เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แอนดี้แมนดี้ ผจญภัยในโลกแคนดี้TOMATO
บทที่ 3 ลูกกวาดแสนอร่อย!
  •           บ้านหลังนั้นเป็นบ้านที่น่ารักมาก ตัวบ้านสีสันสดใสและส่งกลิ่นหอมสุดๆ

    ท่ามกลางความมืด ทั้งสองมองเห็นบ้านหลังน้อยตั้งอยู่ในป่าลึกที่มีต้นไม้สูงล้อมรอบแต่แอนดี้กับแมนดี้ก็ยังเห็นโครงร่างของตัวบ้านได้รางๆ ด้วยแสงไฟจากโคมตัวสูงขนาดใหญ่ที่ตั้งเรียงยาวเป็นระยะบนทางเดินทอดยาวจากในป่าจนถึงหน้าประตูบ้านแอนดี้กับแมนดี้ผลัดกันล้มคนละทีสองทีบนทางเดินที่ลื่นและแข็งนั้น ทั้งสองเดินด้วยกันไปเรื่อยๆแต่ก็ไม่ถึงบ้านเล็กหลังนั้นเสียที ราวกับทางเดินนั้นทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุดไกลเกินกว่าที่เท้าเล็ก ๆทั้งสี่จะเดินไปถึง

              แอนดี้กับแมนดี้รู้สึกอ่อนล้าเต็มทีที่เท้ารู้สึกหนักอึ้งเหมือนมีหินถ่วงอยู่ที่ขาไม่มีแรงแม้แต่จะหันมาคุยหรือเล่นอะไรกันทั้งนั้นรอยแผลจากการล้มเห็นได้ชัดบนร่างกายของทั้งสองที่เริ่มสูญเสียรูปทรงเดิมความกลมมนเริ่มหายไปแทนที่ด้วยความแบนและเหลี่ยมมุม แต่สภาพร่างกายกลับแข็งขึ้นหลังจากได้รับลมเย็นตลอดคืน

    เมื่อไรจะถึงสักทีนะ ทั้งสองคิดอยู่ในใจขณะลื่นล้มเป็นครั้งที่ล้าน

    เวลากลางคืนได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังลอยขึ้นบนท้องฟ้าและเริ่มฉายแสงทำให้ทั้งสองมองเห็นเส้นทางเดินได้ชัดเจน ตัวบ้านก็เช่นกัน แอนดี้แมนดี้มองตรงหน้าด้วยความตื่นตาตื่นใจทั้งสองเข้าใกล้บ้านเล็กหลังน้อยมากแล้ว

               บ้านเล็กในป่าหลังนี้เป็นบ้านสีน้ำตาลอ่อนที่พื้นผิวไม่เหมือนกับสิ่งต่างๆในป่าที่แอนดี้กับแมนดี้เคยเห็น ดูเรียบแต่แข็ง มีกลิ่นหอมอบอุ่นลอยออกมาเป็นกลิ่นที่คล้ายกับตอนที่ทั้งคู่ถูกแดดเผานิดหน่อย แอนดี้แมนดี้คิดสงสัยอยู่ในใจ

    แต่ที่นี่อยู่ใต้ต้นไม้นี่นา มีต้นไม้ที่สูงมากๆ ช่วยบังแดดไว้ ไม่มีทางที่บ้านหลังนี้จะละลายได้เลย

    แต่นอกจากกลิ่นหอมแบบร้อนๆที่ทั้งคู่ได้กลิ่นแล้ว ทั้งสองยังได้กลิ่นหอมๆ หลายกลิ่นจากที่นี่ด้วย มีกลิ่นที่หอมหวานมาจากกลมๆสีแดงตรงนั้น เป็นกลิ่นเดียวกับทางเดินที่เดินลากขากันมาทั้งคืน มีกลิ่นหวานๆ จากของกลมๆหลายสีที่ติดอยู่กับตัวบ้านเลย แอนดี้แมนดี้รู้สึกว่าบ้านหลังนี้ดูน่ารักที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาแม้ว่านี่จะเป็นบ้านหลังแรกที่ทั้งสองเคยเห็นในชีวิตก็ตามยิ่งทั้งสองเดินเข้าใกล้บ้านมากขึ้นเท่าไร บ้านก็ดูจะใหญ่โตขึ้นมากเท่านั้นจนแอนดี้และแมนดี้มองไม่เห็นประตูหรือหน้าต่างอีกนอกจากกำแพงสีน้ำตาลอ่อนขนาดใหญ่

              แอนดี้กับแมนดี้หยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านสีน้ำตาลอ่อนตกแต่งด้วยเม็ดลูกกวาดสีสดใส เกล็ดน้ำตาลและผงน้ำตาลสีขาวระยิบระยับ มีอะไรนุ่มๆสีขาวอยู่รอบบ้านด้วย ที่ประตู รอบตัวบ้านและรูปสี่เหลี่ยมที่ติดอยู่กับผนังบ้านมีของเหล่านี้ติดอยู่เต็มไปหมดแอนดี้กับแมนดี้ชอบบ้านหลังนี้มากมาก แต่กลิ่นหอมหวานที่ลอยเข้ามาตีกันทำให้ทั้งสองเริ่มมึนหัวและตาลาย

    มีเสียงวิ้งๆ อยู่ในหูตลอดมองอะไรไม่ค่อยเห็นเลย รู้สึกเหนื่อยจัง

    เสียงวิ้งในหัวดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเสียงตุบตุบข้างหู เมื่อแมนดี้หันไปมองก็เห็นว่าเป็นเสียงของแอนดี้ที่กำลังใช้มือทุบหัวของตนเองอยู่แมนดี้ก็อยากทำแบบนั้นบ้างแต่แอนดี้ดูไม่ดีขึ้นเลย ทั้งสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปตามอุณหภูมิและของอย่างอื่นที่ติดตัวผสมเข้ากับชิ้นส่วนร่างกายทำให้แอนดี้แมนดี้รู้สึกแย่แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ทำอะไรอีก บานประตูก็เปิดอ้าออกมา

              สิ่งที่สายตาเล็กๆของทั้งคู่มองเห็นคือเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นตัวอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่มาก ทั้งคู่สูงไม่ถึงครึ่งขาของมันด้วยซ้ำแต่ไม่ใหญ่เท่าสัตว์ในป่า มีสองขาเรียวยาว มีสองแขนที่กำลังถืออะไรบางอย่างสีแดงกับสีเหหลืองอ่อนอยู่และมีใบหน้าที่สดใสสวยงามแอนดี้แมนดี้ได้กลิ่นหอมหวานที่เหมือนกับกลิ่นของบ้านและทางเดินมาจากเจ้าตัวนี้ด้วยก่อนที่ทั้งสองจะถูกกระแทกอย่างแรงและสลบไปก็เห็นว่ามือใหญ่คู่นั้นเอื้อมลงมาเก็บแอนดี้กับแมนดี้ขึ้นไป

    เธอมองก้อนในมืออย่างสงสัยใคร่รู้ปนสนใจก่อนหน้านี้เธอก้าวเท้าออกมาจากบ้านโดยที่ในมือถือแป้งคุกกี้และเยลลี่สีแดงอยู่ตั้งใจจะนำมันออกมาปั้นให้เป็นรูปและตากลมไว้ให้แห้งก่อนเอากลับเข้าไปอบและใช้งานต่อไปเธอตื่นเต้นกับสูตรใหม่ที่เพิ่งคิดค้นขึ้นและจะลองทำในวันนี้ แน่นอนว่ามันจะต้องประสบความสำเร็จแผนการตั้งอาณาจักรคุกกี้และเยลลี่จะต้องเสร็จสมบูรณ์เป็นจริงขึ้นได้แน่ๆ เธอปิดประตูดังโครมประตูขนมปังขิงที่น่าสงสารนั้นสั่นไหวเล็กน้อยก่อนหลุดเป็นผงออกมาบางส่วน เธอแค่นเสียงไม่พอใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนักก่อนหันมาเห็นว่าตัวเองเตะอะไรบางอย่างที่หน้าประตูเมื่อก้มลงมองดูเห็นเป็นก้อนอะไรสักอย่างขนาดเท่าฝ่ามือสองก้อนที่มีหน้าตาแปลกประหลาดเหมือนก้อนดินน้ำมันที่มีเศษหญ้า เศษดิน และกิ่งไม้ติดอยู่ทั่ว มีเส้นยืดยาวออกมาหลายๆเส้นคล้ายแขนกับขา มีสองเส้นที่พันกันอยู่ด้วย ดูๆ ไปแล้วเหมือนของเล่นดินปั้นที่เด็กๆปั้นเล่นแก้เหงากันซะมากกว่า

    เธอถือก้อนดินทั้งสองไว้ในมือขณะเดินต่อไปที่ลานหลังบ้านที่นั่นมีดินปั้นจิ๋วจำนวนมากตั้งเรียงรายกันอยู่คล้ายอาณาจักรขนาดย่อม มีรูปตัวคนที่ทำจากแป้งคุกกี้และสัตว์จากวุ้นเจลาตินอยู่ในท่าทางที่แตกต่างกันไปมีตึกรามบ้านช่องที่สร้างจากไม้กระจายอยู่ทั่วมีต้นไม้ดินปั้นหลากสีและพุ่มไม้ที่มีดอกไม้ติดอยู่ เธอมองดูภาพรวมของเมืองขนาดย่อมนี้และอดคิดไม่ได้ว่าอยากให้เมืองที่น่ารักนี้มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ

    เธอวางดินสองก้อนนั้นลงที่หน้าทางเข้าอาณาจักรแคนดี้นั้นและไม่สนใจมันอีกตั้งหน้าตั้งตาปั้นแป้งคุกกี้เพื่อสร้างคนจิ๋วตัวต่อไป ปั้นต้นไม้ต้นต่อไปอาคารหลังต่อไป และเทวุ้นเจลาตินใส่พิมพ์รูปสัตว์แล้วจึงตัดแต่งทรงให้สวยงามเป็นเยลลี่ตัวต่อไปพลางคิดวิธีที่จะทำให้อาณาจักรของเธอมีชีวิตขึ้นมาไม่ใช่การพัฒนาสูตรแป้งคุกกี้และดินให้เหนียวนุ่มปั้นง่าย ไม่ติดมือและคงตัวได้ดีทนแดด ทนฝน ทนอากาศหนาว หรือการทาสีสดใสที่หลุดยากและเย็บเสื้อผ้าที่สวยงามให้ตัวพวกนั้นใส่อย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้

    เวลาผ่านไปพักใหญ่ระหว่างที่เธอยังง่วนอยู่กับการปั้นให้แล้วเสร็จเป้าหมายของวันนี้ก้อนดินทั้งสองก็ลืมตาตื่น แอนดี้กับแมนดี้กะพริบตาถี่ๆ มองไปรอบตัวอย่างงงุนงง ทั้งสองมองหน้ากันอย่างสงสัยและแปลกใจรีบตรวจสอบร่างกายของตนเมื่อพบว่าไม่มีส่วนไหนขาดหายแต่มีรอยบี้จากการถูกชนก็โล่งใจหันมาสำรวจสิ่งมีชีวิตตรงหน้าต่อแอนดี้แมนดี้ไม่เคยเห็น “คน” มาก่อน เพราะในป่ามีแต่สัตว์เท่านั้นและไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่หน้าตาเหมือนตัวตรงหน้านี้ที่กำลังใช้มือที่มีเส้นแตกออกมาห้าเส้นปั้นก้อนอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายกับร่างกายของมันอย่างตั้งใจโดยที่ไม่รู้ตัว ทั้งคู่มองแป้งคุกกี้ที่ถูกปั้นอยู่ตรงหน้า มันมีสองแขน สองขาเส้นผมเส้นเล็กๆ และหน้าตาที่ลงสีอย่างสวยงามที่เมื่อเทียบกับร่างกายของตัวมันเองแล้วดูสวยกว่ามากแอนดี้กับแมนดี้ได้ยินคนตรงหน้าเรียกคนตัวจิ๋วพวกนี้ว่า “คุกกี้” จึงหันมามองหน้ากันเงียบๆในใจคิดว่าอยากมีร่างกายที่แข็งแรงแบบนั้น ไม่ละลายเพราะถูกแดดเผาแถมยังมีหน้าตาน่ารัก สีสันสดใส กลิ่นหอมหวานอีก

    แอนดี้กับแมนดี้อยากเป็นคุกกี้มากๆ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in