เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
lazy watchingmynkdontbelazy
[Society Game : EP02] โต๊ะกลมแห่งความทรมาน
  • หลังจาก EP01 ผ่านพ้นไป (เขียนรีวิว EP01 ไว้ ที่นี่ นะคะ)
    เราเริ่มได้ทำความเข้าใจกับระบบและความเป็นไปของเกม
    ได้ทำความรู้จักกับผู้เข้าแข่งขันที่โดดเด่นและมีบทบาทในการขับเคลื่อนเกมไปบ้างแล้ว
    บางคนอาจจะมีผู้เข้าแข่งขันที่ถูกใจหรือหมั่นไส้ เอ๊ะ เขาจะทำยังไงกับเกมต่อไป
    แผนที่วางเอาไว้จะได้ผลหรือไม่ มันจะเป็นไปตามที่เขาคาดหวังหรือจะมีอะไรมาพลิกล็อคมั้ย

    EP02 นี้จะเข้มข้นมากขึ้น  
    หลังจากที่แพ้เกม ชนะเกม แต่ละคนในแต่ละชุมชนจะมีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างไร
    จะมีใครเริ่มออกแอคชั่นแบบไหนกันบ้าง งานนี้รับรองว่าจับตามองกันสนุกเลยล่ะ

    I.
    นบดง - ฝั่งผู้แพ้
    แน่นอนว่าบรรยากาศเศร้าหมองและหดหู่อย่างเห็นได้ชัด
    ทั้งการจากไปของสมาชิกคนแรก และความพ่ายแพ้แรกที่ชุมชนได้รับ
    ทำให้บรรยากาศโดยรอบลอยวนไปด้วยคำถามที่ว่า
    'อะไร' หรือ 'ใคร' ที่ทำให้ชุมชนต้องพบเจอกับความปราชัย

    และด้วยคำถามเดียวกันนี้แหละที่ขับเคลื่อนให้สมาชิกบางคน
    กระทำการบางอย่าง เพื่อรักษาความอยู่รอดของตัวเองและชุมชน
    คนที่โดดเด่นที่สุดใน EP02 ของทางฝั่งนบดงก็คือ โอลิเวอร์ จาง

    หลังจากผ่านเกมแรกมาแล้ว ได้มองเห็นศักยภาพที่แอบซ่อนของสมาชิกคนอื่นๆ
    รวมไปถึงจุดอ่อนและข้อเสียของสมาชิกคนอื่นๆ ที่ฉายออกมาระหว่างเกม
    โอลิเวอร์มองเห็นว่าคนหนึ่งที่เป็นกำลังหลักของทีม
    และช่วยชุมชนให้พ้นจากช่วงเวลาคับขันมาได้นั่นก็คือ MJ
    สาวน้อยนักกีฬา MMA ที่มีพละกำลังและไหวพริบที่น่าทึ่ง
    โอลิเวอร์ตั้งใจจะดึงให้ MJ มาร่วมทีม (ซึ่งมีเขา แจฮยอก ซาฮยอก ที่ร่วมมือกันอยู่แล้ว)
    เพราะเล็งเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต
    แต่ MJ เป็นพวก 'รักสงบ' เธอตั้งแง่กับ 'ความกระตือรือร้น' ของโอลิเวอร์มาตั้งแต่ต้น
    จึงเกิดท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ เมื่อถูกชวนให้ไปร่วมทีมด้วย

    อีกแอคชั่นหนึ่งที่มาจากการเคลื่อนไหวของโอลิเวอร์ในฝั่งนบดง
    คือการพยายามผลักดันให้คนในกลุ่มอย่างฮงซาฮยอกขึ้นเป็นหัวหน้าชุมชนในวันถัดไป
    นอกจากจะเพื่อรักษาสมดุลและเปลี่ยนขั้วอำนาจแล้ว
    ยังทำไปเพื่อรักษาความอยู่รอดของตัวเองด้วย

    II.
    หัวหน้าคนที่ 2 แห่งนบดง

    ตามกติกา นบดงจะทำการเลือกหัวหน้าใหม่ในทุกๆ วัน
    โดยหัวหน้าคนเก่ามีสิทธิเป็นผู้ได้รับเลือก 1 ใน 3 อยู่แล้ว
    ส่วนอีก 2 คน ก็ให้เสนอชื่อจากสมาชิกที่เหลืออยู่
    และจะทำการลงเสียงเลือกตั้งจากสมาชิกทุกคน 
    ว่าใครจะได้ทำหน้าที่หัวหน้าชุมชนนบดงในวันที่ 3 ของการแข่งขัน

    ผู้ที่มีสิทธิได้รับเลือก 3 คน มีดังนี้ 
    1. ฟาโรห์ (ผู้นำคนก่อน) 2. ฮงซาฮยอก 3. คิมฮีจุน

    และผลปรากฏว่า
    คิมฮีจุน ได้เป็นผู้นำแห่งนบดงด้วยคะแนนโหวต 6 คะแนน

    ความสนุกอยู่ตรงนี้ค่ะ - อยู่ตรงที่ว่า 6 คะแนนโหวตที่สนับสนุนคิมฮีจุนมาจากไหน
    และทำไม ตรงไหน อย่างไร แผนของโอลิเวอร์ที่เคลื่อนไหวอย่างมั่นใจจึงพลิกล็อก

    มันเริ่มจากตรงนี้ค่ะ

    โอลิเวอร์คิดจะผลักดันซาฮยอก ขึ้นเป็นหัวหน้าในวันที่ 3
    ด้วยเงื่อนไขที่ว่า "ต้องการจำกัดฟาโรห์"
    ถึงขนาดพูดว่า ถ้าซาฮยอกได้เป็นผู้นำชุมชนแล้ว
    ห้ามไม่ให้ฟาโรห์มีสิทธิเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันโดยเด็ดขาด
    และเขาจะเป็นคนรับผิดชอบเกมในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้กำลังเอง
    นอกจากพันธมิตรแห่งโอลิเวอร์ อันประกอบไปด้วย
    ตัวเขาเอง ชินแจฮยอก และฮงซาฮยอกแล้ว
    โอลิเวอร์ยังมียุนมาโช เป็นฐานเสียงลับๆ อีกหนึ่งคน
    ซึ่งดูแล้วเขาจะไว้ใจมาโชไม่น้อย แต่กลับไม่ได้ในสิ่งเดียวกันตอบกลับมา

    เพราะความกระเหี้ยนกะหือรือในชัยชนะที่ค่อนข้างจะแสดงออกอย่างชัดแจ้งไปหน่อย
    ทำให้มาโชรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ถ้าจะปล่อยให้โอลิเวอร์คอยควบคุมความเป็นไป
    ในชุมชนอยู่ฝ่ายเดียว มาโชจึงร่วมมือกับฟาโรห์ (ซึ่งเป็นพันธมิตรที่วางใจกันมาแต่ต้น)
    เป้าหมายของทั้งคู่คือการจำกัดโอลิเวอร์ให้ได้ ภายในวันนี้
    โดยคิดผลักดันพี่ใหญ่อย่างคิมฮีจุนขึ้นเป็นผู้นำชุมชนแทน
    ด้วยการเข้าไปคุยกับ 3 สาว ว่าอย่าเลือกฮงซาฮยอกเด็ดขาด ให้เลือกคิมฮีจุนแทน
    แน่นอนว่า MJ ที่เป็นเหมือนแกนหลักของหญิงสาวสามคนที่เหลือ
    แสดงออกชัดเจนว่าอย่างไรก็ไม่อยู่ข้างเดียวกับโอลิเวอร์
    จึงทำให้คะแนนเทมาอยู่บนตักของคิมฮีจุนทั้งหมด 
    แผนของโอลิเวอร์เป็นอันล้มคลืน และหนทางเดียวที่เหลือ
    คือการเอาชนะเกมหลักในวันนี้ให้ได้เท่านั้น
    เพราะถ้าหากชุมชนแพ้ คนที่จะต้องกลับบ้านวันนี้
    คงหนีไม่พ้น 1 ใน 3 พันธมิตรแห่งโอลิเวอร์เป็นแน่



    III.
    มาทางฟังคนชนะอย่างมาดงกันบ้าง
    แน่นอนว่าชัยชนะนั้นแสนหอมหวาน
    แต่แน่นอนว่าก็อันตรายไม่ต่างกัน

    ผู้นำซังกุกและแฮซองสร้างความเชื่อมั่นต่อกันผ่านเกม
    เนื่องจากแฮซองมีส่วนช่วยในเกมอย่างมาก ความสามารถ
    ของเขาฉายชัดและเป็นประโยชน์ในยามวิกฤตของทีม
    บวกกับความเชื่อมั่นตั้งแต่ต้นที่ซังกุกต้องการสร้างพันธมิตรกับแฮซอง
    แต่จำต้องตัดเขาออกไปเพราะพันธมิตรหลักไม่เห็นด้วย
    ความสามารถของแฮซองเมื่อวานทำให้ซังกุกมั่นใจในความคิดของตัวเอง
    ถึงขนาดวางแผนเอาไว้แล้วว่า 3 คนสุดท้ายที่จะเป็นตัวแทนของชุมชนนี้
    คือเขา (ตัวแทนด้านความแม่นยำ) อาซล (ตัวแทนด้านพละกำลัง) และ
    แฮซอง (ตัวแทนด้านสติปัญญา)

    ความไว้วางใจนี้เองที่ทำให้พันธมิตรแห่งซังกุกเริ่มสั่นคลอน
    สมาชิกที่เหลือในทีมเริ่มไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง
    อาซลต้องการให้ซังกุกเลือกซอลฮวามากกว่าแฮซอง
    เพราะนี่เป็นพันธมิตรเริ่มต้นดั้งเดิมนะ อย่างไรซังกุกก็ต้องเชื่อมั่นพวกเรา
    ที่เริ่มด้วยกันมาตั้งแต่แรกมากกว่าสิ 

    ในขณะที่แฮซองมีพันธมิตรที่อย่างไรก็อยากจะให้อยู่ด้วยกันไปจนจบเกมคือจองอินจิก
    เขาวางแผนเอาไว้ว่า ต้องการจะกำจัดทุกคนในฝั่งนั้น ยกเว้นอาซลและซังกุก
    โดยเฉพาะซอลฮวา เขาอาจจะพยายามปลุกปั่นให้ซอลฮวาก่อกบฏ
    เพราะตามกติกาแล้ว ถ้าหากว่าก่อกบฏไม่สำเร็จ ผู้นำจะมีสิทธิยึดกุญแจแห่งกบฏ
    คืนมาแล้วให้กับสมาชิกคนอื่นแทน เท่ากับเป็นการกำจัดอำนาจที่ซอลฮวามีอยู่
    ให้กลับมาอยู่ในมือของฝั่งตนเองให้หมด แต่ถ้าหากว่าซอลฮวาก่อกบฏสำเร็จ
    แฮซองก็มั่นใจว่า กุญแจ 1 ใน 2 ดอกจะต้องตกมาอยู่กับเขาหรืออินจิกแน่นอน
    และถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็จะหาสมาชิกมาเข้าร่วมอีก 1 คนแล้วก่อกบฏต่อซอลฮวาอีกครั้ง

    แผนการดังกล่าวมีฮาเอลเป็นตัวการสำคัญ เธอทำหน้าที่เหมือนนางนกต่อ
    ที่เข้าทั้งกับข้างของแฮซองและข้างซอลฮวา โดยการไปสร้างข่าวลือว่า
    ซังกุกคุยกับแฮซองเอาไว้ว่าจะทำการกำจัดสมาชิกที่เป็นผู้หญิงออกไปก่อน
    ซึ่งนั่นทำให้ซอลฮวารู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่สบายใจ จนอาจนำไปสู่การก่อกบฏได้



    IV.
    ถ้าหากจะจำกันได้ ในสิทธิประโยชน์พิเศษอย่างหนึ่งที่ผู้นำแต่ละชุมชนจะได้รับ
    คือกุญแจแห่งกล่องผู้นำ ในกล่องนั้นจะมีของกำนัลเล็กๆ น้อยๆ มาให้ทุกเช้า
    และในเช้าของวันที่ 3 ในหมู่บ้านนั้น ปรากฏซองจดหมายแปลกๆ แนบมาด้วย
    พอเปิดเข้าไปด้านใน ของทางฝั่งมาดง พบว่ามีข้อความประหลาดๆ ที่ระบุ
    ถึงความหมายของมันไม่ได้ ว่า 12/13 
    โค้ดลับปริศนานี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะต้องขบคิดกันว่า
    จะนำมาซึ่งสิ่งใดในแต่ละชุมชน




  • IV.
    เกมหลักของ EP02 มีชื่อเกมว่า โต๊ะกลมแห่งความทรมาน
    กติกามีดังนี้ค่ะ 
    1. เกมนี้ประกอบไปด้วยแท่นกลมๆ หนัก 80 กิโลกรัม ไข่ 3 ฟอง ถุงทรายหนัก 5 กก. และลูกเต๋า 6 หน้า
    2. แต่ละชุมชนต้องเลือกตัวแทน 3 คนเพื่อช่วยกันแบกแท่นไม้ 80 กก. เอาไว้
    ในขณะที่ใต้แท่นจะวางไข่เอาไว้ 3 ฟองในแต่ละจุด ต้องทำทุกวิถีทางในการรักษาไม่ให้
    ไข่ทั้งสามฟองนั้นแตก ถ้าไข่สามฟองแตก เท่ากับเกมจบด้วยความพ่ายแพ้
    3. สมาชิกที่เหลือจะนั่งสลับกับฝั่งตรงข้ามบนแท่นไม้ แต่ละคนจะได้รับลูกเต๋า
    6 หน้าคนละ 1 ลูก โดยต้องแสดงคำตอบตามหน้า 1-6 ของลูกเต๋าภายในเวลา
    ตามโจทย์ที่ได้รับบนกระดาน ถ้าหากว่าสมาชิกภายในชุมชนตอบผิด
    บนแท่นไม้กลมๆ จะถูกวางลงด้วยถุงทรายหนัก 5 กก. ทุกๆ 1 คำตอบผิดนั่นเอง

    กติกามีง่ายๆ เท่านี้ แถมยังมีให้ฝึกกันก่อนในมินิเกมด้วย
    (ซึ่งฝั่งนบดงเอาชนะ และได้รับน้ำมันทอดอาหารเป็นของรางวัล)

    เกมนี้มีแทคติกอยู่ที่ตัวลูกเต๋า
    แต่ละลูกนั้นถูกวางหน้าไม่เหมือนกัน
    โดยถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด
    เนื่องจากมีเวลาที่จำกัดในการเลือกหน้าที่ใช้ให้ตรงกับคำตอบที่ถูกต้อง
    แม้ว่าโจทย์จะไม่ยาก แต่การหันหน้าลูกเต๋าให้ถูกต้องและทันเวลา
    ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว 

    สำหรับคนหัวไวไม่เป็นปัญหา
    แต่ถ้าสำหรับคนหัวช้าล่ะ กว่าจะคิดคำตอบออกกว่าจะหาด้านที่ถูก
    งานนี้เลยต้องอาศัยเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการยื่น การหันลูกเต๋า
    หรือแม้แต่ตำแแหน่งการนั่งที่จะทำให้ถนัดต่อการลอกได้อย่างโปร่งใส
    เพราะไม่ได้กติกากำหนดเอาไว้ว่าจะทำไม่ได้ 
    เพียงแต่ทำยังไงก็ได้ที่จะรักษาไม่ให้ไหล่ของสมาชิกที่ต้องแบกน้ำหนักมากมายนั้นหลุด
    และรักษาไม่ให้ไข่แตก และเป็นผู้ชนะ เพื่อรักษาความอยู่รอดของชุมชนตัวเองเอาไว้



    เกมสนุกทีเดียว ตลอดการแข่งขันเราสัมผัสได้ถึงคลื่นของความกดดัน
    การพยายามที่จะเอาชนะ ความเข้าอกเข้าใจ และความเห็นใจ 
    แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อเกิดการแบ่งแยกเป็นสองชุมชนที่ต้องแข่งขัน
    แม้เราจะเห็นใจฝั่งผู้แพ้แค่ไหน เราก็อดดีใจและสะใจในชัยชนะที่ได้รับไม่ได้อยู่ดี

    เกมจบลงที่ชุมชนมาดงได้รับชัยชนะเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน
    ด้วยแทคติกที่เหนือกว่า (อีกแล้ว) และความผิดพลาดที่น้อยกว่า
    ในขณะที่ฝั่งนบดงนั้นต้องมีการหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บแค้นและเจ็บใจในตัวเอง
    เกิดเป็นคำถามว่าทำไม เพราะอะไร ชุมชนถึงต้องแพ้เป็นครั้งที่ 2
    ทำไมต้องเป็นฝั่งเราที่เกิดความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย

    ความพ่ายแพ้ดึงเอาความเป็นมนุษย์ออกมาตีแผ่ได้อย่างดีทีเดียว
    หนึ่งในนั้นคือความรู้สึกที่ว่า "ข้าคือผู้ที่ถูกเสมอ" 
    น่าแปลกและน่ากลัวที่ความคิดเช่นนี้ฝังลึกอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน
    เมื่อความล้มเหลวเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งในใจ ไม่ว่าจะอยู่ลึกแค่ไหนก็ตาม
    จะมีหนึ่งความรู้สึกที่จะบอกกับตัวเองว่า "นั่นไม่ใช่ความผิดของข้าคนเดียวเสียหน่อย"
    ซึ่งเป็นความจริง . แต่ก็เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

    จากเกมเราจะเห็นได้ว่าคนที่ทำให้เกิดความผิดพลาดมาที่สุด
    และอาจจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นบดงต้องเผชิญหน้ากับความปราชัยที่น่าอดสู
    นั่นก็คือความผิดพลาดที่เกิดมาจาก มาโช มากที่สุด



    V.
    การจากไปของสมาชิกคนที่ 2 
    กติกาเป็นอย่างนี้ ชุมชนที่แพ้เกมหลักจะต้องคัดสมาชิก 1 คนออกจากเกม
    ซึ่งเป็นอำนาจของผู้นำชุมชนว่าจะเลือก 1 รายชื่อนั้นออกมาโดยวิธีใด

    ผู้นำของนบดงคือคิมฮีจุนใช้วิธีให้ทุกคนเขียน 1 ชื่อที่คิดว่าจะคัดออก
    แต่สุดท้ายอำนาจก็อยู่ในมือของผู้นำ เพราะไม่ได้กฎกติกาข้อใดเขียนเอาไว้
    ว่าจะต้องทำตามเสียงส่วนมาก

    ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
    เมื่อคนที่จะต้องจากหมู่บ้านวอนฮยองไปเป็นคนที่สอง
    คนที่จะต้องออกจากชุมชนนบดงไปเป็นคนที่สอง
    ไม่ใช่ มาโช ที่ผิดพลาดมากที่สุดในเกมหลักจนทำให้ชุมชนแพ้
    ไม่ใช่ โอลิเวอร์ ตัวอันตรายอันดับหนึ่งที่ทุกคนเริ่มไม่ไว้วางใจ
    ไม่ใช่ ฟาโรห์ ผู้นำคนแรกที่ทำให้ชุมชนแพ้การแข่งขันในครั้งแรก
    แต่กลับเป็น ชินแจฮยอก 1 ในพันธมิตรแห่งโอลิเวอร์นั่นเอง

    แจฮยอกเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    และการตัดสินใจนี้ของคิมฮีจุนก็น่าสนใจมาก
    พอๆ กับคำถามที่เกิดขึ้นในใจของสมาชิกที่มากพอกัน
    ทำไม? คิมฮีจุนถึงตัดสินใจกำจัดชินแจฮยอกออกไป

    คิมฮีจุนให้เหตุผลว่าแจฮยอกแทบไม่กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือทีมเลย
    ตลอดเวลา 1 วันนั้น เขาหลับตลอด และทำผิดพลาดในการแข่งขันหลัก
    แม้ไม่มากเท่ามาโช แต่ถ้าเทียบกับความตั้งใจตลอดทั้งวันแล้ว
    เขาคิดว่าคนอย่างชินแจฮยอกนั้นเก็บไว้ต่อไปก็คงจะไร้ประโยชน์
    ทั้งๆ ที่ชินแจฮยอกไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ที่คิดถึงเลยก็ตาม

    ตัวเลือกที่น่าตกใจนี้ทำให้นำมาซึ่งความคิดหนึ่งที่ว่า
    นี่เป็นธรรมชาติอีกอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์
    เราไม่มีอาจคาดหวังและคาดเดาเหตุการณ์ใดๆ ล่วงหน้าได้
    เพียงเพราะเหตุผลบริบทเดียว จากมุมมองของเราคนเดียว
    ทุกการกระทำ ในทุกขณะ เป็นตัวกำหนดผล
    อย่างละเล็กอย่างละน้อยเกิดขึ้นรวมตัวกันเป็น 100%
    ทุกเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ขึ้นอยู่กับว่านั่นจะเป็นเหตุผลมาจากอะไร
    จากเรื่องที่ทุกคนเห็นเหมือนกัน หรือจากเรื่องที่เรามองเห็นเพียงแค่คนเดียวก็ตาม

    (ส่วนตัวคิดว่าการกำจัดชินแจฮยอกออก แม้เขาจะเป็นตัวเลือกที่จู่ๆ ก็โผล่มา
    และทำให้ทั้งชุมชนรวมไปถึงมาดงต้องอ้าปากค้าง แต่การที่แจฮยอกออกครั้งนี้
    เป็นการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว แจฮยอกเป็นพันธมิตรที่อยู่ยั้งยืนยงใน
    เส้นทางการเป็นผู้ชนะของโอลิเวอร์ คนที่ลำบากที่สุดเห็นจะเป็นเขาที่ต้องเสีย
    เสียงไป 1 เสียง และคงทำอะไรๆ ได้ยากมากขึ้นแน่ๆ แต่ก็เป็นอะไรที่น่าสนุก
    เราอยากรู้ว่าคนอย่างโอลิเวอร์จะหาหนทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์แบบนี้
    ไปได้หรือไม่ อย่างไร)



    VI.
    เป็นชัยชนะครั้งที่ 2 ของฝั่งมาดง 
    เป็นชัยชนะที่สวยงาม
    เป็นชัยชนะที่ทำให้เกิดความมั่นคง
    เป็นชัยชนะที่ทำให้เกิดความสั่นคลอน

    เริ่มจากการแบ่งเงินรางวัลกันก่อน
    เราบอกมาตั้งแต่ตอนที่แล้วแล้วว่า
    การแบ่งเงินนี่แหละคือการเมืองอย่างแท้จริง
    และครั้งนี้ก็แสดงออกชัด เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนอย่างหนึ่งทีเดียว
    เมื่อผู้นำอย่างซังกุกเลือกจะแบ่งเงินให้ทุกคนรวมถึงตัวเอง
    คนละ 1 ล้านวอน ยกเว้นคนเดียวเท่านั้น คือควอนอาซล

    นี่เท่ากับเป็นการแสดงสัญลักษณ์บางอย่าง
    เป็นการแสดงความไว้วางใจอย่างสุดซึ้งของหัวหน้า
    ถึงขนาดว่าสร้างความสั่นคลอนให้กับคนในชุมชนเลยทีเดียว

    และอีกหนึ่งแอคชั่นที่ผู้นำของฝั่งมาดงแสดงออกมา
    (ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม)
    คือการที่เขาร้องไห้ออกมาทันทีที่ฝั่งนบดงต้องคัดคนออก
    เขาให้สัมภาษน์ภายหลังว่าเขารู้สึกกดดัน
    ไม่อยากจะคิดถึงว่าถ้าหากวันนั้นมาถึง
    เขาจะกำจัดสมาชิกในชุมชนออกไปโดยไม่เสียใจได้หรือไม่

    เชื่อเรามั้ย ว่าจะต้องมีคนที่ชอบใจกับการกระทำนี้ของซังกุก
    และต้องมีคนที่ไม่ค่อยชอบใจกับการกระทำแบบนี้ของซังกุก

    และนี่เป็นอีกครั้งที่ผู้นำแห่งมาดง ยังไม่ได้ใส่ชื่อใครเป็น blacklist
    เท่ากับว่าตอนนี้ทุกคนยังปลอดภัย ไร้มลทินกันต่อไป

  • VII.
    โดยรวมแล้ว ใน EP02 นี้ เรามองเห็นความผ่อนคลาย
    ความเป็นธรรมชาติ และมิตรภาพระหว่างคนในชุมชนมากขึ้น
    โดยเฉพาะในฝั่งของมาดงที่เป็นผู้ชนะติดต่อกันถึง 2 ครั้ง
    บรรยากาศในชุมชนนั้นผ่อนคลายและมีความสุข
    ในขณะที่อีกฝั่งเราเห็นความตึงเครียดมากกว่า
    เพราะทุกคนต้องพยายามเอาตัวรอด 
    เมื่อรู้ว่าตนเองอาจเป็นที่ถูกคัดออกก็ได้
    การสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนรอบข้าง อาศัยความสัมพันธ์ที่สร้างร่วมกัน
    เพื่อเป็นพลังหนุนให้ตนเอง การพยายามโยนความผิดให้พ้นตัว
    ตอนนี้เราจะเห็นอะไรพวกนี้ชัดมากขึ้น และความขัดแย้งพวกนี้นี่เอง
    ที่ทำให้เกมนี้สนุก น่าติดตาม

    ในตอนต่อไป คิดว่าเราน่าจะได้เห็นเกมที่เข้มข้นขึ้น
    และการเมืองภายในชุมชนที่น่าจะเข้มข้นขึ้น
    ทุกคนจะเริ่มมีตัวละครที่อยากเอาใจช่วยและเอาใจแช่งไว้แล้ว
    และมันจะทำให้เกมสนุกขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีปริศนาแปลกๆ
    ที่ปรากฏตัวในกล่องแห่งผู้นำอีกที่ทำให้เราอยากรู้ว่ามันจะนำไปสู่อะไร




    ติดตามกันต่อไปนะคะ ตอนนี้ที่เกาหลีออกอากาศไป 5 ตอนแล้ว
    (ซับออกมาถึงตอนที่ 3 ซึ่งจะรีบดูและรีบมาเขียนรีวิว)
    เห็นคนเริ่มสนใจมากขึ้น จากการที่ the matter เขียนถึง
    หลายคนอยากรู้ว่าจะหาดูได้ที่ไหน ตอนนี้ซับไทยยังไม่มีนะคะ
    แต่มีซับอังกฤษของคุณ bumdidlyumptious ซับสวย ละเอียด และเข้าใจง่ายค่ะ

    ติดตามการรีวิวตอนต่อไปได้ที่นี่
    หรือ ทวิตเตอร์ @mynkdontbelazy นะคะ 
    แวะไปทักทาย ไปเม้ามอยเรื่อง Society Game ด้วยกันได้เลย :)

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
vithyou (@vithyou)
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะคะ
เราแอบไปดูตาม สนุกมากเลยค่ะ
อยากให้ที่ไทยมีเกมโชว์แบบนี้บ้างจัง

ปล. แอบเห็นที่ผิดนิดนึง ตรง minigame เหมือนฝั่งมาดงจะเป็นฝ่ายชนะนะคะ