เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryPutt Proudparin
Chapter 11 : เกิดใหม่ (ครั้งที่ 2)
  • วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 ฉันยังจำได้ดี

    วันที่ฉันได้สติครั้งแรกอยู่ในห้อง ICU ฉันลืมตาขึ้นมา เห็นพ่ออยู่ข้างๆเตียงจับมือฉันไว้แน่น ก่อนที่ฉันจะลืมตาขึ้นมานั้น ฉันรู้สึกเหมือนมีไฟมาส่องหน้า รู้สึกว่ามันสว่างจ้าขึ้นมาจนฉันต้องลืมตา ฉันมองเห็นพ่อ แล้วฉันก็ถามพ่อว่านี่วันที่เท่าไหร่ พ่อบอกว่าตอนนี้เดือนพฤศจิกาแล้วฉันงงมาก เพราะจำได้ว่าฉันเข้ามาโรงพยาบาลช่วงต้นเดือนตุลาคมเองนี่นา ความจำ ความรู้สึกทุกๆ อย่างค่อยกลับมา พร้อมๆกับที่รู้สึกตัวว่าขยับแขนขาเองไม่ได้ แม้แต่คอก็ขยับไม่ขึ้นและหิวน้ำมาก ฉันจำได้ไม่ชัดเจนนักว่าฉันถามอะไรพ่อบ้างจำได้แต่ว่ามันเป็นเวลาสายๆ เพราะฉันมองเห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ฝาผนัง ฉันจับมือพ่อแล้วแล้วส่งสัญญาณบอกพ่อว่าอย่าไปไหน พ่อบอกฉันว่า ”พ่อจะอยู่นี่แหละ ไม่ไปไหนไม่ต้องกลัว” แม่ก็จะอยู่ด้วย แม่กำลังมา เมื่อเห็นแม่ฉันก็ดีใจมากและคงทำท่าทางอยากสื่อสาร แต่ไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากปากคาบท่อช่วยหายใจอยู่ แม่จึงขอกระดาษและดินสอมาให้ฉันเขียนเผื่อฉันต้องการจะบอกอะไร แม้แต่ดินสอแท่งเล็กๆ ก็รู้สึกว่าหนักมากสำหรับฉันฉันจำได้ดี ฉันเขียนตัวหนังสือโย้ๆ เย้ๆ อย่างสุดความสามารถเท่าที่ฉันจะควบคุมมือของตัวเองได้ ถามว่า “แม่เหนื่อยมั้ย” ฉันจำคำพูดของแม่ได้แม่นยำ แม่บอกว่า “แม่ไม่เหนื่อยเลยลูก ไม่เหนื่อยเลยลูกเหนื่อยมั้ย ลูกสู้นะลูก” แล้วแม่ก็น้ำตาไหล

    ต่อมาไม่นาน หลังจากที่ฉันได้สติแล้ว คุณหมอได้อธิบายถึงการที่ฉันขยับตัวไม่ได้เกิดจากการที่คุณหมอให้ยาเพื่อสลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้คนไข้ไม่ต้านเครื่องมือในขณะทำการรักษาไม่อย่างนั้นจะทำให้ทรมานมากและได้รับอันตราย หลังจากนาทีตรงนั้น ฉันรู้สึกตัวตลอดอาจจะรู้สึกมากเกินไป จนฉันกลัวที่จะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแบบที่ใครๆก็เล่าให้ฉันฟัง ในห้อง ICU ฉันไม่กล้าหลับเลยแม้แต่นาทีเดียวในตอนกลางคืนฉันกลัวว่าฉันจะไม่หายใจอีก ฉันจะหลับก็ต่อเมื่อตอนเช้าได้เวลาเยี่ยม พ่อกับแม่มานั่งข้างๆ เตียงแล้วเท่านั้น ฉันถึงกล้าหลับตาลง

    คนที่มีปัญหานอนไม่หลับ คงจะเข้าใจได้ดีว่าเวลากลางคืนที่เงียบสงัด ตอนที่ทุกคนนั้นหลับไหลนั้นมันยาวนานขนาดไหนมันเป็นเวลา 8 ชั่วโมงที่ผ่านไปอย่างทรมานมาก ตอนกลางคืนที่ยาวนานห้อง ICU ของฉันนั้นก็ผ่านไปอย่างยากลำบากเช่นกันพี่ๆพยาบาลที่วอร์ดเปิดเพลงคลอเบาๆ ฉันได้ยินเสียงแว่วๆอยู่ตลอดทุกคืน บางคืนพี่เค้าก็เข้ามาคุยด้วยเป็นเพื่อน และบอกว่าฉันควรนอนหลับพักผ่อน แต่ฉันไม่หลับจริงๆ บางครั้งก็ต้องขอยานอนหลับ แต่พี่พยาบาลบอกว่าก็ที่ให้อยู่ทางสายน้ำเกลือนี่ก็เป็นยานอนหลับแล้ว และไม่สามารถให้มากกว่านี้ได้อีกแล้ว แต่มันไม่สามารถทำให้ฉันหลับได้เลย อาจจะเป็นเพราะว่าฉันได้หลับมามากเกินไปแล้วด้วยซ้ำในช่วงเวลา 3 สัปดาห์ที่หายไป และฉันก็กลัวว่าหากฉันหลับลง ขาดสติอีกเมื่อไหร่ อาจจะไม่ได้ตื่นมาเจอหน้าพ่อกับแม่อีก จนพี่ๆต้องบอกว่าถ้าอยากหายเร็ว อยากออกจากห้อง ICU เร็วๆต้องพักมากๆ ต้องหลับเท่านั้น ไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่ต้องกลัวเพราะพี่พยาบาลดูฉันอยู่ตลอด ฉันจะไม่หยุดหายใจอีกแน่ๆอธิบายให้ฉันฟังว่าจอมอนิเตอร์ที่อยู่หัวเตียงฉันจะคอยบอกทุกอย่างบอกได้ดีกว่าฉันบอกเองอีกด้วยซ้ำ ไม่ต้องกังวล ให้ฉันหลับให้สบาย

    แม่ได้เปรียบเทียงการต่อสู้ทางจิตใจของพ่อกับแม่ในตอนนั้นว่าเหมือนแม่กระรอกกับลูกที่กำลังว่ายน้ำอยู่กลางมหาสมุทรแล้วพยายามจะช่วยให้ลูกน้อยพ้นจากความตายด้วยการจุ่มหางตัวเองลงไปในน้ำแล้วก็สะบัดหางเพื่อเอาน้ำออกหวังว่าจะช่วยทำให้น้ำทั้งมหาสมุทรนั้นหมดไปได้บ้าง ถึงแม้จะรู้ว่าเพียงแค่น้ำที่ติดปลายหางขึ้นมานั้น ต่อให้สะบัดจนตายก็ไม่มีวันหมดมหาสมุทรได้ แต่ถึงอย่างนั้น แม่ก็ยังจะทำต่อไป ทำเพราะแม่ยังไม่ตาย ลูกก็ยังไม่ตาย แม่จะไม่ยอมรอให้ลูกตายไปต่อหน้าตา อีกตัวอย่างหนึ่งที่แม่ชอบยกมาเล่าให้ฟังเปรียบเทียบบ่อยๆ คือ แม่บอกว่าหากตอนนั้นมีคนบอกแม่ว่าให้กระโดดลงไปในหลุมที่มีแต่หอก ดาบ สัตว์ร้ายหรืออะไรก็ตามแต่ แต่บอกว่าหากทำแล้วแม่ต้องตาย แต่สามารถทำให้ลูกรอดได้ในตอนนั้นแม่ก็จะยอมทำทันที การต่อสู้ของแม่ แลกด้วยชีวิตเลยทีเดียว ในช่วงที่ฉันวิกฤติมากๆแม่เล่าให้ฟังว่าแม่ทนไม่ไหว ไม่สามารถรับความรู้สึกอะไรได้อีกแล้ว แม่จึงขอพ่อบอกว่าขอไปปฎิบัติธรรมที่กาญจนบุรี 1 คืน เพื่อผ่อนคลายความรู้สึกตัวเองลงบ้าง

    ในขณะที่ไปปฎิบัติธรรมนั้น แม่มองฟ้ายามค่ำคืนในขณะที่เดินจงกรมคืนนั้นเห็นดาวสวยมาก และ อากาศก็บริสุทธิ์มากๆ ปกติแล้ว แม่เป็นคนกลัวผีมาก แต่คืนนั้นแม่ไม่กลัวเลยแม่เดินจงกรมอยู่แบบนั้น พร้อมอธิษฐานขอให้ฉันรอด ขอให้เทวดาและสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายช่วยฉันที เมื่อแม่มองเห็นดวงดาวก็ขอให้ดวงดาวพวกนั้นช่วยฉันด้วย เมื่อหายในเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปก็อธิษฐานขอให้อากาศที่แม่สูดเข้าไปนั้นให้เข้าไปสู่ในปอดฉันได้ด้วย แม่ขอเพียงแค่ว่าให้ฉันได้ฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง จะในสภาพไหน แม่ก็รับได้

    ย้อนกลับมาที่ห้อง ICU วันที่ฉันลืมตาขึ้นมาวันแรกฉันหิวน้ำมาก ปากฉันแห้งผาก ฉันขอพ่อ ขอพยาบาลดื่มน้ำ แต่น้ำที่ฉันได้ผ่านลงคอนั้น คือน้ำเปล่าที่ต้องฉีดผ่านกระบอกฉีดยาขนาดประมาณ 2 ซีซีเพียงเท่านั้น ฉันไม่สามารถดื่มน้ำได้ น้ำจากกระบอกฉีดยาที่นำมาฉีดให้ฉันนั้นเพียงเพื่อให้ฉันจะได้รู้สึกสบายคอขึ้นบ้างเท่านั้นแต่ฉันก็ยังกระหายอยู่ดี จึงบอกเขียนบอกพี่พยาบาลว่าขอน้ำแข็งก้อนเล็กๆเอาใส่ปากฉันมา (ในขณะนั้นฉันก็ยังมีท่อช่วยหายใจคาอยู่ในปาก) ให้มันค่อยๆละลายได้มั้ย ฉันจะได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ครั้งนี้คำขอของฉันประสบความสำเร็จพี่พยาบาลเอาน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ใส่เข้าไปในปากฉัน ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแต่พอแม่และน้ามาเยี่ยม ฉันเห็นน้าถือแก้วน้ำใบใหญ่ขึ้นมาด้วยเหมือนจะเป็นน้ำอัดลม ทำให้ฉันรู้สึกกระหายมากขึ้นไปอีก 

    ช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ฉันไม่รู้สึกตัวนั้น ฉันไม่ได้ดื่มน้ำไม่ได้ทานอาหาร ไม่มีอะไรผ่านลำคอฉันลงไปเลย นอกจากท่อช่วยหายใจเท่านั้นฉันได้รับสารอาหารจากทางสายอาหารที่ต่อตรงไปถึงกระเพาะของฉันเท่านั้นแต่นั่นก็ไม่เท่าไหร่ การที่ไม่ได้ดื่มน้ำนี่ทรมาณยิ่งกว่า มันทั้งคอแห้งผากทั้งร้อนอยู่ในคอตลอด พอได้อมน้ำแข็งให้มันค่อยๆ ละลายช้าๆ มันรู้สึกดีมากอาจจะเพราะนั่นเป็นอย่างเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนั้นด้วย

    ผ่านไปกี่วันฉันก็จำไม่ได้หมอบอกว่าฉันอาการดีขึ้นมากแล้ว และอาจจะได้ถอดเครื่องช่วยหายใจได้เร็วๆนี้ ฉันบรรยายความรู้สึกตอนนั้นไม่ถูกเลยนี่ฉันจะได้หายใจเองได้แล้วจริงๆเหรอเนี่ยะ เพราะช่วงที่ฟื้นขึ้นมาได้นั้นพ่อก็เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง พยาบาลที่ดูแลฉันก็เล่าให้ฟังอีก ฉันฟังเหมือนมันไม่ใช่เรื่องตัวเองฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันผ่านอะไรมามากมายขนาดนั้นแล้วยังมีชีวิตรอดได้จริงๆ จนกระทั่งถึงวันที่จะได้ถอดเครื่องช่วยหายใจหมอบอกว่าการจะถอดได้นั้นก็ต้องมีขั้นตอน ไม่ใช่ว่าดึงท่อออกแล้วจบเลย หายใจเองได้ไม่ใช่แบบนั้น จะต้องมีการเปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจแบบอื่นๆ มาใส่ก่อนค่อยๆเป็นขั้นเป็นตอน ก่อนที่จะถอดได้ทั้งหมดแล้วก็ค่อยๆ ดูอาการฉันไปด้วยหากไม่ไหว ก็ต้องกลับไปใส่ท่อเหมือนเดิม แต่ฉันก็ยืนยันว่าฉันพร้อมแล้ว ไม่ว่าหมอจะบอกว่าอะไรก็ตามฉันอยากเริ่มเดี๋ยวนี้เลย

    เริ่มด้วยการถอดท่อที่ใส่ลงไปยังปอดออกและเปลี่ยนเป็นเครื่องช่วยหายใจอีกชนิดมาใส่ไว้ทันทีหลังจากนั้นพยาบาลก็สังเกตุการณ์ ดูสัญญาณชีพ ปริมาณอ๊อกซิเจนว่าปกติดีมั้ยอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ฉันยังปกติดีอยู่ จึงเริ่มเปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจอีกชนิด (ที่ช่วยฉันหายใจน้อยลง นั่นหมายความว่าฉันต้องหายใจเองจริงๆแล้ว) ดูอาการอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ฉันยังโอเคอยู่ และแจ้งพยาบาลว่าพร้อมแล้วพยาบาลจึงแจ้งหมอเข้ามาดู และคุณหมอได้อนุญาติให้เปลี่ยนอีกชนิด ซึ่งตอนนี้เหลืออีกแค่2 ขั้นเท่านั้น ฉันก็จะเหลือเพียงแค่ท่ออ๊อกซิเจนเล็กๆใส่ที่รูจมูกไว้เท่านั้นแล้ว ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี อย่างรวดเร็วตรงนี้ฉันต้องย้ำอีกครั้งว่ามันเหมือนปาฎิหาริย์จริงๆ

    พอฉันได้เปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจจนเหลือเพียงท่ออ๊อกซิเจนเล็กๆก็เท่ากับว่าฉันหายใจเองได้แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามฉันยังต้องนอนใน ICU อยู่อีกประมาณ2 คืนได้ ถ้าฉันจำไม่ผิด เพื่อดูอาการ ก่อนได้ย้ายออกไปนอนห้องปกติฉันจำได้ดีว่าฉันขอพ่อว่าฉันอยากดื่มน้ำแบบคนปกติซักครั้งจะได้มั้ย พ่อขอพี่พยาบาลก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าอะไรควรทำไม่ควรทำบ้าง ครั้งนี้ทั้งหมอและพยาบาลอนุญาติอย่างง่ายดาย พ่อซื้อชาเขียวมะนาวมาให้ฉันบอกให้ฉันค่อยๆดูดช้าๆ เดี๋ยวจะสำลัก ฉันก็ทำตามที่พ่อบอกมันเป็นชาเขียวมะนาวที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่ฉันเคยกินมาเลยทีเดียว ทั้งหวานๆเปรี้ยวๆ เย็นๆ ค่อยๆ ไหลผ่านลำคอลงไป ฉันรู้สึกเย็นไปทั้งร่าง ฉันไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิตว่าชาเขียวมะนาวจะอร่อยได้มากขนาดนี้ เป็นความรู้สึกที่ฉันไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

    ถึงแม้ฉันจะได้ถอดท่อช่วยหายใจไปแล้วก็ใช่ว่าฉันจะกลับมาปกติเลย เนื่องจากว่าฉันไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อใบหน้าและขากรรไกรเลยตลอด 3 สัปดาห์ที่หายไปนั้น ทำให้ฉันยังอ้าปากกว้างไม่ได้ พูดก็ไม่มีเสียงเนื่องจากท่อช่วยหายใจที่ใส่ผ่านลำคอลงไปนั้น ไปทับกล่องเสียงอยู่ 3 สัปดาห์เต็มๆแต่หมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติ เสียงจะค่อยๆ กลับมาเอง ไม่ต้องกังวล หมอเล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยให้หายใจนานๆ นั้นปกติแล้วหมอจะให้เจาะคอเพื่อใส่ท่อลงไปยังปอดแทนผู้ป่วยจะได้ไม่ต้องคาบท่ออยู่แบบนั้น แต่ในกรณีของฉัน หมอไม่ได้เจาะเพราะว่าการเจาะคอก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อีกและฉันก็ยังอายุน้อยอยู่ หมอเกรงว่าหากหายแล้ว จะต้องมีแผลเป็นที่คอ หรืออาจจะมีประโยคที่หมอละไว้ก็ได้คือ เห็นว่าฉันอาจจะไม่รอดแน่ๆ จะเจาะหรือไม่เจาะก็คงไม่ต่างอะไรกันเลยไม่เจาะ ซึ่งก็นับว่าฉันโชคดีมากที่มีโอกาสรอดมาได้แล้วยังไม่ต้องเจาะคออีกด้วย

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in