25 th
((NolanCillian))
>> Merry Kiss...mas <<
#YourEyesAreWhereImLostIn
2 Hours Before Christmas
Silent Night
Holy Night
All is calm
All is bright
คงจะจริงอย่างที่เนื้อเพลงว่าไว้
คืนนี้เป็นคืนที่ช่างเงียบสงบ
มีเพียงเสียงเพลงจากโบสถ์เท่านั้นที่ดังคลอมาตามลม
เมืองที่เคยครึกครื้นกลับไร้ซึ่งผู้คนตามท้องถนน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะคนส่วนใหญ่ต่างก็ใช้เวลาฉลองคริสต์มาสกับครอบครัวภายในบ้านอันแสนอบอุ่น
ผู้กำกับหนุ่มหยุดตรงหน้าโบสถ์เล็ก ๆ เอื้อมมือไปเปิดประตู ทันใด สายตาหลายคู่ต่างจับจ้องมาที่เขา
ไม่รู้เพราะเป็นคนแปลกหน้าที่เข้ามาช้ากว่าเวลาเริ่มงาน หรือเพราะเป็นคนแปลกหน้าที่ทำให้อุณหภูมิภายในโบสถ์ลดลงจนรู้สึกได้
แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร มันก็ทำให้ คริส โนแลน รีบสาวเท้าเดินด้วยความรวดเร็วแล้วนั่งลงตรงที่ว่างทันที
เสียงเปียโนดังขึ้นอีกครั้ง ผู้กำกับหนุ่มยกกล้องคู่ใจขึ้นมา โฟกัสยังกลุ่มเด็กชายเด็กหญิงตัวเล็กที่ยืนเรียงแถวเพื่อร้องเพลงประสานเสียง
เมื่อผ่านเลนส์กล้องทำให้ทุกอย่างดูชัดขึ้นทันตา
ได้เห็นรอยยิ้มที่แสนไร้เดียงสา
และ...
เดี๋ยวนะ...
ดวงตาสีฟ้าในหน้าร้อนเบิกกว้างเล็กน้อย ฉับพลันเหมือนเสียงรอบกายก็พลอยแผ่วเบาไปด้วย ภาพทุกอย่างดูไม่ชัดเจนอย่างที่เคยเป็น
ยกเว้นก็แต่ดวงตาคู่สวยตรงนั้น
ดวงตาสีฟ้าที่เคยเย็นเยือกแต่ตอนนี้กลับดูอบอุ่น และขี้เล่น
ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นเนื้อเพลงแห่งความสุข
ร่างกายผอมบางเคลื่อนตามจังหวะดนตรีที่ตนเป็นผู้ขับกล่อม
แชะ!
แม้เพียงเสี้ยววิที่ได้สบตาโดยบังเอิญ แต่กลับทำให้ก้อนเนื้อในอกข้างสายเต้นไม่เป็นจังหวะ
แชะ!
รอยยิ้มกว้างถูกส่งผ่านมาทางเลนส์กล้องดวงตาสีฟ้าสวยสะท้อนรับกับแสงสลัว
คริสอธิบายไม่ได้ว่ากระจกสีที่เรียงตัวกันอยู่บนกำแพงสะท้อนสีอะไรออกมา
เขาไม่รู้ว่าตอนแสงกระทบกับดวงตาของนักแสดงหนุ่มตรงหน้ามันเป็นเฉดสีอะไร
เขาไม่รู้
เพียงแต่ภาพที่ได้กลับเป็นองค์ประกอบที่ดีเกินไปจนอยากจะเก็บไว้มองแค่เพียงคนเดียว
แชะ!
น่าหลงใหล...
คงจะสามารถใช้เป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดในตอนนี้
โน้ตตัวสุดท้ายเงียบลงไปแล้ว ไม่นานนักเสียงปรบมือก็ดังขึ้นระงมไปทั่ว
นักแสดงหนุ่มชาวไอริชลุกขึ้นยืน โค้งคำนับน้อย ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหากลุ่มเด็ก ๆ ที่กำลังกระโดดโลดเต้น
แชะ!
รอยยิ้มอ่อนโยนคือสิ่งที่ปรากฎในภาพอีกครั้งและอีกครั้ง
ถ้าเปรียบภาพถ่ายเป็นงานศิลปะแล้วล่ะก็
บอกได้เลยว่าภาพพวกนี้ ก็คงจะเป็นงานศิลปะที่สวยที่สุดตั้งแต่ที่เขาเคยสร้างมา
“คริส!”
แชะ!
—โดยเฉพาะเวลาที่คุณมองมาที่ผม
1 Hours Before Christmas
ผู้คนเริ่มทยอยกันเดินออกจากโบสถ์ เนื่องด้วยการแสดงและงานพิธีต่าง ๆ ได้จบสิ้นเป็นที่เรียบร้อย เหลือก็เพียงแต่รอให้ระฆังส่งสัญญาณบอกเวลาเที่ยงคืน
“ทำไมอยู่ ๆ ถึงมาที่โบสถ์ล่ะ? นึกว่าจะฉลองกับพวกทอมซะอีก” การที่คริสมาที่นี่ทำให้คิลเลี่ยนแปลกใจ
เขาคิดว่าผู้กำกับไม่น่าจะชอบอะไรแบบนี้—อย่างพวกดนตรีช้า ๆ
“ก็เห็นคุณไม่อยู่...เลยลองออกมาเดินดูน่ะ”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ในโบสถ์?” คนถูกถามยิ้มน้อย ๆ ยิ่งทำให้นักแสดงหนุ่มคิ้วขมวดมากขึ้นไปอีก
“ผมไม่รู้หรอกครับ...รู้แค่ว่าซานต้าทำผมหลงทาง”
—จะมีสักวันมั้ยนะที่ผมเข้าใจที่คุณพูด
เปียโนหลังเก่า, โบสถ์หลังเก่า ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คิลเลี่ยน เมอร์ฟี่เลือกที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยในวันเทศกาลแบบนี้
จริง ๆ ก็...ไม่ใช่แค่ของพวกนั้นหรอกที่เขาอยากจะใช้เวลาอยู่ด้วย
พลางเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ไม่ห่าง สายตาซุกซนมองนั่นมองนี่ไล่ตั้งแต่ทรงผมจนถึงเสื้อผ้า
ชุดเดิมที่ใส่เมื่อวานเลยนี่นา
หรือว่าไม่ใช่นะ...
“สำรวจผมสนุกมั้ยครับ”
คนถูกถามเม้มริมฝีปากแน่น รีบเสหน้ามองไปทางอื่น พยายามควบคุมให้หัวใจเต้นช้าลง
เป็นทีให้ผู้กำกับได้สำรวจคนตัวเล็กกว่าบ้าง
“ขอโทษนะครับ” มือหนาถอดเสื้อตัวนอกสุดของตัวเองออก จัดการคลุมมันให้กับคนข้าง ๆ แทน
“ผมไม่หนาวซะหน่อย” ถึงจะว่าไปแบบนั้น แต่เขาก็ปล่อยให้คริสจัดการกับการเสื้อผ้าอยู่ดี
“เสื้อคุณมันบางมากนะ ใส่ไว้เถอะครับ” ผ้าพันคอของคริสที่คิลเลี่ยนเห็นในทุก ๆ ฤดูหนาวถูกพันไว้รอบคอของเขาอีกชั้นหนึ่ง
นักแสดงหนุ่มมองตามทุกการกระทำ เม้มริมฝีปากเข้าหากันอีกครั้ง
—ทำไมต้องคุณดูแลผมขนาดนี้ด้วยล่ะ
“คริส...”
—คุณจะคิดกับผมเหมือนที่ผมคิดกับคุณรึเปล่านะ
Christmas
ถ้าเวทมนตร์วันคริสต์มาสมีจริง มันคงเป็นเวทมนตร์ที่ทำให้ดวงตาสีฟ้าทั้งสองคู่สบมองกันได้นานกว่าทุกครั้ง
ไรผมสีน้ำตาลเข้มปรกอยู่บริเวณเปลือกตาข้างซ้ายของคนตัวเล็กกว่า แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด
เป็นเขาเองต่างหาก ที่อดไม่ได้จนต้องยกมือขึ้นไปเกลี่ยให้มันพ้นทาง
และก็เป็นเขาเอง...ที่หลบสายตาเหมือนอย่างทุกครั้ง
—ถ้าผมบอกว่ารักคุณมากแค่ไหน คุณจะโกรธผมมั้ยนะคิลเลี่ยน
คุณจะเกลียดผมรึเปล่า
“คิลเลี่ยนครับ...”
ไม่สิ...
มันควรพอได้แล้ว
แค่นี้ก็มากเกินพอแล้วจริง ๆ
ไม่พูดนั่นแหละ ดีแล้วคริส...
“อ่า...ไม่มีอะ—“
ประโยคสุดท้ายกลืนหายไปในลำคอของผู้กำกับในขณะเดียวกับที่เสียงระฆังดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณเริ่มวันใหม่
มือหนายกขึ้นประคองใบหน้าของอีกคนไว้โดยอัตโนมัติ เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ ปล่อยให้ความรู้สึกแปลกใหม่เข้าแทรก
มันเป็นจูบที่คริสไม่เข้าใจความหมาย และไม่เข้าใจเหตุผล
ไม่ได้หนักหน่วง ไม่ได้วาบหวาม
ไม่ได้ลึกซึ้ง ไม่ได้ยาวนาน
ไม่อยากจะเสียมันไป
...แต่ก็จำใจจะต้องผละออก
ถ้าหากตอนนี้ ในที่ตรงนี้คือฉากหนึ่งในหนังของเขา มันคงจะเป็นวินาทีที่เขาอยากจะกดเล่นมันซ้ำไปซ้ำมาเรื่อย ๆ
วินาทีที่เราเเลกเปลี่ยนความรู้สึกได้โดยไม่ต้องเอ่ยคำใด
วินาทีที่เราต่างพยายามหาเหตุผลและคำอธิบายให้กับรสหอมหวานอันแปลกใหม่
และเป็นวินาทีเดียวกับที่ได้รู้ว่า...
“คริส...”
“...”
“...ผมรักคุณนะ” รอยยิ้มกว้างปรากฎขึ้นบนใบหน้าของนักแสดงหนุ่ม
“จูบเมื่อกี๊ก็...ถือว่าเป็นเมอร์รี่คิส...มาสก็แล้วกัน”
—ผมรักคุณจนแทบบ้าแล้ว
Merry Christmas X Kissmas <3
Pizza.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in