เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เสน่หาคาตาโลเนียNuchanan
(12) สำนักพิมพ์
  • “แล้วแกเป็นไงบ้าง ต้องไปหาหมออีกหรือเปล่า” ลุงถามผม

    “ผมไม่เป็นไรแล้วน่าลุง ก็แค่ไปหาหมอดูอาการตามนัด เดือนหน้า”

    “ฉันก็ห่วงแกนะ สมัยแกเด็กๆ ฉันเคยเห็นตอนแกอาการกำเริบ ไม่พูด ไม่กินอะไรเลย โคตรน่ากลัว”

    พอลุงพูดถึงผมตอนเด็กๆ ผมก็นึกถึงแม่ขึ้นมา “ลุงรู้ไหม ลาเพหน้าเหมือนแม่ผมเลย” ผมบอก

    “เหรอ เออแปลกดี ฉันไม่รู้หรอก ตอนที่พ่อแกเอาแกมาอยู่ที่บ้านนี้ ตอนนั้นแม่แกตายไปแล้ว ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย”

    “ตอนที่แม่กินยาฆ่าตัวตาย ผมไม่รู้เรื่องเลย ผมเห็นแม่กินยาเป็นกำๆ แล้วก็นอนอยู่ชั้นล่าง นึกว่าแม่หลับไปเฉยๆ ถ้าตอนนั้นผมขึ้นไปเรียกพ่อที่ชั้นสอง แม่ก็คงไม่ตาย” ผมกลัวยาที่เป็นเม็ดๆ มาตั้งแต่ตอนนั้น

    “เฮ้ย เลิกพูดน่า ก็พ่อแกมีเมียน้อย แม่แกก็ทนไม่ไหว แกเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังร้อยกว่ารอบแล้ว ตอนนั้นแกห้าขวบ จะไปรู้อะไรได้ไง อย่าคิดมาก ถ้าแกช็อคนั่งนิ่งๆ เป็นปีๆ อีก ฉันไม่ช่วยนะโว้ย”


    เราดื่มเหล้ากันอีกคนละแบน พอเหล้าหมดจะเปิดขวดใหม่ ผมคิดอะไรขึ้นมาได้จึงหันไปถามลุงมิค
    “ลุงมีเบอร์ลาเพใช่ไหม แชทก็ได้ เธอพักที่ไหน ลุงรู้ใช่ไหม”

    ลุงมิคหัวเราะ หัวเราะเต็มเสียง เสียงดังลั่นห้อง ผมมองผ่านกระจกเห็นลูกค้าสองสามคนหันมาทางนี้ พวกเขาคงงงว่าเสียงอะไร แต่เขาอาจนึกว่าเสียงหัวเราะมาจากชั้นสองก็เป็นได้

    “อะไรกัน ลาเพไม่ให้เบอร์แกเหรอ ฮ่าๆ ฉันขอเบอร์โทรได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว แกเนี่ยมันเด็ก ทำงานก็ไม่ทำ หัดทำอะไรเองบ้าง เบอร์โทรไปหาเอาเอง โถ ไอ้กระจอก มาขอเบอร์สาวจากแฟนเก่าเขาได้ไง”

    ลุงหัวเราะร่วน ขณะนั้นเองก็มีคนโทรเข้ามือถือลุงมิค ลุงมิครับสายพูดไปยิ้มไป ท่าทางมีความสุขมาก

    “จ้า จ้า มาได้เลยจ้า พี่รออยู่นะคะ”

    “ผู้หญิงผมแดงคนนั้นจะมาอีกแล้ว” ผมพูดดักคอ

    ลุงมิคส่ายหน้า “ไม่ใช่”

    “หา อย่าบอกนะว่าลุงมีคนใหม่แล้ว”

    “ใช่” ลุงมิคพยักหน้า “แกก็กลับบ้านแกไปได้แล้ว” ผมลุกขึ้น สะบัดหัวไล่ความมึน คงดื่มมากไป ผมออกจากร้านมายา กลับไปนอนที่บ้านผม


    ***


    รุ่งเช้า ผมตื่นแล้วแต่ลุกไม่ขึ้น เลยนอนต่อ ผมถูกปลุกตอนเที่ยง ลุงมิคมาหาผมที่บ้าน ขึ้นมาถึงห้องนอนบนชั้นสอง “ฉันมาดูว่าไอ้กระจอกอย่างแกตายหรือยัง” ลุงมิคพูด ผมชักไม่แน่ใจว่าลุงจะมาปลุกหรือจะมาแช่ง

    “ลุงจะมาซ้ำเติมอะไรผมอีก” ผมลุกขึ้น ยังมึนหัวไม่หาย

    “ฉันจะมาบอกแกว่า” ลุงพูดพลางจุดบุหรี่สูบ ลุงมิคสูบบุหรี่ทุกครั้งที่มาบ้านผม ไม่เคยสูบในบ้านตัวเองหรือในร้านมายา ลุงบอกว่าไม่อยากให้กลิ่นบุหรี่ติด แต่บ้านผมมีกลิ่นบุหรี่ติดได้ไม่เป็นไร

    “เมื่อเช้าสำนักพิมพ์โทรมา เขาเห็นรูปที่แกอยู่กันที่สเปนแล้ว เขาขอบคุณฉันใหญ่เลยว่าฉันถ่ายรูปลาเพสวย น่าจะเอาไปลงหนังสือได้ ฉันก็บอกไปว่าฉันไม่ได้เป็นคนถ่าย ฉันจ้างตากล้องมาถ่ายไว้ดูส่วนตัว ถ้าจะเอาลงหนังสือ ฉันอยากให้ตากล้องไปตกลงเรื่องลิขสิทธิ์ที่สำนักพิมพ์”

    ลุงพ่นควันบุหรี่บางๆ ใส่หน้าผม

    “ฉันพูดขนาดนี้แล้ว แกยังคิดไม่ออกอีกเหรอว่าต้องทำยังไง”


    ผมอาบน้ำแต่งตัว ดื่มกาแฟดำสองแก้ว แล้วขับรถไปที่สำนักพิมพ์ แจ้งพนักงานต้อนรับว่าผมเป็นตากล้องที่ถ่ายรูปลาเพที่สเปน จะมาติดต่อเรื่องรูป สักพัก มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาผม เธอแนะนำตัวเองว่าเป็นผู้ช่วยของลาเพ ชื่อจอย คนนี้เองที่ลาเพซื้อกระเป๋ามาฝาก ผมเปิดมือถือให้ดูรูปลาเพที่ผมถ่ายจากหน้าจอกล้องถ่ายรูป

    “คุณเป็นคนถ่ายจริงๆ ด้วย” จอยพูด

    “เชิญทางนี้เลยค่ะ คุณลาเพกับบอกอกำลังประชุมกันอยู่พอดี”

    ผมเดินตามจอยไป เดินขึ้นบันไดไปสองชั้น ที่นี่ไม่มีลิฟต์ ลาเพจะทำหน้าอย่างไรถ้าเธอเห็นผม จอยนำทางผมไป เดินผ่านพนักงานที่โต๊ะทำงาน และกองเอกสารมากมาย เธอเปิดประตูห้องประชุมทางซ้ายมือของทางเดิน เชิญผมเข้าไป ในห้องมีโต๊ะสี่เหลี่ยม เก้าอี้หกตัว แบ่งเป็นสองข้าง ข้างละสามตัว บนโต๊ะมีแล็บท๊อป เอกสาร สมุด ปากกา วางอยู่ ของรกเต็มโต๊ะ ลาเพนั่งเก้าอี้ติดกับผู้หญิงร่างท้วม คงจะเป็นบรรณาธิการ

    “ต๊าย จอย เธอพาใครมาน่ะ หล่อเชียว เชิญนั่งค่ะ เชิญนั่ง” ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงดัง

    “ตากล้องที่คุณมิคให้ถ่ายรูปที่สเปนน่ะค่ะ” จอยพูด แล้วเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ด้านตรงข้ามกับลาเพ

    ผมยิ้ม พยักหน้าเป็นเชิงทักทาย ผมอยากจะไปนั่งเก้าอี้ว่างที่ติดกับลาเพ แต่ลาเพแผ่รังสีอำมหิตมาที่ผม ถ้าไปนั่งคงไม่ดีแน่ ผมเลยนั่งที่เก้าอี้ด้านตรงข้าม ฝั่งเดียวกับจอย

    “ฉันเป็นบรรณาธิการฝ่ายหนังสือท่องเที่ยวนะคะ ชื่อ แอร์ ค่ะ ยินดีที่ได้พบนะคะ คุณชื่ออะไรคะ” คุณบอกอแอร์ถามผม

    “ผมทัน ครับ ยินดีเช่นกันครับ” ผมตอบ

    “ลาเพ เธอไปเที่ยวเมืองนอกกับคุณมิค ทำไมไม่มีรูปคุณมิคสักรูป แล้วไหนเธอบอกฉันว่าคุณมิคเป็นคนถ่ายรูปเธอ แล้วนี่อะไร เธอกล้าลืมตากล้องรูปหล่ออย่างนี้ได้ไง หา” บ.ก.แอร์ขึ้นเสียงใส่ลาเพ หน้าผมชักตึงๆ

    “ไม่มีอะไรค่า ก็พูดกันเป็นอย่างนี้ประจำค่า” บ.ก.แอร์หันมาบอกผม

    “ขอโทษค่ะ” ลาเพพูดแค่นั้น เธอนั่งตัวลีบ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอต้องพยายามทำอะไรที่เธอไม่ชอบ คงโดนกดดันแบบนี้บ่อยๆ

    สามสาวไล่ดูรูปถ่ายในแล็บท๊อป “รูปสวยดีนี่” บ.ก.แอร์ชม ผมแอบหลิ่วตาให้ลาเพ เธอทำหน้างอใส่ผม

    “คุณทันรู้จักคุณมิคเหรอคะ ถึงไปถ่ายรูปในทริปส่วนตัวได้” บ.ก.แอร์ถาม


    ...ติดตามตอนต่อไป

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in