Breaking Bad ซีรีส์สุดดังที่มีคนกล่าวถึงและแนะนำให้ผมดูมากมาย จนในที่สุดก็ได้ลองหาโอกาสเปิดดูบ้างพอได้ดูเพียงแค่ตอนแรกเท่านั้นก็รู้สึกได้ว่าน่าติดตามโคตร ๆ ตัวละครอาจจะไม่ได้หล่อเหลามีเสน่ห์เหลือล้น แต่ความสามารถในการแสดงที่ออกมาให้เราดูนี่แหละบอกเลยว่ามันมีเสน่ห์ดึงดูดจนอยากจะรู้จักชีวิตของคนที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

เป็นเรื่องเกี่ยวกับครูสอนวิชาเคมีมัธยมปลายในเมืองแอลบูเคอร์คี, รัฐนิวเม็กซิโก“วอลเตอร์ ไวท์” (BryanCranston) ที่ดูแล้วชีวิตแสนจะธรรมดาสุด ๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเล้ยย พบว่าตัวเขาเองนั้นเป็น "มะเร็งปอด" ที่อาจจะทำให้เขานั้นมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน วอลต์เองก็หวังว่าก่อนที่ตัวเองจะตายนั้นเขาอยากจะเก็บเงินไว้ซักก้อน ไว้ให้กับภรรยาของเขาที่กำลังตั้งครรภ์ “สกายเลอร์”(Anna Gunn) และลูกชายวัยรุ่นของเขาอย่าง “วอลเตอร์จูเนียร์” (RJ Mitte) แต่ด้วยความสิ้นหวังอับจนหนทางวอลต์จึงไปร่วมมือกับอดีตศิษย์เก่าขี้ยาอย่าง “เจสซีพิงค์แมน” (Aaron Paul) เพื่อที่จะปรุงยาไอซ์ ขายเองโดยใช้เส้นสายของเจสซีและทักษะทางเคมีวิทยาของวอลต์โดยหารู้ไม่ว่ายิ่งเขาก้าวขาเข้าไปในวงการนี้ลึกเท่าไหร่เขาก็ยิ่งดำดิ่งลงไปในโลกของอาชญากรและยาเสพติดที่ยากจะถอนตัวมากขึ้นเท่านั้น

เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะเล่าผ่านสองตัวละครหลักของเราเลยก็คือครูสอนเคมี“วอลเตอร์ ไวท์”และลูกศิษย์ของเขา “เจสซี่ พิงค์แมน” (Aaron Paul) โดยคุณครูไวท์ผู้ทรงคุณธรรมเป็นคนดีมาตลอดชีวิต ถูกกดดันจากปัญหาสภาพแวดล้อมต่าง ๆ การเงินเอย หรือปัญหาชีวิตซึ่งทำให้เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอีกด้านหนึ่งก่อนตาย โดยจับมือกับลูกศิษย์ของเขาซึ่งเป็นเด็กมีปัญหาครอบครัว สะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมอีกมุมหนึ่งได้ดีและเขาเป็นตัวแปรสำคัญในการดำเนินเหตุการณ์ของเรื่องที่คาดไม่ถึง

                โดยส่วนตัวแล้วชอบการเล่าเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้มากๆ เหมือนกับเป็นการก้าวไปข้างหน้าก่อน และค่อยกลับมาเฉลยว่าปมของเหตุการณ์ที่เป็นอยู่นี้ว่ามันเป็นมาได้ยังไง ซึ่งสามารถเล่าสลับเรื่องราวของอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัวดูแล้วไม่สะดุดเลยจริง ๆ ผู้ชมจะไม่สามารถเดาได้เลยว่า เห้ย อยู่ ๆ มันมาอย่างงี้ได้ไงมันมาทำอะไรแปลก ๆ ตรงนี้ แต่พอถึงฉากที่เฉลยว่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์ในแต่ละตอนแล้วจะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มีเหตุผลที่เข้ามาสนับสนุนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

                ซีรีย์เรื่องนี้แสดงความเป็นวิถีของชีวิตมนุษย์ที่ดูแล้วธรรมดาสุดๆ ที่ปัญหาปะปนกันไป แต่ทำให้เราเข้าใจมุมมองของตัวละครได้อย่างดิบดี การกระทำต่างๆ คำพูด และการตัดสินใจ ของแต่ละคนนั้นล้วนมีเหตุผลบางฉาก ยังแฝงมุขตลกร้ายที่ถ้าผู้กำกับไม่เจ๋งจริงคงทำออกมาไม่ได้แน่ ๆ และยังสะท้อนให้เห็นความเลวทรามของมนุษย์ความเห็นแก่ตัว สังคมทุนนิยม ที่บีบให้คนที่ดีกลายเป็นคนเลวได้ไม่ยากอีกด้วย

               ขอยกให้เป็นซีรีส์ที่ใครยังไม่ได้ดูนั้นถือว่าพลาดอีกหนึ่งเรื่องเลยทีเดียว