เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
central europe 2019themoonograph
DAY6 : มิวนิค เมืองพิพิธภัณฑ์นับร้อย
  • มิวนิคเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียของเยอรมัน เมื่อได้ยินว่าเป็นเมืองหลวงของแคว้นสำคัญ เราก็คิดเอาไว้ว่าต้องเป็นอีกเมืองที่วุ่นวายมาก ๆ นักท่องเที่ยวเต็มไปหมด ไม่ต่างจากเมืองอย่างเวียนนาและปรากที่ได้ไปมา แต่เรากลับคิดผิด เพราะมิวนิคไม่ใช่เมืองแบบนั้นเลย กลับเป็นเมืองที่สงบมาก คนไม่ค่อยเยอะ เผลอ ๆ เงียบยิ่งกว่าเรเก้นส์บวร์กด้วยซ้ำไป

    วันนี้เป็นวันที่เราถ่ายรูปน้อยที่สุดจากทั้งทริป เนื่องจากใช้เวลาส่วนมากไปกับการเดินทางข้ามเมือง สภาพอากาศก็ค่อนข้างครึ้ม เหมือนฝนจะตกอยู่ตลอดเวลา แล้วจู่ ๆ เราก็เริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมาดื้อ ๆ อีกด้วย รูปที่ได้จากวันนี้เลยไม่ค่อยมีช็อตที่สวยสะดุดตามากเท่าไร แต่รูปนี้ก็เป็นรูปที่เราชอบมากที่สุดค่ะ


    วันที่หกเรารีบออกจากที่พักในเรเก้นส์บวร์กโดยไม่ลืมที่จะนำกุญแจไปใส่ไว้ในกล่องสีดำเจ้าปัญหาตัวเมื่อวานเหมือนเดิม และลากกระเป๋ากลับไปยังสถานีเพื่อไปยืนรอรถ Flixbus ที่จะพาเราไปยังมิวนิค จุดที่เรารอรถเป็นจุดเดียวกับที่เราลงรถคันที่ขับจากปรากมาส่งเราที่เรเก้นส์บวร์กเลยค่ะ ยืนรออยู่สักพักรถก็มารับไป แต่ด้วยความที่คราวนี้เราไม่ได้ขึ้นรถที่ต้นทาง (ต้นทางของคันที่เรานั่งมาจากปรากค่ะ เป็น Connection 083 Prague-Munich) ทำให้ที่นั่งบนรถเต็มเกือบหมดแล้ว รวมไปถึงที่นั่งที่เราได้จองเอาไว้แล้วด้วย ทำให้เราต้องเดินหาที่นั่งอื่นนั่งแทน 

    นั่งรถอยู่ประมาณสองชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงที่หมาย พอลงรถเราก็รีบตรงเข้าไปยังที่พักที่อยู่ใกล้ ๆ สถานีรถไฟใต้ดินป้าย Gern ตอนแรกได้อีเมลคุยกับทางโรงแรมแล้ว และกะว่าจะฝากกระเป๋าเฉย ๆ ออกไปเที่ยวแล้วค่อยกลับมา Check-in ตอนเย็นก็ได้ แต่พอไปถึงที่ ทางโรงแรมบอกว่าห้องเตรียมเสร็จเรียบร้อยพอดี เลยสามารถ Check-in ได้ตั้งแต่ประมาณเที่ยง ๆ เลยค่ะ ถือว่าโชคดีมาก

    แพลนช่วงบ่ายเราไม่มีอะไรมากมาย แค่จะหาอะไรทานนิดหน่อย แวะเข้าไปชม Alte Pinakothek เดินรอบ ๆ Mariensplatz แล้วก็กลับที่พัก เป็นอีกวันชิว ๆ ที่เน้นเก็บบรรยากาศรอบข้างมากกว่า

    ขอเพิ่มเติมนิดนึง ถ้าใครพักเป็นโรงแรม ส่วนมากเขาจะมีตั๋วเดินทางในมิวนิคขายให้นะคะ ไม่จำเป็นต้องไปกดตั๋วที่สถานี อย่างของเราต้องซื้อตั๋ววัน (เราไปกันสามคนเลยซื้อเป็นตั๋วกลุ่มค่ะ ราคาจะถูกกว่าซื้อแยกเดี่ยวทีละคน) ลองติดต่อหน้า Reception ดูเขาก็มีให้ จ่ายเงินซื้อตั๋วตรงนั้นได้เลย แล้วค่อยเอาไป Validate ตอนจะขึ้นรถทีหลัง สะดวกมาก ๆ เลยค่ะ

    พอเก็บของอะไรเสร็จเราก็ลงรถไฟฟ้าใต้ดินตรงไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Alte Pinakothek ตามที่เราได้หาข้อมูลมา มิวนิคเป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์เยอะมาก และงานชิ้นสำคัญหลายชิ้นก็ถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ทั้งนั้น ตามที่เราได้หาข้อมูลมา มิวนิคมีพิพิธภัณฑ์ทั้งหมดราว 80 ที่ คือถ้าจังหวัดอย่างอยุธยาเป็นจังหวัดที่โด่งดังเรื่องวัดวาอารามในไทย เมืองอย่างมิวนิคก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ดังเรื่องพิพิธภัณฑ์ในเยอรมันมาก ๆ ค่ะ นอกจากที่ Alte Pinakothek ที่เราจะไปแล้ว ก็จะมี Neue Pinakothek, Pinakothek der Moderne, Egyptian Museum, Glyptothek, Jewish Museum, BMW Museum, Deustches Museum, Bavarian National Museum, etc. จริง ๆ เราอยากไป Neue Pinakothek มากเพราะมีงานของแวนโก๊ะ โมเน่ต์ และเอ็ดเวิร์ด มุงก์ (คนนี้เราปลื้มมาก ㅠㅡㅠ) แต่ตอนที่เราไปเขาปิดปรับปรุงพอดี แล้วไม่ได้เอางานมาขึ้นโชว์ที่อื่น เสียดายมาก ๆ เลยค่ะ

    หน้าตาของอาคาร Alte Pinakothek ดูเป็นตึกธรรมดา ๆ ภายนอก 
    แต่ข้างในเก็บผลงานศิลปะเอาไว้เยอะมาก
    หลังจากนั้นเราก็นั่งไปลง Mariensplatz ต่อ เป็นช่วงที่ฝนตกลงมาพอดี ต้องหามุมยืนหลบอยู่สักครู่นึงฝนก็หยุดลงไปเองค่ะ เท่าที่เราไปมาทั้งหมด มิวนิคเป็นเมืองที่อากาศแปรปรวนมากที่สุดแล้ว ลมแรง ฟ้าครึ้ม ฝนตก ใครไปช่วงเดียวกับเรา (ต้นถึงกลางเดือนมิถุนายน) ก็อย่าลืมพกร่มหรือติดเสื้อที่มีฮู้ดใส่กันฝนไป แล้วก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ หลังจากนั้นเราก็ถ่ายรูปนิดหน่อย หาร้านทานอาหารเย็น แวะเข้าไปดูร้านแอปเปิ้ลแล้วค่อยนั่งรถไฟใต้ดินกลับโรงแรมค่ะ
    วันนี้น่าจะเป็นวันที่ชิวที่สุดจากทั้งทริปเลยค่ะ แต่เราก็มีความสุขดีที่ได้เดินเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เดินเฉื่อย ๆ รอบเมือง มองอาคารและตึกสวย ๆ รอบข้าง ทั้งทริปเรามีโอกาสได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะถึงสองที่ด้วยกัน ที่แรกคือ Kunsthistoriches Museum ในเวียนนา และที่สองคือ Alte Pinakothek ในมิวนิคนี่เอง แต่ถึงจะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะเหมือนกัน สิ่งที่จัดแสดงด้านในของทั้งสองที่ค่อนข้างต่างกันพอสมควร ในเวียนนาจะมีทั้งชิ้นส่วนจากอียิปต์ กรีก-โรมัน รวมไปถึงรูปวาด ในขณะที่ Alte Pinakothek จะมีเพียงแค่ภาพวาดจากสมัยประมาณคริสตศตวรรษที่ 14-17 เท่านั้น ถ้าถามความประทับใจเราชอบทั้งสองที่พอ ๆ กันเลยนะคะ ถ้าใครมีโอกาสได้มาก็อยากให้เข้าชมทั้งสองที่เหมือนกัน และถ้าใครชื่นชอบผลงานของ Peter Paul Rubens ศิลปินยุคบาโรกชื่อดัง ก็ยิ่งแนะนำให้มาที่ Alte Pinakothek เลย เพราะงานของเขาอยู่ที่นี่เยอะมาก ๆ หันไปทางไหนก็เจอแต่งานของเขาค่ะ และสวยทุกรูปจริง ๆ
    ก็ขอจบวันที่หกแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ

    — themoonograph
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in