IV.เกมหลักของ EP02 มีชื่อเกมว่า โต๊ะกลมแห่งความทรมาน
กติกามีดังนี้ค่ะ
1. เกมนี้ประกอบไปด้วยแท่นกลมๆ หนัก 80 กิโลกรัม ไข่ 3 ฟอง ถุงทรายหนัก 5 กก. และลูกเต๋า 6 หน้า
2. แต่ละชุมชนต้องเลือกตัวแทน 3 คนเพื่อช่วยกันแบกแท่นไม้ 80 กก. เอาไว้
ในขณะที่ใต้แท่นจะวางไข่เอาไว้ 3 ฟองในแต่ละจุด ต้องทำทุกวิถีทางในการรักษาไม่ให้
ไข่ทั้งสามฟองนั้นแตก ถ้าไข่สามฟองแตก เท่ากับเกมจบด้วยความพ่ายแพ้
3. สมาชิกที่เหลือจะนั่งสลับกับฝั่งตรงข้ามบนแท่นไม้ แต่ละคนจะได้รับลูกเต๋า
6 หน้าคนละ 1 ลูก โดยต้องแสดงคำตอบตามหน้า 1-6 ของลูกเต๋าภายในเวลา
ตามโจทย์ที่ได้รับบนกระดาน ถ้าหากว่าสมาชิกภายในชุมชนตอบผิด
บนแท่นไม้กลมๆ จะถูกวางลงด้วยถุงทรายหนัก 5 กก. ทุกๆ 1 คำตอบผิดนั่นเอง
กติกามีง่ายๆ เท่านี้ แถมยังมีให้ฝึกกันก่อนในมินิเกมด้วย
(ซึ่งฝั่งนบดงเอาชนะ และได้รับน้ำมันทอดอาหารเป็นของรางวัล)
เกมนี้มีแทคติกอยู่ที่ตัวลูกเต๋า
แต่ละลูกนั้นถูกวางหน้าไม่เหมือนกัน
โดยถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด
เนื่องจากมีเวลาที่จำกัดในการเลือกหน้าที่ใช้ให้ตรงกับคำตอบที่ถูกต้อง
แม้ว่าโจทย์จะไม่ยาก แต่การหันหน้าลูกเต๋าให้ถูกต้องและทันเวลา
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
สำหรับคนหัวไวไม่เป็นปัญหา
แต่ถ้าสำหรับคนหัวช้าล่ะ กว่าจะคิดคำตอบออกกว่าจะหาด้านที่ถูก
งานนี้เลยต้องอาศัยเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการยื่น การหันลูกเต๋า
หรือแม้แต่ตำแแหน่งการนั่งที่จะทำให้ถนัดต่อการลอกได้อย่างโปร่งใส
เพราะไม่ได้กติกากำหนดเอาไว้ว่าจะทำไม่ได้
เพียงแต่ทำยังไงก็ได้ที่จะรักษาไม่ให้ไหล่ของสมาชิกที่ต้องแบกน้ำหนักมากมายนั้นหลุด
และรักษาไม่ให้ไข่แตก และเป็นผู้ชนะ เพื่อรักษาความอยู่รอดของชุมชนตัวเองเอาไว้
เกมสนุกทีเดียว ตลอดการแข่งขันเราสัมผัสได้ถึงคลื่นของความกดดัน
การพยายามที่จะเอาชนะ ความเข้าอกเข้าใจ และความเห็นใจ
แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อเกิดการแบ่งแยกเป็นสองชุมชนที่ต้องแข่งขัน
แม้เราจะเห็นใจฝั่งผู้แพ้แค่ไหน เราก็อดดีใจและสะใจในชัยชนะที่ได้รับไม่ได้อยู่ดี
เกมจบลงที่ชุมชนมาดงได้รับชัยชนะเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน
ด้วยแทคติกที่เหนือกว่า (อีกแล้ว) และความผิดพลาดที่น้อยกว่า
ในขณะที่ฝั่งนบดงนั้นต้องมีการหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บแค้นและเจ็บใจในตัวเอง
เกิดเป็นคำถามว่าทำไม เพราะอะไร ชุมชนถึงต้องแพ้เป็นครั้งที่ 2
ทำไมต้องเป็นฝั่งเราที่เกิดความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย
ความพ่ายแพ้ดึงเอาความเป็นมนุษย์ออกมาตีแผ่ได้อย่างดีทีเดียว
หนึ่งในนั้นคือความรู้สึกที่ว่า "ข้าคือผู้ที่ถูกเสมอ"
น่าแปลกและน่ากลัวที่ความคิดเช่นนี้ฝังลึกอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน
เมื่อความล้มเหลวเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งในใจ ไม่ว่าจะอยู่ลึกแค่ไหนก็ตาม
จะมีหนึ่งความรู้สึกที่จะบอกกับตัวเองว่า "นั่นไม่ใช่ความผิดของข้าคนเดียวเสียหน่อย"
ซึ่งเป็นความจริง . แต่ก็เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
จากเกมเราจะเห็นได้ว่าคนที่ทำให้เกิดความผิดพลาดมาที่สุด
และอาจจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นบดงต้องเผชิญหน้ากับความปราชัยที่น่าอดสู
นั่นก็คือความผิดพลาดที่เกิดมาจาก มาโช มากที่สุด
V.
การจากไปของสมาชิกคนที่ 2
กติกาเป็นอย่างนี้ ชุมชนที่แพ้เกมหลักจะต้องคัดสมาชิก 1 คนออกจากเกม
ซึ่งเป็นอำนาจของผู้นำชุมชนว่าจะเลือก 1 รายชื่อนั้นออกมาโดยวิธีใด
ผู้นำของนบดงคือคิมฮีจุนใช้วิธีให้ทุกคนเขียน 1 ชื่อที่คิดว่าจะคัดออก
แต่สุดท้ายอำนาจก็อยู่ในมือของผู้นำ เพราะไม่ได้กฎกติกาข้อใดเขียนเอาไว้
ว่าจะต้องทำตามเสียงส่วนมาก
ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เมื่อคนที่จะต้องจากหมู่บ้านวอนฮยองไปเป็นคนที่สอง
คนที่จะต้องออกจากชุมชนนบดงไปเป็นคนที่สอง
ไม่ใช่ มาโช ที่ผิดพลาดมากที่สุดในเกมหลักจนทำให้ชุมชนแพ้
ไม่ใช่ โอลิเวอร์ ตัวอันตรายอันดับหนึ่งที่ทุกคนเริ่มไม่ไว้วางใจ
ไม่ใช่ ฟาโรห์ ผู้นำคนแรกที่ทำให้ชุมชนแพ้การแข่งขันในครั้งแรก
แต่กลับเป็น ชินแจฮยอก 1 ในพันธมิตรแห่งโอลิเวอร์นั่นเอง
แจฮยอกเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
และการตัดสินใจนี้ของคิมฮีจุนก็น่าสนใจมาก
พอๆ กับคำถามที่เกิดขึ้นในใจของสมาชิกที่มากพอกัน
ทำไม? คิมฮีจุนถึงตัดสินใจกำจัดชินแจฮยอกออกไป
คิมฮีจุนให้เหตุผลว่าแจฮยอกแทบไม่กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือทีมเลย
ตลอดเวลา 1 วันนั้น เขาหลับตลอด และทำผิดพลาดในการแข่งขันหลัก
แม้ไม่มากเท่ามาโช แต่ถ้าเทียบกับความตั้งใจตลอดทั้งวันแล้ว
เขาคิดว่าคนอย่างชินแจฮยอกนั้นเก็บไว้ต่อไปก็คงจะไร้ประโยชน์
ทั้งๆ ที่ชินแจฮยอกไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ที่คิดถึงเลยก็ตาม
ตัวเลือกที่น่าตกใจนี้ทำให้นำมาซึ่งความคิดหนึ่งที่ว่า
นี่เป็นธรรมชาติอีกอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์
เราไม่มีอาจคาดหวังและคาดเดาเหตุการณ์ใดๆ ล่วงหน้าได้
เพียงเพราะเหตุผลบริบทเดียว จากมุมมองของเราคนเดียว
ทุกการกระทำ ในทุกขณะ เป็นตัวกำหนดผล
อย่างละเล็กอย่างละน้อยเกิดขึ้นรวมตัวกันเป็น 100%
ทุกเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ขึ้นอยู่กับว่านั่นจะเป็นเหตุผลมาจากอะไร
จากเรื่องที่ทุกคนเห็นเหมือนกัน หรือจากเรื่องที่เรามองเห็นเพียงแค่คนเดียวก็ตาม
(ส่วนตัวคิดว่าการกำจัดชินแจฮยอกออก แม้เขาจะเป็นตัวเลือกที่จู่ๆ ก็โผล่มา
และทำให้ทั้งชุมชนรวมไปถึงมาดงต้องอ้าปากค้าง แต่การที่แจฮยอกออกครั้งนี้
เป็นการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว แจฮยอกเป็นพันธมิตรที่อยู่ยั้งยืนยงใน
เส้นทางการเป็นผู้ชนะของโอลิเวอร์ คนที่ลำบากที่สุดเห็นจะเป็นเขาที่ต้องเสีย
เสียงไป 1 เสียง และคงทำอะไรๆ ได้ยากมากขึ้นแน่ๆ แต่ก็เป็นอะไรที่น่าสนุก
เราอยากรู้ว่าคนอย่างโอลิเวอร์จะหาหนทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์แบบนี้
ไปได้หรือไม่ อย่างไร)
VI.
เป็นชัยชนะครั้งที่ 2 ของฝั่งมาดง
เป็นชัยชนะที่สวยงาม
เป็นชัยชนะที่ทำให้เกิดความมั่นคง
เป็นชัยชนะที่ทำให้เกิดความสั่นคลอน
เริ่มจากการแบ่งเงินรางวัลกันก่อน
เราบอกมาตั้งแต่ตอนที่แล้วแล้วว่า
การแบ่งเงินนี่แหละคือการเมืองอย่างแท้จริง
และครั้งนี้ก็แสดงออกชัด เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนอย่างหนึ่งทีเดียว
เมื่อผู้นำอย่างซังกุกเลือกจะแบ่งเงินให้ทุกคนรวมถึงตัวเอง
คนละ 1 ล้านวอน ยกเว้นคนเดียวเท่านั้น คือควอนอาซล
นี่เท่ากับเป็นการแสดงสัญลักษณ์บางอย่าง
เป็นการแสดงความไว้วางใจอย่างสุดซึ้งของหัวหน้า
ถึงขนาดว่าสร้างความสั่นคลอนให้กับคนในชุมชนเลยทีเดียว
และอีกหนึ่งแอคชั่นที่ผู้นำของฝั่งมาดงแสดงออกมา
(ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม)
คือการที่เขาร้องไห้ออกมาทันทีที่ฝั่งนบดงต้องคัดคนออก
เขาให้สัมภาษน์ภายหลังว่าเขารู้สึกกดดัน
ไม่อยากจะคิดถึงว่าถ้าหากวันนั้นมาถึง
เขาจะกำจัดสมาชิกในชุมชนออกไปโดยไม่เสียใจได้หรือไม่
เชื่อเรามั้ย ว่าจะต้องมีคนที่ชอบใจกับการกระทำนี้ของซังกุก
และต้องมีคนที่ไม่ค่อยชอบใจกับการกระทำแบบนี้ของซังกุก
และนี่เป็นอีกครั้งที่ผู้นำแห่งมาดง ยังไม่ได้ใส่ชื่อใครเป็น blacklist
เท่ากับว่าตอนนี้ทุกคนยังปลอดภัย ไร้มลทินกันต่อไป
เราแอบไปดูตาม สนุกมากเลยค่ะ
อยากให้ที่ไทยมีเกมโชว์แบบนี้บ้างจัง
ปล. แอบเห็นที่ผิดนิดนึง ตรง minigame เหมือนฝั่งมาดงจะเป็นฝ่ายชนะนะคะ