เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกเป็นบรรทัดaoonilicious
05 ผู้ฟัง
  • เชื่อไหมว่าไม่มีโรงเรียนหรือสถาบันไหนเลยที่สอนให้คุณเป็น 'ผู้ฟังที่ดี'
    อาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวในคาบเรียน
    ต้องสอนกันด้วยเหรอวะ, เราคิดในใจ


    'ได้ยิน แต่ไม่ได้ฟัง' ประโยคนี้บอกความหมายที่แตกต่างของสองกิริยาอาการนี้ไว้ให้เราได้ฉุกคิด


    เราว่าส่วนประกอบหนึ่งที่การได้ยินไม่มี คือ ความตั้งใจ
    การฟัง ต้องใช้ใจเป็นตัวตั้งนะ
    การฟัง ต้องตั้งใจ


    บ่อยครั้งที่เราได้รับเกียรติจากเพื่อน ๆ ให้เป็นที่ปรึกษาปัญหาสัพเพเหระ
    ทุกครั้ง, เราจะตั้งใจฟังบรรดาถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมาจากปากพวกเขา
    ทุกครั้ง, เราจะเอ่ยปากบอกพวกเขาก่อนเสมอว่า 
    เราอาจไม่ใช่ที่ปรึกษาที่ดีนัก แต่เรารับฟังได้นะ
    เพราะเราเชื่อเหลือเกินว่า เวลามีความทุกข์ คนเรามักจะต้องการเพื่อนคู่คิด
    หรืออย่างน้อยที่สุด ไม่ต้องช่วยคิดก็ได้ แค่ช่วยฟังก็เพียงพอ
    แน่นอนว่าคนเรามีวิธีจัดการปัญหาตามแบบฉบับของตัวเองอยู่แล้ว
    เราต้องการแค่ผู้ฟังที่ดีก็เท่านั้น

    เราก็เหมือนกัน, 
    เวลาเรามีเรื่องทุกข์ใจ เราก็อยากระบายให้ใครสักคนฟัง
    น่าแปลกที่แค่การพูดออกมาเพียงเท่านั้น แต่กลับทำให้ความหนักใจมันเบาบางลงได้
    แม้ว่าความทุกข์มันอาจจะยังอยู่ ปัญหามันอาจจะยังไม่ได้รับการแก้ไข
    แต่เชื่อเถอะ ระบายออกมา ระบายมันออกมาให้ใครสักคนฟัง 
    ใครสักคนที่จะเอาใจเป็นตัวตั้ง แล้วรับฟังเรา
    แค่นั้นก็เพียงพอที่จะสร้างแรงฮึดให้กับใจคนเล่าได้แล้วแหละ

    การเป็นผู้ฟังไม่ใช่เรื่องง่าย
    ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีวิธีฝึกฝนอย่างไรบ้าง
    แต่ที่แน่ ๆ ส่วนผสมหลักที่ต้องมี คือ ใจ
    ใช้ใจ ใช้ความตั้งใจ เอาใจเป็นที่ตั้งในการรับฟังใครสักคน
    เราว่ามันดีนะ
    เวลามีใครสักคนรับฟัง มันแปลได้ว่าเราต่างมีตัวตนในสายตาของกันและกัน


    มันทำให้เรารู้สึกยินดีทุกครั้งที่เพื่อนเลือกที่จะเล่าความไม่ปกติของใจให้เรารับรู้
    เรารู้สึกว่าพวกเขาเชื่อใจ ไว้ใจ และให้ใจเรา
    เพราะฉะนั้นเราจึงใช้ใจตอบกลับรับฟังปัญหาเหล่านั้น
    แม้ว่าจะไม่ได้ให้คำแนะนำ หรือคำปรึกษาที่ดีได้เท่าที่ควร


    น่าจะจริงอย่างที่อาจารย์บอก การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
    ความจริงแล้วเราก็ยังไม่แน่ใจว่า ผู้ฟัง 'ที่ดี' ต้องมีคุณสมบัติอะไร
    แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่เราทุกคนจะทำ
    มันอาจจะดีกว่านี้ถ้าคนเรา 'ฟัง' กันมากขึ้น
    เราอาจะจะเห็นตัวตนของกันและกันมากขึ้น

    แล้วคุณจะได้รู้ว่า
    การถูกเลือกให้เป็น ผู้ฟังปัญหาของใครสักคน, มันน่ารู้สึกปลื้มใจมากแค่ไหน

    และเมื่อได้รับรางวัลเช่นนั้นแล้ว
    ก็จงใช้ใจฟัง อย่าเพียงแค่ได้ยิน
    อย่าปล่อยให้ถ้อยคำที่เจือปนความทุกข์นั้นลอยผ่านหูเราไปเฉย ๆ
    อย่างน้อยก็ตั้งใจหน่อย
    แล้วจะได้รู้ว่าการเป็นผู้ฟังนั้นไม่ยากเลย

    เราอาจจะไม่ใช่ผู้ฟัง'ที่ดี'
    แต่เราเป็นเพียงผู้ฟังที่ใช้ใจ ไม่ใช่แค่หู 
    สำหรับเรา แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สวยงามแล้ว 
    ไม่ใช่เหรอ


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in