เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The lost horizonmahtatar
อาหารการกิน
  • ตอนแรกคิดว่าอาหารจีนเป็นไงอ่ะหรอ บอกเลยว่าไม่รู้ 
    อาหารจีนที่เคยกินก็คือโต๊ะจีนเวลามีงานแต่งแถวบ้าน (ตรึกโป๊ะ!!) 555 ล้อเล่นน

    บอกตรงๆก็คือไม่เคยกินอาหารจีนแบบรสชาติจีนแท้ๆน่ะ ที่เคยกินก็เป็ดย่างเอ็มเค ติ่มซำไรงี้ 
    แต่จากคำบอกเล่าของคนรู้จัก เค้าว่ากันว่า อาหารจีนน่ะหรอออ มันๆ จืดๆ แป้งเยอะๆ ไงแกรรร
    นั่นแหละ คือข้อมูลเดียวเกี่ยวกับอาหารจีนที่เรารู้

    1.
    อาหารจีนมื้อแรกของเรา บอกเลยว่าความประทับใจติดลบ ถึงแม้ว่าตอนนั้นเราจะหิวแบบกินจามรีได้ทั้งตัว แต่เราก็กินมื้อแรกของเราไปได้แค่ครึ่งเดียว

    หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พักที่ลี่เจียง เราสามคนก็เดินหิ้วท้องออกมาหาข้าวกิน โดยฝากความหวังมื้อแรกไว้ที่ร้านค้าหน้าตาดี คนเยอะ และที่สำคัญที่เราเลือกร้านนี้ก็คือ มันมีรูปให้จิ้มโว้ยย มื้อแรก อย่าเริ่มให้มันยากเลย เดี๋ยวจะหิวกระเพาะทะลุไปซะก่อน

    เราสามคน จิ้มสิ่งที่คิดว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวกันมาคนละชาม ด้วยความคาดหวังว่าอากาศหนาวๆแบบนี้ กินอะไรอุ่นๆน่าจะช่วยให้หายหนาวไปได้บ้าง ซึ่งคำแรกที่เราซดกันเข้าไปเท่านั้นแหละ 
    ร้อนโว๊ยยย!!! ร้อนแบบลวกไปถึงลำไส้เล็ก ร้อนแบบไม่มีใครเตือนใคร 555 
    และที่มันร้อนขนาดนั้นเพราะว่าทั้งชามมันอัดแน่นไปด้วยแป้งแผ่นเล็กๆทั้งชาม ที่เก็บความร้อนดีมาก มีเศษผักและเศษเนื่อสัตว์มาให้แบบไม่ต้องจินตนาการว่าคืออะไร เพราะดูไม่ออกหรอก แม่งมาแต่ซาก เรากินกันตายกันไปได้แค่คนละครึ่งชาม เพราะพอมันเริ่มหายร้อน มันก็เริ่มเลี่ยน ละด้วยความที่แป้งเยอะขนาดนั้น เรากินต่อกันไม่ไหวจริงๆ

    เหมือนกับที่หลายๆคนบอกไว้  อาหารจีนมื้อแรกของเรา เป็นแบบที่เค้าเล่าๆกันมาจริงๆ

    2.
    เราประทับใจอาหารมื้อที่สองของเราในทริปนี้มากสุด มันครือออ...
    บุฟเฟ่หม้อไฟ!! ใช่แล้ววว หม้อไฟที่อยากกินมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไม่มีปัญญากิน 55 วันนี้ิ มันรวมอยู่ในแพคเกจทัวร์ล้าววว

    ระหว่างรอหม้อไฟมาเสิร์ฟ คุณป้าก็เอาของว่างมาให้เคี้ยวเล่นเรียกน้ำน้อย มีบิสกิตโป่งโปะงา นมอัดเม็ด(มั้ง) ละที่เด็ดสุด ครืออ เนื้อจามรีอบแห้ง รสชาติจะหวานๆคล้ายๆหมูสวรรค์บ้านเรา อร่อยจนอยากห่อกลับบ้าน แต่ไม่ได้ เพราะติดซอกฟันไปหมดแล้ว

    หม้อไฟอันนี้อัดแน่นไปด้วยเนื้อสัตว์มาให้เรากินแบบไม่อั้น เหมือนจะเข้าใจถึงความคับแค้นของเรามาจากเมื่อวาน ในหม้อมีทั้งกระดูกหมู และไก่ดำ ข้างๆมีถาดใส่สาหร่าย ผักกาดหอม เส้นก๋วยเตี๋ยว ฟองเต้าหู้ ข้าว ให้เลือกใส่หม้อได้ตามใจชอบ ถึงน้ำซุปที่นี่จะไม่กลมกล่อมด้วยซุปก้อนเหม่ือนบ้านเรา แต่เราก็ซดไปจนลืมนับถ้วย ด้วยความที่ซดตามหลังจากกินข้าวคลุกพริก(อะไรซักอย่างที่หน้าตาไม่อร่อย แต่อร่อยสัส!) รสชาติมันกลมกล่อมลื่นคอมากๆ ฟองเต้าหู้นี่เวลาที่อวบน้ำแล้วนะ อร่อยมาก ส่วนสาหร่ายที่คิดว่าอร่อยแน่ กลับเหม็นคาวจนกินไม่ลง กลิ่นเหมือนบ่อปลาหางนกยูงที่บ้านเลย

    เรานั่งกินเป็นคนแรกๆ และอิ่มเป็นคนสุดท้าย กินแบบไม่เกรงใจโอปป้าหน้าหล่อที่นั่งมองอยู่ตรงหน้าเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจเพื่อนร่วมทีมที่เค้านั่งรอ ก็คงนั่งกินต่อได้เรื่อยๆจนกว่าท้องจะแตกแหละ

    3.
    อาหารมื้อที่สั่งยากทีี่สุดในทริป กว่าจะได้กิน แทบล้มเลิกความตั้งใจ
    ด้วยความงบน้อยของเรา เราเลยตั้งใจว่า จะไม่ยอมโดนฟันหัวแบะที่โซนเมืองเก่าลี่เจียงอีกแล้ว
    เราเลยเดินกันไปเรื่อยๆ หาร้านที่หน้าตาราคาเป็นมิตร แล้วเดินเอาตูดไปจุ่มเก้าอี้ 
    ร้านแรก เป็นร้านที่มีเมนูอาหารแปะอยู่พร้อมราคา เห็นอย่างนี้แล้ว น่าจะรอด เราสามคนเลยเดินเข้าไปแบบไม่ลังเล
    แต่ อย่างที่บอกอยู่ตลอดแหละ ด้วยความดวงของเราแล้ว ไม่เคยมีอะไรได้มาง่ายๆ ต้องพยายามกันให้ตายไปข้างนึง

    หลังจากที่เอาตูดแปะเก้าอี้ วางของ แล้วเดินเอานิ้วไปจิ้มที่รูป สั่งข้าวผัด ลุงก็ถามอย่างดีว่าเอาใหญ่หรือเล็ก ละเอาอะไรอีกมั๊ย เราก็สั่งกันไปอีกอย่าง ลุงก็ยังไม่จบ ไม่ยอมเดินไปทำให้ซักที บอกว่าเรามาสามคนทำไมสั่งสองอย่าง คุยไปคุยมา ลุงทำหน้าลำบากใจละบอกข้าวหมด อ้าว! ลุ๊ง ละที่คุยกันอย่างดีว่าจะเอาใหญ่หรือเล็กตะกี๊คืออะไรรร 
    ด้วยความหิวข้าว อยากกินข้าว เราเลยทำหน้าจ๋อยๆให้กูเกิลทรานสเลทบอกกับลุงว่า อยากกินข้าว ละเดินหิ้วท้องออกจากร้านไป

    มาถึงร้านเป้าหมาย ที่ไม่รู้หรอกว่าขายอะไร แต่เห็นคนเยอะ ละมีหม้อตั้งอยู่ข้างหน้า เราเลยเดินดุ่มๆเตรียมไปเดาสุ่มเอาข้างหน้า

    สรุป มันคือร้านขายไก่ดำตุ๋นล่ะ มีข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว และก็ไก่ตุ๋นเป็นชิ้นๆให้เราเลือก
    เราก็ใช้วิธีเดิมคือ ให้กูเกิลคุยกับคนขายว่า "เอาน่องหนึ่งน๊า ปีกอีกหนึ่งน๊าา ละฟ่านเปล่าๆซานอันน๊าา ขอน้ำซุปด้วยน๊าาา" เราใช้วิธีพิมพ์ทีละคำ ละทำนิ้วบอกจำนวนแต่ละอัน ถึงยังงั้นป้าคนขายก็ยังทำหน้าไม่เข้าใจอยู่ดี เรายเลยพยักหน้าส่งๆตอบคำถามป้าไป ละกลับมานั่งลุ้นว่า กุจะได้กินอะไรวะ สรุป นี่เลย คือส่ิงที่เราได้มา สนนราคาทั้งหมดแล้ว อยู่ในระดับที่ประทับใจสุด ถ้าเทียบกับก๋วยเตี๋ยวมื้อแรกนะ
    (นอกจากในรูปแล้วยังมีข้าวต้มอีก 2 ถ้วย ดูหน้าตาไม่น่ากินใช่มะ ก็ไม่น่ากินจิงแหละ 555)


    มื้ออาหารประทับใจ
    รีวิวนม
    ราคากลางมาม่า
    3.
    มื้อนี้ที่แชงกีล่า เป็นมื้อที่สองของที่นี่ เมื่อวาน เราไปกินหม้อไฟ เนื้อ yak ดิบ และ deep fried yak กันมาแต่มิชชั่นยังไม่คอมพลีท เพราะเรายังไม่ได้กินพิซซ่า yak! เราเลยมาแก้ตัวกันที่มื้อสุดท้าย ก่อนกลับคุนหมิงตอนเย็น

    เราเดาสุ่มเดินเข้าร้าน ที่ข้างหน้ามีป้ายติดอาหารหน้าตาคล้ายพิซซ่าไว้ พอหย่อนตูดนั่ง เราก็สั่งซุปอะไรซักอย่างมา 1 และ พิซซ่า มา1 ได้อาหารมาตามรูปเลย พิซซ่าเป็นเนื้อจามรีผัดกับผัก รสชาติจืดๆ เสียดายที่มันจืดไปหน่อย แล้วไม่มีซอสอะไรให้เลย จะหันไปหาความจัดจ้านจากซุปที่หน้าตาเหมือนต้มยำเหรอ ก็ไม่ได้อีก เพราะมันแค่เหมือน แต่จริงๆมันคือซุปจืดๆที่เหมือนเอาของล้างตู้เย็นมาใส่รวมๆกันให้เรากิน คนที่นี่เค้าไม่ชอบกินผักกันหรือไงนะ

    สรุปแล้วมื้อนี้ เราก็นั่งกินเหงาๆฆ่าเวลาระหว่างรอไปขึ้นรถกลับคุนหมิง
    ระหว่างที่นั่ง เราก็สำรวจร้านไปด้วย ละพบว่า นอกจากเค้าจะไม่เปิดหน้าต่างแล้ว ยังไม่มีช่องระบายอากาศตรงไหนเลย ละกุเอาอากาศที่ไหนหายใจวะ ละถ้าคนเยอะๆกว่านี้ทำไงเนี่ย 
    ที่นี่ไม่มีฮีทเตอร์ แต่มีเตาขนาดใหญ่ตั้งอยู่แทน คือถ้าใครอยากอุ่น ก็ต้องไปนั่งผิงเอา ซึ่งเราว่ามันดีนะ มันทำให้คนที่ไม่รู้จักกัน ได้มานั่งรวมกัน ได้คุยกัน ลองนึกภาพว่าถ้ามีฮีทเตอร์ดิ ต่างคนก็ต่างนั่งที่โต๊ะ
    ก้มหน้าอยู่กับจอมือถือตัวเองนั่นแหละ เราเดาเอาว่าเตากลางบ้านแบบนี้ น่าจะเอามาจากบ้านแบบธิเบตจริงๆ
    4.
    กินตามฝูงคนอีกแล้ว
    วันนี้เรามาถึงคุนหมิง เข้าที่พัก แล้วออกมาหาข้าวกินด้วยสภาพหิวจัดเหมือนเดิม

    เดินออกมาข้างโรงแรม เจอร้านข้างทางที่คนยืนต่อคิวกันอยู่
    เราสามคนมองหน้ากัน แล้วยิ่มกริ่มในใจ อร่อยแน่ ราคาไม่น่าแพงด้วย เอาร้านนี้เลยแล้วกัน
    เราไปยืนชะเง้อดูว่าเค้าขายอะไร แล้วเราต้องทำยังไงบ้าง
    จากกรสังเกตก็คือ เค้าจะมีถาดใส่อาหารที่ตุ๋นไว้เป็นชิ้นๆ เรามีหน้าที่ไปหยิบชิ้นที่เราอยากกิน แล้วเอาไปวาง จากนั้นเค้าก็จะเอาไปยำให้เรา แล้วก็สั่งข้าวผัดมาว่าจะกินกี่ถ้วย แล้วเค้าก็จะคิดเงิน
    จำไม่ได้แล้วว่าจ่ายไปกี่บาท จำได้ว่าตอนหยิบมาก็ดูไม่เยอะนะ แต่พอยำรวมกันแล้วทำไมมันดูเยอะนะ มื้อนี้พุงกางอีกแน่ๆเลย

    รสชาติของยำ(ถ้ามันใช่จริงๆอ่ะนะ) มันมีแค่เค็มๆเผ็ดๆแล้วก็เปรี้ยวเฝื่อนๆด้วย สรุปก็คือรสชาติงงๆว่ะ
    แต่ข้าวผัดล้างตู้เย็นนี่อร่อย ข้าวเด๊งเด้ง ใส่เบค่อน พริกระฆัง มันฝรั่ง แล้วก็หัวหอม เค็มนิดๆ อร่อยดี จริงๆแล้วกินแต่ข้าวก็ได้ ส่วนเครื่องเคียงในถ้วยเล็กๆนั่นก็คือยำหัวไชโป๊ กะหล่ำม่วงดอง ซุปกวางตุ้ง กับน้ำต้มข้าว ซึ่งไอ้น้ำๆสองถ้วยนั่นจืดสนิท คิดว่าน่าจะเอาไว้ให้เราจิบแทนน้ำเปล่า ส่วนเครื่องเคียงที่อร่อยที่สุด ดันกลายเป็นกะหล่ำม่วงดองเฉยเลย



    5.
    มาจีนเค้าบอกว่าให้ลองเต้าหู้เหม็น ที่กลิ่นเหมือนรถขยะ แต่รสชาติตรงข้างกับกลิ่นแบบคนละเรื่อง

    เราลองเต้าหู้อันนี้กันที่แชงกีล่า ที่เค้าว่าเป็นเต้าหู้เหม็น แต่เราว่าไม่ใช่ น่าจะเป็นเต้าหู้นิ่มธรรมดา เพราะไม่เห็นเหม็นอย่างที่คนเค้าลือกันเลย

    วิธีทำก็คือ คุณป้าเค้าจะเอาเต้าหู้ไปทอดรอให้เหลือง ละโรยเครื่องเทศ โรยเกลือ โรยผักข้างบน แค่นั้นก็เสร็จเลย รสชาติก็คือเต้าหู้นิ่มที่เค็มๆเผ็ดๆ อร่อยตามสภาพ

    6.
    ด้วยความจนและต้องกินข้าวเช้าของเรา ทำให้เราต้องทำการสำรวจตลาดมาม่าเพื่อซื้อกลับไปตุนไว้กินตอนเช้าทุกวัน

    มาม่าที่นี่มี 2 ขนาด คือถ้วยใหญ่แบบมาม่าเกาหลี กับถ้วยเล็กๆเหมือนมาม่าคัพธรรมดา 
    แต่ถ้าเป็นมาม่ายี่ห้อจีนอ่ะนะ เหมือนทุกรสจะต้องมีหม่าล่าเป็นส่วนประกอบ ขึ้นอยู่กับว่าจะมากหรือน้อย แต่แต่กินทีไรก็ลิ้นเย็นทุกทีเลย

    ราคาที่เราเจอ ก็เปลี่ยนไปตามสถานที่ที่ขาย ถ้าถ้วยใหญ่ เราซื้อร้านค้าทั่วไป ราคา 6 หยวน แต่ถ้าไปซื้อที่ซุปเปอร์ใหญ่ๆ ราคาแค่ 3.5 หยวน แต่ก็นะ ร้านที่จะขาย 3.5 หยวนนี่หายากมาก เราเลยสรุปเอาเองว่า ราคากลางจริงๆน่าจะ 6 หยวนนี่แหละ เป็นราคากลางที่หาง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวขาจร

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in