เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
otherssean and his nightmares
(Dr.Emil Behring x Ida Lenze) ; Old Memories
  • Title : Old Memories | ความทรงจำสีจางจาง

    Author :  Sean

    Pairing : Dr. Emil Behring x Ida Lenze

    Rating : No Rate

    Fandom : Charité Netflix


    เขียนเพื่อสนองนี้ดและปณิธานตัวเองล้วนๆ | คอมเมนท์ฟิคได้ที่ #seanfic เหมือนเดิมคร้าบ











             ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในความฝัน..

     

    ในความฝันของผมมีเธออยู่ตรงนั้น

    ในความฝันที่มีเธออยู่ในอนาคตด้วยกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อิดา” ผมเอ่ยเรียกชื่อเธอ

     


    ไม่นานเท่าไหร่เจ้าของชื่อเรียกนั้นก็วางมีดเล่มเล็กที่อยู่ตรงหน้าลง เธอที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าหันมาทางผมคะ คุณหมอเบห์ริง”

     


    เมื่อไหร่เธอจะเลิกเรียกฉันว่าคุณหมอเบห์ริงสักที ผมสวมกอดเธอเข้าที่ด้านหลัง กดจูบลงบนร่องไหล่เล็กๆนั่นมองดูสิ่งตรงหน้าที่บังอาจมาพรากเธอออกไปจากอ้อมกอดของผมในตอนเช้าบนเตียงนอน


    แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยิ้มให้เธอเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่คิดว่าน่าจะดี


    อรุณสวัสดิ์

     


    อรุณสวัสดิ์ค่ะ.. อิดาหันมายิ้มให้ผม ..เอมิล

     

    ผมรู้ว่าเธอคงไม่ชินสักเท่าไหร่กับการที่ต้องเรียกผมด้วยชื่อต้น เพราะทั้งชีวิตของเธอเอาแต่เรียกนามสกุลของผม ..ผมยิ้มให้กับท่าทางเคอะเขินของสาวน้อยตรงหน้า

     



    ชั่วขณะหนึ่ง..ผมเพียงแค่อยากกอดเธอเอาไว้แนบกาย ความกลัวในหัวใจชอบสั่งให้ผมทำอะไรไร้เหตุผลและหุนหัน ความกลัวที่จะสูญเสียเธอไปอีกครั้ง มากกว่านั้นคงเป็นตลอดกาล

     



    ผมกอดเธอแน่นและหลับตา.. กลัวว่าภาพข้างหน้าจะหายไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คุณหมอเบห์ริง!”

     

     

     

    เสียงที่คุ้นเคยดังก้องโสตประสาท

    พร่ำเรียกเขาจากปากเหวที่มองไม่เห็นแม้แต่แสงรำไร..

     

    ผมรู้สึกเหมือนโดนตบเข้าที่ใบหน้าจนนับครั้งไม่ถ้วน

    แต่ผมมองไม่เห็นแม้แต่เจ้าของมือปริศนานั้น

     

    เสียงเล็กที่พร่ำเรียก, ผมสัมผัสได้ว่ามันดูสั่นเครือ

    เธอกำลังร้องไห้หรอกหรือ..ร้องไห้เพื่อใครกัน?

     

     

     



    ตื่นสิเบห์ริง!”

     

     

     

    เสียงเกือกรองเท้ากระทบแผ่นไม้เหมือนเสียงสลับเท้าวิ่ง

    ผมนอนรอเวลา..ที่ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากนี้

     

     

     



     คุณหมอเบห์ริง!”

     



    ความรู้สึกของผมตอนนี้มันเย็นเยียบเหมือนเหยียบย่ำอยู่กลางทะเลน้ำจืด

    คลื่นสาดกระทบเข้ากับใบหน้าของผม

     

    ผมสำลักน้ำทะเล,

     





    เบห์ริงลืมตาสิ!”

     



    ผมลืมตาตามที่เจ้าของเสียงนั้นบอก

    กลับค้นพบว่าตัวเองไม่ได้ยืนอยู่ที่ชายหาดอย่างที่ภาพในหัวได้ปรากฏเอาไว้

     

    แต่กลับกลายเป็นว่าผมนอนอยู่บนพื้นที่เปียกน้ำ,

    ในห้องพักของตัวเอง

     


    และอิดาที่นั่งอยู่ข้างๆผม.. ใบหน้าของเธอนองด้วยน้ำตา

     



    รู้สึกผิดจับใจ,

    นั่นคือความรู้สึกแรกที่เสียดแทงขึ้นมาข้างในหัวใจ

    ปวดร้าวเสียยิ่งกว่าปลายมีดหมอกที่ทิ่มแทง

     



    ผมกำลังทำให้เธอร้องไห้..

     

     

     

     

     

     

     

     

     


              “ขอบคุณ..ผมเดินออกมาจากหลังประตูบานนั้น และผมเอ่ยเป็นครั้งแรกหลังจากที่สติสัมปชัญญะครบถ้วน ทุกอย่างปกติดีแล้ว


    ผมยืนนิ่งตรงธรณีประตูมองแผ่นหลังเล็กของหญิงสาว

     



    เธอหันกลับมามองผม, สายตาที่ขุ่นมัว ทำให้ผมรู้ว่าเธอคงโกรธเคืองไม่น้อยกับพฤติกรรมของผมที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้น “ไม่มีอะไรปกติเลย


    คุณเกือบตายไปแล้ว

     



    ใครสนกัน” ผมถามไปตามความเป็นจริง

     



    ฉันไงคะ

     



    ผมเดินเข้าไปหาเธอที่ยืนอยู่ตรงนั้น, ชั่ววินาทีหนึ่งผมยิ้ม “มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่ชอบฉัน” และวินาทีต่อมารอยยิ้มนั้นก็หายไป คนอื่นๆต่างไม่ชอบหน้าฉันกันหมด

     



    มีคนต้องการคุณนะคะ เธอเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น โรงพยาบาลเด็กที่ไลพ์ซิกต้องการทดสอบเซรุ่มต้านโรคคอตีบของคุณ

     


    ฉันทำไม่ได้” ผมเว้นจังหวะ แล้วนั่งลงบนขอบเตียง ดูสภาพของฉันสิ

     


    หมอเอร์ลิชจะไม่ผลิตเซรุ่มถ้าไม่มีคุณ” อิดานั่งลงที่ข้างๆผม เขาต้องการคุณนะ

     


    ผมเงียบและเงียบไปพักหนึ่งจนกว่าจะพูดต่อ แล้วเธอล่ะ” มองหน้าเธออีกครั้ง หวังว่าจะเข้าใจในความหมายที่ผมต้องการจะสื่อ

     


    ดวงตากลมโตคู่นั้นจ้องมองมาที่ผม อย่างกับคุณเคยสนใจ.. ก่อนจะก้มลงมองพื้น

     



    คำตอบของเธอทำให้ผมเงียบ..

    บางทีอาจมีถ้อยคำมากมายที่ผมยังไม่ได้เอ่ยออกไปให้เธอฟัง

     



    ฟังนะ..อิดา

     


    ผมเริ่มต้นเรื่องราวฉันอยากบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องที่กัดกินใจฉันมานาน..”

     


    ตอนนั้น..” ภาพในความทรงจำถูกย้อนขึ้นมาอีกครั้ง ..หลังจากที่พ่อกับแม่ของเธอเสีย- ฉันเข้าออกโรงพยาบาลบ้าอยู่หลายเดือน

     


    เธอเข้าใจใช่ไหม..” ผมข่มตา พยายามที่จะไม่นึกถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น ช่วงเวลาเหล่านั้น..


    ผมหวังว่าเธอจะเข้าใจ

     


    ทางการแพทย์เรียกว่าโรคอารมณ์สองขั้ว.. ผมยิ้ม ฉันแค่รู้สึกว่างเปล่า ไม่ก็โกรธ ไม่ก็เศร้า หรือไม่ก็สุขล้น


    เสียงของผมแผ่วเบา มันเกินจะทน...”

     



    เธอเงียบ, ไม่อาจรู้ได้ว่าเธอกำลังเสียใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ แต่เธอก็พูดขึ้นต่อ “ฉันมีสิทธิ์เข้าสอบที่ซูริกแล้ว..


    ฉันคงทำได้ไม่สำเร็จถ้าไม่ได้คุณช่วยอิดายิ้มให้ผม

     



    เธอรู้..ว่าความช่วยเหลือของผมมันไม่ได้ว่างเปล่า

     



    ทิชเชนดอล์ฟว่าไงบ้างล่ะ” ผมมองเธอ

     



    “..ฉันเลิกกับเขาแล้ว

     



    ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไหร่ แต่ในส่วนลึกของหัวใจนั้น.. ผมยิ้ม แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ


    อิดา” ผมเอื้อมมือของตัวเองวางไว้บนแก้มของเธอ เธอเป็นคนเข้มแข็งและกล้าหาญมากนะ

     

    เธอจะทำอะไรก็ได้” ผมขยับปลายนิ้วโป้งสัมผัสแก้มนั้น .. สัมผัสเธอเป็นครั้งสุดท้าย ไปเถอะ


    ไปซะ..โลกกว้างใบนี้กำลังรอเธออยู่

     



    แล้วคุณล่ะคะ

     



    ฉันคงเสียใจไปตลอดชีวิตที่ไม่ได้แต่งงานกับเธอตั้งแต่ตอนนั้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ภาพในหัว

    มีเพียงแค่จินตนาการของตัวเองที่วิ่งตามรถม้าคันนั้นไปจนสุดหนทาง

     

    แต่ความเป็นจริงที่น่าอาย,

    กลับกลายเป็นผมที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นที่เดิม มองดูเธอที่จากไป

     

     

     

    ตั้งแต่ยังเป็นเพียงแค่นักเรียนแพทย์ทหาร

    จนตอนนี้เป็นถึงหัวหน้าศัลยแพทย์

     

    มันก็ยังไม่ช่วยให้ผมสามารถดึงรั้งเธอไว้ได้เลย

     

     

     



    หัวใจของผมสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า,

    มองดูเธอที่กำลังจากไปอีกครั้ง

     

    ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้..

    รู้เพียงแค่มันเป็นเสี้ยวส่วนจากทั้งหมด

     

    วนทำร้ายหัวใจของผมอยู่อย่างนี้

    เหมือนม้วนฟิล์มที่ถูกฉายซ้ำจนกว่าจะพัง

     



     

     

    แต่ด้วยความสัจจริง,

    ผมหมายความอย่างที่ผมพูดทั้งหมด

     



    ผมคงเสียใจไปตลอดชีวิตที่ไม่ได้แต่งงานกับเธอตั้งแต่ตอนนั้น

    และผมคงต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่โดยการไม่มีเธออีกครั้ง

     


    เพื่อที่จะได้รอเธอกลับมา

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Who's kill JFK (@Kennedy1963)
ทำไมกานนนนนน ;___; ไม่ได้อยู่ด้วยกันช้ำชอก