แล้วก็มานั่งคิดว่าอยากเขียนอะไร สิ่งแรกที่โผล่ในหัวเลยคือเพลง

ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นคนมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย งูๆปลาๆสไตล์ 

Shura เป็นนักร้องที่ทำให้หันมาสนใจเพลงแนวอิเล็กโทนิค ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าคือแนวเพลงอะไรหรอก รู้สึกแค่ว่าเพลงมันดูสวย  คือทุกๆเพลงของ Shura  นี่ให้ความรู้สึกเศร้าหมดเลย แต่ไม่หนัก เป็นความรู้สึกแบบถ้าฉันไม่ได้พูดออกไปคงต้องมานั่งเสียใจแน่ แต่ไม่กล้าบอก ทำไงดี งงป่ะ ง่ายๆคือย้อนแย้ง 

เราชอบฟังอินดี้เกาหลี แต่เราไม่เคยฟังเพลงของ CHEEZE เลย ซึ่งก็งงมากว่าพลาดได้ไง เพลงนี้น่ารักมาก แบบเหมือนเรากำลังเดินไปเรื่อยๆ กำลังนึกถึงคนที่ชอบ แล้วคำถามมากมายมันก็เกิดขึ้นบนหัว ยิ่งพอได้อ่านคำแปล  https://www.youtube.com/watch?v=50LyqQspGR4  (cr:เด็กผมสามเส้น) ยิ่งรู้สึกว่าน่ารักมาก ความรู้สึกแอบชอบใครนี่มันทำให้ชีวิตเราดูผิดพลาดไปหมดทุกอย่างจริงๆ

เกาหลีอีกซักเพลง สำหรับวงที่คัมแบ็คหลังจากห่างหายมานาน Sechskies จริงๆเราเกิดไม่ทันยุครุ่งเรืองวงนี้หรอก แต่ด้วยความที่ดู Reply1997   มีเมมเบอร์ในวงนี้เล่นด้วยคือ อึนจีวอน  ด้วยอะไรหลายๆอย่างๆในเรื่องนี้ ทำให้เราฟังเพลงนี้ และ Couple มากกว่าที่จะฟังแคนดี้ ยิ่งซีนที่เพลงนี้ขึ้น ตัวจีวอนในเรื่องยิ่งโคตรหล่อ  

มีเวอร์รีอัลบั้มด้วยนะ https://www.youtube.com/watch?v=SlJ9n96rAEA  

เราไม่รู้ว่าเพลงนี้ประกอบอะไรหรือเปล่า(ใครรู้บอกหน่อย) ตอนแรกไม่รู้ว่าเพลงของใครด้วยซ้ำ นักร้องเราก็ไม่รู้จักเลย  แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่อยู่ในเพลย์ลิสเรามาหลายปีแล้ว อ่านคำแปลยิ่งแบบ รู้สึกถึงความพยายามของคนที่ชอบอ่ะ อะไรจะชอบขนาดนั้น เป็นเพลงที่ฟังแล้วทำให้นึกถึงคนที่แบบถึงจะเซ่อแต่ก็รักเธอนะ โคตรเสี่ยว

เอาง่ายๆว่าเราชอบเกือบทุกเพลงในหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะ Drive It Like You Stole It | Brown Shoes | Girls | A Beautiful Sea (ยิ่งในหนังตอนปรบมือพร้อมกันนะหืม ไม่รู้ทำไมตัวเองชอบอะไรแบบนั้น) แต่ที่ชอบเพลงนี้คือสุดๆคือเพลงนี้กำลังอยู่ในช่วงพอดีของทุกอย่าง ทั้งตัว คอร์เนอร์ ที่กำลังไปได้ดีในเรื่องรัก เรื่องของวงที่อยู่ในช่วงที่ทุกคนสนุกไปกับดนตรีที่ทำอยู่จริงๆ ( ที่คิดว่างี้เพราะ คอร์เนอร์เอมอนนั่งแต่งเนื้อใส่ดนตรีกันทันทีทันใดที่คิดออกเลย) แต่ที่สุดของที่สุดของเคมีคงเป็น เบรนแดน กับ คอร์เนอร์ ที่ยกพี่ชายเป็นไอดอลในชีวิต เป็นหนังโดนใจอีกเรื่อง ไม่รู้จะพูดไงแล้ว 

  

มากมาย ก่ายกอง จนต้องหาพริกขี้หนูกับหมูแฮมดู แล้วพอดูคือตัวจอน กับ พิม ความรู้สึกตรงเนื้อหาเพลงตรงเป็นรักแบบไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็ทำสิ่งดีๆให้เขาไปเยอะแยะแล้ว พอรู้ตัวเองก็ไม่ได้อยากให้เขารู้ เพราะกลัวเขารู้แล้วจะเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่เป็นไร แค่เรารู้ความรู้สึกของเราคนเดียวก็พอใจแล้วไรงี้ ภาพ ความรู้สึก หลังจากฟังเพลงนี้แล้วไปดูคือ บางทีความรู้สึกมันก็พูดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ  ยิ่งท่อน  เป็นคนที่เธอไว้ใจ มันก็ดีเท่าไร  จี๊ดไปถึงแก่นกะโหลก แค่นี้ก็พอสำหรับคนๆนี้มันมีจริงๆนะ ดีหมดทุกแชปเตอร์ แต่เราชอบแชปเตอร์นี้ที่สุด  อยากจะชมทุกๆอย่างที่ทำให้เกิดสามเพลงนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะโพลีแคท  ชาบู 

เป็นเพลงที่เข้าไปฟังแบบตั้งใจเพราะคนโพส ฟังไปฟังมาก็เขิน แล้วก็งงตัวเองว่าเขินอะไรแฟนเขาก็ไม่ใช่ คือเนื้อเพลงมันเพ้อ+เสียงดนตรีที่ไม่รู้จะเรียกว่ายังไงดี แบบเข้ามาถูกจังหวะความรู้สึกเรามาก อย่างท่อน ความคิดถึงคือตัวแปร ที่ทำให้ผมอยากดูแล ดนตรีจะเบาๆแผ่วๆเหมือนเรากำลังนั่งลุ้นอะไรซักอย่าง พอฮุคมาดนตรีก็ปร้าง อัดเต็ม 

 

ความดีงามของทรอย+เอ็มวีทุกตัว  เนื้อหาอาจจะเกี่ยวกับเรื่อง LGBT  เป็นสิ่งที่เราชอบนะ ตรงทรอยสามารถสื่อตัวตนของตัวเองไว้ในงานได้ เพลง WILD ชีวิตวัยรุ่น ที่ชอบคือการถ่ายด้วยตัวเองอ่ะ ดูเรียล ชิลๆชิคๆ และปกติเราไม่ค่อยฟังเพลงของ Alessia Cara แต่ยอมรับจริงๆว่าพอมาฟีทในเพลงนี้มันดี

เป็นเพลงที่ฟังแล้วอยากจะทำตัวเป็นนางเอกเอ็มวีอกหักนั่งอยู่ใต้ฝักบัว แต่ก็ไม่ทำเพราะพยายามจะบอกว่าตัวเองเข้มแข็งพอ เนื้อหาคือคนที่พึ่งทำใจได้แล้วแต่ดั๊นกลับมาให้ช้ำใจอีกรอบ   พูดถึงเพลงในความคิด(มั่วๆ)ของเราบ้าง ชอบตั้งแต่อินโทรเข้ามา แค่ฟังสับสันก็แล้ว บวกท่อนแรกที่จี๊ดมากอย่าง จะกลับมาทำไมนะ ไหนที่เธอบอก ได้แต่ตอบในใจกับเพลงว่าเออใช่ แต่ความรู้สึกตัดพ้อ+เคืองในช่วงแรกๆก็จบเมื่อมาถึงท่อนฮุค ความรู้สึกโกรธพังทะลายลงหมดทุกอย่าง ทุกคำ ในเนื้อเพลง หาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมอินเพลงนี้จัง พิมพ์ไปก็ฟังอยู่ รู้สึกอกหักรอบที่พัน