เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ออกแบบรักด้วยใจเธอ My love design.Ketsarin Phimphan
"ดวงตาเป็นประกาย"
  • ……….

    สองวันต่อมา....

    ทิวากรไปงานวันเกิดเพื่อนที่ผับย่านหนึ่ง เขาเดินเข้าไปข้างใน แสงไฟหลากสีสันและเสียงเพลงดังอึกทึกครึกโครมเป็นจังหวะมันส์ๆ ภายในผับ แล้วหันซ้ายหันขวามองหาว่าเพื่อนนั่งอยู่ตรงไหน

    “อ้าว ! ไอ้ทิมทางนี้”

    เพื่อนโบกมือและตะโกนเรียกทิวากรที่กำลังมองหาเสียงคนที่เรียกเขา สักพักเขาก็เห็นเพื่อนยืนโบกมอเรียกจึงรีบเดินเข้าไป

    “เห้ย ! ยินดีด้วยนะมรึง” ฌอห์นพูดขึ้นมาด้วยความยินดี

    ทิวากรนั่งลงบนโซฟาโซนวีไอพี ก่อนจะเอ่ยตอบพร้อมยิ้มน้อยๆ “ขอบใจมาก”

    เด็กเสิร์ฟสาวที่ยืนอยู่ก็กำลังชงเหล้า แล้วยกมาเสิร์ฟให้ทิวากร ธามยกแก้วเหล้าขึ้นมาและยื่นมือที่ยกแก้วไปกลางวง

    “งั้นพวกเรามาฉลองให้กับว่าที่เจ้าบ่าวกันหน่อย”

    ทิวากร ฌอห์นและเจนแฟนสาวของธาม ยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนแล้วค่อยๆ ดื่มจนหมด

    ท่ามกลางแสงไฟหลากสีสันและเสียงนักร้องสาวสวยกำลังยืนร้องเพลงอยู่บนเวทีอย่างไพเราะ แต่ทันใดนั้นมีเสียงหญิงสาวดังมาจากด้านหลังของเจน 

    “ไฮ ! เจน”

    พอเจนเสียงนี้ก็คุ้นๆ เลยหันหลังไปมอง พบว่าเป็นซาบีน่ากำลังยืนยิ้มให้กับเจนที่นั่งอยู่

    “ไฮ ! ซาบีน่า”

    ชายหนุ่มทั้งสามคนเงยหน้าขึ้นมามองตาไม่กะพริบ ซาบีน่าเดินเข้ามาหาเจนที่โต๊ะโซนวีไอพี

    ฌอห์นกระเถิบเข้ามานั่งชิดแล้วกระซิบถามธามด้วยความอยากรู้

    “ใครวะไอ้ธาม”

    “ไม่รู้ว่ะ เพิ่งเคยเจอเหมือนกัน”

    ซาบีน่าเดินเข้ามาถึง เจนก็เชิญเธอนั่งลงและแนะนำให้เธอกับทุกคนรู้จักกัน เจนผายมือมาทางเธอ

    “ทุกคน นี่ซาบีน่า…เป็นนางแบบ เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ส่วนคนนี้ ธาม แฟนของฉัน ส่วนคนนี้ ฌอห์นและทิม”

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เธอหันหน้าไปมองทิวากรที่กำลังนั่งมองหน้าเธอเช่นกัน “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะทิม”

    “บีน่าก็เช่นกันนะ” ทิวากรทักทายเธอกลับ

    “นี่คุณบีน่ารู้จักไอ้ทิมด้วยเหรอครับ” ฌอห์นถามไปแบบงงๆ

    “รู้จักสิค่ะ”

    ซาบีน่าตอบกลับไปอย่างนุ่มนวลและหันมาสบตากับทิวากรอย่างยิ้มกริ่ม

    หลังจากที่ผับใกล้จะปิดทิวากรขอตัวกลับก่อน เขาเดินออกไปที่ลานจอดรถพลางล้วงกุญแจรถ และในขณะเดียวกันซาบีน่าออกมายืนรอเขาอยู่นานแล้ว ทิวากรเดินตรงไปที่รถและจ้องมองเธอ

    “คุณมายืนรอผมเหรอ” ทิวากรยืนพิงข้างรถพร้อมกอดอก

    “ใช่ค่ะ คุณพอมีเวลานั่งดื่มกับฉันสักแก้วสองแก้วไหมคะ”

    ทิวากรยื่นหน้าเข้าใกล้ซาบีน่าแล้วเอ่ยพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน “ได้สิครับ”

    ทิวากรจ้องมองหน้าของเธอแล้วแสดงสายตาเจ้าชู้ออกมาและยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นรถไปด้วยกัน

    บ้านพิชชา

    พิชชานั่งอยู่ในห้องรับแขกกำลังนั่งดูภาพสูทในไอแพดที่เธอตัดให้ทิวากรเสร็จเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ มีคนเดินเข้ามาจากด้านหลังของเธอ

    “อ้าวพิ้งค์ ! วันนี้ไม่เข้าร้านเหรอลูก”

    ภูผาเดินมานั่งโซฟาตัวยาวและมองหน้าลูกสาวคนสวยของเขา

    “เผอิญมีนัดกับลูกค้านะคะ ก็เลยจะเข้าร้านช่วงบ่าย แล้วคุณพ่อล่ะค่ะ”

    “พ่อเพิ่งไปคุยงานมาและแวะเข้ามาเอาของนิดหน่อยก็จะกลับแล้ว งั้นพ่อไปก่อนนะลูก”

    “ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”

    พิชชายิ้มอ่ออนๆ แล้วมองตามหลังภูผาเดินออกไปจนลับสายตา

    ห้องทำงานส่วนตัวของผู้บริหารโรงแรม Skyhigh

    เมธาวินกำลังนั่งเคลียร์เอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะมากมาย และในระหว่างนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องทำงาน 

    ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก เคาะสามทีแล้วก็เปิดประตู เมธาวินเงยหน้าขึ้นมองดูก็เห็นคุณย่าคนสวยกำลังเดินยิ้มเข้ามาหาเขา

    “คุณย่านี่เอง มีอะไรเหรอครับถึงได้เข้ามาที่โรงแรม”

    “ย่าจะไปทานข้าวกับคุณหญิงดวงมณีน่ะ แล้วย่านัดคุณพิชชามาด้วยนะ”

    เมธาวินพอรู้ว่าพิชชาไปด้วย ดวงตาของเขาฉายแววประกายวิบวับขึ้นมา เมธาวินยกนาฬิกาข้อมือมาดูเวลาแล้วขอไปทานข้าวด้วยคน

    “ใกล้จะเที่ยงแล้ว ผมขอไปด้วยนะครับ”

    “ย่าก็กะจะมาชวนหลานไปอยู่แล้วจ้ะ”

    เมธาวินรีบปิดแฟ้มเอกสารและวางปากกาลง ก่อนลุกขึ้นเดินมาทางคุณย่าและเดินออกไปพร้อมกัน

    ร้านอาหารไทย...

    ทุกคนมากันครบแล้ว และกำลังนั่งทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แต่ในขณะนั้นแววตาของเมธาวินฉายประกายแน่วแน่ยามลอบมองพิชชาอยู่ตลอด จนทำให้โสภิษนภาเกิดความสงสัยในตัวหลานชายของเขา เมื่อคราวก่อนในงานแฟชั่นโชว์เครื่องประดับเพชรและก็ในวันนี้อีก ที่เมธาวินเอ่ยปากขอมาด้วยอย่างเต็มใจ ทั้งที่เธอชวนมาหลายต่อหลายครั้ง เขาก็ไม่เคยคิดที่จะไปเลย โสภิษนภาคิดว่าหลานชายเธอน่าจะชอบพิชชาเป็นแน่

    ดวงมณีหยิบผ้าบนตักขึ้นมาเช็ดปากก่อนที่เธอจะเอ่ยพูด “ต้องขอบใจหลานวินมากเลยนะจ้ะ”

    “ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้” เมธาวินพูดจบก็หันหน้ามองทางพิชชาที่นั่งตรงข้ามกับเขาแล้วส่งยิ้มให้พิชชาอย่างอ่อนโยน

    “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ทุกคนพยักหน้าให้พิชชาก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไป

    เธอเดินตรงไปเกืจะถึงห้องน้ำแต่เหลือบไปเห็นซาบีน่านั่งอยู่ด้านในสุดของร้าน เธอเลยเดินไปทักทาย

    “บีน่า”

    ซาบีน่าเงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียงเรียก แล้วพบว่าพิชชากำลังเดินเข้ามาหา เธอทำสีหน้าท่าทางตกใจเมื่อเห็นเข

    “อ้าว ! พิ้งค์...เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

    พิชชานั่งลงข้างๆ ซาบีน่า “ฉันมานานแล้วแหละ...เธอมากับล่ะ”

    “เอ่อ ! ฉันมากับผู้จัดการน่ะ”

    และทันใดนั้นทิวากรกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน เขามองไปเห็นพิชชานั่งอยู่กับซาบีน่าพอดีเลยหันหลังกลับมาขึ้นรถและหยิบโทรศัพท์โทรไปหาซาบีน่าทันที

    โทรศัพท์ของซาบีน่าดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือแบรนด์เนมของเธอแล้วดู

    “พิ้งค์ เดี๋ยวฉันไปรับสายก่อนนะ”

    “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันจะไปเข้าห้องน้ำแค่เดินมาทักเธอเฉยๆ” พิชชาลุกขึ้นยืน “งั้นฉันไปก่อนนะ”

    ซาบีน่ายิ้มบางๆ ให้พิชชาก่อนที่เธอจะเดินจากไป  แล้วซาบีน่ากดรับสายทิวากร

    *ฮัลโหล บีน่าเธอรีบออกมาก่อน*

    *โอเค ฉันกำลังจะไปแค่นี้แหละ*

    เธอกดวางสายและคว้ากระเป๋าถือแบรนด์เนมใบเล็กแล้วเดินออกจากร้านอาหารไป

    พิชชาเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงไปที่โต๊ะของเธอ

    “ทำไมคุณพิชชาไปนานนักล่ะค่ะ ฉันกะจะไปตามแล้วนะ” โสภิษนภาถามด้วยความเป็นห่วง

    “อ๋อ เผอิญฉันเจอซาบีน่า คนที่เดินแฟชั่นโชว์ชุดฟินาเล่น่ะค่ะ”

    โสภิษนภาพยักหน้าแล้วหันกลับไปคุยกับคุณหญิงดวงมณีเรื่องจิปาถะ

    คุณหญิงดวงมณีและคุณหญิงโสภิษนภาเดินออกมาที่ลานจอดรถของร้านอาหาร เมธาวินกับพิชชาก็เดินตามมาส่ง

    “วิน เดี๋ยวย่าจะไปธุระกับคุณหญิงดวงมณี วินกลับไปเลยนะ”

    “ครับคุณย่า”

    คุณหญิงโสภิษนภาหันมาพูดกับพิชชาก่อนจะขึ้นรถตู้ของคุณหญิงดวงมณี

    “ฉันไปก่อนนะคราวหน้าเรานัดมาทานข้าวกันอีก” โสภิษนภายิ้มอย่างสดใส

    “ยินดีค่ะ” พิชชายิ้มอย่างอ่อนโยน

    คุณหญิงโสภิษนภาก้าวขึ้นไปนั่งบนรถตู้คันหรูสีขาว แล้วประตูรถปิดอัตโนมัติและเคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ

    พิชชาจะกลับไปที่ห้องเสื้อเธอจะไปเรียกแท็กซี่เพราะรถของเธอเอาไปเข้าศูนย์กว่าจะเสร็จก็สองสามวันถึงจะได้ พอเธอจะเดินไปเรียกแท็กซี่ เมธาวินถามเธอขึ้นมาอย่างกะทันหัน

    “คุณพิชชาครับ แล้วคุณไม่ได้ขับรถมาเหรอครับ”

    “พอดีรถของฉันพังนะคะ”

    “งั้น…ถ้าไม่รังเกียจให้ผมไปส่งนะครับ” สีหน้าและแววตาของเขาดูลุ้นกับคำตอบของเธอมาก

    “ได้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” 

    พิชชากับเมธาวินก้าวขึ้นรถยนต์คันหรูสองประตูสีดำ หลังจากนั้นรถก็เคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ

    …….

    นิยายเรื่องนี้สร้างเพื่อความบันเทิง ตัวละคร พฤติกรรมและเหตุการณ์ในนิยาย เป็นเหตุการณ์สมมุติ

    ปล. นักเขียนอาจจะเขียนผิดหรือเขียนไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ......แล้วถ้าจะให้มีอรรถรสมากขึ้นก็ต้องอ่านและใช้จินตนาการไปด้วยนะคะคุณผู้อ่าน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in