้า
มันจะเป็นอุโมงค์ถ้ำเดินเข้าไปก็น่าจะเป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่และ
ก็จะมีให้เขย่าเซียมซีทำนายดวง
ละพอขึ้นบันไดไปอีกนิดก็จะเป็นเจ้าพ่อเฮ่งเจีย
ไม่ได้ลบหลู่นะแต่ไม่รู้เรียกว่าไร
แต่เหมือนซึนหงอคงอะ
แต่ข้างในสวยมากชอบๆ
อารมณ์เหมือนในหนังจีนสมัยก่อน
เป็นถ้ำละในถ้ำทั่วๆถ้ำอะก็จะมีกระดาษแดงแปะอยู่เต็มเลยเหมือนยันต์
แต่ว่าแต่ละอันก็จะเขียนนู้นเขียนนี้ต่างกันไปแต่ไม่ได้อ่านหรอกว่าเขียนไรกันมั้งเหมือนจะเขียนเพือแก้ปีชง
แต่นี้ไม่ได้เขียนถ้าเขียนเสีย100฿ก็อยากเขียนและแต่ไม่มีตังละเขาบอกปีนี้ปีงูเล็กเป็นปีชงกูแบบชิบหายละ
แต่ไม่เป็นไรชงก็ชง ชงแดกแม่ง
ละก็ไปไว้เฮ่งเจียระหว่างรูปปั้นเฮ่งเจียก็จะมีเหมือนหน้าต่างถ้ำมีแสงสว่างส่องมาเหมือนหนังจีนเลย
ถ่ายรูปเก็บไว้พอ
พอเดินลงมามันเหมือนมีทางขึ้นไปบนเขาก็เลยลองไปแต่ไม่ใช้อะไรเป็นแค่ที่จุดประทัดสภาพแบบแดงเทือกนึกว่านรก ต้นไม้ตรงนั้นก็ตายละก็มีเศษซากประทัดติดบนกิ่งไม้ลมก็ผัดปลิ้วไป
อารมณ์เหมือนหนังสิ้นหวังอะ
ละก็ลงมาหยิบสเก็ตที่ฝากไว้คืนไปนั้งตั้งหลัก
เพราะถ้าเที่ยวแค่นี้กลับมึงจะมาทำไมวะ!!??
ตอนนั้นเวลาประมาณบ่าย
ก็เปิด Google หาที่เที่ยวบนเกาะต่อ มันมีไอ้นี้น่าไปอยู่เป็นเหมือนเจดีย์ร้าง
รีวิวถ่ายรูปสวยดีหินมันเยอะชอบๆ
น่าจะชื่อว่า...
ระฆังหินและเจดีย์เก่าแก่
Map บอก เดินไปอีก4โล
แม่เจ้า!!!
เชี่ยเอาไงดีวะแต่รถก็ไม่มีอะไรก็ไม่มี
ไหนๆก็มาละเดินก็เดิน รด ยังเดินมาแล้วเลยทำไมอันนี้จะเดินไม่ได้
รด จะได้ใช้ประโยชน์จริงก็ตอนนี้และ
ก็เดินไปเร่ยๆผ่านท่าเรือไปรอบที่2
ก็มีป้าที่เขาเดินมาชวนให้เช้ารถมอไซตั้งแต่ตอนลงเรือมาละ นี้มาชวนรอบ2บอกหนูไม่เช่ามอไซไปจริงๆหรอลูกป้าลดให้เหลือ200เลย
ในใจก็อยากจะพูดว่าก็อยากป้าแต่ขับรถไม่เป็นนนนนนนน
แต่ก็ฟรอมไม่เป็นไรครับไป5555
ก็เดินไปเร่ยๆถนนเริ่มดีละเลนส์ถนนเริ่มกว้างมองไปข้างหน้าไม่มีหมา เอ้ะ!!รอไรละ
ไถ่สเก็ตลงแม่งเลย
อารมณ์ตอนนั้นแบบฟินสัสไม่ต้องเดิน
สักพักเห็นหมาเดินมาปุ้ปอีเหี้ย
เก็บสเก็ตอย่างไว
ละก็แวะซื้อนมไวตามิลแดกหลบหมา
ชีวิตโคตร อนาถ เลย
ละก็เดินต่อไปถึงมันจะมีเหมือนจุดดูสัตว์น้ำก็ไปนั้งพักสักแป้ปละค่อยไปต่อพอพักเสร็จก็เดินไปละก็ไถ่ต่อคราวนี้และฟินจริงไม่มีหมาเพราะเป็นถนนชายทะเลพื้นก็โอเคอยู่
ไถ่ไปเรื่อยๆอีเหี้ย
หนีเสือปะจระเข้
ไม่เจอหมาแต่เจอหมู
แม่งมองหน้าละคือตอนนั้นอะคิดว่าหมูแม่งโหด
ไม่รู้หมูป่าหรือหมูบ้านดูไกลๆคิดไปเองนึกว่ามีเขี้ยว
แม่งเอ้ย!!!!แม่งเดินอยู่แถวต้นไม้กับลูก
ละมองมา กูแบบเก็บสเก็ตเดินลงหาดอย่างไวตอนนั้นกลัวแม่งวิ่งมาควิดเพราะไม่รู้ว่า
แม่งเป็นหมูป่าหรือหมูบ้านละคือใส่เสื้อเหลืองกางเกงแดงหมวกแดงอีเหี้ยสีจ้าดมาก
กระทิงแม่งก็ควิดสีแดง
หมูแม่งจะเล่นกูป่าววะ
แต่ก็รอดมาได้
ก็เดินไปเจอสะพานไม้ขาวลืมว่าเรียกว่าไรเป็นจุดท่องเที่ยวจุดถ่ายรูปเหมือนกันและ
แต่ชั่งแม่งไม่ถ่ายแม่งโหล5555
ก็เลยไปนอนตรงเก้าอี้ริมหาดเพราะเหนื่อยมากกกกกกกกกก
สัสพอนอนไปเสือกโดนมดแดงกัดอีกแต่โชคดีแม่งกัดตรงข้อศอกแม่งเลยไม่เจ็บ5555
ปัดมดแดงออกแม่งก็ไม่ออกกัดแน่นมาก
อีเหี้ยกูแบบเอ้อ....
โชคดีละกัดศอกกูไม่งั้นมึงเอ้ยปวมไปนานละ
...
นอนมองไปก็มีกลุ่มเด็กถ่ายรูปกันอยู่ริมหาดละก็เมฆฝนอยู่ไกลๆ
แต่ตรงนั้นน้ำใสดีนะ
เดินไปเรื่อยๆก็มีซากปลาตายอยู่5555
แต่ก็ไม่ซีไรมากเพราะเหนื่อยนอนพักซักนิดเปิดเพลงฟังชิวๆสัก3,4เพลงละค่อยลุกไปเจดีย์ร้างต่อ
พอลุกปุ้ปก็หายเหนื่อยฟิตเลย
ไปต่อเว้ย
วู้วๆๆๆ
ก็เดินขึ้นเขาไปอีเหี้ยแป้ปๆเหนื่อยอีกละ
มันมีทางแยก2ทางก็เดินไปเร่ยๆอะเนอะ
ไปเจอทางนึงเหมือนจะไม่ใช้ทางที่หน้าไปสักเท่าไรแม่งอย่างกะป่าต้องห้ามใน harry
Potter ถนนก็ไม่ได้ทำ
ละฝั่งในทางนั้นก็มืดๆเพราะฝั่งนั้นแม่งมีเมฆฝนด้วย พอเดินไปนิดหน่อยนกก็ร้องเหมือนแบบ นกแม่งเตือนว่าอย่ามาทางนี้แม่งไม่ควรเดินมาหรือคิดไปเองหรือ
แม่งไม่เคยมีใครเดินมานกเลยร้องก็ไม่รู้
อีเหี้ยด้วยความสมองปรุงแต่งหลายอย่างก็เลยหยิบ map มาดูสัส map แม่งเขียนว่า นอกเส้นทางแต่ก็ไม่รู้นอกเส้นทางจริงไหมเพราะเน็ตก็เสือกกาก
แต่ก็สัญชาตญาณบอก
อย่าไปต่อเลยไปอีกทางดีกว่า
ก็เลยเลี้ยวไปทางขวาอ่าว
สรุปทางขวามาถูกนึกว่าจะหลงป่า
ละก็เดินไปต่อ
...
ชอบวิวนะ
แต่ก็หลอนๆอยู่ดีอะ
แม่งไม่มีใครขึ้นมาเลย
เดินไปเรื่อยๆขึ้นเขาไปเรื่อยๆก็ไปเจอแฟนคู่นึงถ่ายรูปอยู่กูก็
โอเคร....
โล่งใจมีคนอยู่ก็เดินต่อไปจนผ่านเจดีย์นู้นนี้ละก็ขึ้นไปดูจุดชมวิวแม่งเหนื่อยเหี้ยๆ
พักแป้ปนึงก็ต้องลงเพราะกลัวฝนตกถ้าตกละลำบากแน่
ก็กะจะลงทางเดิมนะแต่ไม่อะไปทางใหม่อาจจะดีกว่าแต่ไปปุ้ปแม่งดีจริงมันเป็นถนนลงเขาซึ้งถ้าสเก็ตลงจะไวมากแต่ประเด็นคือ
แม่งจะไวเกินจนกูตาย
ละมันมีรถบรรทุกไรพวกนี้ขับผ่านไวสัสละพอมองใกล้ๆอีเหี้ย
หมาดำนอนอยู่เวร
ไม่ไปละ...
อะไรก็ได้แต่ไม่สู้หมาก็เลยเดินกลับทางเดิมผ่านแฟนคู่นั้นเหมือนเดิม
ละก็ลงไปนอนพักที่เดิมเพราะมันเหนื่อย
มากกกกกกกกกกกกกกก
นอนเหมือนคนตายตาก็จะปิดอยู่ละเพราะยังไม่ได้นอนตั้งแต่5โมงเย็นเมื่อวานอารมณ์พามาก็เลยมาเที่ยวเลยไอ้เวรเอ้ย
ไม่ดูแลตัวเองเลยเอาแต่จะเที่ยว
กลัวว่าตัวเองจะตายอยู่บนเกาะด้วย5555
ตอนนั้นก็อยากกลับละแต่กลับไม่ไหว
รถแม่งก็ไม่มี รถที่มีแม่งก็เป็นรถของคนอื่น
อ่าาาอีเวร
ก็เดินกลับไปเหมือนคนตาย
ได้ชื่นใจนิดหน่อยเพราะมีกลุ่มสาวๆมาขอให้ถ่ายรูปให้55555
แต่ก็สภาพตอนถ่ายให้เขาเหมือนศพเดินได้อะ
เหนื่อยสัส
ตอนเดินกลับก็เลยมีความคิดแบบ
ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ55555
มึงไมยอมเช่ารถมึงเลยต้องเดินทั้งไปทั้งกลับไงอีควาย!!
เดินไปก็เจอหมูอีกละแม่งจะเล่นกูอีกรอบละ
แต่ก็เดินมาจนถึงท่าเรือ
รวมราวๆ8โลได้
ขึ้นไปศาลน่าจะ2โล
เดินไปเจดีย์อีก4โล
เดินกลับท่าเรืออีก2
พอถึงท่าเรือก็มองไป
อีเหี้ยมึงเดินไปได้ไงวะไอ้เวรบ้าปะเนีย
ก็ไปลงเรือราคา50฿เหมือนเดิม
ตอนนั้นประมาณ4โมงกว่าๆไม่ก็5กว่าถ้าจำไม่ผิดแต่พอขึ้นเรือคนเยอะมากกกกก
เอาไงดีกลัวต้องไปเบียดกับคนอื่น
พอเดินไปก็เจอที่นึงหลังเรืออีกละ
สุดท้ายเลยเป็นเหมือนที่นั้งพิเศษที่ไม่มีใครอยากนั้งเพาะมันติดกับแอร์ละเครื่องละแม่งเสียงดังแต่ว่าก็เอาตรงนี้และ
ไม่มีคนดี
เขาบอกไว้ว่า
"บางทีสถานการณ์แย่ๆก็อาจทำให้เจอเรื่องดีๆ"
ก็ดีจริงอะ ยืดขาได้นอนพิงได้
ก็เลยเอาขายืดละก็เอาตัวนอนพิงไปกับกำแพงเรือเพื่อจะได้เห็นวิวละแม่งแบบ
สบายมากสบายกว่าตอนขามาอีก
สบายจนหลับอะ...
แล้วเขาก็มีคำนึงที่บอกว่า
"บางทีสถานการณ์ที่ดีเกินไปก็อาจทำให้เกิดเรื่องเลวร้าย"
นั้นและครับ...
สบายจนหลับเพลิน
คนเขาออกจากเรือกันหมดละเหลือกูคนเดียวนอนอยู่
จนป้าในเรือเขาต้องเดินเข้ามาปลุก
ตอนตื่นนี้แบบ เชี้ยไรเนีย!!!!
หลับลึกขนาดนี้เลยอ่อ
โอ้ย!!!
ป้าถามมาคนเดียวเหรอผมก็บอกครับๆๆ
ตอนนั้นป้าถามไรไม่รู้ตอบครับขอบคุณครับหมดอะ
เบลออยู่
ละพอออกมาก็ขำตัวเอง
555555
ละก็แบบเอ้อไอ้เหี้ยเอ้ย555สมอง...
ถ้าเขาไม่ปลุกกูคงต้องไปนอนอยู่กลางทะเลแล้วมั้ง
ละก็ไถ่กลับไปเหมือนเดิมนั้งตุ๊กๆที่นู้นกลับไปขึ้นรถตู้ที่โรบินสันศรีราชา
นึกว่าจะคิด60,70
แต่คือแค่30฿เอง
ราคาโอเครเลยและ
ก็ไปรอรถตู้รถออกประมาณ6โมง
ตอนรอก็เดินดูตลาดหน้าโรบินสันไปก่อน
ก็มีเสื้อผ้าขายสวยๆนะ
แต่ไม่เอาอะแพง
แต่ก็เสือกได้เคส ทศ ใสมา
เสียไป100฿
ละก็ไปขึ้นรถตู้คือรถตู้คันเนียแอร์ดีมากแม่งเย็นดี
ละก็ฟิวขาดหลับยาวไม่รู้ว่าตัวเองโกรนหรือละเมอรึปล่าวแต่หลับยาวมากมาตื่นสักพักตอนรถจอด
ก็จอดไปเร่ยๆจนถึงเอกมัยก็ลง
ตอนลงคือตอนนั้นง่วงมาก
เดินยังง่วงอะก็เสือกอยากจะชิวต่อก็เลยรอรถเมล์
ที่ไหนได้
ไม่ชิวเลยรถแม่งก็ติด ชห ที่นั้งก็ไม่มีไวรุ่นแขกด้านหลังแม่งก็คุยกันเสียงดัง ชห
แต่ก็เบลออยู่เลยไม่โมโหมาก ละพอถึง
ก็นั้งมอไซกลับอยู่บนมอไซยังจะหลับเลยพอถึงบ้าน
รอไรละครับน้ำไม่อาบ
น้อคจ้า
ละก็ตื่นมาพิมพ์เนีย
อีเหี้ยเบลออออ....
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in