เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fiction DigestiSudNop
Innnistrad: ความจริงอันสิ้นหวังกับคำปดแห่งการอยู่รอด
  • โดยปกติการยอมรับความจริงมากกว่าคำโป้ปด ย่อมเป็นทางเลือกที่ถูกที่ควร 
    เพราะถึงแม้ว่าบางครั้งความจริงอาจจะโหดร้าย แต่ชีวิตก็ยังดำเนินแต่ไปได้ คำโป้ปแม้หอมหวาน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น 

    ใช่ ในสถานการณ์ส่วนใหญ่น่ะนะ

    แต่ถ้าหาก บางครั้งความจริงไม่ใช่แค่โหดร้าย แต่หมายถึงการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ล่ะ? ในขณะที่คำปดกลับนำมาซึ่งความหวังที่จะอยู่รอดล่ะ?


    Innistrad ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งใน Multivese สภาพภูมิประเทศและอารยธรรมเป็นแบบสมัยยุโรปยุคกลาง มีมนุษย์เป็นเผ่าพันธ์หลัก และมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่ควรจะมีเพียงในตำนานเช่น วิญญาณแค้น ซอมบี้ แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า อสูร ปิศาจ สวมบทบาทผู้ล่าของล่้าสังหารมนุษย์ที่แทบจะไม่มีทางต่อกรได้ ถึงแม่ว้าจะมีเทวทูตคอยต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจสู้ได้ด้วยจำนวนที่น้อยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "แวมไพร์" ที่อาจมีจำนวนมากที่สุดในบรรดานักล่าสามารถแพร่พันธ์ตนเองใส่เหล่ามนุษย์ได้ ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป มนุษย์ถูกล่าจนไม่เหลือ

    ท่ามกลางการล่าอย่างโหดร้าย มีแวมไพร์ตนนึงคิดขึ้นมาได้ว่า หากปล่อยให้เกิดการล่าอย่างบ้าคลั่งไร้เหตุผลต่อไป เมื่อมนุษย์สูญสิ้นไปหมด แวมไพร์ที่ไร้ซึ่งอาหาร คงไม่แคล้วที่จะเกิดการล่าสังหารกันเอง จนในที่สุด อินนิทตราทก็จะไม่เหลือสิ่งใดที่เรียกว่ายังมีชีวิตได้อีกเลย


    แวมไพร์ตนนั้นคือ Sorin Markov ที่อาจจะเป็นแวมไพร์ที่ทรงอำนาจมากที่สุดในอินนิสตราท เพราะนอกจากความเป็นแวมไพร์แล้ว สิ่งนึงที่โซรินเป็นและแทบไม่มีใครรู้คือตัวเขานั้นเป็น Planewalker สิ่งมีชิวิตที่อาจพบได้เพียงหนึ่งในล้าน สามารถเดินทางไปมาระหว่างดาวทุกดวงในจักรวาลนี้ได้ โซรินเดินทางไปมาระหว่างดาวต่างๆ นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้กลับมาที่อินนิสตราท และต่อมาโซรินตัดสินใจทำบางอย่างที่จะเปลี่ยนอินนิสตราทไปตลอดกาล นั่นคือ..

    Avacyn , Angle of Hope

    อวาซีนกลายเป็นตัวแทนของพลังและความหวังของมนุษย์ต่อสู้กับปีศาจร้ายต่างๆ นับศตวรรษผ่านไป มนุษย์เริ่มตั้งหลักได้ เริ่มมีการก่อตั้งศาสนจักรอวาซีนขึ้น มีการตั้งกองทหารร่วมกับเหล่าเทวทูตคอยขับไล่ปิศาจและคุ้มครองมนุษย์ที่ไร้พลังตั้งแต่นั้นมา


    ความเห็น
    โซรินไม่ใช่พวกพระเอกจ๋าที่จะลงไปช่วยคนที่เดือดร้อนต่อหน้า แต่เค้าเองก็ใช่ว่าจะเป็นจอมมารที่นั่งดูคนทรมาณต่อหน้าเช่นกัน โซรินเป็นเหมือน"สีเทา" ที่คอยรักษาสมดุลของดาวดวงนี้ และก็เป็นคนที่ทำอะไรได้เห็นแก่ตัวมากๆคนนึงเช่นกัน โซรินไม่ลังเลที่จะสังหารคนที่ขวางทางที่จะทำให้เขาบรรลุเป้าหมาย สำหรับผมในสายตาของโซรินมนุษย์ไม่ได้มีค่ามากไปกว่าปศุสัตว์ที่เลี้ยงไว้บริโภค เขาไม่ได้ไยดีเลยว่าใครจะอยู่หรือใครจะตาย จะมีหมู่บ้านไหนถูกฆ่าล้างหมู่บ้าน แต่กลับกันใช่ว่าโซรินจะเห็นดีเห็นงามกับเหล่าแวมไพร์ เขาเองก็เดียดฉันท์และสมเพชเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ที่ไม่คิดจะมองการณ์ไกล เอาแต่ล่าและดื่มเลือดอย่างตะกละตะกลามโดยไม่คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นเค้าเองก็ทนไม่ได้ที่วันนึงอินนิสตราทอาจจะพังทลายโดยไม่เหลืออะไร โซรินมองในภาพรวมว่าการคงอยู่ของอินนิสตราทสำคัญที่สุด และหากต้องมีดาวดวงอื่นต้องพังพลายเพื่อจะปกป้องอินนิสตราท โซรินก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Self -Interest ประเภทนึง

    ความจริงที่ว่าโซรินเป็นผู้สร้างเทวทูตอวาซีนเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปในเหล่าแวมไพร์อาวุโส ถึงแม้ว่าบางตนจะเข้าใจและเห็นด้วยกับเหตุผลของโซริน แต่แวมไพร์ส่วนใหญ่กลับมองว่าโซรินคือคนทรยศ ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าผีดูดเลือดชิงชังและสาปส่งโซรินที่สร้างเทวทูตขึ้นมาเป็นศํตรูกับพวกพ้องเดียวกัน ขับไล่โซรินออกจากสังคมแวมไพร์

    อีกด้านความจริงดังกล่าวกลับแทบไม่มีใครรู้ในเหล่ามนุษย์ แม้แต่กับเหล่าเทวทูตที่กำเนิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติต่างก็ไม่รู้ต้นกำเนิดของอวาซีน พวกเขารับรู้แค่ว่าวันนึงอวาซีนลงมาจากฟ้า ต่อสู้กับเหล่าปีศาจ ชักนำผู้คนให้มีความหวัง เป็นเทวทูตที่ทรงพลังที่สุด อาจมีบ้างที่สงสัยในต้นกำเนิด แต่ก็ไม่มีใครสนใจจะขุดคุ้ยที่มา โดยคนที่รู้ความจริงนั้นมีเพียงหยิบมือเช่นพระสังฆราชของศาสนจักรเป็นต้น 

    เพราะนั่นคือความจริงที่ไม่อาจเผยแพร่สู่โลกภายนอกได้หรือต่อให้บอกไป ก็คงจะแทบไม่มีใครเชื่อ หรือพูดให้ถูกคือ น่ากลัวเกินกว่าที่จะยอมรับได้

    การคงอยู่ของอวาซีนเป็นดั่งคำโป้ปดที่คอยปกปิดความจริงที่ว่าโซรินสร้างอวาซีนขึ้นมาไม่ใช่เพื่อปกป้องมนุษย์ แต่เพื่อป้องกัันไม่ให้เหล่าแวมไพร์ล่าสังหารมนุษย์จนทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ไปต่างหาก ตอนนี้มนุษย์ในอินนิสตราทอยู่ได้ด้วยคำโป้ปดที่ว่าอวาซีนกำเนิดมาเพื่อปกป้องตน ความเท็จเหล่านี้เป็นสิ่งผลักดันให้มนุษย์ยังมีหวังที่จะยังมีชีวิตอยู่ โดยเชื่อว่าพวกตนยังจะอยู่รอดในดาวอันโหดร้ายนี้ต่อไปได้ เพราะถ้าหากไม่มีคำลวงนี้แล้ว พวกเค้าก็ต้องเผชิญกับ ความจริง ที่ว่ามนุษย์นั้นเป็นค่าแค่อาหารสำหรับเหล่าสัตว์ประหลาดบนดาวดวงนี้เท่านั้น

    ที่มาเนื้อเรื่อง : Magic the gathering Shadow over Innistrad.
    Credit ภาพ : http://magic.wizards.com/
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in