*อนึ่ง - ภาพประกอบในบทความนี้มาจากผู้เขียนบทความเองค่ะ
ซับภาษาไทยในภาพนั้นกำลังอยู่ในช่วงการทำอยู่
ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเสร็จเมื่อไหร เพราะทำไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักโนะ
เพราะฉะนั้นอย่าคาดหวัง เสร็จเมื่อไหร่จะนำมาบอกค่ะ (ฮ่าๆๆ)
จากการรีวิวกฎเกณฑ์หลักและเงื่อนไขพื้นฐานของ Society Game
เกมโชว์ที่ต้องอาศัยทักษะที่หลากหลายในการเอาชีวิตรอดในชุมชน
และช่วงชิงการเป็นผู้นำ ในสองชุมชนที่ถูกปกครองด้วยเงื่อนไขที่แตกต่าง
กับสามคนสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดจากชุมชนที่แข็งแกร่งกว่า
เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะและเงินรางวัลจำนวน 150 ล้านวอน
(ใครยังไม่ได้อ่าน ลองอ่านได้
ที่นี่ ค่ะ)
ถึงเวลาเริ่มเล่นเกมกันแล้ว
EP01 มีความยาว 2 ชม. เต็มๆ ที่ไม่มีวินาทีไหนน่าเบื่อเลย
มีเกมและประเด็นที่น่าสนใจเยอะมาก
อย่างไร แค่ไหน มาติดตามกันค่ะ
I.
เกมแรกที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 22 คนต้องเจอ คือเกมที่จะทำให้มีสิทธิเลือกชุมชนที่ตนเองอยากอยู่
(นบดง - ชุมชนประชาธิปไตยจำลอง และ มาดง - ชุมชนเผด็จการจำลอง
ขึ้นอยู่กับวิธีการเลือกหัวหน้าชุมชนซึ่งอธิบายไว้แล้วที่
link นี้)
เนื่องจากผู้เข้าแข่งขันมีความสามารถที่หลากหลายมาก การจำกัดเพียงแค่เกมเดียวดูจะไม่แฟร์
ทางรายการจึงจัดเกมมาให้ 3 ประเภท ให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกเกมที่คิดว่าตัวเองทำได้ดีที่สุด แล้วเข้าแข่งขันเกมนั้น
โดย 3 เกมดังกล่าว แบ่งออกเป็น
1) ด้านสติปัญญา - เกมจำสี
; ให้ดูสีที่ขึ้นมาบนจอ แล้วจำลำดับให้ได้ ว่าสีใดมาก่อนมาหลัง โดยให้เวลา 3 วินาทีในการตอบ
2) ด้านพละกำลัง - เกมย้ายถุงทราย
; ย้ายถุงทราย (ชาย - 16 / หญิง - 12) ให้ขึ้นไปอยู่บนแท่นไม้โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด
3) ด้านความแม่นยำ - โยนห่วง
; โยนห่วงให้ไปคล้องกับเสาให้ได้มากที่สุด
หลังจากการจัดอันดับแล้ว ก็จะได้เลือกว่าใครอยากอยู่ชุมชนไหน
โดยมีเงื่อนไขว่า แต่ละชุมชน จะมีสมาชิกได้ 11 คน
จำกัดแน่นอนว่าต้องมี ชาย 7 หญิง 4 ในแต่ละชุมชนเท่านั้น
☼ เงื่อนไขแรกที่ทุกคนต้องเจอ - การจำกัดน้ำหนักกระเป๋า
นั่นหมายความว่า ไม่ว่าในกระเป๋าจะมีสัมภาระที่ขนมาจากบ้านมากเท่าไหร่
แน่นอนว่าแต่ละอย่างที่เลือกมา มันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตทั้ง 14 วัน
แต่ก็ต้องทำการเลือกอีกครั้ง เพื่อจำกัดทรัพยากร
ก่อนที่จะเข้าชุมชน สัมภาระของทุกคนถูกจำกัดให้นำมาใส่ในกล่องกระดาษ
และจำกัดเพียงคนละ 5 กิโลกรัมเท่านั้น
เว้นแต่ ผู้ชนะที่ 1 ในแต่ละเกม (สามเกมเมื่อครู่) ที่จะได้เพิ่มอีก 3 กก.
และ ห้ามนำเครื่องดื่ม อาหาร และโทรศัพท์เข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยเด็ดขาด
ตั้งแต่ตรงนี้ ทุกคนต้องคิดถึงสิ่งที่จะนำเข้าไป ว่ามีอะไรที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตตลอด 14 วันบ้าง นอกจากจะคิดเพื่อตนเองแล้ว จะต้องคิดเผื่อสมาชิกคนอื่นด้วย
เพราะมีเรื่องของสบู่ ยาสระผม ไม้แขวนผ้า มีของหลายอย่างที่ต้องใช้ร่วมกันและสามารถใช้ร่วมกันได้ โดยการคำนวณว่าในน้ำหนักที่จำกัดของแต่ละคนนั้น
แต่ละคนสามารถเสียสละในส่วนของตัวเองเพื่อส่วนรวมได้มากเท่าไหร่
การคำนวณตรงนี้ แน่นอนว่ามีผล เพราะสังคมนี้มีสิ่งแวดล้อมจำกัด ไม่ว่าอะไรก็ตามต้องคิดให้รอบคอบ
และก็เป็นจุดหนึ่งที่สามารถแสดงความเป็นผู้นำออกมาให้สมาชิกคนอื่นได้เห็น
บางคน บางชุมชน แสดงออกชัดเจนว่าควรนำเอา 3 กิโลกรัมของผู้ชนะ
มาใช้เพื่อรวมเอาของที่จำเป็นของสมาชิกของคนอื่นเข้ามาด้วย
II.
แต่ละชุมชน จะประกอบไปด้วยลานกิจกรรมซึ่งเป็นลานดินโล่งๆ
มีเตาประกอบอาหาร ก๊อกน้ำ แคร่ไม้และผ้าใบบังแดด
เป็นลานอเนกประสงค์ที่เอาไว้ใช้ทั้งทำกับข้าว ประชุม ออกกำลังกาย
และบางชุมชนถึงกับใช้ลานนี้เป็นห้องอาบน้ำด้วย
(มาดง - เนื่องจากไม่มีสายยางและไม่มีก๊อกน้ำในห้องน้ำ
มาดงเลือกที่จะสร้างฉากกั้นอาบน้ำมาสวมครอบตรงส่วนที่มีก๊อกน้ำนอกลาน
เพื่อหลีกเลี่ยงการอาบน้ำเข้าไปเติมในตุ่มภายในห้องอาบน้ำ ซึ่งเป็นงานที่หนักและเหนื่อยแทน)
นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นคุก ห้องเก็บของที่บรรจุของใช้ยามจำเป็นเอาไว้
และตรงส่วนนั้นจะมีกล่องๆ หนึ่งที่เรียกว่ากล่องแห่งผู้นำ
เอาไว้เพื่อรับสาสน์หรือสิทธิพิเศษบางอย่างที่ผู้นำจะได้ในทุกๆ เช้า
ส่วนห้องนอนของสมาชิกนั้นมีสภาพค่อนข้างกึ่งกลางแจ้ง คือมีเตียง 2 เตียงในห้องที่เปิดโล่ง
ไม่มีผนังกั้น เวลาจะนอนต้องกางมุ้ง เรียกได้ว่าแทบไม่มีพื้นที่ส่วนตัวเลย
ยกเว้นแต่ห้องนอนของผู้นำที่จะเป็นห้องแยกต่างหาก ปิดทึบเรียบร้อย
และที่สำคัญ -ท่ามกลางอากาศร้อนเป็นประวัติการณ์ของเกาหลี
ห้องของผู้นำเป็นห้องเดียวที่มีแอร์คอนดิชั่น!
อีกหนึ่งเงื่อนไขและถือว่าเป็นหนึ่งในแรงจูงใจเพื่อการเอาชนะเกม
นั่นคือการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่อย่างจำกัด
การที่ต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยข้าว ถั่ว มันฝรั่ง และผงโปรตีน เป็นสิ่งที่มหาโหดจริงๆ
การชนะมินิเกมหรือเกมแต่ละครั้งจะมีของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้กับผู้ชนะ
ซึ่งรางวัลนั้น ในสภาวะการที่ทรัพยากรต่างๆ จำกัดอย่างยิ่งนี้
จึงเป็นเหมือนของขวัญล้ำค่าที่ทุกคนอยากจะเอาชนะให้ได้
III.
การเลือกผู้นำชุมชน
- เป็นหนึ่งในเงื่อนไขและตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของเกมนี้
Society Game วางเส้นเรื่องที่ต้องการจะนำเสนอเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
ว่าด้วยสังคมที่แตกต่างกัน 2 สังคม ด้วยการนำของหัวหน้าที่มาจากการเลือกด้วยวิธีที่แตกต่างกัน
จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสมาชิกและกลยุทธ์ในสังคมอย่างไร
สุดท้าย คน หรือ ระบบ ที่สำคัญกว่ากัน และผู้นำแบบไหนคือผู้นำในฝัน
✲ มาดง ✲
ใช้การเลือกผู้นำโดยวิธีการอะไรสักอย่างที่จะแสดงถึงความกล้าหาญและความมีเสน่ห์แห่งผู้นำ
โดยวิธีการที่ทางรายการใช้ ในเช้าของวันที่ 2 ของหมู่บ้านวอนฮยองนั้น
คือการทำโปรตีนเชคอันน่าขยะแขยง = แมลง + หนอน เป็นๆ ปั่นสดๆ รวมกัน 1 แก้วใหญ่
คนแรกที่สามารถดื่มจนหมด จะได้รับสิทธิการเป็นผู้นำแห่งมาดงทันที
และผู้ที่ทำสำเร็จอย่างไม่มีท่าทางลังเลเลยก็คือ ...อีแฮซอง ผู้นำคนที่ 1 ของมาดง
ทันทีที่ได้รับตำแหน่งผู้นำ ผู้นำจะได้รับกุญแจแห่งอำนาจ 3 ดอก
คือ 1. กุญแจห้องผู้นำ 2. กุญแจคุก และ 3. กุญแจกล่องแห่งผู้นำ
และอีก 1 หน้าที่ของผู้นำแห่งมาดงก็คือการมอบ "กุญแจแห่งกบฏ"
ให้กับสมาชิกมาดง 2 คนให้มีสิทธิครอบครอง และผู้ที่ได้ครอบครองนี้เอง
จะเป็นสมาชิกที่มีสิทธิในการก่อกบฏต่อตัวผู้นำ และถ้าหากทำตามกติกาได้สำเร็จ
(กล่าวคือ สามารถรวบรวมเสียงข้างมาก เข้าไปลั่นฆ้องแห่งกบฎภายใน 30 นาที)
ตำแหน่งผู้นำจะเปลี่ยนผ่านมาอยู่ในมือของผู้ก่อกบฏนั่นเอง
กุญแจแห่งกบฎนี้ เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของชุมชนมาดง
กุญแจ 2 ดอกนี้บรรจุเอาความเชื่อใจอันหนักแน่น อยู่ในปริมาณที่พอๆ กับความเสี่ยงที่น่าหวาดหวั่น
แฮซองต้องมั่นใจว่าการมอบกุญแจแห่งกบฏนี้ให้กับใคร 2 คน
2 คนนั้นจะต้องไม่ทำการก่อกบฏยึดอำนาจไปจากเขา
การคุยกันแบบตัวต่อตัวจึงเริ่มต้นขึ้น
ทั้งนี้ ในชุมชมมาดงขณะนั้น เกิดพันธมิตรลับๆ 2 ฝ่าย
ฝ่ายแรกมียางซังกุกเป็นตัวตั้งตัวตี โดยกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย 5 คน
คือตัวซังกุกเอง ฮันบยอล ควอนอาซล พัคซอฮยอน และ ชเวซอลฮวา
แม้แผนการดั้งเดิมของซังกุกคือการเอาแฮซองเข้ามารวมอยู่ในกลุ่มด้วย
แต่ก็ถูกสมาชิกคนอื่นๆ คัดค้านเอาไว้
แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป แฮซองกลายเป็นผู้นำชุมชน
ทำให้ซังกุกต้องเข้าหาอีกครั้ง เขาเล่าแผนการณ์ในใจให้แฮซองฟัง
เพื่อเรียกคะแนนความเชื่อมั่น ให้แฮซองยอมมอบกุญแจแห่งกบฏให้
ฝ่ายที่สองคือแฮซองเองที่เป็นตัวตั้งตัวตี
พันธมิตรลับกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยตัวแฮซองเอง จองอินจิกที่สนิทกันมาตั้งแต่แรก และพัคฮาเอล
รวมไปถึงฮยอนคยองรยอลที่แม้จะไม่สามารถระบุฝ่ายที่ชัดเจนได้นัก
แต่แฮซองก็เชื่อว่าเขาอยู่ฝ่ายเดียวกับตน
การตกลงกันระหว่างผู้นำของพันธมิตรลับทั้ง 2 ฝ่ายจึงเกิดขึ้น
ซังกุกต้องการกุญแจเพื่อเป็นหลักประกันในการปกป้องสมาชิกทีมตัวเอง
และให้สัญญาว่าจะไม่ก่อกบฏ และแฮซองต้องการให้ซังกุกช่วยปกป้อง
ตัวเองและอินจิกให้กลายเป็น 2 ใน 3 คนสุดท้ายของมาดงแห่งนี้
ผลการตัดสินใจของผู้นำ ออกมาเป็นว่า
กุญแจแห่งกบฏทั้ง 2 ดอก ตกอยู่ในความครอบครองของ
จองอินจิก พันธมิตรฝ่ายตนเอง และยางซังกุก ผู้นำของทีมตรงข้าม
✲ นบดง ✲
ใช้ระบบการโหวตใหม่ทุกวันเพื่อเลือกตัวผู้นำ
การโหวตเลือกผู้นำคนแรกของนบดงเริ่มต้นในเช้าวันที่ 2 ของการแข่งขัน
☼ เงื่อนไขการโหวตมีง่ายๆ ดังนี้
จะมีผู้เสนอชื่อของตนเองเพื่อให้ได้รับเลือกเป็นผู้นำจำนวน 3 ชื่อ
และสมาชิกจะต้องทำการโหวต 1 ใน 3 ชื่อนั้นเพื่อรับตำแหน่งผู้นำ
โดยจะลงชื่อให้ตัวเองก็ได้ แต่จะทำการงดออกเสียงไม่ได้
ซึ่ง 3 รายชื่อในวันแรกได้แก่ ฟาโรห์ คิมฮีจุน และยุนมาโช
เสียงส่วนใหญ่เลือกให้พี่ใหญ่อย่างฟาโรห์รับตำแหน่งผู้นำในวันแรก
ผู้นำแห่งนบดงเองก็จะได้รับกุญแจแห่งอำนาจทั้ง 3 ดอก
เช่นเดียวกับผู้นำแห่งมาดง และสิทธิพิเศษอีก 1 อย่างที่ผู้นำแห่งนบดงจะได้
ก็คือการโหวตผู้นำครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้ ชื่อของเขาจะเป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อทันที
และถ้าหากว่าคะแนนเสียงออกมาเท่ากัน ผู้นำคนก่อนจะได้รับสิทธิในการตัดสิน
การโหวตผู้นำที่จะให้เข้ามารับตำแหน่ง 1 วัน เป็นการเมืองอย่างหนึ่ง
โอลิเวอร์ที่เดินหมากตั้งแต่ครั้งแรก วางแผนกับพันธมิตรของตัวเองว่า
ต้องการจะกำจัดคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดกับคนที่มีทีท่าว่าจะแข็งแกร่งที่สุดออก
เป้าหมายแรกของเขาคือการกำจัดฟาโรห์
แต่เขาเองก็เป็นหนึ่งเสียงที่เลือกให้ฟาโรห์เป็นผู้นำในวันแรก
เพื่อให้เหตุผลว่า ถ้าเหตุการณ์ในวันนี้ออกมาไม่ดี (ซึ่งเขาเชื่ออย่างนั้น)
การกำจัดฟาโรห์ออกก็จะดูมีเหตุผลที่เป็นที่ยอมรับได้
เนื่องจากชุมชนนบดงจะทำการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าได้โดยการโหวตในแต่ละวันเท่านั้น
ผู้นำแห่งนบดงมีหน้าที่และความรับผิดชอบใน 1 วันเท่านั้น
ซึ่งแตกต่างจากมาดงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำในเวลาอันรวดเร็วจนน่าตกใจ!
✲ มาดง ✲
ความไม่มั่นคง ความไม่แน่ใจ ความไม่รู้ ความโลภ
เมื่อรวมเข้ากับการถือสิทธิที่เหนือกว่า การอยากเอาชนะ และอำนาจแล้ว
ย่อมผลิกลั่นออกมาเป็นผลผลิตที่น่ากลัวเสมอ
และมันเกิดขึ้นแล้วที่มาดง -อย่างน้อยมันก็ขมขื่นสำหรับแฮซอง
ผู้นำแห่งมาดงหมาดๆ หลังจากมวลแมลงต่างๆ ยังไม่ทันได้ย่อยในกระเพราะอาหาร
เสียงฆ้องแห่งกบฏก็ดังขึ้น มันน่าเจ็บใจที่ได้ยินเสียงฆ้องตีร้องเพิ่มขึ้นอีก 5 ครั้ง
ครั้งสุดท้ายนั้น เป็นเสียงที่ฟังแล้วแสบไปถึงกลางอก
เสียงฆ้องสนับสนุนฝ่ายกบฏซึ่งมาจากคนที่ (น่าจะ) อยู่ข้างเดียวกัน
ยางซังกุกผู้ครอบครองกุญแจแห่งกบฏไขห้องแห่งกบฏแล้วลั่นฆ้องเป็นคนแรก
ตามมาด้วยสมาชิกในกลุ่มพันธมิตรลับที่เหลือ ตามด้วยคนสุดท้าย
พันธมิตรไม่ทราบฝ่าย ฮยอนคยองรยอล -การกบฏสัมฤทธิ์ผล
ยังซางกุกขึ้นเป็นผู้นำแทนอีแฮซองอย่างเป็นทางการ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in