เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เพื่อนสนิทจากจิตใจxiaosorn
เมื่อผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามีความรัก
  • ทุกคนที่เข้ามาอ่านคงเคยมีความรักกันใช่ไหมคะ?
    แน่นอนค่ะ เราก็เคยมี ในมุมมองของเรา เราคิดว่าความรักเชิงหนุ่มสาวเป็นเรื่องไกลตัวมาก เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นสำหรับชีวิต อาจเป็นเพราะเรายังเด็ก หรืออาจเพราะหมดศรัทธาในความรักเชิงหนุ่มสาวแล้วว่าอย่างนั้นก็ได้

    "เขา" เป็นน้องผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเรา3ปีค่ะ ด้วยความที่เรามีสเปคแปลกๆ และไม่ได้ชอบคนหล่อ คนที่เราชอบ จึงไม่หน้าตาวิเศษเลิศเลอ เขาแค่ดูมีเสน่ห์ เป็นตัวของตัวเอง เราเจอน้องเขาตั้งแต่ตอนปฐมนิเทศ แล้วก็เจอๆห่างๆกันมาตลอดแหละ ไม่ได้ทักกันซะเท่าไหร่ จนได้มาทักกันตอนน้องหลงมานั่งใกล้ๆเรา เราชวนน้องคุย น้องก็ถามคำตอบคำ และมีเหตุการณ์ที่ดูเหมือนว่าน้องจะเลี่ยงที่จะคุยกับเราด้วย พอทักไลน์เขาไปเขาก็อ่านไม่ตอบ

    ประกอบกับที่เราไม่ได้ชอบใครมา1-2ปีแล้ว ตอนนั้นเราปิดกั้นเรื่องความรักกับตัวเองมาก เพราะชอบใครก็รู้ว่าไม่มีหวัง พอไม่มีหวัง แล้วจะหวังไปทำไมหละ ตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆจะได้ไม่เจ็บ แต่ครั้งนี้เราอ่อนไหวกว่าครั้งที่ผ่านมา เราชอบเขามาก เราอยากหวัง เพราะหวังแล้วมันฟิน มันมีความสุขดี แต่ความสุขแบบนี้มันไม่ยั่งยืนหรอกค่ะ แน่นอน เราเหมือนคนอกหัก จากที่กินยาจนอาการนิ่งแล้ว ก็กลับมาทรมานทุกลมหายใจอีกครั้ง

    เราฟังเพลงเศร้าทั้งที่ไม่เคยฟังมาก่อน เราเพ้อทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อนเช่นกัน เราพยายามขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างทางอ้อม เพราะเกรงใจ ทุกคนเขาก็มีเรื่องยุ่งจึงไม่อยากขอตรงๆ แต่ที่น่าเศร้าคือเสียงขอความช่วยเหลือของเรา ดังไม่ถึงใครสักคน

    แต่เราจะไม่โทษใคร ไม่โทษที่ทำไมไม่ฟังสัญญาณขอช่วยเหลือของเรา เราผิดเองที่หวัง ผิดเองที่โลภที่อยากจะเป็นมากกว่าคนรู้จักกัน ถ้าเราไม่หวังเรื่องสะเทือนจิตใจแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น

    รุ่นพี่ที่โรงเรียนบอกว่า ในเมื่อน้องเขาไม่สนใจ ก็ช่างมันเถอะเนอะ.. คำว่าช่างมัน มันไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเช่นเรา ความรู้สึกที่สะสมมาเป็นเดือน มันไม่เหมือนเงินที่สะสมมาตั้งนานแล้วมันก็หายไปง่ายๆด้วยการจับจ่ายภายในคราวเดียว ยิ่งฟังเราอารมณ์เรายิ่งจมดิ่ง

    พอได้คุยกับเขาก็ดีใจมาก พอไลน์ไปหาเขาแล้วเขาไม่ตอบก็หง๋อยอย่างกับหมาที่รอเจ้านายมาให้อาหาร ตอนนั้นเราสมเพชตัวเองมากๆ ถึงจะพยายามแสร้งยิ่มมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหลอกตัวเองมากเท่านั้น เราเกลียดตัวเองมากๆในตอนนั้น

    คงเป็นเพราะเราอาการดีจนเกือบปกติแล้ว อาการอกหักของเรามันเลยสลายหายไปในเวลาต่อมา ถือว่าเป็นอะไรที่โชคดีมากๆ เราเริ่มเข้มแข็งและมีสติ เราเริ่มรักตัวเองมากขึ้น แต่เราก็ยังเจ็บใจที่ไม่มีใครเห็นความรู้สึกของเราเลย ..เราบอกตัวเองเสมอว่าขอให้เราเข้าใจตัวเอง ดูแล อ่อนโยน รักและใจดีกับตัวเองก็เพียงพอแล้ว

    แต่ถึงอย่างนั้น เราไม่กล้าบอกใครหรอกค่ะ ว่าอย่ารักใครเลย ความรักแบบหนุ่มสาวมันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เพราะคนเรามองโลกต่างกันเนอะ แต่เราก็ยังคงต้องอยู่ในโลกเดียวกัน

    อยากบอกตัวเองว่า

    "ในวันที่เธอต้องเลือกว่าควรหยุดหรือพยายามต่อไป
    ในวันที่เธอต้องท้อ
    ในวันที่เธอต้องแสร้งยิ้มอย่างโดดเดี่ยว
    ได้โปรดจำไว้นะว่า
    ไม่ว่าเธอจะเลือกทางไหน เธอจะต้องแสร้งไปอีกนานเท่าไหร่
    ยังฉันก็ยังรักเธอ รักแบบไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น
    เธอกำลังพยายามและเธอได้พยายามแล้วนะ

    ถึงตัวฉันเอง "

    :)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in