เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นั่งเขียนท่ามกลางแสงดาวDC K ToKa
ชีวิตมีอะไรให้เครียดอีกเยอะ
  • เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาได้มีการประกาศผล Admissions ซึ่งเป็นการประกาศผลว่าน้องๆจะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยไหน คณะไหน สาขาไหน จากที่เลือกมา 4 อันดับ และแน่นอนว่าในวันนั้นน้องหลายๆคนคงทั้งเครียด ทั้งตื่นเต้น และกระวนกระวายใจแน่ๆ เพราะมันเป็นอนาคตที่ได้เลือกไว้ และเพราะความคาดหวังว่าอยากเข้าเรียนที่นี่ความเครียดก็คงต้องตามมาเป็นปกติ

    เครียดเพราะคาดหวัง เมื่อคาดหวังไว้สูงจึงเครียดหนักตามไปด้วยเช่นกัน

    เครียดหนักจนต้องมีการบนบานศาลกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ ว่าถ้าติดอันดับหนึ่งจะแจกเงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้ก็ว่าไป ผมเองก็ไม่รู้ว่าเป็นการบนจริงๆหรือทำเพื่อเรียกกระแสกันแน่แต่ถ้ามีการบนจริงๆผมคิดว่าน้องที่ทำคงจะเครียดหนักจนไม่รู้จะพึ่งพาใครแล้วจริงๆจึงต้องมาพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าศักดิ์สิทธิ์จริงหรือเปล่าเพราะเท่าที่เห็นก็ยังไม่มีใครแจกเงินจริงจังซักที)

    เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ มันทำให้ผมนึกย้อนมองตัวเองตอนที่กำลังเรียน ม.6 ซึ่งเป็นชั้นที่มีความเครียดความกดดันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ --- ชนิดที่เรียกว่าเกือบตายคาโต๊ะเลยทีเดียว เพราะนอกจากต้องเครียดเรื่องการเรียนซึ่งต้องเรียนต้องส่งงานเพื่อให้ตัวเองจบระดับชั้นมัธยมแล้ว ยังต้องเครียดเรื่องหาที่เรียนต่ออีกด้วย ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีประสบการณ์ในส่วน Admissions เพราะผมดันสอบติดรับตรงไปซะก่อน แต่กว่าจะสอบติดนั้นก็สาหัสสากรรจ์เหมือนกัน เพราะการสอบนั้นต้องอ่านหนังสือหนักมาก แถมต้องแข่งขันกับคนอื่นอีกทั้งประเทศเรียกได้ว่าทั้งกดดัน ทั้งเครียด และยิ่งสอบไม่ติดก็ยิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก ในตอนนั้นผมเลยไม่พูดเรื่องที่เรียนกับพ่อแม่อยู่นานเลยทีเดียว

    เมื่อผ่านพ้นชีวิตมัธยมศึกษาแล้วก็ก้าวเข้ามาสู่ชีวิตมหาวิทยาลัย ซึ่งความเครียดเรื่องการเรียนก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย (เผลอๆเครียดหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ) อีกทั้งยังต้องเครียดเรื่องกิจกรรมต่างๆทั้งของมหาวิทยาลัย ของคณะ ของสาขาเยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งถ้าใครผ่านพ้นไปได้ก็ดี แต่บางคนพอเรียนไปเรียนมากลับพบว่าไม่ใช่ตัวเองซะอย่างนั้น เลยต้องซิ่วไปหาที่เรียนใหม่ต่อไป 

    พอจบชีวิตมหาวิทยาลัยก็มีทางเลือกให้สองอย่างคือเรียนปริญญาโทต่อหรือจะทำงาน ซึ่งไม่ว่าทางไหนก็ต้องเผชิญกับความเครียดอยู่ดีเพียงแต่ว่าจะหนัก จะเบา จะเจอในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง

    ชีวิตคนเราเจอแต่เรื่องเครียดแบบนี้เป็นเรื่องทำธรรมดาและคงจะเจออีกเรื่อยๆแบบไม่หยุดไม่หย่อน สิ่งที่เราทำได้คือต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า อะไรที่เราสามารถควบคุมมันได้ก็จัดการแก้ไขมันแต่ถ้าเจอสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เราก็ทำได้แค่ยอมรับและปล่อยให้เป็นไปตามสถานการณ์

    และเมื่อทำได้แบบนี้เครียดแค่ไหนก็ไม่หวั่นแล้วล่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in