เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทาสหนัง...Sleeping Slave
The Blair Witch Project (1999) กับหนังฟุตเตจที่ถูกพบ (Found Footage)
  • หนึ่งในความบันเทิงที่คอหนังสยองขวัญได้เจอกันไม่น้อยในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาก็คือ หนัง Found Footage

    Found Footage คือแนวทางการเล่าเรื่องของหนังในสไตล์ ฟุตเตจที่ถูกถ่ายไว้โดยใครซักคน ที่ถูกค้นพบโดยซักคน และถูกเผยแพร่โดยใครซักคน ออกมาเป็นภาพยนต์ให้เราได้ดูกัน มันคือวิธีการที่หนังเรื่องนั้นๆ ใช้นำเสนอตัวเองเป็นจุดขายได้ว่า "นี่คือเทปบันทึกเหตุการณ์ของจริง"

    Found Footage ถือเป็นเทคนิคการเล่าเรื่องอย่างหนึ่ง ไม่ใช่แนวหนัง สมัยก่อนหนัง Found Footage มักจะเป็นแนวสยองขวัญเกือบทั้งหมด แต่ระยะหลังๆ หนังที่ใช้เทคนิคนี้ จะไม่จำกัดแค่หนัง Horror แล้ว จะมีทั้ง หนังสัตว์ประหลาด (Cloverfield (2007)) ไซไฟ (Project Almanac (2014)) แอ็คชัน (Chronicle (2012)) หรือแม้แต่หนังตลกก็ยังมี (Project X (2012))

    ผมไม่แน่ใจว่าหนัง Found Footage มันมีจุดเริ่มต้นมาจากไหนกันแน่ แต่ถ้าเป็นในยุคของผม แน่นอนว่า The Blair Witch Project (1999) คือจุดเริ่มต้น... 


    สมัยนั้นจำได้ว่า บ้านเราเสียงตอบรับของคนดูจะออกไปทางด่ามากกว่าชม ว่าตูเข้าไปดูหนังอะไรฟะ กล้องเหวี่ยงสั่นหวั่นไหวทั้งเรื่อง หนังก็แทบไม่มีอะไรเลยนอกจากคนสามคนเดินไปเดินมา แต่ถ้าใครก็จะชอบไปเลยเหมือนกัน ในความแปลกใหม่ในการนำเสนอ แต่สำหรับ The Blair Witch Project นี่ เอาจริงๆ ตัวหนังเป็นแค่ส่วนขยายเรื่องราวส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง เพราะหนังมีการทำไวรัล (viral) โปรโมทที่ใช้เล่าเรื่อง ในส่วนที่หนังไม่ได้เล่าด้วย เช่นการสร้าง myspace (สมัยนั้นยังไม่มี facebook) ของตัวละครหลักๆในหนังทุกคน การลงประกาศคนหาย การส่งเสริมตำนานเมืองของ "แม่มดแบลร์" ออกมาอย่างเป็นตุเป็นตะ

    สิ่งเหล่านี้มันช่วยทำให้หนังมี Lore ของมันเองที่น่าค้นหา สร้างความคลุมเคลือนให้แต่คนดูว่า ตกลงมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าวะ? เป็นการทำให้หนังดูมีความ "จริง" จนมันกลายเป็นความจริงในความรู้สึกของคนดู (แต่จริงๆแล้วปลอมล้วนๆ)

    พอ The Blair Witch Project ทำได้แบบนั้น มันเลยกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ของหนังแนวสยองขวัญขึ้นมา นั่นคือการถ่ายทำโดยสมมติว่า นี่คือเทปของจริงที่ถูกบันทึกโดยใครซักคน...

    แต่ Found Footage มันคือการทำให้หนังดูสมจริง จริงหรือ? เพราะหลังจาก The Blair Witch Project พูดจริงๆคือ ผมยังไม่เจอหนัง Found Footage เรื่องไหนเลย ที่ให้รู้สึกว่ามันดูจริงเลย แม้แต่ภาคต่อของ The Blair Witch Project เองด้วย หนัง Found Footage ที่ดีๆส่วนใหญ่ เลยไม่ได้ตอบโจทย์ด้านความรู้สึกจริง แต่เป็นในแง่ความบันเทิงมากกว่า (อย่าง [REC] (2007) หรือ V/H/S (2012) พวกนี้คือสำเร็จในแง่ความบันเทิงล้วนๆ)


    หลายคนแนะนำ Paranarmal Activity (2007) ภาคแรก เป็นหนัง Found Footage ที่สมจริง แต่ส่วนตัวผมดูแล้ว มันก็ยังแย้งๆในความรู้สึกอยู่นิดๆว่า คนเราจะเอากล้องตั้งในบ้านตลอดเวลาขนาดนั้นเชียวเหรอวะ (ฮา.. เนี่ยตัวอย่างของคนดูหนังแบบชอบจับผิด) หนังมีข้อดีในแง่ความ เล่นน้อยได้มาก แต่ถ้าจะบอกว่าดูจริงมากๆ มันก็คงไม่ขนาดนั้น ...แต่ก็เพราะ Paranormal Activity ภาคแรก ที่ทำให้ฮอลลีวูดเกิดประแสบ้าทำหนัง Found Footage ขึ้นมา จนมีตามมาออกมามากมาย เวิร์คบ้างไม่เวิร์คบ้าง เพราะหนังสไตล์นี้ มันใช้ทุนน้อย ทำให้มันจะโกยเงินได้มหาศาล หากมันประสบความสำเร็จ (หรือถึงไม่ได้ฮิตถล่ม ก็ยังทำเงินคืนทุนได้ง่ายอยู่ดี)

    พอมีหนัง Found Footage ออกมาเยอะๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่า มันไม่ใช่การนำเสนอที่น่าตื่นเต้นอีกแล้ว แถมยังยิ่งจะทำให้รู้สึกได้มากขึ้นไปอีกว่า The Blair Witch Project มันพิเศษยังไง

    แต่พอถ้ามาวิเคราะห์ดูจริงๆ ความโดดเด่นของ The Blair Witch Project อาจจะไม่ใช่เพราะมันสมจริง แต่มันโดดเด่นที่การทำไวรัลนี่แหละ ก็แหม.. เราคนดูหนังก็ไม่ได้ไร้เดียงสา ขนาดจะไม่รู้ว่า สิ่งที่กำลังดูนี่ มันคือหนังที่ถูกสร้าง (อาจจะมีคนเชื่อว่ามันจริงในทีแรก แต่ท้ายที่สุด เราก็จะพบว่ามันคือหนังอยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว) The Blair Witch Project เลยมีความน่าสนใจอยู่ที่ การสร้างความรู้สึก "คลุมเคลือ บวก สงสัย" ให้แก่ผู้ชม คนดูจะไม่ฟันธงไปเลยว่าสรุป มันจริงหรือไม่จริง แต่เป็นความสงสัยว่า ตกลงมันจริงหรือไม่จริง? การตั้งคำถามในใจ เลยเป็นสิ่งที่สนุกมากกว่าที่จะรู้แน่ชัดว่ามันจริงหรือหลอก 

    ถ้ามองในมุมที่กว้างกว่าเดิมหน่อย Found Footage อาจะไม่ได้ตอบโจทย์ในด้านความสมจริง แต่ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นมุมมองการเล่าเรื่องที่แตกต่างกว่าปกติมากกว่า หลายๆเรื่อง ถ้าเปลี่ยนให้มันกลับมาเป็นมุมมองแบบปกติ ความรู้สึกก็ไม่ต่างจากตอนที่มันเป็น Found Footage เท่าไหร่ (กลับกัน มันจะกลายเป็นความรู้สึกว่า "ในเวลาแบบนี้ ยังถือกล้องถ่ายกันอยู่อีก!?" ไปแทน จนคิดว่า ถ้าตัวละครไม่ได้ถือกล้องอยู่ในมือเลย มันน่าจะรู้สึกอินได้มากกว่า)


    ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเขียนเพราะ หลังจากดู Blair Witch (2016) หนังภาคที่ 3 ของ The Blair Witch Project เอง ที่หนังใช้ลีลาการนำเสนอแบบเดิม และมีฉากที่ดูตั้งใจเคารพหนังภาคแรกอยู่หลายฉาก แต่ความรู้สึกที่ดูไม่ไม่ได้สดใหม่อะไรแล้ว (แถมทำให้รู้สึกว่ามันคล้ายๆกับหนัง Found Footage หลายเรื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมๆกันด้วยซ้ำ) ในเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา มุก Found Footage ถูกใช้ในหนังจนเกร่อไปหมด แถมยังทำให้หนังที่ประสบความสำเร็จในแง่การทำให้หนังดูแล้วรู้สึกจริง แบบที่ The Blair Witch Peoject ทำได้ กลายเป็นความน่าเบื่อไปอีก (คือจะจริงไปไหน จริงจนไม่เห็นอะไรเลย)

    ในยุคนี้ ผมเลยรู้สึกว่า การนำเสนอแบบนี้ มันอาจจะตันแล้วสำหรับหนังสยองขวัญ แต่ถ้าเป็นในหนังแนวอื่นๆ อันนี้ผมยังรู้สึกว่า มันยังน่าลองอยู่ อยากรู้เหมือนกันว่า จะมีหนังแนวไหนบ้าง ที่จะถูกเล่าด้วยมุมมองกล้อง Hanheld แบบนี้แล้วเวิร์ค (อย่างหนังโรแมนติกงี้ หนังรักซึ้งๆ ที่ถ่ายทอดด้วย Found Footage มันก็น่าสนใจอยู่)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in