เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I READ YOU A LOTilysm
Review | A Little Princess
  • A Little Princess by Frances Hodgson Burnett







                 ไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งที่สอง หรือครั้งที่สามที่อ่านวรรณกรรมเด็กสุดคลาสสิกเล่มนี้ แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้ แต่ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกว่าสนุกน้อยลงเลย ทั้งๆที่เราโตขึ้น เราควรจะเพลิดเพลินไปกับจินตนาการอันสวยงามได้ยากขึ้นสิ แต่เจ้าหญิง Sarah ตัวน้อยเป็นเหมือนเพื่อนเก่า ที่แลกเปลี่ยนบทสนทนาได้ไม่เบื่อ ให้ความรู้สึกอบอุ่นพิลึก เหมือนได้กลับบ้าน ชอบอ่านนิยายเก่าๆที่เคยชอบมากๆตอนเด็กๆด้วยเหตุผลนี้เอง ไม่ใช่แค่เรื่องราวที่ทำให้มีความสุข แต่เป็นความทรงจำตอนนั้นที่มีค่าไม่ต่างกัน


    เรื่องย่อ

              Sarah Crewe ลูกสาวคนเดียวของ Captain Crewe ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟู่ฟ่ามาโดยตลอด เพราะพ่อของเธอร่ำรวยมากเสียจนแทบจะรังสรรค์ทุกสิ่งที่เธอต้องการได้ เมื่อ Sarah ถึงวัยเรียน เขาส่งเธอมาเข้าเรียนที่ Miss Minchin's boarding school ในอังกฤษ เธอกลายเป็นนักเรียนตัวอย่าง ไม่ว่าจะด้วยฐานะที่มั่งคั่ง กิริยาท่าทางประดุจเจ้าหญิง หรือความเฉลัียวฉลาดเกินวัยของเธอ ทว่าวันหนึ่ง ชีวิตเธอก็พลิกผันไปตลอดกาล จากเจ้าหญิงที่ใครๆก็อิจฉา กลายเป็นคนใช้ห้องใต้หลังคาที่ทำงานหนักชดใช้หนี้


    มีสปอยล์


    ตัวละคร

    “สว่างไสว ดำมืด สะท้อนสังคมได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ยังเอาใจจินตนาการเด็กๆ”

                ตัวละครในเรื่องมีค่อนข้างมาก แต่ละคนมีบทบาทในสัดส่วนที่ลงตัว หลักๆแล้วก็คือดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของ Sarah เอง ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่เธอได้ประสบพบ ล้วนเผยนิสัยใจคอที่งดงามของเธอทีละนิดๆ ยิ่งฉากหลังๆ ยิ่งทำให้คนอ่านเชื่อหมดใจว่าเธอคือเจ้าหญิง

                เราชอบหลายฉากมาก ยกตัวอย่างเช่นฉากแบ่งขนมปังของ Sarah คืองดงามจนใจอุ่นเลย T_T ถ้าโลกนี้มี Sarah สักล้านคน คงไม่เหลือขอทานแล้วล่ะ ชอบที่เธอเป็นผู้ให้ ให้ และให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความคิดเธอลุ่มลึกและเป็นผู้ใหญ่ดี ชอบที่เธอคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง และทำในสิ่งที่เจ้าหญิงทำ เราไม่มองว่านั่นคือการสมมุติ เรามองว่านั่นคือการสร้างตัวตนของเธอเองขึ้นมา และการมีเมตตากรุณาก็เป็นเนื้อเดียวกับเธออยู่แล้ว ไม่ใช่เพื่อเสแสร้งเป็นเจ้าหญิง

                อีกฉากที่จำได้แม่นยำก็คือฉากที่ Sarah โดนตบกกหู แล้วตอบ Miss Minchin ไปแบบมั่นอกมั่นใจว่า "คุณจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าตัวเองกำลังตบเจ้าหญิง" คือแค่ฟังเรายังหน้าชา เข้าใจแล้วคำว่า เชื่ออะไรมากๆแล้วมันจะกลายเป็นจริง

                อย่างไรก็ตาม Sarah เป็นตัวละครที่อุดมคติมาก แตกต่างจากตัวละครอื่นๆที่เน้นสะท้อนความหลากหลายในสังคม เช่น Becky และ Ann เด็กสาวทั้งสองน่าสงสาร อดอยาก และต้องเผชิญกับความโหดร้ายของโลกตั้งแต่ยังเด็ก Ermengarde เพื่อนสนิทของ Sarah ที่ถูกพ่อกดดันและถูกสังคม bully โดยไม่รู้ตัว Lavinia เด็กขี้อิจฉาชอบข่มเหงผู้อื่น และ Miss Minchin ผู้สนใจแต่ภาพลักษณ์และชื่อเสียงเงินทอง ทั้งหมดนี้เป็นความจริงในสังคมที่ตีแผ่ผ่านวรรณกรรมเด็ก 

               กลับมาอ่านอีกครั้ง เรายิ่งเข้าใจว่าทำไมตอนนั้นถึงอินเรื่องนี้ มันต่างจากวรรณกรรมเด็กหลายๆเรื่อง ปมปัญหาต่างๆคือความโหดร้ายที่มีอยู่จริง จินตนาการและการสมมติสารพัดเรื่องขึ้นมาของ Sarah เป็นเหมือนสัญลักษณ์บางอย่าง คือการพยายามจะปลอบประโลม และก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้น ด้วยจิตใจของตัวเอง ความเป็นนักสู้ ความแข็งแกร่ง มีอยู่เต็มเปี่ยมในตัวเจ้าหญิงตัวน้อย แทนที่จะระบายออกด้วยการแก้แค้น ความโกรธเกรี้ยว หรือพละกำลังแบบเรื่องอื่นๆ แต่ Sarah กลับอดทน ผ่านบทพิสูจน์ความเหนือชั้นไปแบบฉลุย 

                สรุปได้ว่า ทุกคนจะต้องตกหลุมรัก Sarah และตัวละครอื่นๆอย่างเช่น Becky หรือ Ramdass หรือครอบครัวตัวใหญ่ พวกเขาเป็นตัวละครที่ไม่ใช่แค่ทำให้เรื่องราวสนุกสนานมีสีสัน แต่ยังปลอบโยนจิตใจที่หมดหวังกับโลกอันหดหู่ใบนี้ได้ด้วย



    เนื้อเรื่อง

    "โดดเด่นในการใช้ Contrast เดินเรื่องด้วยอารมณ์ กระนั้นก็ยังคงความเป็นเด็กที่สดใส"

                 สิ่งที่รับรองได้คือความสนุกแบบพอดีๆของเรื่องนี้ ผู้เขียนถ่ายทอดอารมณ์มาได้ดีเยี่ยม ผ่านตัวอักษรไม่กี่บรรทัด ไม่แปลกที่เราจะเห็นภาพ Miss Minchin พร้อมกับโทสะและคำพูดร้ายกาจ หรือ Ermengarde คนขี้อายดูงุ่มง่าม เรื่องนี้สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะฉากที่บีบหัวใจมากอย่าง Sarah ระเบิดร้องไห้ครั้งแรกในห้องใต้หลังคาคนเดียว โยนตุ๊กตาทิ้ง ช่างปวดใจเหลือเกิน T_T เธอเข้มแข็งมานานเกินไป จนสุดท้ายเธอก็ต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นแค่เด็กเล็กๆ ที่มีอารมณ์ความรู้สึก ไม่ได้สงบนิ่งและหยิ่งทระนงอย่างที่แสดงออกตลอดเวลา

                เนื้อเรื่องแม้จะพลิกไปมาให้ได้ลุ้น แต่ท้ายๆเริ่มเดาง่าย เพราะพอเปิดตัวสุภาพบุรุษชาวอินเดีย ทุกคนก็รู้ว่าเขาจะต้องตามหา Sarah นี่แหละ แต่อะไรที่เราคาดไม่ถึงคือแผนการเนรมิตห้องใต้หลังคาให้กลายเป็นสวรรค์ ไอเดียน่ารักโรแมนติกนี้ทำให้เราอมยิ้มตาม และนึกย้อนไปถึงวัยเด็กบ่อยๆ เป็นเราๆคงรู้สึกว่ามันอะเมซิ่ง ต้องเป็นเวทมนตร์เท่านั้น 

                ในแง่ของ Contrast เราจะเห็นการเปรียบเทียบความรวยและจนอยู่บ่อยครั้ง นั่นคือส่วนย่อยในแก่นเรื่องนี้ ผู้เขียนคงอยากให้เราทำความเข้าใจช่องว่างระหว่างฐานะในสังคม ผลกระทบต่างๆ และหนทางท่ี่จะอยู่ร่วมกัน เราชอบแนวคิดที่ว่าทุกคนเป็นเจ้าหญิงได้ด้วยการให้และการวางตัว ไม่ใช่เพราะเงินทอง เพราะหน้าตาสะสวย หรือเพราะสายเลือด และ Sarah ก็เป็นตัวอย่างที่ดี เหมาะให้เด็กๆเลียนแบบ (ในตอนสุดท้ายเธอได้ทรัพย์สินกลับมาพันเท่า ซึ่งก็แฝงการสอดแทรกข้อคิด ให้เด็กๆทำตามนั่นแหละ)

                ส่วนเรื่องของภาษา ไพเราะงดงามสมความบริติช ที่สำคัญอ่านง่าย กระชับ เหมาะกับการเริ่มต้นอ่านนิยายภาษาอังกฤษ แต่เราไม่แนะนำชุด Classic Starts ตรงที่มันเป็นฉบับย่อ ตัดบทสนทนาออกไปพอสมควร (ส่วนเราอ่านเวอร์แปล เนื่องจากทั้งบ้านมีแค่สองเล่มแล้วไม่อยากอ่านย่อ T_T)

                พล็อตสนุก ข้อคิดดี สวยงามขนาดนี้ จะไม่อมตะได้ยังไง รักเรื่อง A Little Princess สุดๆ T v T


    ความรู้สึกส่วนตัว

              เราให้เป็นหนึ่งในหนังสือเล่มโปรด อ่านได้เรื่อยๆไม่เบื่อ (หายากนะเนี่ย) ดังนั้นก็จะอวยจนบรรทัดสุดท้าย คิดว่าเหมาะกับคนทุกวัยนะ ถ้าเด็กๆจะได้ความเพลิดเพลินจากเรื่องสมมติต่างๆที่ Sarah เล่าให้ฟัง ถ้าโตแล้วมาอ่าน ก็จะได้ขบคิดสิ่งที่เนื้อหาสื่อสารอยู่ได้ดียิ่งขึ้น เราหลุดเข้าไปในนิยายเล่มนี้ทีไรไม่อยากออกมา แอบใฝ่ฝันจะมีชีวิตที่สุขสบายแบบ Sarah แต่เราเป็นเจ้าหญิงอย่างเธอไม่ได้ ขอเสพความสวยงามที่ไม่ควรมีอยู่แต่ในหน้ากระดาษให้เต็มอิ่มก็แล้วกัน 

               ขอบคุณที่มอบความสุขและความทรงจำวัยเด็กดีๆให้เรานะ คุณผู้หญิงตัวน้อย


    - ilysm.

                

               






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in