หนังสือเรื่อง 不会变形的金刚 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกของครอบครัว ๆ หนึ่งโดยที่ในเนื้อเรื่องมีตัวละครหลัก 4 ตัวละคร คือ สามี/พ่อ ภรรยา/แม่ ลูกชาย และเพื่อนของลูกชาย ดำเนินเรื่องโดยเริ่มต้นที่ลูกชายอยากได้หุ่นยนต์ แต่ก็เข้าใจดีว่าที่บ้านมีฐานะที่ไม่สามารถจะซื้อหุ่นยนต์แสนแพงตัวนั้นได้ จึงพูดออกไปว่า ไม่ได้อยากได้หุ่นยนต์ แต่ด้วยความที่แม่ก็เข้าใจดีและเห็นว่าลูกของเธอเป็นเด็กดีและเรียนหนังสือเก่ง จึงเสียสละไม่ซื้อไหมพรมที่จะนำไปถักหมวกและผ้าพันคอของเธอ และซื้อหุ่นยนต์ให้แทน และสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อลูกชายของเธอแลกหุ่นยนต์ตัวนั้นเล่นกับเพื่อน ๆ ร่วมชั้นของเขาและทำพัง นิสัยของลูกชายเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อผู้อ่านได้อ่านหนังสือ不会变形的金刚แล้ว ผู้แต่งได้บรรยายลักษณะความเป็นธรรมชาติของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างชัดเจน มีการถ่ายทอดออกมาได้ธรรมชาติตามลักษณะของมนุษย์ทั่วไป ที่ต่างมีความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง อย่างตัวละครภรรยาหรือแม่ ที่ผู้แต่งเขียนความรู้สึกของแม่ที่ว่า ไหมพรมที่จะนำไปถักหมวกและผ้าพันคอที่จะใช้ในช่วงฤดูหนาวก็อยากได้ เพราะตัวละครแม่เองก็อายุเยอะแล้ว ถ้าโดนลมเย็นจะปวดหัวง่าย แต่ก็ยอมที่จะซื้อหุ่นยนต์ให้ลูกชายเนื่องจากลูกชายเป็นเด็กดีและเรียนเก่ง รวมไปถึงตัวละครพ่อที่ดูโหดร้าย แต่ลึก ๆ แล้วก็เป็นคนที่รักภรรยามาก และที่ขาดไม่ได้เลยคือตัวละครลูกที่มีลักษณะนิสัยแตกต่างจากเด็กทั่วไป ถึงแม้เขาจะมีอายุเพียงแค่ 10 ขวบ แต่ก็สามารถที่จะเข้าใจสถานการณ์การเงินของที่บ้านว่าไม่ได้ร่ำรวย จึงได้พยายามที่จะให้แม่พาออกจากศูนย์การค้าที่มีหุ่นยนต์ตัวนั้นอยู่  แต่ก็ยังมีการบรรยายถึงลูกชายที่เอี้ยวตัวมองหุ่นยนต์ตัวนั้นเล็กน้อย ตามนิสัยปกติของเด็กที่ชอบเล่นของเล่น จากการบรรยายลักษณะของตัวละครเหล่านี้ ทำให้ผู้อ่านเห็นถึงลักษณะของตัวละครได้โดยละเอียด โดยลักษณะต่าง ๆ ของตัวละครก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมบางอย่างของสังคมจีนอีกด้วย

สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดจากหนังสือนอกเวลาเรื่องนี้คือ ความเป็นใหญ่ของผู้ชายจีนในยุคสมัยที่ใช้ดำเนินเรื่อง ซึ่งเห็นได้จากฉากที่รอสามีกลับมาเพื่อตัดสินใจหลังจากที่ต้องชดใช้ค่าหุ่นยนต์ของเพื่อนร่วมชั้นเรียนของลูกชาย เพราะจากเนื้อเรื่องแล้ว ผู้อ่านคาดว่าสามีน่าจะเป็นคนที่ออกไปทำงานและภรรยาอยู่บ้านเลี้ยงลูกและทำงานบ้าน อีกทั้งยังตอนที่สามีหันมาว่าภรรยาว่า “เป็นความผิดของเธอ” แต่ภรรยาก็ไม่ว่าอะไรกลับ ขอเพียงแค่ลูกชายของเธอไม่โดนตีก็พอ ในฉากนี้ได้สะท้อนถึงสังคมจีนได้อีกในเรื่องแม่บ้านแม่เรือนของภรรยา ที่มีการกล่าวถึงว่า เวลาอยู่บ้านมีความสามารถในการทำกับข้าวและสามารถถักไหมพรมได้ ที่ต่างจากสังคมจีนในปัจจุบัน ที่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างออกไปทำงานนอกบ้านเพื่อเลี้ยงชีพ รวมไปถึงจุดสังเกตที่เราเห็นได้จากในเนื้อเรื่องคือหุ่นยนต์ Transformers ที่เพื่อนร่วมชั้นของลูกชายต่างก็มีหุ่นยนต์กันคนละตัว หุ่นยนต์ตัวนี้ได้สะท้อนถึงอิทธิพลของภาพยนตร์สัญชาติอเมริกันที่ซึมซาบเข้ามาในประเทศจีนอย่างมาก และจุดสำคัญที่อดจะกล่าวถึงไม่ได้ก็คือ วิธีการสอนของภรรยาหรือแม่ ที่ถึงแม้ในตอนแรกลูกชายอาจยังไม่เข้าใจ แต่ว่าผู้อ่านเห็นว่าเป็นคำสอนที่ดีมากคือในฉากที่ลูกชายทำหุ่นยนต์ที่แลกกับเพื่อนร่วมชั้นพัง และเมื่อนำไปขอโทษก็ถูกทางบ้านของเพื่อนคนนั้นให้ชดใช้ค่าเสียหาย ลูกชายจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเขายกโทษให้ 小胖 แต่ในทางกลับกันเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกคนถึงไม่ยกโทษให้เขา ตัวละครแม่จึงยกตัวอย่างหุ่นยนต์transformers ขึ้นมาว่าในปัญหาแต่ละปัญหาต่างมีวิธีการจัดการหลายวิธี เหมือนกับหุ่นยนต์ transformers ที่สามารถเปลี่ยนเป็นรูปร่างได้ได้ตลอดเวลา จากหุ่นยนต์ เปลี่ยนเครื่องบินหรือรถยนต์ก็ได้ สิ่งนี้สะท้อนถึงธรรมชาติของมนุษย์แต่ละคนที่เรามีลักษณะนิสัยต่างกัน แต่เมื่อเกิดปัญหาแล้ว เราควรคิดถึงการแก้ปัญหามากกว่า

โดยรวมแล้วหนังสือนอกเวลาเรื่องนี้มีจุดเด่นอยู่หลายจุด ทั้งลักษณะตัวละครหลาย ๆ ตัว รวมไปถึงสิ่งที่สะท้อนออกมาจากเนื้อเรื่อง ที่สะท้อนทั้งลักษณะสังคมด้านต่าง ๆ ทั้งการใช้ชีวิต การเลี้ยงดูลูกที่ทำให้ผู้อ่านสามารถคิดตามและเปรียบเทียบกับสังคมจีนในปัจจุบันที่ค่อนข้างแตกต่างออกไป สุดท้ายแล้วหนังสือเรื่องนี้ยังสะท้อนถึงแนวคิดที่มนุษย์แต่ละคนต่างมีนิสัยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งตัวละครแม่ได้สอนให้กับลูก ผู้อ่านคิดว่าเป็นหนังสือที่ดีและเหมาะกับผู้เรียนภาษาจีนเบื้องต้น ซึ่งนอกจากจะให้ความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ยังเป็นการพัฒนาทางด้านภาษาที่ดีอีกด้วย