เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fan Fic | เอ้อร์หลาง x หงอคงivyminster
บทที่ 1 : มีตัวตน
  • "ความรักก็เหมือนคำสาป ที่ไม่มีวันหลุดพ้น"

        "หากเจ้าไม่สงบลง ข้าจะให้เห่าฟ้ากัดจนจมเขี้ยว" เอ้อร์หลางพูดด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย ซึ่งแสดงให้เห็นอยู่เป็นประจำ 

    ร่างเล็กยั่งคงสั่นเทาแม้สุนัขของเขาจะถอยออกไปแล้วก็ตาม มีเสียงสะอื้นดังขึ้นเป็นระยะ และถ้อยคำที่ฟังไม่ได้ศัพท์
       "ฆ่า... เหรอ?" ปีศาจลิงตัวเดียวกับที่เขาเคยพบ แต่ขนาดตัวเล็กกว่ามากนักได้พูดบางสิ่งออกมา ซึ่งคราแรกเข้าใจว่าทำได้เพียงคำรามเท่านั้น

       "หืม?" เอ้อร์หลางส่งเสียงกลับไปเป็นเชิงถาม

       "เจ้าจะมา.. ฆ่าข้าอีกแล้วเหรอ โฮฮฮ.... " ร่างเล็กเงยหน้าขึ้น ดวงตาปิดสนิท แต่น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย แผดเสียงร้องราวกับเจ็บปวดเหลือคณา
     
       "เดี๋ยวสิ เปล่าสักหน่อย ข้าไม่ได้มีเจตนาจะมาทำร้ายเจ้า" เหตุการณ์ตรงหน้าต่างจากที่เขาคาดไว้ หากเจ้าสิ่งมีชีวิตัวจ้อยนี่พุ่งเข้ามาทำร้ายหรืออาละวาดอย่างไร้เหตุผล คงจะรับมือได้ง่ายแสนง่าย แต่เหตุใดถึงได้ร้องกระจองอแงเช่นนี้ล่ะ? คล้ายว่ามีความรู้สึกนึกคิด ..มีจิตใจ

       "ทั้งเจ้า และคนที่แต่งตัวเหมือนกันหันอาวุธใส่ข้า แล้วจะให้ข้าวางใจได้อย่างไร " อีกฝ่ายท้วงกลับมาทันที "ข้าทำอะไรผิด"

       "ทำอะไรผิดงั้นรึ.. ก็การที่เจ้าอาละวาดนั่นไงคือสิ่งผิด"   
    อันที่จริง แค่เกิดมาต่างจากผู้อื่นก็ผิดแล้วกระมัง

       "ข้าไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้"

    พูดเก่งเป็นบ้า.. ผลของการถูกอบรมโดยฟ้าดินเป็นแน่ มองดูดีๆแม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผิดแผกจากปกติ แต่ขนสีทองอร่ามตลอดกายกับใบหน้าละม้ายคล้ายมนุษย์นั่น หากออกสู่โลกภายนอกคงได้รับความสนใจจากผู้อื่นไม่น้อย

       "ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า ตกลงไหม เช็ดหน้าเช็ดตาซะปีศาจลิง" 
    เอ้อร์หลางกระชับเสื้อคลุมสีเข้มก่อนจะสอดแขนเข้ากอดที่อกตน ผมสีดำขลับถูกรวบไว้เป็นมวยอย่างเรียบร้อยครึ่งหนึ่ง และเรือนผมยาวที่เหลือเรียงตัวสวยอยู่เบื้องหลัง เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายหวาดกลัวจึงทิ้งเกราะไว้ที่จวน แปลงกายเลียนแบบสามัญชน แต่เจ้าลิงนี่กลับบอกว่าตนยังคงเหมือนแม่ทัพเทียนเผิง แสดงว่าไม่มีโอกาสได้พบผู้คนมากนัก อาจจะไม่รู้จักมนุษย์อื่นใดเลยด้วยซ้ำ

    ฝ่ายวานรน้อยเริ่มคลายความระแวงลง ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ร่างกายนั้นเปลือยเปล่าอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะดูเหมือนแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงความเป็นคน

       หากเบื้องบนรู้ว่าข้าแอบลงมาคลุกคลีกับสิ่งนี้ ตำแหน่งผู้คุมกฎคงจะถูกลดทอนความเชื่อถือลงเป็นแน่ แต่ด้วยสถานะของปีศาจตนนี้ บุตรของเจ้าแม่หนี่วา.. ทำให้ข้าไม่อาจสะกดกลั้นความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ได้

    ระหว่างที่ดวงตาสีซีดจับจ้องอีกฝ่ายอยู่ แต่ความคิดคำนึงนั้นไปไกลกว่ามากนัก วานรน้อยเคลื่อนกายเข้าไปใกล้คนที่ตัวโตกว่าอย่างเงียบเชียบ มันสูงเลยเอวเขาไปเพียงนิด สีหน้าบ่งบอกถึงความขัดเคืองใจ มือเล็กเลื่อนไปกระตุกชายเสื้ออีกฝ่าย
       "นี่คืออะไร"

       "เอ๋?"

    เห่าฟ้าที่อยู่ด้านหลังเริ่มขู่เสียงเบา มันกัดฟันกรอดๆ ไม่พอใจที่มีคนมาเข้าใกล้นาย แต่เอ้อร์หลางไม่สนใจ

      "สิ่งที่พวกเจ้าสวมใส่ดูคล้ายกันไปหมด ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยก สิ่งนี้มันจำเป็นสำหรับพวกเจ้ามากงั้นหรือ?"
    คำถามถูกยิงมาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ผิดกับท่าทีเมื่อก่อนหน้า นี่ล่ะหนา ...เด็ก

       "นี่คือเสื้อผ้าอาภรณ์ มีไว้ปกปิดร่างกาย และในบางครั้งก็บ่งบอกถึงสถานะทางสังคม ยิ่งมีมากชิ้นก็ยิ่งแสดงถึงความสูงศักดิ์"   เอ้อร์หลางอธิบายช้าๆ โดยไม่แน่ใจว่าคนฟังจะเข้าใจในความหมายของมันไหม

     แต่เจ้าตัวกลับตอบสนองทันที ราวกับเข้าใจทุกสิ่งอยู่ก่อนแล้ว มันพยักหน้ารับและยังคงจ้องเขาอยู่

       "อะไรอีก?"  ข้าว่าข้าซ่อนตาที่สามไว้แล้วนะ..

       "ใบหน้าของเจ้าเกลี้ยงเกลา เหมือนท่านหญิงที่ข้าเคยเจอ ส่วนคนที่ตัดหางของข้าไป ดูจะเป็นพวกเดียวกับข้าเสียมากกว่า"

       "ข้าไม่นิยมไว้หนวดเครา ในขณะที่ใบหน้าของข้ายังเยาว์กว่าเทพท่านนั้น"

       "ความเยาว์คืออะไร?"

       "คือการอยู่บนโลกใบนี้มาน้อยวันกว่า"

       "งั้นเจ้าก็คงเยาว์วัยกว่าข้า เหตุใดจึงตัวโตนัก"

       "..."

    นี่เป็นวันที่เอ้อร์หลางเสินเปิดปากพูดมากที่สุดในรอบสัปดาห์


  •     ยามบ่ายคล้อยลมเริ่มพัดแรง ใบไม้ร่วงหล่นตามแรงไหวเอนของกิ่งก้านที่ถูกลมพัดต้องเป็นระยะ ไม่นานนักฝนคงตก.. เป็นฝนแรกในรอบเดือนหลังจากที่อบอ้าวติดต่อกันมาหลายวัน 
        และเป็นฝนแรกสำหรับวานรน้อยตัวนี้ ซึ่งสวมเสื้อสีขาวผ่องตัดกับกางเกงผ้าฝ้ายสีเหลืองเข้มเสียเรียบร้อย มันกำลังนั่งทานผลท้ออย่างมีความสุข

       เอ้อร์หลางซึ่งนั่งอยู่ห่างออกไปกำลังพินิจผลงานของตน.. เป็นครั้งแรกที่เห็นลิงสวมเสื้อผ้า แม้จะสีสดใสไปบ้าง แต่ก็เข้ากันอย่างน่าอัศจรรย์ นั่นคือคำขอแรกจากลูกลิงที่มีต่อคนแปลกหน้าอย่างเขา
    "ข้าอยากใส่เสื้อผ้าเหมือนกับเจ้า"

    ต่อจากเสื้อผ้าแล้วจะเป็นอะไรกันล่ะ?  ..เขาคิด

       แม้ว่าพอจะเดาได้บ้าง  แต่คำขอที่สองก็มาถึงไวนัก เมื่อสุนัขสีดำคู่กายวิ่งกลับมาหาพวกเขา พร้อมตะกร้าผลไม้หลากชนิดที่คาบอยู่ แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่ได้เก็บมาด้วยร่างสุนัข เห่าฟ้าเป็นสุนัขเทพที่สามารถแปลงกายเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำแข็งแกร่ง แต่น้อยครั้งนักที่จะเผยความลับออกมาต่อหน้าผู้คน
       "ขอบใจนะเห่าฟ้า" เอ้อร์หลางเอ่ยชม แล้วเอื้อมมือไปรับตะกร้ามาวางไว้ข้างตัว

    เมื่อปีศาจลิงเห็นเช่นนั้น จึงไม่รีรอที่จะกระโดดเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยถาม "คำที่เจ้าใช้เรียกเจ้านั่นคืออะไร?"

       "..." เอาแล้วไง 
    เอ้อร์หลางแสร้งกัดผลไม้ ทำเป็นไม่ได้ยิน จนกระทั่งอีกฝ่ายถามย้ำสามรอบได้ จึงตอบกลับด้วยท่าทีรำคาญ
       "นั่นคือ ชื่อ"

       "ชื่อ.. คืออะไร?" คำถามต่อมาไวปานฟ้าแลบ

       "คือคำที่ใช้แทนตัว เอาไว้เรียกคนหรือสิ่งต่างๆแบบเฉพาะเจาะจง ..เช่นว่าหากข้าเรียกเห่าฟ้า ก็หมายถึงเห่าฟ้าสุนัขของข้าเท่านั้น มิใช่คนอื่น"

       "ฟังดูแล้ว ค่อนข้างจำเป็นนะ"

       "ก็ทำนองนั้น" เอ้อร์หลางยกขวดน้ำขึ้นจิบ ร่างมนุษย์ชวนกระหายได้ง่ายกว่าปกติ

       "เจ้ามีชื่อหรือเปล่า?" ในที่สุดคู่สนทนาก็พูดในสิ่งที่เขาคำนวณไว้

       "มีสิ"

       "บอกข้าได้หรือไม่?"

       "ไม่ได้หรอก"

       "แล้วจะให้ข้าเรียกว่าเจ้าแบบนี้ต่อไปน่ะหรอ แล้วเจ้าก็จะเรียกข้าว่าปีศาจลิงเหมือนอย่างเคย ข้าไม่ชอบใจเอาเสียเลย"

       "แบบนั้นก็สะดวกดี.." เขาตั้งใจจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว เรื่องชื่อน่ะไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลย

       "ข้าจะมีชื่อไหมนะ?"  เจ้าตัวเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

       "ก็ปีศาจลิงอย่างไรล่ะ"

       "ข้าไม่ใช่ปีศาจ!!" น้ำเสียงต่อต้านปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน
       "ข้ารู้ตัวดีว่าถึงข้าจะแตกต่างจากเจ้า จากเหล่าสรรพสัตว์ที่นี่ แต่ข้าก็ไม่ใช่ปีศาจแน่นอน!" ผู้พูดมองตรงมาอย่างมั่นใจ สีหน้าแสดงความโกรธเคือง อารมณ์เปลี่ยนไปมารวดเร็วสมกับความไร้เดียงสา

    หากมิใช่ปีศาจ จะเป็นอื่นใดได้เล่า? สิ่งมีชีวิตที่พิเศษอย่างนั้นรึ
    ..

       "งั้นเจ้าจะพิสูจน์ตัวเองหรือ? ว่าจะเป็นสิ่งที่สูงส่งกว่าปีศาจชั่วช้าทั้งหลาย"

       "แน่นอน ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็น"
    ดวงตาสีเพลิงประสานกับนัยตาซีดเซียวของเอ้อร์หลางเสิน เผยให้เห็นความเด็ดเดี่ยวตั้งมั่นอย่างแรงกล้า จนเทพคุมกฎหนุ่มนั้นชั่ววูบอยากจะลองเดิมพัน ยอมแหกกฎสวรรค์ดูสักครั้งหนึ่ง เรียวปากบางคลี่ยิ้มอ่อนเพียงครู่ แล้วเอ่ยต่อไปอย่างนึกสนุก
       "เช่นนั้น จงสร้างตัวตนของเจ้าให้โลกรู้จัก ก้าวแรกของเจ้าคือการมีชื่อแซ่"

    ทันใด ปีศาจลิงสีหน้าแช่มชื่นขึ้น ดวงตาเป็นประกายด้วยความยินดี "งั้นเจ้า..."

       "แต่ข้าจะตั้งชื่อให้ เฉพาะสิ่งที่ข้าเป็นเจ้าของเท่านั้น" เอ้อร์หลางเสินพูดต่อเรียบๆ ด้วยตั้งใจจะปฏิเสธความหวังของอีกฝ่าย แต่กลับได้ผลตรงกันข้าม เมื่ออยู่ต่อหน้าสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยที่แสนวุ่นวายนี้ อีกฝ่ายยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวสีขาวนวล

       "ไม่เห็นจะเป็นไร ข้าเชื่อว่าเจ้าจะปกป้องและสั่งสอนข้าได้ ฉะนั้น.. ข้าจะเป็นของเจ้า" เขากล่าวอย่างไม่ยี่หระต่อความเฉยชาของฝ่ายตรงข้าม

    ...ความตั้งใจนั้นช่างน่าประทับใจ เทพสามตารู้สึกว่ามีบรรยากาศแปลกแยกบางอย่างมากระทบ สิ่งที่ทำลายความสงบเยือกเย็นใจจิตใจ
    ..
       "ซุนหงอคง" นามนั้นถูกบอกต่ออย่างชัดถ้อยชัดคำ

       "ซุน.. หงอคง?" อีกฝ่ายทวนคำอย่างฉงน "แปลว่าอะไร?"

       "ข้าจะบอกความหมายให้ทราบ ก็ต่อเมื่อเจ้าใช้ชีวิตดำเนินไปในทางที่ข้าคาดหวังไว้"

       "อย่างนั้นหรือ.." นี่เป็นข้อตกลงสินะ "เช่นนั้นพี่ท่าน เจ้าจะบอกชื่อให้ข้าทราบได้หรือยัง?"

    เอ้อร์หลางรู้ตัวว่าตนถลำลึกจนยากจะถอยกลับ เขาคงต้องมาที่นี่อีกในภาคหน้า แม้ทุกอย่างจะไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งใจไวในคราแรก แต่เขาก็มั่นใจว่าจะรับมือไหว ไม่ได้คิดเลยว่าเหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้ จะกระทบกับชีวิตผู้คุมกฎอันแสนสงบสุขของเขาอย่างใหญ่หลวงนัก

       "หยางเจี้ยน.. จงเรียกข้าตามนั้นเถอะ หงอคง"  

    แม้ใบหน้าจะมิได้เปื้อนยิ้ม แต่น้ำเสียงนั้นนุ่มนวลฟังรื่นหู ชื่อแรกที่หงอคงได้รู้จักสลักลึกในดวงจิต เสมือนทารกน้อยได้รับไออุ่นแรกจากมารดา ถึงขนาดสาบานกับตนเองด้วยใจแน่วแน่ว่า

    ....ข้าจะไม่ลืมเรื่องราวนี้ไปชั่วชีวิต

    แต่ชั่วชีวิตที่เหลืออยู่นั้น มันกลับสั้นราวฝันไป


    - IvyMinster -

    - ภาพประกอบจากเว็บ : https://pixabay.com

    อ่านทั้งหมดได้ที่ FAN FIC | เอ้อร์หลาง X หงอคง

    เรื่องสั้น ช่วงเวลา 500 ปี (เอ้อร์หลาง × หงอคง)

    ปฐมบท : ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
ทำไร ก็ ผิด (@fb3325989638675)
มาต่อได้ไหมคะ
ทำไร ก็ ผิด (@fb3325989638675)
มาต่อได้ไหมคะ