เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อคิดออกจะมาเขียนสุพรรณฝันเฟื่อง
Special : Meet & กรี๊ดดฟหกด่าสว กับ คุณ ธนชาติ ศิริภัทราชัย
  • เมื่อวาน (คือวันที่ 13 พฤศจิกา แต่โดนดองยาวมาจนถึงวันที่ปล่อย)

    พี่เบ๊นมาบรรยายที่คณะเรา

    เราเป็นสต๊าฟงาน 

    ตอนเรารอพี่เบ๊นมา เราตื่นเต้นมาก ๆ ใจหนึ่งก็ดีใจที่จะได้เจอตัวจริงของนักเขียนที่เราชอบสักที แต่อีกใจหนึ่งก็กังวล คิดหาเรื่องคุยกับพี่เขา
    และเรายังคิดไม่ออก

    สักพักหนึ่ง พี่สต๊าฟก็บอกว่า พี่เบ๊นมาแล้วนะ
    เราไปยืนชะโงกดูที่หน้าประตูห้องบรรยาย

    เฮ้ย

    พี่เบ๊นเดินมาแล้วว่ะ

    แล้วพี่เบ๊นก็เลี้ยวเข้าห้องรับรองไป


    '1st time with Khun Thanachart'


    รู้สึกว้าวมาก ๆ เลยค่ะ เพราะตัวจริงพี่เบ๊นตัวเล็กกว่าที่เราคิดไว้นิดหน่อย (ไม่ใช่อันนี้สิ)


  • สักพักหนึ่งพี่เบ๊นก็เข้ามาเพื่อที่จะเตรียมข้อมูลสำหรับบรรยาย 
    แล้วเราก็ได้เห็นหน้าพี่เบ๊นเต็ม ๆ สองลูกกะตาสักที 

    แอร้ย

    หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ และพี่เบ๊นก็ไปเตรียมตัว

    ตอนที่พี่เบ๊นเข้าห้องบรรยายไป เราที่เป็นสต๊าฟอยู่ช่วยเพื่อนรับลงทะเบียนคนที่มางาน
    เลยพลาดช่วงแรก ๆ ที่พี่เบ๊นพูด

    พออยู่ช่วยเพื่อนจนเสร็จ เราก็เข้าไปนั่งฟังพี่เบ๊น 
    ตอนที่เรากำลังเข้าไปในห้องบรรยายบนจอโปรเจคเตอร์กำลังฉายคลิปที่พี่เบ๊นเป็นคนทำ 
    หลังจากคลิปจบ ก็มีการถามคำถามที่ได้เตรียมมาไว้ 
    คำตอบของพี่เบ๊นหลายคำถาม มีลีลาและลวดลายที่พอจะทำให้...

    คุก ๆ ๆ ๆ ๆ (ไอ)

    และหลาย ๆ คำตอบ ก็เป็นคำแนะนำที่ดี ที่ช่วยให้เรามีกำลังใจในการเรียน รวมถึงการใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข (มั้ง)

    แล้วหลังจากนั้นก็เป็นช่วง Q&A  
    เราเองก็อยากถามสดบ้าง แต่ก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าจะถามเรื่องอะไรเพราะคำถามในห้องบรรยายมีการคุมโทนคำถามที่ไปในทางมีสาระ
    เพื่อนเราที่ชอบพี่เบ๊นเหมือนกันก็อยากถามเรื่อง "ลอบสเตอร์" ที่เขียนไว้ใน New York 1st Time 
    เราในตอนแรกก็เชียร์ให้เพื่อนถามแต่เนิ่น ๆ แต่เห็นการคุมโทนคำถามแบบนั้นแล้ว เพื่อนเราเลยเก็บไปถามตอนขอลายเซ็นพี่เบ๊นอีกทีดีกว่า และเราก็เห็นด้วย

    มีคนถามพี่เบ๊นในทำนองที่ว่า ถ้าสมมติมีอะไรแบบนี้ พี่เบ๊นจะเขียนพล๊อต หรือสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างไร
    พี่เบ๊นบอกว่า ไปทุกมอ เจอคำถามแบบนี้ทุกมอ พี่ทำงานเป็นครีเอทีฟ ต้องคิดงานมาทั้งอาทิตย์แล้ว

    ขี้เกียจ 
    (ขำ)

    แต่พี่เบ๊นก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจคนถามขนาดนั้น สักพักหนึ่ง ก็พูดพอเป็น Guide Line สำหรับไปต่อยอดเอาเอง 

    หลังจากหมดช่วง Q&A เป็นช่วงขอลายเซ็นละ

    ในตอนแรกเรากะจะไปขอเป็นคนท้าย ๆ เพราะด้วยความคิดที่ว่าเป็นสต๊าฟงาน ไว้ขอทีหลังก็ได้
    แล้วเราก็เดินถ่ายรูปเล่นในห้องบรรยายสักพัก (และแวบไปเอาหนังสือเล่มที่ลืมจากหอพักก่อนที่จะกลับมาเดินเล่นในห้องบรรยายต่อ) พร้อมกับดูพี่เบ๊นแจกลายเซ็นไป

    สักพักมอง ๆ แถวไป เริ่มรู้สึกใจไม่ดี กลัวความคนจะเยอะขึ้น (เพราะงานนี้เป็นงานเปิด ใครจะมาเมื่อไหร่ก็ได้) แล้วพี่เบ๊นจะเหนื่อย กลัวพี่เบ๊นหนีกลับไปพักผ่อนก่อน และเราก็ไม่สามารถไปรั้งอะไรพี่แกได้

    เราจึงตัดกังวลด้วยการไปต่อแถวซะเลย 

    ยืน ๆ นั่ง ๆ กลิ้ง ๆ ถ่ายรูปเล่น ๆ ได้ไม่นานก็ถึงคิวเราแล้ว 

    "สวัสดีครับ ชื่ออะไรครับ" 

    เรามองพี่เบ๊นด้วยความตื่นเต้นระคนชื่นชม
    (ใส่เอฟเฟคระยิบระยับแบบอนิเมะญี่ปุ่น) 

    แล้วพี่เบ๊นก็หยิบ NY 1st Time มา ด้วยความที่เป็นเล่มที่ตีพิมพ์ครั้งแรก พอพี่เบ๊นเห็นก็เลยรู้สึกประทับใจ (ล่ะมั้ง) 

    "โห เล่มตีพิมพ์ครั้งแรกเลยนี่ เดี๋ยวนี้หายากนะ"
    "แฮะ ๆ "

    สักพักพี่อ่านข้อความที่เราเขียนไว้ในหนังสือ

    อันนี้



    "ก็นับว่าเป็น Fan Service ก็ได้นะ" พี่เบ๊นบอกเราหลังจากอ่านจบ

    ค่าาาาา /บิดตัวหนักกว่าเดิม

    เราเริ่มมีสติมากขึ้น เลยชวนพี่เบ๊นคุย เราบอกพี่เบ๊นไปว่าเราอยากเป็นนักเขียน เราชอบเขียนมากเลยเขียนบล็อกด้วยนะ เราเขียนอยู่ใน minimore นี่แหละ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเขียนจริงจังก็เพราะตอนนั้นดูหนังเรื่องหนึ่งมาแล้วอยากคุยกับใครสักคนเพื่อระบายความ 'อิน' ของตัวเอง แต่ด้วยความที่เราไปดูหนังย้อนหลัง เลยหาคนใกล้ตัวที่พอจะคุยเรื่องนี้ได้ยาก และคิดว่าคงไม่มีอารมณ์ร่วมกับหนังเท่าเรา เลยจัดการระบายมันลงในบล็อกซะเลย
    พี่เบ๊นก็ขอชื่อบล็อกเราไปแล้วบอกว่าไว้พี่จะไปอ่านนะ เราขอพี่เบ๊นช่วยมาคอมเม้นท์ให้ด้วย อยากรู้ว่าตัวเองเขียนแล้วเป็นยังไง

    จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นคอมเม้นท์พี่เบ๊นเลยนะ แง้
    แอบหวังอยู่เหมือนกัน แต่เราเข้าใจว่าพี่เบ๊นงานเยอะ
    แต่ก็อยากให้พี่เบ๊นมาอ่านอยู่ดี :^)

    พี่เบ๊นบอกว่าการที่เราเขียนบล็อกนับว่าเป็นเรื่องดีนะ แสดงว่าเราก็มีเลือดนักเขียนอยู่พอตัว และ "เขียนต่อไปเถอะถ้าเราชอบ ทุกวันนี้เรายังเขียนไดอารี่อยู่เลย" 

    มีไฟขึ้นมาเยอะ 
    (แต่หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ก็มาฝ่อเพราะเจอไฟนอล ไฟกองใหญ่กว่าที่พร้อมจะคราชีวิตนักศึกษาได้ทุกเมื่อ อ๊อก)

    คุยไปพี่เบ๊นก็เซ็นหนังสือไป เราดีใจที่ได้ซื้อหนังสือของพี่เบ๊นครบทุกเล่มที่พี่เบ๊นเขียน (ยกเว้น NY 1st Time ที่พิมพ์ปกใหม่) 
    ชีวิตติ่งรู้สึกคอมพลีทมาก ไม่เคยจ่ายเยอะให้กับนักเขียนคนใดคนหนึ่งมากขนาดนี้ 

    หวังว่าพี่เบ๊นก็คงจะดีใจที่มีเราเป็นติ่งนะ (ไม่หรอกม้างง)

  • คุยเสร็จเซ็นเสร็จเราก็ขอพี่เบ๊นถ่ายรูปซักหน่อย แล้วก็กลับไปนั่งรอให้งานเสร็จ เราจะได้เคลียร์ของ กลับมาเช็ครูปที่ถ่ายไป รู้สึกไม่โอเค อยากถ่ายใหม่ เลยรอพี่เบ๊นเซ็นให้คนอื่นจนเสร็จก่อนแล้วค่อยไปขอถ่ายอีก ด้วยความที่คนไม่เยอะมาก เลยรอไม่นาน เราจึงเข้าไปขอร้องพี่เบ๊น

    พี่เบ๊นไม่มีปัญหา ถ่ายใหม่ได้อยู่แล้ว

    แต่จังหวะที่เราจะถ่ายรูป เรากำลังจะนั่งบนพื้นเวที ในขณะที่พี่เบ๊นลุกแล้ว 
    พี่เบ๊น : เราจะถ่ายยังไง นั่งถ่ายหรือยืนถ่าย
    เรา : แล้วแต่พี่เบ๊นเลยค่ะ หนูจะนั่ง
    ก็เลยได้รูปนี้

       (ตอนแม่เราเห็นรูปนี้ครั้งแรก แม่ถามว่าใครเอาเท้ามาพาดขา เราเลยต้องอธิบายนานพอสมควรกว่าแม่จะเข้าใจ)


    กราบไนกี้กูมั้ยล่ะ

    สักพักก็มีคนมาขอลายเซ็นอีกสองสามคน หลังจากนั้นก็เสร็จงานแล้วก็มีการถ่ายรูปทีมงานกันนิดหน่อย 
    ก่อนจาก เราบอกพี่เบ๊นไปว่า เรียนจบเราจะไปสมัครงานที่แซลม่อน (เดี่ยวนะ เธอพึ่งปีหนึ่ง)
     "ดีครับดี" 
    อ๋อ จะไปสมัครเป็นบก.ค่ะ (มีการพาดพิงถึงบก.ในแซลม่อนเล็กน้อย แค่เล็กน้อยเท่านั้นและด้วยความรัก)
    "โห บก.เลยหรอ(ขำ)"

    เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับ

    สรุปภาพรวมวันนี้ : เรามีความสุขมากที่ได้เจอพี่เบ๊น/ เราไม่ต้องลงไปกรุงเทพฯ - ไปงานหนังสือ - ไปต่อแถวที่บูธ เพื่อที่จะรอถ่ายรูปกับพี่เบ๊นและคุยกัน ซึ่งมีพื้นที่และเวลาให้เราน้อยกว่าที่นี่แน่ และคงไม่ได้รูปแบบข้างบนด้วย/ เราดีใจที่พี่เบ๊นที่เราเจอตัวจริงเป็นกันเองกว่าที่เราคิด เพราะภาพพี่เบ๊นในหัวเราตอนแรกคือ หยิ่งแน่ ๆ นักเขียนใส่แว่นต้องหยิ่งแน่ ๆ ---ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น พี่เบ๊นน่ารักกับทุกคน/แต่ก็แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคน/ พี่เบ๊นนอกจากชอบบร็อคโคลี่แล้ว ยังชอบหมูกรอบอีกด้วย

    คุยกับพี่เบ๊นอีกนิดหน่อยเรื่องรีเควสคนที่จะมาพูดที่คณะ เราพูดพี่วิชัยไป และพี่เบ๊นตอบกลับมาว่าพี่วิชัยก็ดีนะ เห็นแกอยากขึ้นมาเชียงใหม่อยู่/ จากทับข้างหน้า ความจริงในใจคือรีเควสพี่อาร์ท จีโน่ไป/ จากการที่พี่เบ๊นมาที่คณะและถ่ายรูปโพสต์ในเฟส ทำให้รู้ว่ามกราคมปีหน้าพี่แชมป์ ทีปกร จะขึ้นมาพูดที่คณะอีกคน (เอ้าา) / นี่มันคณะแซลม่อนแน่ ๆ

    สรุปอีกที : ดีใจค่ะ และหวังว่าจะได้เชิญพี่เบ๊นมาคุยกันอีกในโอกาสหน้า

    ลาแล้วค่ะ สวัสดี


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Benz Siripatrachai (@benz.siripatrac)
โห อ่านแล้วเป็นเกียรติสุดๆ ไม่นึกว่าวันนั้นจะอินปานนั้น
ขอบคุณที่ติดตามกันมา และให้เอาตีนพาดนะ เป็นคนแรกและคนเดียวจริงๆ 5555
ปล. ไม่ได้เล่นควิซแคซแล้วแฮะ อดชนะเลย
ปลล. เคยเข้ามาคอมเม้นแล้วแฮะ ที่เขียนเรื่องหนัง แต่ทำไมไม่อยู่ สงสัยล็อกอินไม่ผ่าน
@benz.siripatrac วันนั้นอินจริงค่ะ ดีใจสุด ๆ ไม่ต้องลงไปกรุงเทพเองด้วย 555555
แล้วก็มาเม้นอีกรอบก็ได้นะคะพี่เบ๊น ถ้าพี่ว่าง :D