เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ผู้ชายจีนในคลังแสงPATNAKAN
:: GRAB my hand :: Ziyi x Yueyue
  • :: GRAB my hand::


    Title : GRAB my hand

    Pairing : Ziyi (Nine percent/BBT) x Yueyue (ONER)

    Genre : Short fic (?),yaoi,fanfiction

    Note : อะไรวะ จะลั่นฟิคจื่ออี้เยว่เยว่เยอะกว่าจื่ออี้หยางหยางก็ได้หลอ 

    ปล.เพื่ออรรถรส ฟังเพลงนี้กันค่ะ

    ตอนที่ 2 :: GRAB my hand ::



  • -------------------------------------------------

    เปียก............

    แฉะ.............

    เหนอะหนะ.....

    และอึดอัด.....


    ไม่ นั่นไม่ใช่ความรู้สึกของบทอัศจรรย์แต่อย่างใด อย่าคิดไปไกล


    ฝนตกแบบนี้หลังจากเลิกงานไม่ใช่เรื่องดีเลย ไอ้น้ำเน่าตรงฟุตบาทนั่นเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาเรื่อยๆ ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดอีกต่างหาก ดูไฟที่ป้ายรถเมล์นี่ก็ติดๆดับๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในหนังผียังไงไม่รู้

    รถเมล์ไม่มาสักที อยากกลับบ้านไปอาบน้ำนอนจะแย่อยู่แล้วอะ

    ร่มก็ไม่มี เสื้อกันฝนไม่มี ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆแดดที่ร้อนเปรี้ยงเมื่อกลางวันจะกลายเป็นเมฆครึ้มเหมือนผู้คุมวิญญาณเข้ายึดกรุงเทพ และฝนก็เทลงมาในตอนที่ฟ้ามืดแล้ว...


    เมืองเทพสร้างของแท้

    เทพโพไซดอนน่ะสิ


    หมิงกระชับกระเป๋าแชร์ (เลขาสาวสุดสวยที่บริษัทเรียกกึ่งแซวว่าอย่างนั้นน่ะนะ) เข้ามาใกล้ตัวมากขึ้นเพราะกลัวโดนฝนที่กระเซ็นเข้ามาในป้ายรถเมล์ที่เขายืนอยู่ 

    สามสิบนาทีผ่านไป ราวกับว่าประเทศไทยไม่มีสิ่งที่เรียกว่ารถเมล์อยู่บนโลก

    สุดยอดเลย กรุงเทพกับชีวิตดีๆที่ลงตัว


    ไม่ไหวแล้วมั้ง ต้องเรียกพี่แกร็บ


    ผมกดเข้าแอพ GRAB ที่โหลดมาไว้เมื่อนานมาแล้ว (และไม่ลืมใส่โค้ดลดราคาเพราะเป็นซาลารี่แมนที่อดยากปากแห้งทุกสิ้นเดือน) แต่ไม่ได้ใช้สักที วันนี้ฝนตกหนักแบบนี้ หากไม่เรียกแล้ว คงได้จมน้ำตายคาป้ายรถเมล์นี่แล


    แกร็บแท็กซี่ ไม่รับ....................................... (แท็กซี่ธรรมดาก็ไม่รับ)

    แกร็บคาร์ก็ได้วะ มันต้องมีคนอยากช่วยเหลือซาลารี่แมนในวันฝนตกบ้าง 

    ได้โปรดมีมนุษยธรรมกับข้าพเจ้าด้วย ไหว้ล่ะ


    'จอมทัพ วัชรวาทิน อพ1311'


    ไฟนอลลี่! ได้กลับบ้านแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


    "อยู่ตรงไหนครับ" ป๊อบอัพข้อความเด้งขึ้นในแอพพลิเคชั่นบนหน้าจอ

    "ตรงป้ายรถเมล์ที่เลยไฟแดงมานิดหน่อยอ่ะครับ" ผมพิมพ์ตอบกลับไป

    "โอเคครับ รอสักครู่ครับ รถสีดำนะครับ"


    ไม่ถึงห้านาที รถหรูคันนึงขับเข้ามาจอดข้างๆฟุตบาทหน้าป้ายรถเมล์ที่ผมกำลังยืนอยู่

    ป้ายทะเบียน อพ1311 สีดำ


    เหยดเข้ แกร็บคาร์รถหรูขนาดนี้เลยเหรอวะ 

    จริงๆใส่โค้ดลดราคาไปไม่กี่ตังค์ ยังต้องจ่ายที่คนขับอีกนิดหน่อย แต่พอเห็นรถหรูแพงแบบนี้ และตัวเปียกฝนเกือบจะหัวจรดเท้าแบบนี้ ก็ดันรู้สึกผิดขึ้นมา ทำรถเขาเปียกเปื้อนไม่พอ ยังจะหน้าด้านใส่โค้ดลดราคาอีก ...

    "สวัสดีครับ ขอโทษนะครับที่ผมตัวเปียก อาจจะทำเบาะรถคุณเปื้อน" ผมเปิดบทสนทนาระหว่างที่เปิดประตูรถ

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ เข้าใจว่าฝนตกนี่เราห้ามมันไม่ได้ ไปตามโลเกชั่นที่ปักหมุดเลยใช่ไหมครับ" 


    เขาหันมาพูดแบบยิ้มๆกับผม... ไม่โกรธไม่เคืองใดๆลูกค้า ไม่ปฏิเสธ

    โอ้ มาย ก้อด หล่อ รวย ดูดี มีรถขับ โทรศัพท์ไอโฟน

    หน้าตาราวกับพระเจ้าสรรค์สร้างออกมา ผมอันเดอร์คัต เสื้อผ้าก็คงจะแพงน่าดู กลิ่นน้ำหอมแพงลอยออกมาจากตัวอีกต่างหาก...


    "...ใช่ครับ ตามนั้นเลย" 

    "หนาวไหมครับ เอาผ้าห่มมั้ย ถ้าหนาวไปบอกนะ เดี๋ยวจะปรับแอร์ให้" เขาหันหลังมาส่งผ้าห่มให้กับผม


    เมตตากับซาลารี่แมนเหลือเกิน หมิงคนนี้อยากจะเขียนบทความเชิดชูความดีงามของแกร็บคาร์คนนี้


    "ขอบคุณครับ ปกติแกร็บคาร์นี่มีผ้าห่มบริการด้วยเหรอครับ ฮ่าๆ ไม่เคยขึ้นมาก่อนน่ะครับ"

    "ผมพกติดรถไว้ เผื่อฝนตกลูกค้าหนาว หรือลูกค้าเป็นผู้หญิงใส่กระโปรงอะไรแบบนั้นน่ะครับ มีไว้ก็ไม่เสียหาย"

    "ดีเนอะครับ"


    สุภาพบุรุษจริงๆ...นี่เป็นมนุษย์ประเภทที่แฟนขอเลิกเพราะเหตุผลเธอดีเกินไปหรือเปล่าเนี่ย


    รถออกตัวไปบนถนนที่ดูไร้อนาคตว่าจะถึงบ้านเมื่อไหร่ แม้จะผ่านช่วงเวลาคนหลังเลิกงานแล้วรถก็ยังติดอยู่ดี เห็นแล้วก็รู้สึกว่าผมอาจจะหงอกบนรถก่อนจะถึงบ้านเสียอีก


    คุณคนขับเปิดเพลงคลอเบาๆ เพื่อไม่ให้รถเงียบจนเกินไป


    "Go and take this the wrong way,
    You knew who I was every step that I ran to you,
    Only blue or black days,
    Electing strange perfections in any stranger I choose."


    "คุณฟังเพลง Hozier ด้วยเหรอ"  

    ตื่นเต้นนิดหน่อยที่คุณคนขับฟัง Hozier แถมยังเป็นเพลงโปรดของผมด้วย

    "ครับ ฟังนิดหน่อย พอดีผมว่าเสียงกับดนตรีของเขามันเหมาะกับวันที่ฝนตกน่ะ"

    เพลงยังคงเล่นต่อไป ในระหว่างที่พวกเราเริ่มคุยกัน


    "...ผมชอบฟังเพลงตามสภาพอากาศน่ะ แบบว่า ตั้งเพลย์ลิสต์ไว้สำหรับวันที่ฝนตก แดดออก ก้อนเมฆเยอะอะไรแบบนั้น Hozier น่ะ ยึดพื้นที่เพลย์ลิสต์ฝนตกเยอะที่สุดเลยนะ เพลงเค้ามันเหงาและลึกลับ เย็นๆดี" คุณคนขับพูดต่อ

    "เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบมากนะ กลับมาฟังทีไรไม่เคยเบื่อเลย Hozier ของเขาดีจริง แต่น่าสนใจอะ ที่คุณบอก คุณมีเพลย์ลิสต์แบบนั้นเหรอ"

    "ขับรถบ่อย มันก็ต้องฟังเพลงแก้เหงาไปน่ะครับ หาเพลงเข้ากับอารมณ์ไปเรื่อยน่ะ"

                               "And so I fall in love just a little, oh a little bit every day with someone new

       I fall in love just a little, oh a little bit every day with someone new.."


    "ปกติคุณก็ขับแกร็บประจำเหรอ" 

    "ไม่ครับ ขับเป็นงานอดิเรกน่ะ ว่างๆ มันก็ไม่ได้รายได้ดีอะไรนัก ขับแก้เบื่อน่ะ" 


    อ๋า...งานอดิเรกคนรวยสินะ


    "ปกติคนขับเขาคุยกับผู้โดยสารบ่อยไหมครับ"

    "จริงๆก็ไม่ค่อยนะครับ บางครั้งก็ awkward นิดหน่อย ผมเลยหาเพลงมาเปิดคลอไม่ให้มันเงียบจนเกินไปน่ะ แต่ลูกค้าบางคนก็ไม่ชอบ"

    "โทษทีนะ ผมช่างจ้อไปหน่อย แฮะๆ"

    "ไม่เป็นไรครับ มีเพื่อนคุยก็จะได้ไม่ง่วง"

    .

    .

    .

    .

    .


    คนขับและคุณลูกค้าคุยกันหลังจากนั้นได้ไม่นาน จอมทัพก็ไม่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของคุณลูกค้าอีกเลย พอหันไปดูอีกที หัวก็อิงกระจกหลับคาผ้าห่มไปแล้ว 

    อ้าปากหวอเสียด้วย 


    .....ยิ้มทำไมวะจอมทัพ หยุด! หยุดยิ้มเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย! หันไปขับรถ!


    จอมทัพขับรถต่อไปสักพัก ฝนก็หยุดตกและใกล้ถึงโลเคชั่นที่ลูกค้าปักหมุดไว้ เขาลังเลว่าควรจะปลุกดีไหม แต่เจ้าตัวคงเหนื่อย ปล่อยให้หลับจนกว่าจะถึงบ้านลูกค้าแล้วกัน.

    .

    .

    .

    .

    .


    "คุณ ถึงแล้วครับ" 

    "...โอ๊ะ โอเคครับ" 

    คนขี้เซาถูกปลุกขึ้นจากการงีบหลับบนรถ ตื่นมาก็เจอคุณแกร็บคาร์อมยิ้มอบอุ่นแบบเดิมกับตอนที่ขึ้นรถ

    แต่เดี๋ยวนะ แย่ละ...ไอ้เปียกๆที่อยู่บนแก้มนี่คือน้ำลาย และมันเปื้อนผ้าห่มของคุณแกร็บคาร์แล้ว..


    "เอ่อ.. โทษทีครับ มันเปื้อนอ่ะ ทำไงดี ทำผ้าห่มคุณเปื้อนไม่พอ เบาะรถคุณก็เปียก รถแพงซะด้วย.." 


    ซาลารี่แมนขี้เซาเอามือเข็ดแก้มขวาตัวเองป้อยๆแล้วส่งยิ้มแหยให้กับคุณแกร็บคาร์อย่างรู้สึกผิด


    "ไม่เป็นไรหรอกคุณ ผ้าห่มก็ซักได้ เบาะรถก็แห้งได้น่ะ คุณรีบเข้าบ้านไหมครับ เดี๋ยวไม่สบาย จะไปทำงานไหวมั้ยครับเนี่ย"

    "ไหวครับไหว ว่าแต่ผมต้องจ่ายค่ารถคุณเท่าไหร่นะ"

    "68 บาทครับ แต่.. ผมถูกชะตากับคุณ ไม่คิดเงินหรอก"

    "ไม่ได้ๆ รอแป๊บนึงนะ"


    จอมทัพมองอีกฝ่ายที่ค้นหากระเป๋าเงินอยู่นาน สักพักเขาก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มแหยๆให้อีกครั้ง


    "เอ่อ..ขอโทษอีกที ผมว่าผมลืมกระเป๋าตังค์ไว้ออฟฟิศ..." 


    โถ่เว้ยไอ้หมิง ปากบอกจะจ่ายเขาแต่มึงดันลืมกระเป๋าตังค์! เขกหัวตัวเองในใจสามที! มัวแต่เผางานจนเย็นย่ำ เหนื่อยแล้วก็ลืมทุกสิ่งอย่าง คว้าอะไรได้ก็วิ่งกลับบ้านเลยซะงั้น


    "ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับ หลงลืมกันได้ ดีที่ไม่ได้ทำหาย พรุ่งนี้ค่อยไปหาที่ออฟฟิศนะ"


    คนขับแกร็บคาร์ประเสริฐแบบนี้ทุกคนไหม หมิงอยากจะพาไปเลี้ยงข้าว แต่วันนี้หมิงไม่มีเงินจริงๆ


    "..งั้นเอาแบบนี้ ผมโอนเงินให้ทีหลังนะ มีพร้อมเพย์ไหมครับ"

    "ถ้าอยากจ่ายค่ารถจริงๆ...ไว้เราไปดูหนังด้วยกันแทนไหมครับ" 


    ขอเวลาอึ้งไปแป๊บนึงนะ เดี๋ยว

    เขา?? ชวน?? ไป?? ดู?? หนัง??


    "งั้นเราควรรู้จักชื่อกันก่อนไหมครับ จะได้ไม่เป็นคนแปลกหน้า" 

    คุณแกร็บคาร์ถามผมอีกครั้ง


    อ่ะ ได้ อ่อยมาอ่อยกลับไม่โกง หมิงชอบคนรวย--


    "จอมทัพครับ ชื่อจริงชื่อเล่น ชื่อเดียวกัน"

    "หมิงครับ เรียกสั้นๆว่าหมิงก็ได้"

    "ยินดีที่ได้รู้จักครับหมิง"


    "Love with every stranger, the stranger the better."





    To be continued


    จู่ๆก็ได้พลอตมาตอนนั่งแกร็บกลับหอ ละนี่เป็นคนชอบฟังเพลงบนรถ จึงออกมาโดยประการละฉะนี้

    พี่ในทล.คนนึงก็บอกว่าอี้เยว่เคยจับมือกันเสี้ยววินาทีในรายการ อรุ่ม 

    มันต้องจับมือไว้แล้วไปด้วยกันละฮ่ะจุดนี้ 

    และมุงยังจะมีตอนต่อไปอีกหร๊อ พอดีไหม หยุดกาวไหมคนดี บทสนทนาเยอะมาก อ่านแล้วอาจจะแยกตัวละครไม่ค่อยออกว่าใครพูดใครคิด นั่นไม่ใช่สไตล์ของเรา แต่เพราะเรากากค่ะ เลยเขียนงงๆแบบนั้น ยอมรับผิดแต่โดยดี เพราะบรรยายไม่เก่ง บ้าบอจังค่ะ ยังไงก็ฝากไว้ด้วย จะพยายามไม่เท เพราะถ้าเทปุ๊บก็เหมือนล่มเรือตนเองทิ้ง เพราะพายอยู่คนเดียว 


    ด้วยรักและเมากาว, @OnlyYouYueyue

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in