เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ในเพลงลิสต์Tatiya Kaewchan
15 เพลงที่ทำให้รัก Oasis วงนี้ไม่ได้มีดีแค่ Wonderwall
  • พูดถึงวงร็อกชื่อดังแห่งยุค 90s คงต้องมีชื่อของ Oasis ติดท็อปอยู่ในใจของใครหลายๆคน ส่วนผสมอันเข้มข้นของวงไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้อง ทำนอง แนวดนตรี ภูมิหลัง รวมไปถึงสไตล์สุดกวนโอ๊ยของสองศรีพี่น้องกัลลาเกอร์ ทั้งคำพูดคำจาที่ต้องมีคำว่า f*cking ในทุกประโยค สำเนียงแมนเชสเตอร์สุดคูล  แฟชั่นเสื้อโค้ทและแว่นกันแดด ท่าเดินและท่าร้องเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของเลียม รวมไปถึงลีลาการให้สัมภาษณ์ที่เหมือนจะคุยโวและมั่นใจในตัวเองแบบสุดพลัง ทำให้ Oasis มีเรื่องราวดิบๆเกรียนๆแบบร็อกแอนด์โรลให้แฟนเพลงเล่าขานกันไม่จบไม่สิ้น ราวกับ Oasis เป็นวงดนตรีเพียงวงเดียวในโลกที่ได้รับสิทธิให้ปากหมาได้ตลอดกาล แม้จะประกาศยุบวงไปแล้วแต่ก็ยังมีเรื่องใหม่ๆให้พูดถึงกันไม่เว้นแต่ละวัน
     

    ยิ่งเมื่อหนังสารคดีเรื่อง Supersonic (2016) ออกฉายก็ยิ่งสร้างแรงกระพือให้แฟนเพลงคิดถึง Oasis มากยิ่งขึ้น พร้อมๆกับสร้างฐานแฟนเพลงเดนตายรายใหม่ผุดขึ้นมาอีกนับไม่ถ้วน เพลงที่ได้ชื่อว่าเป็นเพลงชาติของวงคงหนีไม่พ้น Wonderwall ซึ่งเป็นเพลงที่สาวกเสพสากลน่าจะรู้จักกันดีมากที่สุด แต่ความจริงแล้ว Oasis เป็นวงที่มีคลังเพลงดีๆเยอะมาก ด้วยพรสวรรค์และฝีมือในการแต่งเพลงของ 'โนล กัลลาเกอร์' มือกีตาร์ประจำวง บวกกับเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของน้องชายอย่าง 'เลียม กัลลาเกอร์' แล้ว ยิ่งทำให้ Oasis ขึ้นแท่นวงดนตรีหนึ่งในวงจตุรเทพของสงครามบริทป็อบแห่งยุค 90s อย่างไร้ข้อกังขา


    หลังจากดู Supersonic จบ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ Oasis เป็นวงดนตรีที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 20 ปีและพี่โนลกับน้องเลียมก็แยกกันทำงานเพลง ไม่พูดไม่จากัน (โดยตรง) มาเกือบสิบปี แต่แฟนเพลงยังรู้สึกว่าวงนี้ไม่ได้หายไปไหน แถมยังรอคอยอย่างมีความหวังถึงการกลับมา 'รียูเนียน' นอกจากนี้เราเองก็ยังค้นพบเพลงดีๆความหมายงดงามอีกมากมาย โดยเฉพาะเนื้อเพลงที่เขียนจากปลายปากกาของโนล กัลลาเกอร์ ในแต่ละเพลงจะมีวรรคทองที่เราชอบเป็นพิเศษ รู้ตัวอีกทีก็ฟังเพลง Oasis เยอะมาก เลยคิดว่าจะลองมานั่งจัดลิสต์เพลงที่ชอบดูสักหน่อย แฟน Oasis แต่ละคนก็คงมีเพลงโปรดในใจกันทั้งนั้นแหละเนอะ สำหรับคนที่เคยฟังเพลง Oasis มาบ้างอาจจะรู้จักแต่เพลงดังๆ ก็ถือว่าจะได้ลองฟังเพลงอื่นๆดู เผื่อจะได้เพลงที่ชอบกลับไปสักเพลง โดยในลิสต์ทั้ง 15 เพลงนี้ เราจะไม่ใส่เพลงที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักอยู่แล้วอย่าง Wonderwall , Don't Look Back In Anger, Stand By Me, Supersonic, Champagne Supernova  และ Stop Crying Your Heart Out 

    ____________________________________________________________________________________________________

    15. D'Yer Wanna Be A Spaceman

    ยิ่งฟังเพลงของวง Oasis ยิ่งค้นพบว่า ฝีมือการแต่งเพลงของโนลนั้นสุดยอดจริงๆ แม้แต่เพลง B-Side หลายๆเพลงก็ยังมีความหมายที่ดีมากๆ โดยเฉพาะ D'Yer Wanna Be A Spaceman ที่พูดถึงเพื่อนสนิทที่่ค่อยๆห่างกันไปเมื่อโตขึ้น เพราะต่างคนต่างมีภาระหน้าที่แบบผู้ใหญ่ ขณะเดียวกันความฝันในวัยเด็กของคนเรามันค่อยๆเลือนหายไปเมื่อเราเติบโต แต่หากคุณยังอยากจะเป็น 'มนุษย์อวกาศ' อยู่มันก็ยังไม่สายนะอะไรทำนองนั้น ตอนที่เล่นคอนเสิร์ต iTunes Festival ปี 2012 โนลยังบอกว่าขอมอบเพลงนี้ให้ Gem Archer อดีตมือกีตาร์วง Oasis และ Beady Eye ที่สนิทสนมกับโนล ทำงานด้วยกันมาหลายปี หลังจากแยกวงทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก แต่ก็ยังเห็น Gem มาร่วมแจมอยู่บ้างนะ

    It's funny how your dreams change as you're growing old
    You don't want to be no spaceman, you just want gold

    ปล. ตอนนี้ Gem มาจอยเป็นมือกีตาร์และทัวร์คอนเสิร์ตกับวง Noel Gallagher's High Flying Birds แล้วนาจา




    14. Roll With It

    ศึกแห่งศักดิ์ศรีของสงครามยุคบริทป็อบ ระหว่าง Oasis VS Blur ดุเดือดถึงกับมีการส่งซิงเกิ้ลมาประชันกัน โดยปล่อยพร้อมกันในวันที่ 14 สิงหาคม 1995 ทาง Oasis ส่งเพลง Roll With It ในขณะที่ Blur ส่งเพลง Country House ทั้งสองเพลงขึ้นท็อปชาร์ตเพลงฮิตอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าสรุปยอดการแข่งขันครั้งนั้น Oasis แพ้ Blur  (ทางเทคนิค 555) เพราะนับจากยอดจำหน่าย Blur คว้าไป 274,000 ก็อปปี้ ส่วน Oasis คว้าไป 216,000 ก็อปปี้ สำหรับเพลง Roll With It นี้ โนลกับเลียมเคยสลับตำแหน่งกันลิปซิ้งด้วยนะใน Live on Top Of The Pops ปี 1995 พี่โนลไปเป็นฟร้อนท์แมนและถือแทมโบลีน (ท่าทางซีเรียสมากยืนนิ่งไม่ไหวติง) ส่วนน้องเลียมก็ไปยืน (ทำท่า) ดีดกีตาร์แทนพี่โนลนั่นเอง พอกล้องซูมใกล้ๆก็รู้เลยว่าไม่รู้จะโซโลโชว์ยังไงดี 555 น่าร้าก 

    You gotta roll with it
    You gotta take your time
    You gotta say what you say
    Don't let anybody get in your way
    'Cause it's all too much for me to take





    13. Half The World Away

    เพลงหน้า B-Side ของเพลง Whatever ที่รวมอยู่ในอัลบั้ม The Masterplan เพลงนี้พูดถึงการเบื่อหน่ายชีวิตที่จำเจและสิ่งแวดล้อมเดิมๆ อยากแสวงหาสิ่งใหม่ๆ แต่สุดท้ายแล้วก็เออที่เป็นอยู่มันก็ไม่ได้แย่นี่นา ว่ากันว่าเพลงนี้ป๋าโนลแกอัดเสียงกลองเองด้วย เพราะตอนนั้นมือกลอง Tony McCarroll ถูกเชิญให้ออกจากวงไปซะก่อน นอกจากนี้หลังจากที่ป๋าโนลแกกลับจากทัวร์อเมริกาช่วงกลางปี 1994 แกก็ได้เพลงใหม่มา 2 เพลงคือ Half The World Away และ Talk Tonight โดยมีสาวคนหนึ่งเป็นแรงบันดาลใจ เหมือนเคยอ่านเจอเลียมให้สัมภาษณ์ขำๆว่า ตอนนั้นโนลหายหัวไปจากวงแล้วกลับมาพร้อมกับเพลง 2 เพลงที่ร้องด้วยสำเนียงอเมริกัน 555
     
    And when I leave this island
    I'll book myself into a soul asylum
    'Cause I can feel the warning signs
    Running around my mind




    12. I'm Outta Time

    หนึ่งในไม่กี่เพลงที่แต่งโดยเลียมสมัยอยู่วง Oasis เราไม่แน่ใจว่าเลียมแต่งเพลงให้ Oasis กี่เพลง เท่าที่รู้คือ I'm Outta Time, Song Bird, Little James (แต่งให้ลูกชายแพทซี เคนสิท) แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบที่สุด เป็นเพลงที่ย้ำให้โลกรู้กันไปเลยว่ากูนี่แหละติ่งจอห์น เลนนอนตัวจริงเสียงจริง ความติ่งมันทำให้คนเราเป็นได้ขนาดนี้ แต่ก็ว่ากันว่าเสียงเลียมและทำนองของเพลงนี้มีกลิ่นอายเหมือนดนตรีของจอห์น เลนนอนในยุค 70s เสียเหลือเกิน เท่านี้ยังไม่พอเลียมใช้เสียงจริงๆของเลนนอนที่เคยให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายก่อนเสีียชีวิตเมื่อปี 1980 มาใส่ไว้ในเพลงด้วย ในช่วงท้ายๆเพลงจะได้ยินเสียงพูด "As Churchill said, it's every Englishman's inalienable right to live where the hell he likes. What's it going to do, vanish? Is it not going to be there when I get back ?" 

    If I'm to fall
    Would you be there to applaud ?
    Or would you hide behind them all ?



    11. Morning Glory

    เพลงจากอัลบั้มชุดที่ 2 ของ Oasis (What's the Story) Morning Glory?) ที่ได้ชื่อว่าเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดและอัลบั้มนี้เองที่มีซิงเกิ้ลเพลงดังตลอดกาลอย่าง Wonderwall และ Don't Look Back In Anger รวมอยู่ โนลเคยให้สัมภาษณ์ว่าแต่งเพลงนี้ขึ้นระหว่างที่กำลังเมา แล้วก็ได้แรงบันดาลขึ้นมาระหว่างที่ฟังเพลงจากเครื่องเล่นวอล์คแมน มีเนื้อเพลงบางท่อนที่ ref. มาจากเพลง Tomorrow Never Knows ของวงไอดอลป๋าโนลอย่าง The Beatles แต่ก็มีแฟนเพลงวิเคราะห์กันไปต่างๆนานาว่าเพลงนี้น่ะเกี่ยวกับใช้ยาเสพติดนั่นเอง

    Walking to the sound of my favorite tune
    Tomorrow never knows what it doesn't know too soon
    Need a little time to wake up




    10. The Masterplan

    ขอยกให้เพลงนี้เป็นสุดยอดเพลง B-Side ของ Oasis มันเป็นเพลงที่ไม่ควรอยู่ในหน้าบีเลย เพราะมันมาสเตอร์พีซมากๆ ขนาดโนลเองยังเคยบอกว่าน่าเสียดายที่ไม่ได้เอาไปรวมในอัลบั้มเต็มชุดอื่นๆ The Masterplan ถูกนำมาใช้เป็นเพลงในตอนท้าย end credit ของหนังสารคดี Supersonic ด้วย เนื้อเพลงทุกประโยคของเพลงนี้มันงดงามและมีคุณค่ามากจริงๆ ประมาณว่าทุกคนล้วนอยู่ในแผนแม่บทใหญ่สักอย่าง เราไม่มีทางรู้ว่าเส้นทางที่เราไม่ได้เลือกนั้นมันจะนำพาอะไรมาให้ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้เต็มที่กับทุกนาทีในชีวิตบนเส้นทางที่เราได้เลือกเดินไปแล้ว 

    Life on the other hand
    Won't make us understand
    We're all part of the masterplan 




    9.  All Around The World

    เป็นเพลงแรกๆที่โนลเริ่มเขียนเลย แล้วยังใช้เป็นเพลงให้เลียมซ้อมร้องเพลงสมัยที่ยังเล่นกันอยู่ใน Boardwalk Club ช่วงปี 1992 หรือช่วงที่ Oasis ยังไม่เป็นที่รู้จักอีกด้วย เริ่มแรกเพลงนี้มีความยาวถึง 12 นาที ก่อนจะถูกหั่นให้เหลือ 9 นาทีกว่า ป๋าโนลแกบอกว่าแต่งเพลงนี้เอาไว้เป็นชาติละ แต่ไม่เอายัดใส่ไว้ในอัลบั้ม 2 ชุดแรกสักที จนกระทั่งอัลบั้มที่ 3 'Be Here Now' ก็ได้ฤกษ์คว้าเพลงนี้ใส่ลงไปสักที ว่ากันว่าเปรียบเสมือนเพลง Hey Jude ในเวอร์ชั่นของ Oasis นั่นเอง เราชอบประโยค You know it's gonna be okay ในเพลงนี้มาก เหมือนเป็นเพลงให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นสุดท้ายทุกๆอย่างมันจะต้องโอเค 

    And all around the world, you've gotta spread the word
    Tell them what you've heard
    You know it's gonna be okay




    8. Hey Now!

    บรรจุอยู่ในอัลบั้มชุดที่ 2 '(What's the Story) Morning Glory ?' ไม่เข้าใจว่าทำไมเพลงนี้ถึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ทั้งๆที่เป็นเพลงที่ความหมายดีและทำนองติดหูมากๆ แต่ซาวด์ดนตรีอาจจะดิบน้อยกว่าเพลงที่อยู่ในอัลบั้มชุดแรก ไม่ค่อยเห็น Oasis หยิบเพลงนี้มาเล่นคอนเสิร์ตเลย เหมือนเป็นเพลงที่ค่อนข้าง Underrated เนื้อเพลงคือปลุกขวัญและกำลังใจให้ลุกขึ้นทำอะไรสักอย่าง Hey Now! ไม่ตอนนี้แล้วจะตอนไหนล่ะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามเวลามันไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่นะ หมดเวลาที่จะวิ่งหนีอีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกับเส้นทางแห่งชื่อเสียงที่เมื่อก้าวขึ้นไปแล้วก็หาทางกลับไม่ได้ ต้องลุยต่ออย่างเดียวเลย

    I asked myself why
    Can I never let anyone in?I  thought that I heard someone say now
    There's no time for running away now
    Hey now, hey now!




    7. Don't Go Away

    เป็นเพลงที่เราชอบที่สุดในอัลบั้ม 'Be Here Now' ซึ่งแรงบันดาลใจของเพลงนี้ โนลแต่งขึ้นมาตอนที่คุณแม่ป่วยเข้าโรงพยาบาลนั่นเอง พอทราบถึงที่มาที่ไปของเพลงก็ทำให้เข้าใจความหมายของเนื้อเพลงในแต่ละประโยคมากขึ้น ประมาณว่าอย่าไปไหนนะ อยากพูดอะไร อยากทำอะไรก็เชิญเลย แต่ช่วยบอกผมก่อนได้ไหมว่าคุณจะอยู่ อยู่ในทุกๆวันตลอดชีวิตของผม 

    So don't go away,
    Say what you say
    Say that you'll stay
    Forever and a day
    In the time of my life




    6. Talk Tonight

    เป็นเพลงที่รักมากกกกกก ถ้าเปิดร้านเหล้าจะตั้งชื่อนี้เลย ยกให้เป็นเพลงของ Oasis ที่โรแมนติกที่สุด เบื้องหลังของเพลงนี้ก็โรแมนติกไม่แพ้กัน แฟนๆ Oasis หลายๆคนน่าจะรู้กันไปบ้างแล้ว ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นถึงเป็นแรงบันดาลใจให้โนล กัลลาเกอร์ แต่งเพลงนี้เพื่อขอบคุณสาวอเมริกันคนหนึ่งที่กลายเป็นผู้ต่อลมหายใจให้วงดนตรี Oasis และช่วยโนลไว้ในยามที่เขาอ่อนแอ  เธอคนนี้ชื่อว่า 'เมลิซซ่า ลิม' เธอได้พาโนลไปเดินเล่นในที่ที่เธอเคยวิ่งเล่นตอนเด็กๆ ซื้อน้ำสตรอว์เบอร์รี่เลม่อนเนดให้เขากิน ซึ่งโนลได้นำเรื่องราวนี้ซ่อนไว้ระหว่างบรรทัดในเพลง Talk Tonight แล้ว "All your dreams are made
    of strawberry lemonade and you make sure I eat today. You take me walking to where you played when you were young"

    เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของเมลิซซ่าในเว็บ NME เวลาที่โนลโทรหาเธอมักจะพูดทักทายเขาว่า “What’s the story morning glory” ซึ่งเป็นประโยคในหนังเรื่อง Bye Bye Birdie (1963) โดยในเวลาต่อมาวง Oasis ก็ออกอัลบั้มที่ 2 ที่มีชื่อว่า '(What’s the Story) Morning Glory ?' มันจะมีความเชื่อมโยงกันหรือเปล่านั้น คงมีแต่ป๋าโนลเท่านั้นที่รู้...แต่อย่างน้อยในช่วงเวลาหนึ่งเราเชื่อว่าเมลิซซ่าคนนี้ก็คงเป็นเพื่อนที่สำคัญต่อโนลมากๆ 
    I wanna talk tonight
    until the morning light 
    'bout how you save my life. 




    5. Rockin' Chair

    หลงรักเพลง B-Side ของ Oasis อีกแล้ว คือโอ้ยขนาดเพลงหน้า B มันยังดีงามขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่เพลงหน้า A มันจะสร้างแฟนเพลงได้มากมายมหาศาล  เพลงนี้ฟังแล้วเห็นภาพมากๆ เหมือนนั่งเก้าอี้โยกหว่องๆอยู่คนเดียว นั่งรอเสียงโทรศัพท์ดัง ยกให้เป็นเพลงเหงาของ Oasis เลย นอกจากนี้ยังเหมือนเป็นเพลงที่เนื้อหามันบอกว่าเออกูปลงๆระดับหนึ่งแล้ว ใครจะพูดอะไรไม่ดี ก็โนสนโนแคร์แล้ว เพราะตลอดชีวิตเราก็พยายามทำให้ทุกๆวันมันดีขึ้นเสมอ 

    I don't care for your attitude
    You bring me down I think you're rude
    All my life I try to make a better day

    ลองไปหาเวอร์ชั่นเสียง Demo ของโนลสไตล์อะคูสติกมาฟัง ชอบมาก ดีงามมาก แต่เวอร์ชั่นเสียงเลียมก็มีสไตล์และหนักแน่นไปอีกแบบ มีอยู่ครั้งหนึ่งก่อนคอนเสิร์ตของโนลที่ประเทศบราซิล ในปี 2012 จะเริ่ม แฟนๆที่รอหน้าเวทีต่างพากันร้องเพลงนี้ขึ้นมาดังกระหึ่ม ซึ่งเป็นเพลงที่เข้ากับสถานการณ์ (การรอคอย) มากจริงๆ 555 
     
    It's hard enough being alone
    Sitting here by the phone
    Waiting for my memories
    To come and play





    4. Some Might Say

    เป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกว่าชีวิตจะต้องดียิ่งขึ้น เลียม กัลลาเกอร์ คนดีคนเดิมเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าดนตรีและร็อกแอนด์โรลนั้นช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ถ้าไม่ได้เป็นนักร้องก็ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไรแล้ว (แต่มึงขายเสื้อ !) ป่านนี้คงวิ่งราวลักขโมยหรือไม่ก็ติดยาตาย ha ไปแล้ว 555 ส่วนเนื้อหาของเพลงเราชอบการใช้คำใช้ประโยคของเพลงนี้มาก คนบางคนไม่เชื่อในสวรรค์ใช่ไหม แต่คุณลองไปถามพวกที่อยู่ในนรกดูสิ คนบางคนไม่เชื่อว่าฟ้าหลังฝนจะสดใส แต่ลองไปถามพวกที่ไม่เคยได้เปล่งประกายดูสิ สุดท้ายแล้วคนนู้นคนนี้ก็พูดกันไป แต่สุดท้ายเชื่อว่าวันที่สดใสและดีกว่าจะรอพวกเราอยู่เสมอ และในที่สุด Some Might Say ก็ไต่ขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ของชาร์ตเพลงฝั่งอังกฤษได้ โดยในเวอร์ชั่น Demo ป๋าโนลแกอัดกีตาร์ เบส และกลองเองเลย ความยาวของเพลงก็ 6 นาทีกว่า ก่อนจะหั่นให้สั้นเหลือ 5 นาทีกว่า พร้อมกับให้น้องเลียมคนดีคนเดิมเป็นคนร้องในเวอร์ชั่นอัลบั้มอย่างที่เราได้ฟังกันอยู่ นอกจากนี้ Some Might Say ยังเป็นเพลงสุดท้ายที่ Tony McCarroll ได้ทำหน้าที่มือกลองประจำวง

    Some might say they don't believe in heaven
    Go and tell it to the man who lives in hell
    Some might say you get what you've been given
    If you don't get yours I won't get mine as well




    3. Married With Children

    ดีใจที่ได้ค้นพบเพลงที่มุ้งมิ้งปนฮาแบบนี้ เรียกว่าเป็นเพลงสไตล์คนมีฟอร์มที่น่ารักที่สุดเท่าที่เคยฟังมาเลย แล้วยิ่งแต่งโดยผู้ชายที่ชื่อ 'โนล กัลลาเกอร์' แล้วเนี่ยยิ่งเพิ่มดีกรีความฟอร์มเข้าไปใหญ่ ชอบมากกกกก แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากแฟนเก่าของโนลที่มักจะบ่นเรื่องที่เฮียแกนั่งเล่นกีตาร์ทั้งวัน แถมกลางคืนก็ยังเล่นกีตาร์ไม่หลับไม่นอน จนโดนแฟนบ่นว่า "เพลงของเธอน่ะมันห่วยแตก"  แกเลยเอามาแต่งเป็นเพลงซะเลย ส่วนชื่อเพลงก็ได้มาจาก Married with Children ซีรีส์ซิทคอมที่ดังมากในยุค 90s  

    I hate the way that you are so sarcastic
    And you're not very bright
    You think that everything you've done's fantastic
    Your music's shite it keeps me up all night




    2. Slide Away

    เพลงที่แสดงความเป็น Oasis ออกมาได้ดีที่สุด อยู่ในอัลบั้มชุดแรก 'Definitely Maybe' โดดเด่นด้วยสไตล์ดนตรีซาวด์ดิบๆ พร้อมเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของเลียมสมัยที่เสียงยังใสแจ๋ว เพลงนี้โนลแต่งให้แฟนเก่าและโนลบอกว่าเพลงนี้จะนำมาเล่นในคอนเสิร์ตมากยิ่งขึ้น ในฐานะ 'เพลงเอาใจแฟนเพลง' Slide Away เป็นสุดยอดเพลงรักของ Oasis ที่ 'เซอร์ พอล แม็กคาร์ตนีย์' อดีตสมาชิกวง The Beatles ชอบที่สุด เราชอบเพลงนี้มาก พยายามตามหาทุกเวอร์ชั่นเท่าที่จะหาได้ใน Youtube มาฟัง ทั้งเวอร์ชั่น Demo และ อะคูสติก ทั้งเสียงของเลียมและโนล สมัยก่อนเวลา Oasis เอาเพลงนี้ไปเล่นในคอนเสิร์ต หลังท่อนคอรัส take me there จบ ทั้งเลียมและโนลจะร้องพร้อมกันว่า "what for" ต่อท้ายด้วย แต่ตั้งแต่ปลายยุค 90s - ปี 2000 เป็นต้นมาก็ไม่เคยได้ยิน what for อีกเลย ยิ่งไปกว่านั้นพอยุบวง Oasis เลียมก็ยังเอาเพลงนี้ไปเล่น แต่ไม่ร้องท่อน take me there อีกเลย

    We'll find a way of chasing the sun 
    Let me be the one that shines with you 

    Don't know, Don't care, 
    All I know is you can take me there, just take me there...WHAT FOR ?





    1. Live Forever

    Live Forever เป็นเพลงที่ทำให้รัก Oasis ความหมายดีงามมาก โนลบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงเกี่ยวกับเพื่อนรักหรือคนที่เรารักสักคน ที่ไม่ว่าเขาจะมีข้อเสียยังไงก็ไม่สำคัญ เหมือนท่อนที่บอกว่า Maybe I don't really want to know how your garden grows  โนลแต่งเพลงนี้ไว้ตั้งแต่สมัยที่ยังทำงานในไซต์ก่อสร้าง ก่อนจะมาร่วมวงกับน้องเลียมคนดีคนเดิม จนฟอร์มวง Oasis ขึ้นมา และเอาเพลงนี้ใส่ไว้ในอัลบั้มชุดแรก  ซึ่งตอนนั้นเพื่อนๆในวงไม่มีใครเชื่อว่าโนลแต่ง Live Forever เองด้วยซ้ำ 555

    แต่ขณะเดียวกันแฟนเพลงสายโคนันก็วิเคราะห์กันว่า เพลง Live Forever นั้นเป็นเพลงที่โนลแสดงจุดยืนเกี่ยวกับการทำดนตรีว่า ต้องการเขียนเพลงที่ทำให้คนฟังรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้น ไม่ใช่ฟังแล้วเศร้าหมองหดหู่หรือรู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว (ซึ่งเลียมเองก็ยืนยันจุดยืนด้านดนตรีแบบนี้เหมือนกัน) โดยเฉพาะท่อน I want to live, I don't want to die นั้นโนลแต่งขึ้นให้ตรงข้ามกับเพลง 'I Hate Myself And Want To Die'  ที่มีเนื้อหาหดหู่ของวง Nirvana ซึ่งปีก่อนที่อัลบั้มชุดแรกของ Oasis จะวางจำหน่ายนั้นเป็นปีที่ 'เคิร์ต โคเบน' นักร้องนำ Nirvana เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย (แม้ว่าแฟนๆ Nirvana จะไม่เชื่อว่าเคิร์ตฆ่าตัวตายจริงๆ) นอกจากนี้ท่อนวรรคทอง You and I gonna live forever ก็อาจหมายถึง Oasis และ จอห์น เลนนอนแห่ง The Beatles หรือคุณแม่เป็กกี้ กัลลาเกอร์

    ในปี 2009 วง Oasis ไปเล่นคอนเสิร์ตที่อาร์เจนติน่า แฟนเพลงร่วมกันตะโกนขอเพลง Live Forever ปิดท้าย แต่ไม่ได้เป็นเพลงในเซ็ทลิสต์ ทางวงก็ไม่ได้เล่นให้ เช่นเดียวกับคอนเสิร์ตที่กรุงลิมา ประเทศเปรูในปีเดียวกัน แฟนเพลงตะโกนขอเพลง Live Forever เสียงดังกะหึ่มเช่นกัน...สุดท้ายเลียม กัลลาเกอร์เลยมาพูดใส่ไมค์ว่า "You too"  โว้ยยยยยย 555555 WTF เค้าขอเพลงเว้ยไม่ได้อวยพรให้ยู 'มีชีวิตไปชั่วนิรันดร์' ยังมีหน้ามาตอบกลับอีกว่า 'พวกคุณก็เช่นกัน' เลียมนี่มันเลียมจริงๆ  

    Maybe you're the same as me
    We see things they'll never see
    You and I are gonna live forever


    ____________________________________________________________________________________________________

    ปล. อันที่จริงนี่คือส่วนหนึ่งยังมีเพลงที่ชอบอีกหลายเพลงเลย Sunday Morning Call, Whatever, Where Did It All Go Wrong ? และ Fade Away

    สุดท้ายนี้ไม่ว่าความหมายที่แท้จริงของเพลงจะมาจากไหนก็ตาม ความพิเศษของเพลง Oasis ขึ้นอยู่ที่แต่ละคนจะตีความหมาย และเชื่อมโยงดนตรีเข้ากับประสบการณ์ของตัวเอง ลิสต์ทั้ง 15 เพลงนี้ก็เป็นความชอบส่วนตัวของเราเอง ส่วนหากมีข้อมูลตรงไหนที่ผิดพลาดก็บอกได้เลย และก็ยินดีมากหากใครได้เข้ามาอ่านแล้วได้เพลงที่ชอบจากวง Oasis กลับไปอีกสักเพลงสองเพลง

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in