เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
lazy watchingmynkdontbelazy
[Society Game : EP01] จังกีมนุษย์
  • *อนึ่ง - ภาพประกอบในบทความนี้มาจากผู้เขียนบทความเองค่ะ
    ซับภาษาไทยในภาพนั้นกำลังอยู่ในช่วงการทำอยู่
    ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเสร็จเมื่อไหร เพราะทำไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักโนะ
    เพราะฉะนั้นอย่าคาดหวัง เสร็จเมื่อไหร่จะนำมาบอกค่ะ (ฮ่าๆๆ)


    จากการรีวิวกฎเกณฑ์หลักและเงื่อนไขพื้นฐานของ Society Game
    เกมโชว์ที่ต้องอาศัยทักษะที่หลากหลายในการเอาชีวิตรอดในชุมชน
    และช่วงชิงการเป็นผู้นำ ในสองชุมชนที่ถูกปกครองด้วยเงื่อนไขที่แตกต่าง
    กับสามคนสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดจากชุมชนที่แข็งแกร่งกว่า
    เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะและเงินรางวัลจำนวน 150 ล้านวอน 
    (ใครยังไม่ได้อ่าน ลองอ่านได้ ที่นี่ ค่ะ)

    ถึงเวลาเริ่มเล่นเกมกันแล้ว 
    EP01 มีความยาว 2 ชม. เต็มๆ ที่ไม่มีวินาทีไหนน่าเบื่อเลย
    มีเกมและประเด็นที่น่าสนใจเยอะมาก

    อย่างไร แค่ไหน มาติดตามกันค่ะ


    I.
    เกมแรกที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 22 คนต้องเจอ คือเกมที่จะทำให้มีสิทธิเลือกชุมชนที่ตนเองอยากอยู่
    (นบดง - ชุมชนประชาธิปไตยจำลอง และ มาดง - ชุมชนเผด็จการจำลอง
    ขึ้นอยู่กับวิธีการเลือกหัวหน้าชุมชนซึ่งอธิบายไว้แล้วที่ link นี้)

    เนื่องจากผู้เข้าแข่งขันมีความสามารถที่หลากหลายมาก การจำกัดเพียงแค่เกมเดียวดูจะไม่แฟร์
    ทางรายการจึงจัดเกมมาให้ 3 ประเภท ให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกเกมที่คิดว่าตัวเองทำได้ดีที่สุด แล้วเข้าแข่งขันเกมนั้น 

    โดย 3 เกมดังกล่าว แบ่งออกเป็น
    1) ด้านสติปัญญา - เกมจำสี
    ; ให้ดูสีที่ขึ้นมาบนจอ แล้วจำลำดับให้ได้ ว่าสีใดมาก่อนมาหลัง โดยให้เวลา 3 วินาทีในการตอบ


    2) ด้านพละกำลัง - เกมย้ายถุงทราย
    ; ย้ายถุงทราย (ชาย - 16 / หญิง - 12) ให้ขึ้นไปอยู่บนแท่นไม้โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด 


    3) ด้านความแม่นยำ - โยนห่วง
    ; โยนห่วงให้ไปคล้องกับเสาให้ได้มากที่สุด


    หลังจากการจัดอันดับแล้ว ก็จะได้เลือกว่าใครอยากอยู่ชุมชนไหน
    โดยมีเงื่อนไขว่า แต่ละชุมชน จะมีสมาชิกได้ 11 คน 
    จำกัดแน่นอนว่าต้องมี ชาย 7 หญิง 4 ในแต่ละชุมชนเท่านั้น


    ☼ เงื่อนไขแรกที่ทุกคนต้องเจอ - การจำกัดน้ำหนักกระเป๋า
    นั่นหมายความว่า ไม่ว่าในกระเป๋าจะมีสัมภาระที่ขนมาจากบ้านมากเท่าไหร่
    แน่นอนว่าแต่ละอย่างที่เลือกมา มันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตทั้ง 14 วัน 
    แต่ก็ต้องทำการเลือกอีกครั้ง เพื่อจำกัดทรัพยากร 
    ก่อนที่จะเข้าชุมชน สัมภาระของทุกคนถูกจำกัดให้นำมาใส่ในกล่องกระดาษ
    และจำกัดเพียงคนละ 5 กิโลกรัมเท่านั้น
    เว้นแต่ ผู้ชนะที่ 1 ในแต่ละเกม (สามเกมเมื่อครู่) ที่จะได้เพิ่มอีก 3 กก. 
    และ ห้ามนำเครื่องดื่ม อาหาร และโทรศัพท์เข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยเด็ดขาด

    ตั้งแต่ตรงนี้ ทุกคนต้องคิดถึงสิ่งที่จะนำเข้าไป ว่ามีอะไรที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตตลอด 14 วันบ้าง นอกจากจะคิดเพื่อตนเองแล้ว จะต้องคิดเผื่อสมาชิกคนอื่นด้วย
    เพราะมีเรื่องของสบู่ ยาสระผม ไม้แขวนผ้า มีของหลายอย่างที่ต้องใช้ร่วมกันและสามารถใช้ร่วมกันได้ โดยการคำนวณว่าในน้ำหนักที่จำกัดของแต่ละคนนั้น
    แต่ละคนสามารถเสียสละในส่วนของตัวเองเพื่อส่วนรวมได้มากเท่าไหร่
    การคำนวณตรงนี้ แน่นอนว่ามีผล เพราะสังคมนี้มีสิ่งแวดล้อมจำกัด ไม่ว่าอะไรก็ตามต้องคิดให้รอบคอบ 
    และก็เป็นจุดหนึ่งที่สามารถแสดงความเป็นผู้นำออกมาให้สมาชิกคนอื่นได้เห็น
    บางคน บางชุมชน แสดงออกชัดเจนว่าควรนำเอา 3 กิโลกรัมของผู้ชนะ
    มาใช้เพื่อรวมเอาของที่จำเป็นของสมาชิกของคนอื่นเข้ามาด้วย



    II.
    แต่ละชุมชน จะประกอบไปด้วยลานกิจกรรมซึ่งเป็นลานดินโล่งๆ
    มีเตาประกอบอาหาร ก๊อกน้ำ แคร่ไม้และผ้าใบบังแดด
    เป็นลานอเนกประสงค์ที่เอาไว้ใช้ทั้งทำกับข้าว ประชุม ออกกำลังกาย
    และบางชุมชนถึงกับใช้ลานนี้เป็นห้องอาบน้ำด้วย 
    (มาดง - เนื่องจากไม่มีสายยางและไม่มีก๊อกน้ำในห้องน้ำ 
    มาดงเลือกที่จะสร้างฉากกั้นอาบน้ำมาสวมครอบตรงส่วนที่มีก๊อกน้ำนอกลาน 
    เพื่อหลีกเลี่ยงการอาบน้ำเข้าไปเติมในตุ่มภายในห้องอาบน้ำ ซึ่งเป็นงานที่หนักและเหนื่อยแทน)

    นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นคุก ห้องเก็บของที่บรรจุของใช้ยามจำเป็นเอาไว้
    และตรงส่วนนั้นจะมีกล่องๆ หนึ่งที่เรียกว่ากล่องแห่งผู้นำ
    เอาไว้เพื่อรับสาสน์หรือสิทธิพิเศษบางอย่างที่ผู้นำจะได้ในทุกๆ เช้า

    ส่วนห้องนอนของสมาชิกนั้นมีสภาพค่อนข้างกึ่งกลางแจ้ง คือมีเตียง 2 เตียงในห้องที่เปิดโล่ง 
    ไม่มีผนังกั้น เวลาจะนอนต้องกางมุ้ง เรียกได้ว่าแทบไม่มีพื้นที่ส่วนตัวเลย
    ยกเว้นแต่ห้องนอนของผู้นำที่จะเป็นห้องแยกต่างหาก ปิดทึบเรียบร้อย
    และที่สำคัญ -ท่ามกลางอากาศร้อนเป็นประวัติการณ์ของเกาหลี 
    ห้องของผู้นำเป็นห้องเดียวที่มีแอร์คอนดิชั่น!




    อีกหนึ่งเงื่อนไขและถือว่าเป็นหนึ่งในแรงจูงใจเพื่อการเอาชนะเกม 
    นั่นคือการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่อย่างจำกัด 
    การที่ต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยข้าว ถั่ว มันฝรั่ง และผงโปรตีน เป็นสิ่งที่มหาโหดจริงๆ
    การชนะมินิเกมหรือเกมแต่ละครั้งจะมีของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้กับผู้ชนะ
    ซึ่งรางวัลนั้น ในสภาวะการที่ทรัพยากรต่างๆ จำกัดอย่างยิ่งนี้
    จึงเป็นเหมือนของขวัญล้ำค่าที่ทุกคนอยากจะเอาชนะให้ได้



    III.
    การเลือกผู้นำชุมชน 
    - เป็นหนึ่งในเงื่อนไขและตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของเกมนี้
    Society Game วางเส้นเรื่องที่ต้องการจะนำเสนอเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
    ว่าด้วยสังคมที่แตกต่างกัน 2 สังคม ด้วยการนำของหัวหน้าที่มาจากการเลือกด้วยวิธีที่แตกต่างกัน
    จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสมาชิกและกลยุทธ์ในสังคมอย่างไร
    สุดท้าย คน หรือ ระบบ ที่สำคัญกว่ากัน และผู้นำแบบไหนคือผู้นำในฝัน

    ✲ มาดง ✲ 
    ใช้การเลือกผู้นำโดยวิธีการอะไรสักอย่างที่จะแสดงถึงความกล้าหาญและความมีเสน่ห์แห่งผู้นำ
    โดยวิธีการที่ทางรายการใช้ ในเช้าของวันที่ 2 ของหมู่บ้านวอนฮยองนั้น
    คือการทำโปรตีนเชคอันน่าขยะแขยง = แมลง + หนอน เป็นๆ ปั่นสดๆ รวมกัน 1 แก้วใหญ่
    คนแรกที่สามารถดื่มจนหมด จะได้รับสิทธิการเป็นผู้นำแห่งมาดงทันที
    และผู้ที่ทำสำเร็จอย่างไม่มีท่าทางลังเลเลยก็คือ ...อีแฮซอง ผู้นำคนที่ 1 ของมาดง


    ทันทีที่ได้รับตำแหน่งผู้นำ ผู้นำจะได้รับกุญแจแห่งอำนาจ 3 ดอก
    คือ 1. กุญแจห้องผู้นำ 2. กุญแจคุก และ 3. กุญแจกล่องแห่งผู้นำ
    และอีก 1 หน้าที่ของผู้นำแห่งมาดงก็คือการมอบ "กุญแจแห่งกบฏ"
    ให้กับสมาชิกมาดง 2 คนให้มีสิทธิครอบครอง และผู้ที่ได้ครอบครองนี้เอง
    จะเป็นสมาชิกที่มีสิทธิในการก่อกบฏต่อตัวผู้นำ และถ้าหากทำตามกติกาได้สำเร็จ
    (กล่าวคือ สามารถรวบรวมเสียงข้างมาก เข้าไปลั่นฆ้องแห่งกบฎภายใน 30 นาที)
    ตำแหน่งผู้นำจะเปลี่ยนผ่านมาอยู่ในมือของผู้ก่อกบฏนั่นเอง

    กุญแจแห่งกบฎนี้ เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของชุมชนมาดง
    กุญแจ 2 ดอกนี้บรรจุเอาความเชื่อใจอันหนักแน่น อยู่ในปริมาณที่พอๆ กับความเสี่ยงที่น่าหวาดหวั่น
    แฮซองต้องมั่นใจว่าการมอบกุญแจแห่งกบฏนี้ให้กับใคร 2 คน
    2 คนนั้นจะต้องไม่ทำการก่อกบฏยึดอำนาจไปจากเขา

    การคุยกันแบบตัวต่อตัวจึงเริ่มต้นขึ้น

    ทั้งนี้ ในชุมชมมาดงขณะนั้น เกิดพันธมิตรลับๆ 2 ฝ่าย
    ฝ่ายแรกมียางซังกุกเป็นตัวตั้งตัวตี โดยกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย 5 คน 
    คือตัวซังกุกเอง ฮันบยอล ควอนอาซล พัคซอฮยอน และ ชเวซอลฮวา
    แม้แผนการดั้งเดิมของซังกุกคือการเอาแฮซองเข้ามารวมอยู่ในกลุ่มด้วย
    แต่ก็ถูกสมาชิกคนอื่นๆ คัดค้านเอาไว้ 
    แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป แฮซองกลายเป็นผู้นำชุมชน
    ทำให้ซังกุกต้องเข้าหาอีกครั้ง เขาเล่าแผนการณ์ในใจให้แฮซองฟัง
    เพื่อเรียกคะแนนความเชื่อมั่น ให้แฮซองยอมมอบกุญแจแห่งกบฏให้

    ฝ่ายที่สองคือแฮซองเองที่เป็นตัวตั้งตัวตี
    พันธมิตรลับกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยตัวแฮซองเอง จองอินจิกที่สนิทกันมาตั้งแต่แรก และพัคฮาเอล
    รวมไปถึงฮยอนคยองรยอลที่แม้จะไม่สามารถระบุฝ่ายที่ชัดเจนได้นัก
    แต่แฮซองก็เชื่อว่าเขาอยู่ฝ่ายเดียวกับตน

    การตกลงกันระหว่างผู้นำของพันธมิตรลับทั้ง 2 ฝ่ายจึงเกิดขึ้น
    ซังกุกต้องการกุญแจเพื่อเป็นหลักประกันในการปกป้องสมาชิกทีมตัวเอง
    และให้สัญญาว่าจะไม่ก่อกบฏ และแฮซองต้องการให้ซังกุกช่วยปกป้อง
    ตัวเองและอินจิกให้กลายเป็น 2 ใน 3 คนสุดท้ายของมาดงแห่งนี้

    ผลการตัดสินใจของผู้นำ ออกมาเป็นว่า
    กุญแจแห่งกบฏทั้ง 2 ดอก ตกอยู่ในความครอบครองของ
    จองอินจิก พันธมิตรฝ่ายตนเอง และยางซังกุก ผู้นำของทีมตรงข้าม 

    ✲ นบดง ✲ 
    ใช้ระบบการโหวตใหม่ทุกวันเพื่อเลือกตัวผู้นำ
    การโหวตเลือกผู้นำคนแรกของนบดงเริ่มต้นในเช้าวันที่ 2 ของการแข่งขัน

    ☼ เงื่อนไขการโหวตมีง่ายๆ ดังนี้
    จะมีผู้เสนอชื่อของตนเองเพื่อให้ได้รับเลือกเป็นผู้นำจำนวน 3 ชื่อ
    และสมาชิกจะต้องทำการโหวต 1 ใน 3 ชื่อนั้นเพื่อรับตำแหน่งผู้นำ
    โดยจะลงชื่อให้ตัวเองก็ได้ แต่จะทำการงดออกเสียงไม่ได้
    ซึ่ง 3 รายชื่อในวันแรกได้แก่ ฟาโรห์ คิมฮีจุน และยุนมาโช
    เสียงส่วนใหญ่เลือกให้พี่ใหญ่อย่างฟาโรห์รับตำแหน่งผู้นำในวันแรก


    ผู้นำแห่งนบดงเองก็จะได้รับกุญแจแห่งอำนาจทั้ง 3 ดอก
    เช่นเดียวกับผู้นำแห่งมาดง และสิทธิพิเศษอีก 1 อย่างที่ผู้นำแห่งนบดงจะได้
    ก็คือการโหวตผู้นำครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้ ชื่อของเขาจะเป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อทันที
    และถ้าหากว่าคะแนนเสียงออกมาเท่ากัน ผู้นำคนก่อนจะได้รับสิทธิในการตัดสิน

    การโหวตผู้นำที่จะให้เข้ามารับตำแหน่ง 1 วัน เป็นการเมืองอย่างหนึ่ง
    โอลิเวอร์ที่เดินหมากตั้งแต่ครั้งแรก วางแผนกับพันธมิตรของตัวเองว่า
    ต้องการจะกำจัดคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดกับคนที่มีทีท่าว่าจะแข็งแกร่งที่สุดออก
    เป้าหมายแรกของเขาคือการกำจัดฟาโรห์ 
    แต่เขาเองก็เป็นหนึ่งเสียงที่เลือกให้ฟาโรห์เป็นผู้นำในวันแรก 
    เพื่อให้เหตุผลว่า ถ้าเหตุการณ์ในวันนี้ออกมาไม่ดี (ซึ่งเขาเชื่ออย่างนั้น)
    การกำจัดฟาโรห์ออกก็จะดูมีเหตุผลที่เป็นที่ยอมรับได้

    เนื่องจากชุมชนนบดงจะทำการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าได้โดยการโหวตในแต่ละวันเท่านั้น 
    ผู้นำแห่งนบดงมีหน้าที่และความรับผิดชอบใน 1 วันเท่านั้น 
    ซึ่งแตกต่างจากมาดงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำในเวลาอันรวดเร็วจนน่าตกใจ!


    ✲ มาดง ✲ 
    ความไม่มั่นคง ความไม่แน่ใจ ความไม่รู้ ความโลภ
    เมื่อรวมเข้ากับการถือสิทธิที่เหนือกว่า การอยากเอาชนะ และอำนาจแล้ว
    ย่อมผลิกลั่นออกมาเป็นผลผลิตที่น่ากลัวเสมอ
    และมันเกิดขึ้นแล้วที่มาดง -อย่างน้อยมันก็ขมขื่นสำหรับแฮซอง

    ผู้นำแห่งมาดงหมาดๆ หลังจากมวลแมลงต่างๆ ยังไม่ทันได้ย่อยในกระเพราะอาหาร
    เสียงฆ้องแห่งกบฏก็ดังขึ้น มันน่าเจ็บใจที่ได้ยินเสียงฆ้องตีร้องเพิ่มขึ้นอีก 5 ครั้ง
    ครั้งสุดท้ายนั้น เป็นเสียงที่ฟังแล้วแสบไปถึงกลางอก
    เสียงฆ้องสนับสนุนฝ่ายกบฏซึ่งมาจากคนที่ (น่าจะ) อยู่ข้างเดียวกัน
    ยางซังกุกผู้ครอบครองกุญแจแห่งกบฏไขห้องแห่งกบฏแล้วลั่นฆ้องเป็นคนแรก
    ตามมาด้วยสมาชิกในกลุ่มพันธมิตรลับที่เหลือ ตามด้วยคนสุดท้าย
    พันธมิตรไม่ทราบฝ่าย ฮยอนคยองรยอล -การกบฏสัมฤทธิ์ผล
    ยังซางกุกขึ้นเป็นผู้นำแทนอีแฮซองอย่างเป็นทางการ


     
  • IV.
    เกมหลักเกมแรก : จังกีมนุษย์

    Society Game ทำการแข่งขันกันทั้งหมด 14 วัน ก่อนที่จะดำเนินไปถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน
    แต่ละชุมชนจะต้องมาพบกันที่จุงลิบดงทุกวันเพื่อทำการแข่งขัน เพื่อตัดสินว่าชุมชนใดจะเป็นฝ่ายชนะ
    ชุมชนที่ชนะจะได้รับเงินรางวัล 10 ล้านวอน และผู้นำชุมชนจะได้รับสิทธิในการขึ้น blacklist รายชื่อสมาชิกในชุมชน (คนที่ถูกขึ้น blacklist 2 ครั้ง จะถูกให้ออกจากการแข่งขันทันที)
    ส่วนชุมชนที่แพ้ ผู้นำชุมชนจะต้องตัดสินใจคัด 1 คนเพื่อออกจากการแข่งขัน

    ☼ เกมแรกในวันที่ 2 ของการแข่งขัน คือ จังกีมนุษย์

    กติกาของจังกีมนุษย์เป็นดังนี้

    จังกีจะประกอบไปด้วยตัวหมาก 11 ตัว แต่ละตัวจะมีเลข 1-11 กำกับไว้
    จังกีจะเล่นบนกระดานขนาด 8*6 มีทั้งหมด 48 ช่อง และกระดานจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น 

    ตัวจังกีจะหมายถึงสมาชิกทั้ง 11 คนของแต่ละชุมชน
    โดยจะซ่อนชื่อของแต่ละคนไว้ใต้หมายเลข 1-11 
    และมีหมาก 1 ตัวแทนคนที่เป็น "พระราชา" 

    หมากทุกตัวสามารถเดินหน้าและเดินไปด้านข้างได้ แต่ไม่สามารถเดินถอยกลับได้
    ในชั้นเดียวกัน สามารถเดินหมาก 2 ช่องได้
    และถ้าหากจะเดินหมากขึ้นสู่ชั้นต่อไปก็สามารถทำได้
    แต่จะสามารถเดินได้แค่ช่องเดียวเท่านั้น

    ถ้าหากตัวหมากสัมผัสประจันหน้ากับหมากของทีมตรงข้าม
    บนชั้นเดียวกัน โดยไม่ว่าจะเป็นด้านไหนก็ตาม
    หมากตัวนั้นจะต้องถูกหงายเพื่อเปิดเผยว่าหมากหมายเลขนั้นเป็นชื่อของผู้เล่นคนใด 
    และเจ้าของหมาก 2 ตัวนั้นจะต้องมาเล่นเกมแข่งกัน
    ถ้าตัวหมากเจอกับตัวหมากของฝ่ายตรงข้ามมากกว่า 1 ตัว
    ฝ่ายรุกจะมีสิทธิหงายหมากของฝ่ายตรงข้าม และมีสิทธิเลือกว่าจะเผชิญหน้ากับใครก่อน

    ถ้าหาก ผลรวมของหมากทั้ง 2 ตัว เกิน 14 เกมที่จะเล่นจะเป็นเกมด้านพละกำลัง
    (เกมล้มรูปปั้น ทั้งสองฝ่ายจะผูกเชือกไว้ที่เอว
    ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งจะผูกกับรูปปั้นไม้ที่จะวางเอาไว้บนฐานด้านหลัง
    ทำวิธีใดก็ได้ เพื่อล้มรูปปั้นที่ตั้งไว้ของอีกฝ่ายให้ล้มลงได้ก่อน ฝ่ายนั้นชนะ)

    ถ้าหาก ผลรวมของหมากทั้ง 2 ตัวอยู่ระหว่าง 11-13
    เกมที่จะเล่นจะเป็นเกมโยนห่วง
    (มีห่วง 10 ห่วง ใครโยนให้คล้องเสาได้มากที่สุด เป็นฝ่ายชนะ)

    ถ้าหาก ผลของหมากทั้ง 2 ตัวต่ำกว่า 11
    เกมที่จะเล่นจะเป็นเกมด้านสติปัญญา
    (แก้โจทย์ที่แสดงบนจอ โดยอาศัยคำใบ้ที่ได้รับในซองกระดาษ
    ใครที่สามารถแก้โจทย์ได้ถูกต้องก่อนอีกฝ่าย ฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ)

    หากแพ้ในเกม หมากของผู้เข้าแข่งขันจะถูกคัดออกทันที
    และหมาก "พระราชา" จะไม่สามารถเล่นเกมใดๆ ได้
    ถ้าหากหมาก "พระราชา" ถูกแตะ จะต้องถูกคัดออกทันที
    ฝ่ายนั้นก็จะเป็นฝ่ายแพ้ และจบเกม
    หรือถ้าหากหมาก "พระราชา" ของอีกฝั่ง เดินไปจนสุดกระดานของฝั่งตรงข้าม
    โดยที่ไม่ถูกจับเสียก่อน ฝ่ายที่ทำได้ก็จะเป็นผู้ชนะเช่นกัน

    มีการเล่นมินิเกม ก่อนที่จะเริ่มเล่นเกมจริง
    เกมที่เลือกคือเกมล้มรูปปั้น 
    ตัวแทนของมาดงคืออาซล
    และตัวแทนของนบดงคือฟาโรห์
    ของรางวัลคือแตงโมหวานๆ เย็นฉ่ำ
    และฝ่ายที่ได้ไปหวานฉ่ำกับแตงโมคือมาดง


    V.
    เกมเริ่มในเวลา 5 โมงเย็น
    แต่ละทีมมีเวลาในการวางแผน ตั้งแต่จะให้ใครครองหมากตัวไหน
    รับหน้าที่ในการเล่นเกมอะไร คำนวณทิศทางและความเป็นไปของฝ่ายตรงข้าม
    การหาทางเอาชนะและการปกป้องหมากพระราชา
    ทุกวิถีทางที่จะนำมาซึ่งชัยชนะถูกคำนวณในช่วงเวลาสั้นๆ
    และจะถูกนำมาใช้เพื่อชิงชัยจริงๆ บนกระดานสามชั้นอันนี้

    เนื่องจากการเอาชนะคะคานกันในแต่ละเกมที่หมากของแต่ละฝ่ายแตะกัน
    เป็นเหมือนตัวชี้ชะตาและคอยกำหนดทิศทางในการเดินหมากตัวอื่นๆ
    และรวมไปถึงการปกป้องหมากพระราชาของตนเอง
    แต่ละเกมที่สมาชิกอาจได้รับมอบหมายให้เผชิญหน้านั้นจึงสำคัญอย่างยิ่ง

    เกมส์ที่ใช้ทักษะทางด้านร่างกายและสมองนั้น
    มันสุดวิสัยแล้ว ต้องอาศัยพลังภายในส่วนตัวที่สั่งสมมา
    ดังนั้นเกมที่พอจะสามารถใช้เวลาอันสั้นนี้ฝึกกันได้ก็มาตกอยู่ที่เกมโยนห่วง
    อนึ่ง นี่เป็นเกมกลางสำหรับคนที่ไม่แน่ใจในความาสามารถด้านการคิดคำนวณ
    และไม่ได้มีทักษะทางด้านการกีฬาหรือพละกำลังนั่นเอง

    การวางคนประจำหมากก็สำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนวณควบคู่ไปกับทิศทางการเดินหมาก
    จะมีวิธีไหนที่จะทำให้แน่ใจว่าหมากพระราชาของเราจะไม่ถูกจับ
    หรือจะมีวิธีไหนช่วยปกป้องให้หมากพระราชาสามารถเดินทางไปจนสุดกระดานได้
    ทุกอย่างต้องคิด ต้องมีทริค และต้องอาศัยความร่วมมือกันเป็นทีม

    จุดหนึ่งที่น่าสนใจของเกมจังกีมนุษย์
    คือการที่ 'ทุกคน' อาจ 'ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกม'
    นั่นหมายถึงเขาหรือเธอคนใดอาจไม่ได้ถูกเลือกให้มาเล่นเกม
    อาจไม่ได้ใช้ความสามารถของตนเองในการช่วยเหลือทีมจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก
    ซึ่งตรงนี้เอง เป็นสิ่งที่แต่ละคนในแต่ละชุมชนต้องคิดว่าจะทำอย่างไร 
    หากทีมชนะนั้นไม่น่าห่วง แต่ถ้าทีมแพ้ล่ะ
    จะทำอย่างไรให้หัวหน้าชุมชน 'ไม่' เลือกเราเป็นตัวเลือกในการถูกคัดออกเป็นคนแรก

    อย่างที่บอกว่า Society Game นี้ นอกจากจะต้องอาศัยความเป็นทีม
    ในการต่อสู้กับชุมชนฝั่งตรงข้ามแล้ว การเมืองภายในชุมชนก็เข้มข้น
    และน่าติดตามไม่แพ้กัน


    VI.
    เกมเริ่มขึ้นด้วยบรรยากาศที่ตื่นเต้น 
    เพราะเป็นเกมแรกอย่างเป็นทางการที่ผลการแข่งขันนั้นมีความอยู่รอดในเกมเป็นเดิมพัน
    ชุมชนที่ชนะในเกมหลักนี้นอกจากจะได้รับเงินรางวัล 10 ล้านวอน
    ยังได้รับน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มขึ้นอีก 5 kg. โดยให้เงื่อนไขว่า
    จะหยิบของจากกระเป๋าของใครก็ได้ รวมไม่เกิน 5 kg.

    ตัวแทนที่จะทำหน้าที่เดินหมากของฝั่งมาดงคือผู้นำ -ยางซังกุก
    ตัวแทนที่จะทำหน้าที่เดินหมากของฝั่นนบดงคือ -แชจีวอน

    ภายใต้ความกดดันที่เกิดขึ้นจากความคาดหวังในชนะ
    สิ่งนี้เองที่จะทำให้ความเป็นมนุษย์ซึ่งอยู่ภายใต้เปลือกนอกนั้นเผยออกมา
    นอกจากเราจะได้เฝ้าสังเกตถึงการเลือกใช้ทักษะต่างๆ ของตัวเองให้ดีที่สุด
    ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด กลยุทธ์การวางแผนที่รอบคอบและแยบคาย
    การตัดสินใจที่รวดเร็วเด็ดขาด รวมไปถึงจิตใจอันเข้มแข็งที่จะไม่ไหวเอนไปตามความกดดัน
    เราจะยังได้เห็นสปิริตแห่งการต่อสู้ การเห็นอกเห็นใจในตัวผู้แพ้
    แต่ขณะเดียวกันก็เป็นความปิติยินดีบนความพ่ายแพ้นั้นของผู้ชนะ

    มีตอนหนึ่งที่น่าสนใจมาก 
    ต้องบอกก่อนว่า สังคมและวัฒนธรรมของชาวเกาหลี
    เรื่องระดับภาษาความสุภาพที่ใช้กับผู้ที่อาวุโสมากกว่านั้นสำคัญสุดๆ
    เรียกได้ว่าเป็นมารยาททางสังคมที่หยั่งรากลึกและเคร่งครัดพอควร
    การตอบเพียงคำว่า "อืม" จากเด็กที่มีอายุน้อยกว่า เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง 
    และนี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีเพื่อลดความมั่นใจของฝ่ายตรงข้ามได้เลยทีเดียว



    สมาชิกทุกคนมีความสำคัญสำหรับเกมนี้ ไม่ว่าสมาชิกคนนั้น
    จะมีส่วนร่วมในการเล่นเกมเพื่อเอาชนะอีกฝั่งหรือไม่ก็ตาม
    ส่วนตัวคิดว่าทิศทางการวางหมาก สำคัญเป็นอันดับแรก
    และนี่คือวิธีที่ มาดง เอาชนะ นบดง ได้อย่างไร้ข้อกังขา

    วิธีการของมาดงคือการหาหนทางที่จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนและปลอดภัย
    หมากพระราชาของพวกเขาจะไม่มีวันถูกแตะต้อง
    และแม้อีกฝ่ายหนึ่งจะอ่านออกว่าหมากพระราชาอยู่ภายใต้หมากหมายเลขใด
    ก็จะไม่เป็นปัญหากับการทำตามเป้าหมาย ถ้าหากทุกอย่างดำเนินไปตามแผน

    มาดง เลือกเอาหมากหมาลเลข 9 - 10 - 11 เป็นผู้ชาย
    (เพราะผลรวมของหมากเกิน 14 ต้องเป็นเกมที่ใช้พละกำลัง 
    แน่นอนว่าผู้ที่มีกำลังมาก ต้องถูกเลือกมาไว้ใต้หมากที่เลขเยอะอยู่แล้ว)
    ส่วนผู้หญิงถูกจับให้มาอยู่ที่ 1 - 2 - 3 - 4 เพื่อหลีกเลี่ยงเกมที่ใช้กำลัง
    ดังนั้นจะเหลือตัวตรงกลาง นั่นคือหมายเลข 8 ซึ่งถูกเลือกให้เป็นหมากพระราชา
    และแผนของมาดงที่ว่าคือการยึดพื้นที่ชั้น 3 ให้จงได้
    เพราะตามกติกาแล้ว ทางที่จะคว้าชัยชนะได้มีอยู่ 2 ทาง
    คือ 1. จับหมากพระราชาของฝั่งตรงข้ามให้ได้ หรือ 2. เดินหมากพระราชาจนสุดกระดานของอีกฝั่ง
    มาดงเลือกวิธีที่แสนจะแน่นอน นั่นคือ ปกป้องไม่ให้หมากพระราชาโดนจับ
    และเมื่อแน่นอนแล้วว่าหมากพระราชาของตัวเองจะไม่ถูกแตะต้อง
    พวกเขาก็สามารถเลือกได้สบายว่าอยากจะเอาชนะด้วยวิธีการใด


    เมื่อมาดงเดินหมากมาในรูปแบบนี้ แน่นอนว่านบดงไม่มีทาง
    จับหมากพระราชาของมาดงได้แล้ว เพราะถูกปกป้องเอาไว้ทุกทาง
    ทางเอาชนะของนบดงจึงถูกจำกัดให้เหลืออยู่ที่หนทางเดียว
    คือการเดินไปจนสุดกระดานเท่านั้น และมันก็เสี่ยงเหลือเกิน
    ที่อาจจะโดนจับระหว่างทาง ถ้าหากอีกฝ่ายอ่านออก
    ว่าหมากตัวใดเป็นหมากพระราชา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องยาก

    เกมจังกีมนุษย์ เกมระหว่างชุมชนเพื่อคัดคนออกเกมแรกอย่างเป็นทางการ
    จบลงด้วยชัยชนะที่น่าชื่นชมของมาดง และความปราชัยอันน่าขื่นขมของนบดง
    ซึ่งนบดงจะต้องมีสมาชิกคนใดคนหนึ่งถูกคัดออกจากการแข่งขันนี้







  • VII.
    มาดูฝั่งผู้ชนะกันก่อน 
    ถือเป็นชัยชนะที่น่ายกย่องของมาดง
    และที่สำคัญเป็นชัยชนะที่ทำให้ตำแหน่งผู้นำของมาดงแข็งแกร่งขึ้น

    จากการยึดอำนาจจากผู้นำคนเก่าในช่วงเวลาอันรวดเร็ว
    เกมนี้จึงสำคัญกับตำแหน่งของซังกุกในการสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกในทีม
    ซึ่งถ้าเขาทำได้ดี มันจะสร้างอะไรหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่น
    ความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจจากสมาชิก เขาจะกลายเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง
    แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าผลการแข่งขันเป็นไปแบบตรงกันข้าม
    ตำแหน่งของเขาคงจะสั่นคลอนไม่น้อยทีเดียว

    แต่เมื่อทุกอย่างสดใสสวยงามไปด้วยความยินดีปรีดาแห่งการคว้าชัย
    มาดงได้รับเงินรางวัล 10 ล้านวอน มานอนกอด 
    เงินจำนวนนี้เอง เป็นสิทธิของผู้นำที่จะแบ่งให้ใครก็ได้ จำนวนเท่าไหร่ก็ได้
    และซังกุกก็ได้เพิ่มความประทับใจและความมั่นใจให้กับสมาชิกในทีม
    โดยการแบ่งเงินให้ทุกคน คนละ 1 ล้านวอน โดยที่ไม่ตัวเองไม่ได้รับเลยสักวอนเดียว
    เป็นคุณจะทำยังไง ก็ปลื้มสิคะ ผู้นำแบบนี้ แหม... ใจกว้างทีเดียวเชียวแหละ
    ซึ่งจำนวนเงินที่ได้อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนมองข้ามเหตุผลเบื้องหลัง
    ของเงินจำนวนนี้ไปได้เลย นี่คือการซื้อใจชัดๆ ซื้อด้วยราคา 1 ล้านวอน!

     
    และยิ่งเท่ขึ้นไปอีก เมื่อผู้นำตัดสินใจจะไม่ใส่ชื่อใครลงไปใน blacklist 
    แม้สมาชิกร่วมชุมชนจะไม่รู้ก็ตาม (ไม่มีการเปิดเผยว่าใครได้ขึ้น blacklist หรือไม่)


    ส่วนฝั่งผู้แพ้อย่างนบดง หลังจากได้ทำการคุยกันแบบตัวต่อตัวกับผู้นำ
    มีหลายคนทีเดียวที่เข้ามาอยู่ในตัวเลือกสำหรับการถูกคัดออก 

    ไม่ว่าจะเป็น โอลิเวอร์ ที่เป็นตัวแปรสำคัญหลายๆ อย่างในชุมชน
    ก็ยังไม่วายสร้างความอึดอัดใจให้เพื่อนร่วมชุมชน ว่าเขา "อันตราย"ต่อชุมชน
    เกินกว่าที่จะให้อยู่ต่อเพื่อทำให้ชุมชนเกิดความร้าวฉาน
    หรือแม้แต่ตัวหัวหน้าอย่างฟาโรห์เองก็ถูกตั้งคำถามกับความสามารถในการเป็นผู้นำ
    ที่ถ้าเขาแกร่งและเก่งพอ เขาคงจะสามารถพาทีมเอาชนะชุมชนตรงข้ามได้
    ยังไม่นับรวมกับที่เขายังแพ้ในเกมที่ตัวเองต้องรับผิดชอบอีกด้วย

    มีหลายเสียงออกมาว่าใครควรเป็นคนที่ถูกคัดออก
    แต่เสียงส่วนใหญ่ถูกเทไปที่ ยุนแทจิน อ๊ะ... ไม่ต้องแปลกใจที่ไม่ค่อยเห็นเธอ
    เพราะนี่คือเหตุผลที่ส่วนใหญ่เลือกให้เธอเป็นคนแรกที่ต้องออกจากเกม
    เพราะเราแทบไม่เห็นเธอได้มีส่วนร่วมใดๆ กับเกมเลย

    แม้แทจินจะพยายามอย่างหนัก เพราะไม่ได้เก่งกาจด้านใดเป็นพิเศษ
    เธอเพียรซ้อมการโยนห่วง แต่เปอร์เซ็นต์การสำเร็จก็ช่างสวนทางกับความตั้งใจ
    สุดท้าย เธอจึงแทบไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ กับทีมเลย


    อย่างที่บอกว่าชัยชนะของทีมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
    แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือการที่เราจะเอาตัวรอดอย่างไรในทีมนั้น
    คำว่า "โอกาส" เป็นคำที่ลอยคว้างอยู่ในอากาศ 
    การไขว่คว้าเพียงในพื้นที่ที่ตนเองคิดว่าจะปลอดภัยอาจไม่เพียงพอ
    เพราะโอกาสย่อมไม่ตกลงมาบนตักของเราง่ายๆ ถ้าเราไม่ลงมือทำอะไรเลย
    และในโลกของความเป็นจริง ในสังคมจริงๆ ที่เราต้องดำรงชีวิตอยู่



    แม้กระทั่งในสังคมจำลองที่เป็นเพียง "เกมเกมหนึ่ง" แห่งนี้
    ทุกอย่างก็ถูกขับเคลื่อนไปด้วยธรรมชาติ -ทั้งของมนุษย์และของโลก
    การยอมรับในตัวเอง ความสามารถของตัวเอง และอะไรบางอย่างที่เราคาดเดาไม่ได้
    บางครั้งเราต้องยอมรับว่า ถึงเราจะพยายามแค่ไหน เมื่อมันไม่ใช่ทางของเรา
    ไม่ใช่ที่ของเรา ในเมื่อมีคนที่แข็งแกร่งกว่า ดีกว่า และพร้อมจะไปได้ไกลกว่า
    คนที่อ่อนแอ คนที่ไม่สามารถแสดงความสามารถของตัวเองได้ในเวลาที่สังคมต้องการ
    ก็ต้องกลับมายอมรับตัวเอง ต้องแพ้พ่ายให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้

    นี่คือธรรมชาติ นี่คือสิ่งที่เราต้องเผชิญหน้าอยู่ทุกวัน





    ส่วนตัวคิดว่าสนุกทีเดียว มันเป็นการต่อสู้ดิ้นรนโดยมีอะไรหลายๆ อย่างเป็นปัจจัย
    การเมืองระหว่างชุมชนก็สนุก แต่การเมืองระหว่างคนในชุมชนเดียวกันนั้นสนุกกว่า
    เนื่องจากเป็นตอนแรก ซึ่งเป็นช่วงแรกๆ ที่เราต้องทำความเข้าใจกับสภาพแวดล้อม
    เงื่อนไขของเกม และทิศทางที่เกมอยากนำพาเราไป ต้องค่อยๆ จับตาดูว่าคนไหนที่
    น่าจแข็งแกร่ง ที่น่าจับตามอง ที่น่าเอาใจช่วย หรือใครที่มีลูกเล่นให้เราได้ทึ่งกันบ้าง
    ตอนต่อไปจึงคาดว่าจะสนุกกว่านี้ และจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผ่านพ้นช่วงแนะนำเบื้องต้น
    แบบนี้ไปแล้ว 

    อยากที่บอกว่าตอนนี้มีซับภาษาอังกฤษนะคะ
    ใครอยากดูก็ติดตามได้ที่ link นี้ 
    ส่วนซับภาษาไทยนั้น ก็แปลอยู่เหมือนกันค่ะ
    แต่อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าไม่รู้จะทำเสร็จเมื่อไหร่
    และไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะเอาไปเผยแพร่ทางไหน
    เพราะฉะนั้นอย่าคาดหวัง ถ้ามันจะมา เราจะเอามาฝากเอง

    ตอนนี้เกาหลีออกอากาศถึงตอนที่ 3 แล้ว
    บอกเลยว่าน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ
    รีวิวตอนที่ 2 จะรีบปล่อยมาอย่างไว
    (อันที่จริงร่างของ EP02 เสร็จก่อนร่างนี้อีกนะ)

    ฝากติดตามกันต่อที่แอคนี้หรือทางทวิตเตอร์ @mynkdontbelazy นะคะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in