เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Article 'n DocumentaryAomm
‘ซัมเมอร์เดซ' ฤดูแห่งการเติบโตของ ‘ปาณิศา กรรณวัลลี’
  • “ปีนึงเร็วมากเลยเนอะ จำได้ว่าที่คุยกันครั้งแรก เรายังทำแค่กระเป๋าใบเดียว” คือประโยคแรกที่ผู้เขียนได้ยินจากปากของแม่ค้าตัวเล็กอย่าง ‘ป่าน - ปาณิศา กรรณวัลลี’ เจ้าของร้านเสื้อผ้าในอินสตาแกรมที่มียอดผู้ติดตามร่วมสองหมื่นแอคเคานท์ อย่างซัมเมอร์เดซ (Summerdaze) ธุรกิจที่เริ่มจากความชอบและต่อยอดจนเป็นอาชีพได้

    ที่มาของชื่อแบรนด์ซัมเมอร์เดซ มาจากฤดูร้อน (Summer) เป็นฤดูที่ชอบ รวมกับ เดซ (Daze) ที่หมายถึงภวังค์ ซัมเมอร์เดซจึงเหมือนเป็นการตกอยู่ในภวังค์ของฤดูร้อน และอีกความหมายหนึ่งเมื่อเขียนติดกันคือ ของขวัญที่เพื่อนสนิทมอบให้กันในฤดูร้อน 

    ซัมเมอร์เดซเริ่มต้นจากความชอบของเจ้าตัวเอง ที่อยากจะทำกระเป๋าดีไซน์เก๋ๆออกมา เริ่มขายผ่านอินส-ตาแกรม แต่ก็หยุดผลิตไป เพราะกำลังการผลิตมีเพียงคุณป้าของป่านเพียงคนเดียว จึงผลิตได้ช้า การค้าขาดสภาพคล่อง จุดเปลี่ยนที่ทำให้ป่านหันมาทำเสื้อผ้าขาย มาจากการที่เธออยากได้ชุดแบบหนึ่ง แต่ไม่มีใครทำขาย จึงลองไปปรึกษารุ่นพี่ที่ทำเสื้อผ้า จึงแนะนำช่างตัดเสื้อมาให้ เลยลองเอาแบบไปให้ช่างตัดดู จากนั้นก็เลยร่างไปให้เขาตัดเรื่อยๆ “เสื้อผ้าของซัมเมอร์เดซมีจุดเริ่มต้นจากความอยากได้ของเราเลย (หัวเราะ) เราชอบใส่เสื้อผ้าเรียบๆ แต่เมื่อก่อนไม่ค่อยมีใครใช้ผ้าลินินกับแพทเทิร์นเรียบๆเลย เราจึงลองทำออกมาใส่เองด้วย ขายด้วย แต่ไม่ได้เรียบเสียทีเดียว ยังมีดีเทลเล็กๆตามจุดต่างๆ เป็นกิมมิค”

    ในหนึ่งคอลเลคชั่นของซัมเมอร์เดซ มักจะประกอบด้วย เดรสและกางเกงหรือกระโปรงอย่างละหนึ่งแบบ และเสื้ออีกสอง หลังจากนั้นอาจจะออกเพิ่มมาอีกสักหนึ่งถึงสองชิ้นเสริมให้เข้ากัน ผ้าบางสี บางแบบอาจจะทำมาเฉพาะเทศกาลคล้ายเป็นรุ่นลิมิเต็ด ป่านบอกว่า เป็นเทคนิคส่งเสริมการขายอย่างหนึ่ง โดยแต่ละคอลเลคชั่นนั้นเจ้าตัวจะเป็นคนคิดแบบเอง “ส่วนมากจะหาเรฟ (Reference) ไปให้ช่างดู โดยจะคิดแบบ จากการหาเสื้อผ้าหลายๆชิ้น เช่นจะเอาทรงนี้ แต่ขอแขนแบบนี้ เราจะให้พ่อช่วยวาดแบบให้ แล้วไปคุยกับช่าง มีบางดีเทลที่ช่างทำให้ไม่ได้ ก็ปรึกษากันว่าลดทอนอะไรได้บ้าง ถ้าลดได้เราก็จะลด แต่ส่วนมากจะยืนยันคำเดิมว่า ‘หนูขอแบบนี้ได้ไหมคะ’ ให้เขาทำให้เหมือนแบบที่ต้องการให้ได้มากที่สุด” 

    ด้วยหน้าท่ีแต่ละอย่างที่ต้องทำ ทั้งรับออเดอร์ทางออนไลน์ รวมถึงออกร้านตามงานแฟร์ต่างๆ แม่ค้าไซส์มินิย่อมต้องมีผู้ช่วยคนเก่งคู่ใจ ซึ่งก็คือคุณพ่อของป่านเอง ที่มีส่วนช่วยตั้งแต่การสร้างแบรนด์ ไปจนถึงเป็นที่ปรึกษาในทิศทางของเสื้อผ้าแต่ละคอลเลคชั่น ป่านกล่าวถึงกำลังสำคัญของซัมเมอร์เดซว่า “พ่อมีเซนส์แฟชั่น สมัยหนุ่มๆแต่งตัวเก่งมาก เราก็ถูกพ่อจับแต่งตัวมาตั้งแต่เด็กๆ พอมาทำร้านพ่อช่วยเราเยอะมาก ตั้งแต่ช่วยกันร่างแบบ ปรึกษาเรื่องแพทเทิร์น พ่อจะช่วยดูตัวขึ้นแบบ แล้วไม่ใช่แค่แบบ ถุง โลโก้ ป้ายร้าน พ่อเราทำให้หมดทุกอย่าง”

    ป่านเผยว่า ชอบออกบูทมากกว่าขายในอินสตาแกรม เพราะขายเร็วกว่า และยังรู้สึกสนุกที่ได้พูดคุยกับลูกค้า แค่วันเดียวก็สบายไปทั้งเดือน ขณะที่ในอินสตาแกรมจะขายดีเป็นช่วงๆ เช่น ช่วงต้นเดือนเงินเดือนออก จึงจะขายได้ ส่วนปัญหาเล็กๆน้อย ที่มาคู่กับการทำธุจกิจก็มีพอสมควร ถ้าเป็นการออกร้านขายสินค้า ปัญหาจะอยู่ที่การจัดการและการประชาสัมพันธ์ของเจ้าของงาน เช่น การกำหนดรูปแบบงานที่ไม่ชัดเจน กระจายข่าวไม่ดี ก็ไม่มีคนมาเดิน จากที่จะได้กำไรก็กลายเป็นเพียงเท่าทุน ขณะที่การค้าขายในอินสตาแกรมนั้น มักจะเกิดจากการขนส่ง หรือการคืนสินค้า

    เหตุนี้ป่านจึงยึดหลัก ‘ใจเขาใจเรา’ เพราะตัวป่านเองก็เป็นคนชอบซื้อของ จึงอยากปฏิบัติกับลูกค้าเหมือนกับที่อยากได้รับปฏิบัติ ลูกค้าซัมเมอร์เดซสามารถเปลี่ยนหรือคืนเสื้อผ้าได้ หากใส่ไม่ได้ หรือมีตำหนิ ป่านบอกว่าไม่อยากให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีกับร้าน “อย่างบางร้านจะมีกฎเลย ถ้าจองแล้วไม่ซื้อ จะขึ้นแบล็คลิสต์ เราไม่ทำแบบนั้น ลูกค้าคงรู้สึกกลัว และไม่กล้ามาซื้อของร้านเรา เราเป็นแม่ค้าน่ารัก (หัวเราะ)”

    นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องของเลียนแบบ ซึ่งแม่ค้าไปเจอด้วยตนเอง ขณะไปเดินเล่นที่สวนจตุจักร กรีน เมื่อหลายเดือนก่อน พบว่ามีร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่งทำเสื้อออกมาในแบบที่คล้ายกับของซัมเมอร์เดซ และยังขายในราคาถูกกว่า “ตอนแรกก็รู้สึกนอยด์ เพราะโดนก็อป แล้วยังโดนขายตัดราคา แต่หลังๆก็คิดว่าต้องพัฒนาร้านให้ดีกว่านี้ จะมามัวนอยด์แล้วยังย่ำอยู่ที่เดิมไม่ได้ คนอื่นก็แซงกันหมดพอดี เมื่อวานก็นั่งดูของคนอื่น โห...สไตล์คล้ายกันเลย ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราหาเรฟใหม่ให้มันแตกต่าง”

    ป่านมีนิสัยชอบหางานทำตั้งแต่เด็กๆเป็นทุนเดิม สมัยอยู่ที่เยอรมนี ป่านรับจ้างเก็บจานกระดาษในงานแฟร์ของที่นู่น รายได้ค่อนข้างงามทีเดียว พอเข้ามหาวิทยาลัยก็รับจ้างแปลเอกสาร ก่อนจะมาทำกระเป๋าขาย ซึ่งเริ่มทำแบรนด์ซัมเมอร์เดซ ยิ่งเพิ่มให้รายรับมากขึ้น การจ่ายค่าเทอมเองตั้งแต่ขึ้นปี 3 เกิดเป็นความภาคภูมิใจในตัวเอง นอกจากป่านจะไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ใช้แล้ว ยังกลายเป็นค่าขนมส่วนหนึ่งของน้องสาวอีกด้วย 

    ด้วยสองมือของแม่ค้าตัวเล็กๆ ปัจจุบันป่านดาวน์รถยนต์หนึ่งคันไว้ใช้ขับไปตระเวนขายเสื้อผ้าตามงานแฟร์ต่างๆ นอกจากจะเป็นของชิ้นใหญ่ชิ้นแรกจากน้ำพักน้ำแรง ป่านยังบอกว่ารถยนต์คันนี้ก็เหมือนเป็น ‘หนี้ก้อนแรก’ ที่บังคับให้ขยันทำงานมากขึ้น

    ไม่นานมานี้ป่านเพิ่งได้รับโอกาสจากให้นำสินค้าไปวางขายหน้าร้านเสื้อผ้าแบบมัลติแบรนด์ ที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ “ตอนแรกไม่ได้คิดจะยึดเป็นอาชีพหลัก เพราะปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่ถ้าร้านมัลติแบรนด์ที่เราไปลงของไว้ไปได้ดีก็เวิร์ค ส่วนหนึ่งคิดว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญ พอเรียนหนักก็ไม่มีเวลาถ่ายรูป อัพรูป ธุรกิจออนไลน์ต้องโฆษณาเยอะๆ” ป่านเรียนรู้ว่า การทำธุรกิจต้องขยันประชาสัมพันธ์ สังเกตจากการที่ หากเดือนไหนตนโพสรูปสินค้า หรือรีวิวจากลูกค้าในอินสตาแกรมเยอะ เดือนนั้นยอดขายจะดีมาก ขณะที่ช่วงสอบ ไม่มีเวลาว่างยอดขายก็จะตก สอดคล้องกับ แนวคิด ‘ยิ่งขยัน ยิ่งประสบความสำเร็จ’ จากหนังสือเล่มโปรดในขณะนี้ของป่านอย่าง ‘#Girlboss’ เขียนโดยเจ้าของเว็บไซต์นาสตี้แกล ผู้ประสบความสำเร็จจากการเริ่มขายของในเว็บไซต์อีเบย์ 

    การเติบโตของแบรนด์ซัมเมอร์เดซควบคู่กับการแข่งขันของตลาดสินค้าออนไลน์ที่กำลังเปลี่ยนจากขุมทรัพย์มหาสมุทรสีน้ำเงินเป็นน่านน้ำสีเลือด ในฐานะที่เข้ามาในช่วงบลูโอเชี่ยนปลายๆ ป่านจึงเตรียมพร้อมรับมือกับความเฟ้อของธุรกิจออนไลน์ในอนาคตไว้ด้วย “ต้องหมุนตาม ต้องจับทางได้ อย่างตอนนี้ ตลาดนัดตามที่ต่างๆแบบทุกวันนี้ ต่อไปจะน้อยลง กลายเป็นร้านแบบมัลติแบรนด์มากขึ้น ที่สยามมีหลายร้านเลย ถ้าเรามาถูกทางเร็ว ยังไงก็ได้เปรียบกว่าแน่ๆ อย่างร้านที่เราจะไปลง เริ่มแรกจะเปิดแค่สองชั้นจากสี่ เราเป็นหนึ่งในแบรนด์กลุ่มแรกที่จะได้ไปเปิดร้านที่นั่น” นอกจากนี้ป่านยังมองว่า การให้เวลากับกิจการเป็นสิ่งสำคัญ

    การหาเงินเองทำให้ป่านรู้คุณค่าของเงินมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือซื้อเสื้อผ้าน้อยลงมาก แต่เมื่อถามถึงโครงการไปเที่ยวเกาหลีช่วงปิดเทอม ป่านตอบพร้อมเสียงหัวเราะว่า “ช็อปแหลกแน่นอน”

    “ไม่อยากเจ๊ง ไม่อยากให้ซัมเมอร์เดซตาย อยากให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ” 
    ป่านกล่าวปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขอตัวไปเรียนวิชาต่อไป ความมุ่งมั่นของผู้หญิงไซส์มินิคนนี้ ทำให้ซัมเมอร์เดซเป็นของขวัญแสนพิเศษ

    ภวังค์ฤดูร้อนอันยาวนาน ที่ป่านอยากให้คงอยู่ตลอดไป
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in