ฉันรู้สึกอะไรหลายๆอย่างจากหนังสือเล่มนี้
ฉันรู้สึกอบอุ่น เจ็บปวด และอบอุ่นอีกครั้ง ฉันรู้สุึกว่าหัวใจฉันได้รับการโอบกอดและถูกฉัีกเป็นชิ้นๆตอนที่ได้อ่านมัน
มันเป็นหนังสือที่ดีมากจริงๆ และยังอบอุ่นอีกด้วย หัวใจฉันเอ่อล้นไปหมดตอนที่อ่านมัน ฉันรู้สึกว่าหัวใจของฉันถุกเติมเต็มด้วยสีสันทั้งหมดของโลกใบนี้ มันเป็นทุกอย่าง ฉันอ่านหนังสือมาหลายเล่มในปีนี้ แต่ฉันยังไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้เหมือนตอนอ่านเล่มนี้เลย
ฉันชอบที่หนังสือเล่มนี้ค่อยๆดำเนินเรื่องทีละสเต็ป โดยที่ไม่ได้เร่งร้อนอะไร แต่มันถูกเล่าออกมาได้อย่างดีมากๆ จังหวะของการเล่ืาเรื่องดีมากจริงๆ
ฉันชอบที่นักเขียนใช้ 1st POV ในการเล่าเรื่อง เป็นการตัดสินใจที่แลาดมากๆ เพราะมันทำให้คนอ่านสามารถเข้าถึงอารมณ์ตัวละครได้อย่างง่ายดาย และทำให้เข้าใจท้ังความคิดและความรู้สึกของตัวเอกได้ชัดเจนดี
ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับ “ความไม่ปกติ” แต่ฉันคิดว่ามันสามารถประยุกต์ได้กับทุกคนบนโลกใบนี้
ฉันชอบฉากที่ตัวเอกส่งข้อความหาคนแปลกหน้าผ่านแอพพลิเคชันมากๆ ตอนนั้นเขาถามว่าเขาจะทำตัวให้เป็นปกติได้อย่างไรในเมื่อทุกคนล้วนแตกต่าง และอะไรเป็นมาตราฐานของคำว่าปกติ ฉันชอบฉากนี้ที่สุดและคิดว่ามันคือใจความสำคัญของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ เพราะธีมเรื่องนี้เกี่ยวกับความไม่ปกติ อย่างที่ฉันกล่าวมาก่อนหน้านี้ว่าถึงแม้ว่าทุกคนอาจจะไม่มีโรคเดียวกันเหมือนกับตัวเอก แต่ทุกคนก็สามารถเข้าถึงเนื้อเรื่องนี้ได้ เพราะใครก็ตามที่แตกต่างมักจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดหรือไม่ปกติ
ฉันคิดว่าคำที่น่าเกลียดที่สุดที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมาคือ “ปกติ” ใครเป็นคนกำหนดมาตราฐานของคำพวกนี้กันล่ะ?
ฉันรู้สึกเสียใจที่ตัวเอกจะต้องคอยหลบซ่อนตัวตนของเขาเพื่อที่จะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้ ฉันคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่ทำให้มนุษย์เสียใจที่สุดคือการที่ต้องคอยซ่อนตัวตนของตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดหรอกเหรอ มันไม่ใช่เรื่องที่โหดร้ายหรอกเหรอ มันเหมือนกับเสือดาวที่พยายามจะลบดาวบนผิวหนังมันออก มันให้ความรู้สึกแบบนั้นแหละ มาคิดดูแล้ว มันมีคนมากมายที่ต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน ฉันได้แต่หวังว่าวันหนึ่งจะต้องไม่มีคนที่ต้องใช้ชีวิตราวกับเงา และทุกคนจะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่
มันมีฉากหลายๆฉากที่ฉันชอบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in