เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บางกระทุ่มปุ้มปุ้ยSilapa Junior
ปัทฉิมบทบางกระทุ่ม
  • ปัจฉิมบทและเก็บตกแบบยาวๆ

    เวลาก็ผ่านมาแล้ว 2 ปี 4 ภาคการศึกษา ชีวิตของผม เพื่อนๆ และพี่ๆ ก็คงดำเนินต่อไป ของผมเอง จากเด็กมหาลัยวัยรุ่นคนนึง กลายมาเป็นหมอฟันฝึกหัดรักษาคนไข้ไปแล้วร่วมร้อยชีวิต อีกปีเดียวก็จะจบออกไปเป็นทันตแพทย์ของประ...เดี๋ยวสิ ทำไมอยู่ๆ เข้าโหมดซึ้ง โหมดครูบ้านนอก นี่เราตั้งใจจะมาเก็บตกเฉยๆ ต่างหาก

    ทำไมต้องปุ้มปุ้ย

    ผมเคยคุยกับเพื่อนคนนึงว่า เอาจริงๆ นะการสร้างกิมมิกให้กับชื่อเรื่องชื่องานอะไรเนี่ย ไม่ได้ยากเลย ขอแค่มีเวลาและช่างคิดพอเท่านั้น เราสามารถไปแถ เอ้ย สรรหาความหมายดีๆ มาใส่ได้ทุกเมื่อเชื่อวันเพราะฉะนั้น คิดชื่อมาก่อน เดี๋ยวค่อยหาความหมายทีหลัง  คิดไป 27 วินาที เออคำว่าปุ้มปุ้ยแล้วกัน มันคล้องจองกับ ทุ่ม แถม อ่านลื่นหู ดูลื่นตา

    พอเริ่มมีเพื่อนมาถามว่าทำไมต้องบางกระทุ่ม กระบวนการแถก็เริ่มขึ้นครับ คือแกรู้จักพวกปลากระป๋องปุ้มปุ้ยใช่ป่ะ คือไอ้พวกอาหารกระป๋องพวกนี้ สำหรับเรานะ มันไม่ได้หรูหรา และไม่ได้ถูกทำมาให้กินทุกวันเอาไว้กินตอนจำเป็นเท่านั้น เวลาออกค่ายหรือติดน้ำท่วมอะไรยังงี้จะให้ฟีลด์ลำบากนิดนึง แต่เราเชื่อว่าทุกคนก็ต้องเคยไปอยู่ในสถานการณฺที่เคยได้กินมัน และปรากฏว่าไง ก็กินได้ อร่อยเลยทีเดียวล่ะ (หอยลายกรอบอร่อยมาก ขอบอก) เลยเหมือนกับอำเภอบางกระทุ่ม ถามว่าลำบากไม๊ ลำบาก ให้อยู่ตลอดไปก็คงไม่ไหว แต่ชิมไปชิมมาแม่งก็แซ่บใช้ได้ พอเลิกกินไปนานๆ ไปๆมาๆ คิดถึงอยากกลับไปชิมสักกระป๋องสองกระป๋องเฉยเลย อะไรเทือกนะ (อูย เจ็บสีข้าง)

    นั่นแหละครับ ที่มาของชื่อ


    สาวบางกระทุ่มนั้นโก้จริงๆ

    เคยแง้มเล่าถึงสาวๆ ไปแล้วเล็กน้อยในบทบ้านพัก คือการไปชุมชนแบ่งออกเป็น 2 ผลัด พอเรากลับกัน ก็ถึงคราว 5 สาวออกพื้นที่แทน ซึ่งรับรองว่าประสบการณ์ที่ได้คงจะสนุกไม่แพ้กัน ไฮไลท์ที่พอจะนึกออกก็จะมี

    - เปิดตัวอย่างตราตรึงกับการนัั่งรถไฟของสาวๆ (เพราะพี่ปู ไปงานแต่ง เลยไม่สามารถขับรถมารับที่พิจิตรเหมือนกลุ่มผมได้) ที่ช้าไม่พอ เสือกหยุดเสียดื้อๆ แล้วดีเลย์นานมาก นานจนต้องร้องขอชีวิต ขอแบตสำรอง ขอรหัสไวไฟ ขอ..พอแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิด สุดท้ายยอมแพ้กัน แล้วให้พี่ฝ้ายขับไปรับที่ไหนสักที่แทน

    - เกียรติศัพท์ด้านการกินที่พี่ๆ ห้องฟันถึงกับประหลาดใจจนต้องบอกต่อ คือแก๊งนี้กินกันเยอะมากกกก มากแบบมาก จนพี่ๆ ถึงกับอึ้ง ว่ามาจากสถาบันเดียวกับผู้ชายกลุ่มที่แล้วเหรอ

    - นอกจากปริมาณแล้วรูปแบบก็ยังโดดเด่นไม่น้อยหน้า ปกติแล้วตอนเที่ยงจะมีการขานสั่งอาหารในห้องฟันเป็นพวกตามสั่ง จะมีพี่เวียนกันจดและไปซื้อมาให้ ผลัดแรกมี ชัช ที่สั่ง ‘กระเพราะไก่กับหมูผสมกัน’ ให้พี่สตันน์กันไป 1 เทิร์น ต่อด้วยตัวแทนแห่งผลัดสอง พั้นช์ยิ้ม ร่ายมนต์ ‘หมูกรอบทอดกระเทียม’  ที่ผิวเผินเหมือนจะธรรมดา แต่เดี๋ยวนะหมูกรอบคือ หมูที่มันทอดมาแล้วป่าววะ แล้ว…ยังไง ทอดซ้ำ? อินเซปชั่นกันไปอีก

    - มหากาพย์การต่อสู้กับเหล่ามแมลงของเจ้าหนู ถิงถิง ตั้งแต่การปรากฏตัวของแมลงปริศนาในห้องน้ำ สู่การบำเพ็ญโอซากิทั้งแปดที่ศูนย์ฝึกป้าขิง  (มีแมงเม่านับร้อยนับพันมาเป็นเครื่องมือฝึกจิต) สู่บททดสอบคืนสุดท้ายในบ้านพักกับเจ้าแมลงตัวเดิม มั้ง (ทราบภายหลังว่าคือ จิ้งหรีด)ที่มาแสดงฤทธิเดชกันถึงหัวเตียงเลยจ้า แต่ถึงกระนั้น ผู้สำเร็จวิชาถิงถิงย่อมสามารถเอาชนะได้อย่างสมศักดิ์ศรี คือนอนกับมันไปเลย จบนะ สตรองมากคุณถุงถิง

    ถึงเรื่องราวจะโหดไม่แพ้กัน เผลอๆ กลุ่มผมแพ้ซะอีก พอกลับมาแล้ว สาวๆ ทุกคนก็ดูแฮปปี้กันหมดนะ เช่นเดียวกับรุ่นน้องกลุ่มหญิงล้วนในปีถัดไปเหมือนกัน : D


    ของดูต่างหน้า

                   แน่นอนอยุ่แล้วว่าของที่ระลึกของบางกระทุ่ม ก็ต้องเป็นผลิตภัณฑ์กล้วยอย่างแน่นอน แต่พอดีของอย่างนั้นมันกินแล้วก็หมด แถมได้มาฟรีอีก เราขอไม่นับแล้วกัน ของที่ระลึกหนึ่งเดียวที่พอเห็นทีไรก็จะอมยิ้มทุกทีก็คือ บ๊อกเซอร์อิมพอร์ตจากตลาดบางกระทุ่มครับคือวันนึงพี่ปูพาพวกเราไปเดินตลาดแถวสถานีรถไฟล่วงตอนเย็น เราก็เดินเรื่อยเปื่อยกันไปของเค้าก็ขายกันสารพัดสิ่ง ปรากฎว่าใครสักคนไปอยู่ที่แผงขายบ๊อกเซอร์เฉยแล้วโปรโมชั่นมันจะเป็น 3 อัน 100 อะไรแบบนี้ ตัวเราไม่ได้คิดจะซื้ออยู่แล้ว เพราะปกติไม่ได้ใส่บ๊อกเซอร์เลย แต่เฮ้ยยยย มันมีลายนี้ด้วยอ๋อววว โอมายกอด โซเจแปนนีส    

    คือเป็นแพทเทิร์นตามรุปเลย โหยดีมีสไตล์มากๆ ใส่ออกมาต้องดูดีแน่เลย (ได้ข่าวว่าเป็นบ๊อกเซอร์นะมึง) อะๆ เราช่วยซื้อรวมก็ได้ตัวนึงก็ได้ (เพื่อนบอกว่ากูยังไม่ได้ขอให้ช่วยเลย)

                   ปัจจุบันบ๊อกเซอร์ตัวนี้ได้แปรสภาพไปเป็นการเกงนอนสุดสั้นจุ๊ดจู๋ไปโดยปริยาย ก็บอกแล้วว่าเป็นคนไม่ใส่บ๊อกเซอร์

                   ในทางกลับกันเราเองก็ได้สืบทอดเจตนารมณ์ให้กับพี่ปูที่ได้ขอไว้ในบทที่แล้วก็คือนั่งเทียนรวบรวมฟีล์โน๊ตของเพื่อนๆ มาถ่ายเอกสาร รวมเล่มเติมบทพิเศษที่มาจากสเตตัสของทุกๆ คนเพิ่มเข้าไปให้ดูมีกิมมิกเล็กน้อย แค่นั้นยังไม่พอ ต้องเล่นใหญ่กว่านั้น โนๆ เราจะไม่เย็บกระดูกงูแผ่นใสเราจะออกแบบปกแล้วปริ้นสีแล้วเล็บเล่มแบบไสกาวไปเลย (จริงๆคือตอบสนองความต้องการตัวเองทั้งสิ้น )

                   มีความสุขที่พี่ปูบอกหลังจากได้รับหนังสือเล่มนี้ว่ามีกำลังใจทุกครั้งที่ได้อ่าน

                  

     Keeping in touch

                   หลังจากทั้งสองผลัดกลับมากรุงเทพฯ เราก็แทบจะไม่ได้ติดต่อพี่ปูอีกเลย อ่าว 5555 ไม่ๆ แหม่ก็ต่างคนต่างก็มีอะไรต้องทำนี่ แต่พวกเราก็ยังไม่ลืมที่จะทักทายเซย์ไฮ ฮาวดูยูดูบ้างเป็นครั้งคราวนะ ตัวอย่างเช่น

    "ฮิ้วๆๆๆๆ เด็กๆ เป็นยังไกันบ้าง ได้ข่าวว่าทำคลินิกกันแล้วสู้ๆ นะคุณหมอทั้งหลาย"

    พี่ปูทักมาในกรุ๊ปไลน์อาทิตย์แรกที่พวกเราขึ้นคลินิก ตามด้วยพายุแพนิกของเด็กๆ เช่น "ใช่ค้าบ เครียดมากก" หรือ "ได้อุดแล้วค่า ตื่นเต้นสุด"

    ตัวผมเองเวลามีงานเขียนอะไรก็ชอบเอาไปให้พี่ปูวิจารณ์ครับ พี่แกวิจารณ์เก่ง คือใช้สูตร ชม-ติ-ชม ด้วยคำพูดที่สุภาพและจริงใจ

    ล่าสุดนี่พี่แก ก็ไลน์มาหาพวกเราเรื่องลูกของคนรู้จักที่อยากจะเข้าทันตะให้พวกเราช่วยแนะนำให้ความเห็นว่าทันตะมันดีจริงไม๊ข้อเสียมีอะไร ที่ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันก็คือ การเคี่ยวเข็นของระบบการเรียนที่ต้องพึ่งตัวเองมากๆ อดทนเยอะๆ เรียนรู้ที่จะยอมรับปัญหาและปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ต้องโตเป็นผู้ใหญ่และมีสติให้มากขึ้นมันเป็นประโยชน์แล้วก็ขอดีที่สามารถพกไปใช้ในชีวิตจริงได้

    แหม่ๆ ทันตะ11หัว (รวมพี่ปู) ขายของอวยวิชาชีพกันใหญ่นะครับ


    ของฝากจากอาจารย์เฮาส์

    อันนี้ฟินาเล่ของจริง

    ขอขอบคุณ พี่ปู(และครอบครัว) พี่ฝ้าย พี่ยุ พี่ฝน พี่แนน พี่ใหม่ และพี่ห้องฟันที่เหลือสำหรับการดูแลตลอด 10 วัน

    ขอขอบคุณ พี่แอน พี่ดาม คุณลุงขับกระบะ คุณป้าขนมถ้วย ป้าขิงสำหรับมุมมองชีวิตดีๆ

    ขอบคุณ ลุงจั๊ม ชัช วัช กัน ที่มาร่วมผจญภัยไปด้วยกัน

    ขอบคุณ พันช์ยิ้ม พันช์ฉุ น้ำหวาน โดนัท ถิงถิงสำหรับการแลกเปลี่ยนเรื่องราวสนุกๆ ไม่มีใครเห็นภาพเท่าพวกเราอีกแล้ว

    ขอบคุณ มินิมอลที่เปิดโอกาสให้ผมได้เริ่มเขียนงานอย่างลุล่วงตั้งแต่ต้นจนจบครับ 

    ขอบคุณ พี่ฝน พาร์ทเนอร์ที่คอยช่วยเหลือเสมอมากระทั่งให้ยืมคอม ยืมเนตอัพบล๊อค

    ขอบคุณ พ่อ แม่ จูโน่ ครอบครัวที่น่ารักของผม

    แล้วสุดท้ายนี้อยากขอบคุณทุกคนๆ ที่คอยติดตามซี่รี่บางกระทุ่มฯ (ทั้งเต็มใจและถูกยัดเยียด) ของผม

    ขอขอบคุณและปิดท้ายด้วย คำกล่าวของ อ.เฮ้าส์อาจารย์ผู้ดูแลวิชาทันตกรรมชุมชนพื้นที่จังหวัด พิษณุโลก สุรินทร์ และ เลย ครับ อาจารย์กล่าวไว้ว่า

    "ทุกครั้งที่ออกเยี่ยมนิสิต ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆเพิ่มเติม ได้พบเห็นพูดคุยกับคนทำงานสาธารณสุข คนที่ทำงานกับชุมชน ผมคิดว่าผมเป็นทั้งนักเรียนที่ออกไปเรียนรู้ชุมชน และเป็นทั้งครูที่ตั้งคำถามให้นิสิตคิดได้ไตร่ตรอง เพื่อสร้างให้เกิด 'ความเข้าใจ' ในสิ่งที่แตกต่างจากชีวิตประจำวันของนิสิต

    ผมหวังว่าเมื่อคนเรามีความเข้าใจคนอื่นๆ ที่อยู่ในบริบทที่แตกต่างกับเราแล้ว

    สังคมเราจะน่าอยู่ขึ้น"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in