-- หากวาสนานำพา ความรักจะเผาผลาญจิตใจ เหตุผลยิ่งใหญ่เพียงใดก็มิอาจฉุดรั้งได้ --
•
•
"โฮ่ง! โฮ่ง!"
สุนัขสีดำตัวใหญ่เห่าอย่างบ้าคลั่ง เบื้องหน้ามันมีร่างหนึ่งซึ่งสูงกว่าไม่มากนัก กำลังสั่นสะท้านด้วยความกลัว
"ฮึก.. เจี๊ยก!"
...ลูกลิงตัวนั้นร้องอย่างตกใจ เมื่อเห่าฟ้า สุนัขของข้าขยับเข้าไปใกล้ขึ้น นั่นน่ะรึ? ลิงยักษ์ที่ถล่มเขาฮัวกั่วซานเมื่อสามวันก่อน
...
"เทพเอ้อร์หลาง! แย่แล้วล่ะ เง็กเซียนมีรับสั่งให้เชิญท่านไปที่วังโดยเร็วที่สุด" เสียงจากเซียนหลวงปลุกเทพสามตาขึ้นจากภวังค์ งานแม่ทัพของเขานั้นสร้างความเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก แม้ช่วงนี้จะมีเพียงงานนั่งโต๊ะ แต่เอกสารที่ต้องเขียนและทบทวนก็มีมากจนล้นโต๊ะทำงาน
เอ้อร์หลางขยับกายขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความปราดเปรื่องผิดวิสัยของผู้ที่เพิ่งตื่น ผมยาวสีสว่างปลิวสไวอยู่เบื้องหลัง เมื่อเขาเดินตรงไปที่ประตูจวน
"มีเรื่องอะไรกันรึ ?" น้ำเสียงนุ่มไพเราะจนขัดกับวาจาที่เนิบนาบ ถึงอย่างไรก็ยังน่าฟังเสมอ
"ข้าก็ไม่ทราบรายละเอียดนัก แต่เห็นว่ามีปีศาจออกอาละวาดในโลกมนุษย์ขอรับ" เซียนวัยกลางคนกล่าวขณะเดินตามเขาออกไปภายนอก
"เหลวไหลน่า พวกปีศาจไม่กล้ากำแหงท้าทายอำนาจสวรรค์ นับตั้งแต่พันปีก่อนแล้ว เจ้าคิดว่าเขตแดนที่เจ้าแม่หนี่วาสร้างขึ้นมีไว้ประดับเล่นงั้นรึ?" คำพูดยาวเหยียดพรั่งพรูออกมาโดยปราศจากอารมณ์ร่วมใดเช่นเคย
"เอ๋า แล้วท่านจะมาเค้นกับข้าให้ได้เรื่องอะไร ท่านแม่ทัพ.. ยังไม่ตื่นดีหรือขอรับ? หัวเสียน่าดู"
" ... " เอาเถอะ ถามเซียนท่านนี้ไปคงไม่ได้ความ
เอ้อร์หลางก้าวย่างเพียงหนึ่งก็สามารถไปถึงหน้าวังสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว เขาเร่งฝีเท้าโดยไม่รีรอเซียนคนเดิมอีกต่อไป
"เอ้อร์หลางคารวะองค์เง็กเซียน" เบื้องหน้าตัวเขาที่กำลังคุกเข่าอยู่นั้นคือเง็กเซียนฮ่องเต้ เคราของพระองค์กระตุกครั้งหนึ่งก่อนจะรีบเอ่ยอย่างร้อนใจ "ลุกขึ้นเถอะแม่ทัพ"
เมื่อเทพสามตาลุกขึ้นยืนประจำที่ดีแล้ว ถึงรู้ว่ามีเซียนและแม่ทัพแห่งทิศทั้งแปดยืนเข้าเฝ้าอยู่ครบถ้วน จากนั้นเง็กเซียนทรงแจ้งให้ทราบว่า ณ เขาฮัวกั่วซานเบื้องล่างลงไปนั้น มีปีศาจลิงยักษ์พละกำลังมหาศาล กำลังก่อความวุ่นวายอยู่ที่โลกมนุษย์ ไม่มีผู้ใดสามารถสื่อสารกับมันได้ จึงต้องการผู้ที่กล้าหาญลงไปกำราบ
...ปีศาจลิง? มีปีศาจลิงโผล่มาในเวลาเช่นนี้งั้นรึ?
เทพเอ้อร์หลางไม่รีรอที่จะอาสา แต่ช้าไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น ผู้ที่ได้รับภารกิจสำคัญนี้ไปคือแม่ทัพเทียนเผิงหยวนซ่วย ในสายตาเขาเทพท่านนี้มีวรยุทธก็จริง แต่ไม่ได้เลิศเลอนัก สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือปีศาจที่ท่านผู้นั้นได้ลงไปปราบมากกว่า
"ลิงตัวนี้เกิดจากหินเซียน ซึ่งอาบสุริยันจันทรามาร่วมพันปี มีพละกำลังมหาศาล หากปล่อยไว้จะเป็นภัยต่อโลกมนุษย์และสวรรค์"
คำพูดขององค์เง็กเซียนยังคงติดใจเอ้อร์หลางอยู่
หินเซียนนั่น.. ดูเหมือนจะเป็นหินเซียนที่เจ้าแม่หนี่วาทิ้งไว้ ปีศาจลิงตนนั้นคือบุตรของเจ้าแม่อย่างนั้นรึ?
เทพสามตาซึ่งเคยร่วมรบในครั้งที่ปีศาจวัวกระทิงหนิวโหม่วหวังมาถล่มสวรรค์ จนกระทั่งได้เห็นวาระสุดท้ายของเจ้าแม่หนี่วา ซึ่งสละตนเองฟื้นฟูสวรรค์และโลกมนุษย์นั้น ภายในใจลึกๆนึกเสียดายหากมิได้เห็นบุตรชายของเจ้าแม่สักครั้งก่อนถูกปราบสิ้นลง
..
"แม่ทัพหยาง การที่ท่านยังอยู่ตรงหน้าข้านี้เป็นดั่งฟ้าลิขิต ข้าคงวางใจฝากฝังสิ่งสำคัญเบื้องหลังเอาไว้ได้"
เสียงของเจ้าแม่หนี่วา ภาพรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขนั้น เขายังจำได้ดีแม้มันผ่านมาร่วมพันปีแล้วก็ตาม
"ในคราแรกข้าคิดว่าท่านหมายถึงโลกเบื้องหลัง แต่หากเป็นอย่างที่ข้าคิดในเวลานี้แล้วล่ะก็...
ท่านได้ทิ้งสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินรับมือให้กับข้าแล้วล่ะ" พูดเช่นนั้นแล้วเรียวปากบางก็ยกยิ้มอย่างนึกขันตนเอง
.. ข้าจะปกป้องปีศาจได้อย่างไรกัน?
แต่กระนั้นในเวลานี้เขาก็กลับมายืนอยู่ที่นี่
เขาฮัวกั่วซานเป็นเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้นานาพันธุ์ ด้านตะวันออกติดกับทะเลเหลือง กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทุกเช้าได้จากยอดเขา เป็นทัศนียภาพสวยงามน่าจดจำ แม้ในวันนี้จะต่างออกไปกว่าทุกวัน
เบื้องล่างลงไปมีปีศาจลิงยักษ์คำรามด้วยเสียงดังลั่น เอ้อร์หลางยืนมองอยู่สูงขึ้นไปบนยอดเขา สำรวจรูปกายที่ดูอย่างไรก็เป็นได้เพียงปีศาจไร้สำนึก เบื้องหน้ามันคือเทพเทียนเผิงหยวนซ่วย ซึ่งดูจะตึงมือกับการกำราบมัน ในขณะที่เทพเทียนเผิงง้างคราดเตรียมลงมือครั้งสุดท้ายเพื่อบั่นคอลิงยักษ์จากด้านหลัง ดวงตาสีซีดของเอ้อร์หลางก็หรี่ลง เขาคงทันเห็นวาระสุดท้ายของ"ปีศาจตนนี้"เช่นเดียวกับท่านผู้นั้น
แต่เปล่าเลย...
เขาทันเห็นสีหน้าเวทนาของแม่ทัพเทียนเผิงในขั้นสุดท้าย..
เห็นองค์โพธิสัตว์กวนอิมปรากฏกายขึ้นและหยุดทุกอย่างเอาไว้
เห็นลิงยักษ์ที่ถูกตัดหางไปเมื่อก่อนหน้า ร่างหดเล็กลงจนเท่าเด็กเจ็ดขวบ
แต่ไม่ทันสังเกตเลยว่าตัวเขาเองนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แม้เพียงครู่เดียวก็ตาม
- Ivyminster -
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in