เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เดินไปตรงนั้น จะเห็นเขาไหมRada Subphachaisirikul
เชอรี่เหล่านั้นล้วนกลิ่นเหมือนปากกาลูกลื่น
  • "กินติมกัน"

    เขาเอ่ยปากชวนผ่านโทรศัพท์มือถือ ขณะที่กายหยาบฉันยืนอยู่บริเวณตึกคณะ ส่วนเขานั้นไม่อาจรู้ได้ เพราะเพียงกดรับโทรศัพท์เขาก็เอ่ยประโยคนี้เสียแล้ว

    "แล้วนี่อยู่ไหนอะ"

    เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของเขาทำให้รับรู้ได้ไม่ยากว่ามีเรื่องทุกข์ใจบางอย่าง แล้วการกินก็คือทางที่เขาเลือกใช้ระบายความทุกข์ ส่วนฉันคือทางที่เขาเลือกใช้ระบายเรื่องราวชวนทุกข์ใจ เขาปฏิเสธที่จะบอกตำแหน่งกายหยาบของตัวเองแล้วย้อนกลับมาถามถึงจุดยืนของตัวฉัน พอรับทราบสมองเขาก็ประมวลเสร็จออกมาเป็นห้างสรรพสินค้าไม่ใกล้ไม่ไกลจากฉันสักเท่าไร ฉันเดินทางไปถึงตอนที่เขายังคงอยู่บนรถไฟฟ้าสักแห่งหนึ่ง

    "เหนื่อยจัด เลี้ยงหน่อยดิ"

    "เรื่องอะไรล่ะจ๊ะพ่อหนุ่มขี้เหนื่อย สั่งอะไรจ่ายเอง จบ แฟร์ๆ "

    เขาอ้าปากจะเถียง

    "หยุด อย่าเถียง นายไม่รวย เราก็ไม่รวย เซม วันหลังก็เลือกร้านถูกๆ กว่านี้หน่อยสิ"

    ลมเฮือกใหญ่ออกมาจากปอดของเขา เป็นครั้งที่สองของวันที่เสียงมาเข้าหูฉันพอดิบพอดี หลังสั่งไอศกรีมกันเสร็จฉันก็หันมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง

    "ไง มีเรื่องอะไร"

    "เยอะว่ะ ... หลักๆ ก็คือวันนี้ทะเลาะกับเขาอีกละ"

    "สมน้ำหน้าว่ะ ก็รู้ตัวอยู่ตั้งแต่ก่อนคบว่าชอบคุยกับทุกคน ส่วนเขาก็ขี้หึงเป็นบ้าเป็นหลังก็ยังจะคบ"

    ฉันพูดอย่างสดใสร่าเริง น้ำเสียงที่ออกมาคือสิ่งที่ผู้คนนิยามว่าพูดยิ้มๆ

    "เห้ย แต่--"

    "ไม่แต่ ประเด็นคือคบแล้วก็ไม่แก้ตัวเองนี่แหละ ถึงได้ทะเลาะ"

    "แล้วจะให้ทำไงวะ เลิกคุย ปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงทุกคน"

    น้ำเสียงของเขาเริ่มมีแววของความโมโหอยู่ในที

    "ถ้าทำได้ก็ดี๊ ยกเว้นแม่ไว้สักคนก็พอ"

    กราฟความโมโหดิ่งลง รอยยิ้มปรากฏขึ้นแทนที่บนใบหน้า ตอนนั้นเองที่ไอศกรีมของเขาถูกวางลงบนโต๊ะ 

    "งั้นก็เลิกคุยกันได้เลยใช่มั้ย อย่าลืมว่าตัวเองเป็นหญิงสิ โธ่ ส่วนคุณแฟนของกระผมเขาก็ไม่ได้อะไรนักหรอก มีเรื่องเฉพาะตอนเริ่มคุยกับคนใหม่ๆ มากกว่าว่ะ คนเก่าๆ เขาจะดูๆ ไปสักพัก ถ้าไม่มีอะไรก็ปล่อย"

    "ก็ดี๊ที่เขายังเชื่อใจ แต่ก็คุยกับคนใหม่ๆ เยอะเหลือเกินนะ เห็นมีเรื่องมาให้บ่นกับเราตลอด"

    เขาหัวเราะพลางตักไอศกรีมเข้าปากไปโดยไม่พูดอะไรอีก
  • ความเศร้าของชีวิตคือไอศกรีมของฉันมาทีหลังและฉันก็หิวแล้ว

    "ขอกินคำนึง"

    ความหวานแหววทั้งหมดที่มีของฉันถูกส่งผ่านสายตาออกไปถึงเขา อาจเพราะความสงสารหรือความสมเพชที่ทำให้เขาตักมาให้คำหนึ่ง

    "อะ ของเธอมาแล้วแบ่งคืนด้วย"

    ความเย็นของไอศกรีมทำให้สดชื่นไปทั่วร่าง และราวยาเสพติด เมื่อมันหมดลงฉันก็เริ่มจ้องของกึ่งเหลวกึ่งแข็งในถ้วยอย่างเอาจริงเอาจัง

    "น่ากลัวว่ะ โน่น มาแล้วกินของตัวเองไปซะ อย่ามาจ้องดิ น่ากลัว"

    ไอศกรีมถูกวางลงบนโต๊ะอย่างบรรจง พอพนักงานเดินไปฉันก็เงยหน้าขึ้นถามอย่างรวดเร็ว

    "กินเชอรี่ป้ะ"

    คิ้วของเขาเลิกขึ้นอย่างสงสัยแต่ในขณะเดียวกันก็ผงกหัวรับ

    "เอาไปเลย เราไม่ชอบ"

    "คบมาตั้งนานไม่เคยรู้เลย ทำไมไม่ชอบวะ ก็อร่อยดีนี่"

    เขายื่นมือมาจับก้านเชอรี่บนยอดไอศกรีมไปก่อนจะโยนมันเข้าปาก ตรงข้ามกับฉันที่ให้ตายก็ไม่อยากจะโยนมันเข้าปากเสียจริงๆ

    "ไม่รู้สึกเลยเหรอ กลิ่นมันเหมือนปากกาลูกลื่นอะ"

    เขาหยุดเคี้ยวทันทีราวกับต้องการจะรับกลิ่นของมันให้ได้

    "หมายถึงยังไงนะ"

    "กลิ่นหมึก"

    "ของปากกาลูกลื่น?"

    "ใช่"

    ความเงียบเกิดขึ้นชั่วครู่ ฉันลุ้นให้เขาได้กลิ่น ส่วนเขาก็พยายามจะได้กลิ่น ผ่านไปพักใหญ่เขาก็ยกมือเรียกพนักงาน

    "อ่า...เชอรี่นี่สั่งแยกได้มั้ยครับ ถ้าได้ขอลูกนึง"

    "เชอรี่ลูกนึงนะคะ ได้ค่ะ รบกวนรอสักครู่นะคะ"

    สายตาของเขาละจากพนักงานมาสบกันพอดี คำอธิบายจึงตามมาอย่างรู้ทัน

    "ไม่ได้กลิ่นว่ะ แต่ตะกี๊มันก็เคี้ยวไปตั้งเยอะแล้ว เลยจะลองใหม่"

    ฉันผงกหัวช้าๆ อย่างเข้าใจ

    "จ่ายเองนะ"

    เขาอุทานคำหยาบออกมาทันที พร้อมกับบ่นไปจนกระทั่งเชอรี่มาเสิร์ฟว่าลืมได้อย่างไร
  • "ได้กลิ่นล่ะ...ว่าแต่ กลิ่นปากกาลูกลื่นเป็นงี้เหรอวะ"

    พูดไม่ทันขาดคำเขาก็ควานหาปากกาลูกลื่นขึ้นมาดมทันที ฉันหัวเราะก่อนจะหยิบสมุดออกมา

    "ไอบ้า จะได้กลิ่นได้ยังไงเอามานี่"

    ฉันจับปากกาขีดๆ ลงบนสมุดจนเป็นกลุ่มเส้นสีน้ำเงินเล็กที่เกือบไม่เห็นพื้นหลัง เมื่อขีดเสร็จก็หยิบยื่นให้เขาดม จนเกือบจะดมไม่ได้ด้วยความใกล้เกิน

    "หือ...จริงด้วยว่ะ โคตรเหมือนเลย"

    "ปวดหัวมากกกกอะเวลากินเชอรี่ กลิ่นมันน่าเวียนหัว"

    "เออเว้ย กินมาก็ตั้งนาน ปากกาก็ใช้มาตั้งนานไม่เห็นเคยรู้สึก"

    ฉันหัวเราะ เขาก็หัวเราะ กายหยาบของเรามีฮอร์โมนที่ทำให้มีความสุข ส่วนในจิตของเราก็มีความสุข ถึงจะชั่วคราวก็ตาม







    เชอรี่เหล่านั้นล้วนกลิ่นเหมือนปากกาลูกลื่น แดงสดปรุงแต่ง และชวนให้คิดถึง เลยอยากจะชวนเธอมาเจอกัน ในวันแต่งงาน 


    ข้อความล่าสุดที่เขาส่งมาให้ น่ายินดี ชวนให้นึกถึงปากกาลูกลื่น เสียงหัวเราะ และความสุขในตอนนั้น 


    ฉันอยากรู้ ว่าเรื่องราวของ “คุณ” กับ “เขา” สักคนหนึ่ง มีสักความทรงจำไหมที่อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและความคิดถึงเมื่อมองย้อนกลับไป









  • ไร้สาระจย้าาาา เขียนไปเรื่อยเลย ฮ่าๆๆ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in