เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The complicated meheyitsme_hiro
I CRIED, CRIED, AND CRIED
  • อ่อนแอชะมัด
    ฉันเกลียดตอนที่ตัวเองร้องไห้ที่สุดเลย
    นอกจากภาพยนตร์แสนซึ้ง นิยายที่จบแบดเอนดิ้ง และความเจ็บตอนที่ทำตัวเองเป็นแผล หรือตอนฉีดยาแล้ว ฉันก็แทบไม่ร้องไห้เลย

    น่าแปลกที่ช่วงนี้ฉันร้องไห้บ่อยเหลือเกิน
    อาจเป็นเพราะฮอร์โมนของฉัน
    อาจเป็นเพราะเรื่องราวร้ายๆ ที่พร้อมใจกันเข้ามา
    อาจเป็นเพราะฉันอ่อนไหวเกินไป
    ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นอะไร แต่สุดท้ายฉันก็ร้องไห้อยู่ดี

    หัวใจรู้สึกเหมือนถูกอะไรบางอย่างบีบรัด มันปวด และรู้สึกแน่นที่หน้าอก
    ความร้อนผ่าวรอบดวงตา และหยาดน้ำตาที่หลั่งไหล
    เสียงร้องไห้ เสียงสะอึกสะอื้นที่ฟังดูทุเรศ
    มันดูแย่ชะมัด

    หลายครั้งฉันก็ปล่อยตัวเองให้ร้องไห้ไปจนกว่าจะหยุด แม้จะกินเวลาอย่างยาวนาน แต่นั่นก็ทำให้ฉันไม่ต้องร้องไปอีกนาน
    แต่ช่วงนี้ที่ฉันร้องไห้ ฉันเลือกที่จะหาที่ยึดเหนี่ยว สิ่งที่เรียกว่า "เพื่อน"
    ฉันเล่าเรื่องราว ฉันร้องไห้ และฉันได้รับกำลังใจกลับมา
    นั่นหยุดน้ำตาฉันได้ง่ายกว่ามาก แต่ตะกอนความเสียใจกลับตกค้างไปจนถึงวันใหม่
    และวันถัดไป พอมีเรื่องราวที่กระทบกับจิตใจของฉัน ฉันก็ร้องไห้ออกมาง่ายกว่าเดิมเสียอีก

    ฉันไม่ค่อยเล่าปัญหา ความทุกข์ใจ หรือเรื่องไม่ดีใส่เพื่อนเท่าไหร่
    ไม่รู้สิ เวลาฉันต้องการระบายอะไรสักอย่าง ฉันมักเลือกคนที่จะระบายด้วย
    บ่อยครั้งทีี่ความคิดของฉันในห้วงเวลานั้นเป็นคนขี้เกรงใจ
    ฉันที่อยู่ในห้วงนั้นกลัวว่าตัวเองจะสร้างความลำบากใจให้คนอื่น กลัวว่าคนที่เราเลือก เขาจะไม่สามารถมาตอบรับคำร้องขอของเราได้ ฉันจึงเลือกที่จะบอกตัวเองว่า มันก็แค่นี้ ไม่เป็นไรหรอก 

    บางที ฉันก็เริ่มเข้าใจคำว่า ไม่เป็นไรที่แปลว่าเป็นไร
    เพื่อนของฉันบอกว่า ถ้าเรามองว่ามันใหญ่ มันก็จะใหญ่ กับความทุกข์ใจ ไม่มีอะไรเล็กหรอก 
    เพื่อนของฉันตบบ่าฉันเบาๆ แล้วบอกให้ฉันโทร.ไปหา 
    ก่อนหน้านี้ฉันเคยคิดว่า อย่าเลย ไม่อยากรบกวนเพื่อน หรือไม่ก็ อย่าเลย อย่างมันไม่น่าจะเข้าใจเราหรอก
    ฉันไม่ควรคิดไปเองเลย ไม่ควรเลยจริงๆ
    ฉันไม่ควรตัดสินว่า เพื่อนคนนี้จะช่วยฉันได้หรือช่วยฉันไม่ได้
    สิ่งที่ฉันต้องทำในเวลานั้นคือ อย่าลังเลที่จะติดต่อใครสักคน

    นั่นทำให้ฉันนึกถึงช่วงหนึ่งที่ฉันอ่อนแอ และที่ยึดเหนี่ยวของฉันหายไป
    มันเป็นช่วงที่ฉันเพิ่งเริ่มต้นการอยู่คนเดียว แบบ คนเดียวจริงๆ
    มันยาก ฉันรู้สึกว่ามันยากไปหมด 
    ช่วงหนึ่งที่ฉันรู้สึกหดหู่ ฉันก็ไปพบกับเพื่อนเก่าของฉัน
    นั่นทำให้ฉันกลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง
    การปรับทุกข์ เล่าเรื่องราวกับคนที่เขาเข้าใจเรา มันดีจริงๆ
    ฉันสนิทกับเพื่อนคนนั้นมากกว่าเดิม ราวกับมีเขาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของฉัน
    แต่ฉันคงลืมไป ว่าเพื่อนคนนั้นก็มีเรื่องราวของตัวเองเหมือนกัน
    ฉันจำไม่ได้แล้ว ว่าตัวเองเอาแต่พูดเรื่องความหนักใจของตัวเองคนเดียวหรือเปล่า
    เพราะพอผ่านไปช่วงหนึ่ง เพื่อนคนนั้นก็ราวกับหายไปจากวงโคจรชีวิตของฉัน
    ฉันอาจจะเป็นเพื่อนที่แย่ในตอนนั้นหรือเปล่านะ ตอนนี้ถึงต้องมาทุกข์ใจแบบนี้

    ก่อนหน้านี้ ก็มีช่วงที่ฉันรู้สึกหนักใจมาก การโทร.ไประบายกับเพื่อนก็เป็นทางออกหนึ่งของฉัน
    ฉันดีใจ ฉันสบายใจมากขึ้น ที่รู้ว่ายังมีเพื่อนที่ยังพร้อมที่จะอยู่ข้างเรา และรับฟังเรา
    แต่ช่างน่าเศร้าที่มันดันกลายเป็นว่า ฉันกลายเป็นคนที่ตั้งความคาดหวังกับเพื่อน
    ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างจำแนกประเภทเพื่อน ประมาณว่า ถ้าเรื่องนี้ต้องเพื่อนคนนี้ ถ้าเป็นเรื่องนั้นต้องไปหาเพื่อนอีกคน ถึงแม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนกลุ่มใหญ่ แต่ความชอบ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเพื่อนคนนั้นๆ ก็ทำให้ฉันจำแนกประเภทออกมาโดยไม่รู้ตัว
    ดังนั้น เวลาที่ฉันเจอปัญหา ฉันก็จะนึกถึงเพื่อนที่ฉันคิดว่าฉันสนิท "ที่สุด" และต้องเป็นคนที่สามารถรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ได้ ฉันคาดหวังไปก่อนแล้ว ว่าเพื่อนจะยังคงอยู่รับฟังฉัน ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไร และไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม
    แต่เพราะว่า ไม่มีใครที่จะสามารถอยู่กับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง วันหนึ่งความคาดหวังก็ได้ทำร้ายจิตใจของฉัน
    นั่นทำให้ฉันรู้สึกหมดแรงที่จะทำอะไรเลยล่ะ
    ฉันเรียนรู้แล้วว่า ไม่ควรคาดหวังอะไรมากจนเกินไป ฉันเลือกที่จะเลิกคาดหวัง แน่นอนว่าค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับจิตใจก็ทำให้ฉันเลือกที่จะไม่ยกใครให้เป็น "ที่สุด" อีกแล้วเช่นกัน

    ความคาดหวัง และความรู้สึกต้องการที่ยึดเหนี่ยว
    ฉันคงต้องหาวิธีการอื่นในการจัดการกับความรู้สึกแบบนี้
    รวมไปถึงการจัดการกับความเศร้าของตัวเองด้วยเช่นกัน

    ฉันอยากขอบคุณเพื่อนทุกคนที่คอยรับฟังฉัน และให้กำลังใจฉันเสมอมา
    ฉันขอโทษ ที่เผลอคิดไปว่า อย่างพวกเธอ ไม่น่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉันหรอก จนสุดท้าย ตอนที่ฉันทุกข์ใจ ฉันก็ดันเก็บมันไว้คนเดียว หลงคิดไปว่า มีแค่ฉันคนเดียวที่เป็นแบบนี้ และก็เศร้าไปมากมายขนาดนี้ 
    หวังว่าพวกเธอจะตอบรับคำร้องของฉัน ในตอนที่ฉันไม่ไหวนะ อย่าทิ้งกันไปไหนล่ะ เพราะฉันก็จะอยู่ตรงนี้เพื่อเธอเหมือนกัน
    สำหรับตัวเอง ฉันขอโทษนะ ที่ไม่ยอมระบายมันออกไปบ้างเลย ฉันสัญญา ว่าฉันจะต้องจัดการกับมันได้ดีกว่านี้แน่นอน อย่างน้อย ก็จะไม่ทำให้ร้องไห้หนักเหมือนช่วงนี้ก็แล้วกัน
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in