เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หยิบอุปกรณ์Bun's intern
เป็นพิสูจน์อักษรก็อ่านวนไปสิ รออะไรอยู่ล่ะ
  • เตรียมโน้ตบุ๊กของคุณให้พร้อม


    ถ้ามีพจนานุกรมเอามาด้วยก็ได้


    ขนมกับกาแฟก็อย่าให้ขาด


    ที่สำคัญเครื่องเขียนทั้งหลายต้องมีให้ครบค่ะ

    เอาแล้วเนอะ ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปกันเลยเนอะ :P


    ขอบคุณรูปสวยๆ จากน้องเจ๊าะแจ๊ะน้องฝึกงานฝ่ายกราฟิกของบันบุ๊คส์เองจ้า

    น้องมีเพจที่ลงผลงานของตัวเองด้วยน้า >จิ้มที่นี่เลย< (แอบขายตรงเล็กน้อย)


    1 มิถุนายน 2559 - วันที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้

    เปิดประสบการณ์ฝึกงานวันแรกพร้อมกับสายฝนค่ะ...ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ฝนเทตั้งแต่ฝึกงานวันแรกเลยค่าาาา อิฟ@#กรก+ด่ไดมย/*-านเผอ&ศาทง#@


    ตามวิถีเด็กยุคปัจจุบันตื่นเช้าขึ้นมาลุกขึ้นจากเตียงได้ สิ่งแรกที่หลายคนอาจจะต้องทำ คือการเช็คหน้าฟีดเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ เราก็หลีกหนีกิจวัตรข้อนี้ไม่ (ค่อย) พ้นเช่นกัน ขณะที่นั่งงัวเงียขี้ตาพร้อมถูๆ   ไอโฟนคู่ใจไปด้วยนั้น สิ่งที่ตาคู่น้อยๆ ของเราเห็นเต็มหน้าฟีดคือการอัพสเตตัสของเหล่าผองเพื่อนที่กระจายตัวกันไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อฝึกงานนั่นเอง 


    แน่นอนค่ะ...






    มันบ่นกันยับเต็มหน้าฟีดเลยค่ะ ฝนตกทำไรวะไปตกเหนือเขื่อนนู่น, เอดรอกกกก ฝนตกรถติด จะไปทันไหมวะ, เปิดการฝึกงานกับสายฝนและมาสคาร่าที่ไหลเยิ้มของเราเองไงจะอะไรอีกล่ะ,  กูใส่รองเท้าหนังลุยน้ำตั้งแต่วันแรกเลยจ้ะฉี่วี๊ตดี๊ดี และอีกมากมายพร้อมกับการเช็คอินบอกสถานที่ทำงานกันให้ควั่ก   (ไม่ไปตามรอยเพื่อนยันที่ฝึกงานหรอก ไม่ต้องทิ้งลายแทงไว้ให้จ้ะ อิ๊ มองบน)


    แต่สำหรับเราที่พักอยู่ในซอยเดียวกับบริษัทการเดินทางไม่ใช่ปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาคือเราเกลียดฝนค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะเป็นมนุษย์ประเภทที่เกลียดฝนตกในทุกสถานการณ์ และทุกสถานที่มากๆเพราะนอกจากมันจะเฉอะแฉะแล้วมันยังทำให้อารมณ์เราค่อนข้างขุ่นมัวบวกเพิ่มไปด้วยความมึนๆอึนๆ ซะด้วย แต่ทำไงได้อะ ก็ต้องไปฝึกงาน พี่นัดสิบโมงว้อยยยย เอ้า! ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว โอเคค่ะ พอจัดการตัวเองเสร็จก็พร้อมแล้ว go! go! go! 



    มาถึงบริษัทปุ๊บโทรไปตามเบอร์ที่พี่แพรให้ไว้ แต่มั่นใจว่าคนที่รับสายไม่ใช่พี่แพรอะ XD พี่บอกให้รอก่อน เดี๋ยวลงไปรับ เราก็นั่งรอเนอะ ระหว่างนั้นเราก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งดูหมวยๆ นั่งอยู่ข้างๆ กัน เดาว่าน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันและน่าจะจะมาฝึกงานเหมือนกันนี่แหละ แต่ก็ยังไม่กล้าทัก เลยได้แต่นั่งทาถูๆ ไอโฟนรับข่าวสารอปป้าในยามเช้าต่อไปค่ะอาเมน



    นั่งรอได้สักสิบห้านาทีมั้งก็มีพี่ผู้หญิงตัวผอมๆ ผมยาวคนหนึ่ง (ที่มารู้ทีหลังว่าชื่อพี่ปอ :3) ลงมารับเรากับเด็กฝึกงานที่ไม่รู้สังกัดอีกสามคนเคลื่อนตัวขึ้นไปยังชั้นห้าอันเป็นที่ทำงานของชาวบัน และชาวแซลมอนเรานั่งแกร่วอีกสักพักก็เจอกับเด็กฝึกงานกลุ่มหนึ่งประมาณสามสี่คนมั้ง เออแต่ผู้ชายผมฟูๆ ที่ขึ้นมาพร้อมกับเราโดนแยกตัวไปอย่างเร็ว ได้ยินแว่วๆ ว่ามาฝึกที่แซลมอนเฮ้าส์ และแล้วก็เหลือเพียงกลุ่มหญิงล้วนนั่งหน้าสลอนกันในออฟฟิศค่ะ ก็มีการทำความรู้จักกันตามประสาเด็กผู้หญิงอะเนอะ ปรากฏว่ามีคนมาจากมอเดียวกับเราด้วยค่ะ ว่าแล้วเชียวว่าหน้าคุ้นๆ อิอิ สรุปช่วงทำความรู้จักได้ความคือวันนี้มีเด็กฝึกงานของแซลมอนมาทั้งหมดสี่คน และยังขาดไปอีกสองคน ส่วนของบันบุ๊คส์ค่ะ ประกาศรายชื่อสี่คนแต่ตอนนี้มีกันอยู่สองคน โธ่ ชีวิต orz ทำไมเพื่อนทำกับเราแบบเน้


    กว่ากองบันบุ๊คส์ทั้งสี่คนจะมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมายเอ่อ ก็นัดนั่นแหละ อีกสองคนเค้านัดพี่ที่กองฯ ไว้ไงแต่ไม่ได้นัดเรากับน้องฝ่ายกราฟิกนี่ งุ่ยยยย ก็ปาเข้าไปวันที่ห้าของการฝึกงานแล้ว และแน่นอนว่าพอรวมตัวเด็กฝึกงานกองบันครบแล้ว ไปซี้ รออะไรล่ะคะ ไปประชุมค่ะ อิ้วววว


    พนน. ย่อมากจากพี่หนุงหนิง (ย่อเองแหละ อิอิ) หัวหน้ากองบันของเราเรียกประชุมเพื่อทำความรู้จักและนัดแจกแจงงานค่า ประชุมวันนั้น พนน. ก็ให้พี่แพรกับพี่หยาดเป็นคนอธิบายโปรเจ็กต์คร่าวๆ ของกองบันในช่วงนี้ให้ฟังบอกไม่ได้หรอกว่ามีโปรเจ็กต์อะไรบ้าง ความลับทางราชการน่ะ (เรียกความลับทางราชการได้รึเปล่าหว่า อิอิ) และตบท้ายที่ พนน. ถามว่าทำไมถึงมาฝึกงานเป็นฝ่ายพิสูจน์อักษร เอิ่มมมม เจอคำถามนี้ไปก็เอ๋อเหมือนกันนะคะ พนน. 


    เอาตามตรงการที่เรามาฝึกงานในตำแหน่งพิสูจน์อักษรเนี่ย เพราะอะไร ยังประมวลผลออกมาไม่ค่อยจะถูกเลยค่ะ แต่ตอนนั้นที่ตอบ พนน. ไป ก็ดูดีมีหลักการนะ (เหรอ) ก็ตอบไปประมาณว่าเพราะเรียนเอกไทย พนน. ก็แบบ ฮะ! เพราะเรียนเอกไทยเลยอยากฝึกงานเป็นพิสูจน์อักษรเนี่ยนะ เราก็พยักหน้าหงึกๆ หงักๆ พร้อมทั้งบอกเหตุผลเพิ่มเติมไปอีกนิดหน่อยว่าเคยทำวารสารคณะฯ ในตำแหน่งนี้มาก่อนด้วย แต่ค่อนข้างจะไม่เข้าใจ และสงสัยการทำงานของตำแหน่งนี้พอสมควร ก็แหงแหละ ตอนทำวารสาร เราได้ทำอะไรนิดหน่อยเอง ก็สงสัยไงว่าถ้างานของฝ่ายนี้มันน้อยจริงๆ แล้วทำไมล่ะ ทำไมถึงต้องมีตำแหน่งนี้ในทุกสำนักพิมพ์ด้วยล่ะ (วะ)


    ขอวาร์ปกลับไปเล่าเรื่องช่วงก่อนฝึกงานแป๊บ เราเคยไปปรึกษาอาจารย์ว่า อาจารย์คะหนูได้ฝึกงานในตำแหน่งพิสูจน์อักษรแหละ หนูกลัวจังเลยค่ะแบบ อ๊ายยยย อาจารย์คะ มันต้องโหดร้ายมากแน่ๆ ฟีลเดียวกับพจมานตอนเดินเข้าบ้านทรายทองชัวร์ เอ้า เพลงมา นี่คือสถานแห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่.. ฉันยังไม่รู้ เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน~



    อาจารย์ก็เตือนสติเราว่า ใจเย็นๆ นะ อย่าพึ่งสติแตก (ทั้งที่ในความเป็นจริง อาจารย์คงอยากยื่นยาระงับประสาทให้ไรงี้ 555) พี่ที่กองเขาไม่เชือดหนูหรอกจ้ะ นี่อาจารย์แนะนำนะ หนูควรพกพจนานุกรมติดตัวไปด้วยนะหนู พิสูจน์อักษรเรื่องคำถูกคำผิดต้องแม่นนะ (จ้ะ ได้ข่าวว่าอีพีที่แล้วที่เผยแพร่ไป พนน. ทักกลับมาในกรุ๊ปไลน์ด้วยความเร็วสูงหลังจากเผยแพร่ว่า มีคำผิด T____T แม่นมากไหมล่ะอิหนูเอ๊ยยยย) 



    เราก็แบบ โหหหห! อาจารย์คะขนาดนั้นเลยเหรอ พลางนึกถึงพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ เล่มใหญ่ขนาดทุบหัวคนตายที่นอนแอ้งแม้งบนเตียงนอนเราที่หอ-แหม! รักมากขนาดไหนก็ลองคิดดูนะ พาขึ้นเตียงด้วยทุกคืนเลย คือปกติสำหรับหลายๆคนอาจจะต้องมีหนังสือสวดมนต์ไว้หัวเตียงใช่มะ แต่สำหรับเราไม่ใช่ไง พจนานุกรมไว้หัวเตียงคือคุณค่าที่คุณคู่ควรค่ะบรัยยยย~  เอาวะ พกไปติดหอที่กทม. สักหน่อยก็คงไม่ตายหรอก (มั้ง?) และอาจารย์ก็แนะนำนู่นนี่นั่นบลาๆๆๆ พลางให้กำลังใจว่าเออ  สู้นะ คิดเอาไว้ว่านี่คือฝึกงาน มันเป็นชีวิตก่อนเข้าสู่สมรภูมิการทำงานที่แท้จริงในอนาคต ถ้าหนูกลัว และคิดว่าจะไม่ไหวซะตั้งแต่ตอนนี้ตอนทำงานจริงจะเอาอะไรไปสู้เขา เลิกงอแงได้แล้ว (สาระที่มีอยู่จริงทุกสิ่งอันนั้นล้วนแล้วแต่มาจากคนอื่นทั้งสิ้น จากเราเหรอ อย่าหวังค่ะ 555)


    อะค่ะ แล้วก็วาร์ปกลับมารัชดาซอยสามได้แล้วค่ะ หลังจบการประชุม พนน. ก็ได้มอบหมายแชมเปญเอ้ย แคมเปญให้เด็กฝึกงานกองบันตัวโน้ยๆ ตาดำๆ ทั้งสี่คนจัดทำบันทึกเล่าเรื่องราวการเป็นเด็กฝึกงานในบันบุ๊คส์ลงเว็บมินิมอร์ (ก็ที่คุณๆ กำลังอ่านกันอยู่นี่แหละค่ะ แคมเปญของ พนน. และพี่ๆ กองบันบุ๊คส์)


    เอ่อใช่ ลืมเล่าถึงกิจวัตรประจำวันของเราในกองฯ ทุกๆ คนก็คิดว่าในทุกวันของฝ่ายปรู๊ฟจะต้องได้ปรู๊ฟงานใช่ม้า

     

     

     ใช่ค่ะ...

     

     

     

     

     

     





    คุณคิดผิด 55555555555


    หลายคนคงแบบกลอกตามองบนแล้วเบะปากเบาๆ



    แบบ โอ๊ย! อินี่ แล้วจะไปฝึกงานทำพระแสงดาบอะไรค้าาาา ถ้าไปฝึกงานแล้วหล่อนไม่ได้นั่งปรู๊ฟทุกวันน่ะ


    เหยยยยแก๊ นี่ปรู๊ฟนะยะ มันต้องผ่านสายตาของกองบรรณาธิการก่อนเว่ยถึงจะลอยมาเข้ามือปรู๊ฟได้น่ะเพราะฉะนั้นเราต้องรู้จักรออย่างสงบเนอะ 



    ที่สำคัญ... 

    มันยังไม่ถึงเทศกาลปิดเล่มย่ะ ฮึๆๆๆ ถ้าถึงช่วงนั้นเมื่อไหร่พี่ๆ ฉุดฉวยในกองฯก็บอกว่าได้งานยุ่งสมใจอยากแน่นอนจ้ะ อิอิ แต่ทุกวันนี้ก็มีงานมาให้ปรู๊ฟบ้างประปรายนะอย่างเช่นเนื้อหาที่ต้องใช้โพสต์ในเพจของบันบุ๊คส์ (* จำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่าต้องเข้าไปอ่านด้วยนะ! จำวรั้ยยย ทุกวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ เข้าไปเยี่ยมชมหน้าเพจ Bunbooks ด้วยค่า #มีความขายตรง) และ Tada! ได้ปรู๊ฟนิตยสาร giraffe ด้วยจย้าาาา (เล่มแรกที่ปรู๊ฟคือเล่มที่หญิงแย้-นนทพรธีระวัฒนสุข ขึ้นปกแหละ อิอิ) เพราะมีเจ้าหญิงแห่งวงการปรู๊ฟประทานงานมาให้เด็กโน้ยฝ่ายปรู๊ฟทั้งของแซลมอน และบันบุ๊คส์ได้ร่วมขบวนการหรรษา (?) ไปกับการตรวจดราฟต์ที่อัดแน่นด้วยคอนเทนต์ดีๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ เจ้าหญิงคนดีที่บางครั้งก็วางงานไว้บนโต๊ะพร้อมแนบโพสต์อิทแผ่นน้อยๆ ชวนให้ใจสั่นหวั่นไหว



    เห็นแล้วบับ โอ้พระเจ้า



    สรุปผลการทดลอง (ฝึกงาน)

    งานของปรู๊ฟในภาพรวมก็คือการอ่านทวนแล้วทวนอีกอ่านวนไปจ้า จำนวนรอบก็แล่วแต่ที่อะเนอะ 
    (ใช่มะ) ไอ้ที่อ่านทวนๆเนี่ยไม่ใช่แค่หาคำผิดนะ (คำผิดที่ว่านี้มาจากหลายสาเหตุด้วยกันทั้งพิมพ์ผิดเองด้วยความไม่รู้ ความเคยชินหรือแม้กระทั่งความแป้นลั่น-ในความคิดของเราไอ้อันหลังนี่น่ากลัวที่สุดเลยคุณลองคิดภาพสิคะ สมตติว่าตัวเองเป็นนักเขียนคนหนึ่งที่มั่นใจในสกิลภาษาไทยของตัวเองมากกกก (กอไก่ล้านตัว) แต่ตอนพิมพ์งานส่งดันรัวนิ้วหนักไปหน่อย ความแป้นเหย้าที่สิงสถิตในร่างก็ทำงานดีเกินเหตุ เบิ้ลตัวอักษรให้เฉยหรือไม่ก็นิ้วที่กดปุ่ม Shift อ่อนแรงกะทันหัน เลยกดสระอูไม่ขึ้นงี้ เราเข้าใจความแป้นลั่นนี้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ตบบ่าเบาๆ ในฐานะผู้ร่วมชะตากรรมคนหนึ่งที่พิมพ์งานบ่อย และก็ลั่นบ่อยเช่นกัน...) แต่มันรวมถึงการตรวจภาษา รูปแบบประโยคแม้กระทั่งข้อมูลในงานเขียน เราก็ต้องตรวจทานค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะเพื่อนๆตรวจข้อมูลด้วย อย่างเช่น เว็บไซต์อ้างอิงข่าวในตัวต้นฉบับผิดก็ลองหาอันที่ถูกแล้วเขียนแก้ไปซิ ถ้าหาไม่เจอรึไม่แน่ใจก็วงไปพร้อมเขียนบอกสักนิดว่าช่วยเช็กให้หน่อยได้ม้ายยยยเป็นต้น


    ดังนั้นฝ่ายปรู๊ฟสิ่งที่ควรมีติดตัวตลอดเวลาคือสติค่ะ สติ สติ สติถ้าตรวจปรู๊ฟแล้วไม่มีสติก็หลุดแน่นอนค่ะ คอนเฟิร์ม อิอิ

     

    เอ่อ... เพื่อนที่อยู่คณะเดียวกันเคยถามเราด้วยแหละ ว่าถ้าปรู๊ฟต้องรอนานขนาดนี้แล้วตอนว่างๆ ล่ะ ทำอะไร

    สำหรับออฟฟิศนี้ ถ้าไม่มีงานน่ะเหรอก็... 

    นั่งอ่านหนังสือของบันบุ๊คส์ไปค่ะมีเต็มตู้เลยหรือไม่ก็นั่งเขียนดราฟต์ของไดอารี่เด็กฝึกงานนี่แหละ เขียนเสร็จก็อ่านวนหาคำผิดต่อไปค่ะเพื่อนๆสนุกดี ฮืออออ

     

    แต่สำหรับวันนี้

    เรามีงานแหละ :p

    งั้นเราขอตัวไปนั่งปรู๊ฟงานต่อละกันนะ(ไหนบอกนานๆ ถึงจะมีงานมาไงยะหล่อน)

     

    เพราะฉะนั้นก็จบๆๆๆ ตัดจบตอนตรงนี้แหละเจอกันอีพีหน้าค่ะ



    ป.ล. ถ้าถามว่าทำไมตอนนี้รูป GIF เยอะจัง อยากบอกว่าอัดอั้นน่ะ... เดี๋ยวๆๆ ได้ข่าวว่าเพิ่งมารู้ไม่ใช่   
    เหรอว่าใส่ลูกเล่นแบบนี้ได้น่ะ ว๊ายยยย อายจุม บทนี้เลยขอขน GIF มาประชันกับทีมมินิมอร์สักหน่อย ว่างๆ มาห้องกองบันกับกองแซลบ้างนะ เรายังไม่เคยเห็นหน้าพวกเธอเลยอะหรือว่าเคยเห็นแล้ว... แต่นึกว่าเป็นพี่ที่ออฟฟิศหว่า อุ่ย! เราไม่ได้ว่าอะไรใครนะ แต่พอดีพี่ที่ออฟฟิศทุกคนหน้าเด็กน่ะ -,.-  อิอิ

    จบตอน

    บายจ้า

    แพรแพรฝ่ายปรู๊ฟเองไงจะใครล่ะ   

     


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in