เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คนแปลกหน้าในบ้านฉันLOTUS
พึ่งหมอดู
  • สิ้นหวัง
    บอกตรงๆความรู้สึก ณ จุดนี้คือสิ้นหวัง

    แม่อยู่ที่ไหน? แล้วของพวกนั้นโดนเผาไปยัง? แม่หลงทางหรือเปล่า? วันนี้จะหาเจอไหม?
    และคำถามอื่นๆอีกมากมายที่ไร้คนตอบ แต่คำถามที่เลวร้ายที่สุดคือและไม่มีใครอยากกล่าวถึงคือ

    แม่ไม่ได้ทำร้ายตัวเองอยู่ใช่ไหม? 

    ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นหลังจาก"เรื่องนั้น" เกิดขึ้น 
    เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่บอบชำ้ทางจิตใจจะทำอะไรลงไปได้บ้าง

    หลังจากการถกเถียงในรถประมาณสิบนาที สรุปได้ว่าเราต้องเลือกระหว่าง
    1.ไปกรุงเทพ
    2.ไปชลบุรี
    3.กลับบ้านไปนอนด้วยความรู้สึกพ่ายแพ้
    ข้อสามถูกพ่อตัดออกไปด้วยเหตุผลว่ามันถือเป็นการหนีปัญหา แต่เอาจริงๆเถอะเราจะไปหาแม่ได้จากทีี่ไหนกันแน่ ข้อสามดูเป็นทางออกที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้วสำหรับฉันและน้อง แต่ยังไงก็ตามพ่อก็ไม่ยอมเด็ดขาด ทำให้สุดท้ายมาจบลงที่คำถามเดิม

    เราจะไปไหน? ระหว่างกรุงเทพกับชลบุรีเราจะไปหาที่ไหน? และถ้าไปที่นั่นแล้วจะไปไหนต่อ?

    อืม สิ้นหวังจริงๆ
    และในตอนนั้นเองที่น้องฉันเสนอทางออก 

    "ให้หนูลองถามหมอดูที่หนูรู้จักไหมว่าแม่ไปอยู่ที่ไหน เค้าดูโดยใช้ไพ่ออราเคิลได้นะ"

    คุณอาจจะคิดว่าใครมันจะไปบ้าดูได้วะ เชื่อถือได้หรอ ใครจะมาดูให้ตอนดึกๆดื่นๆวะ พวกมึงเสียสติไปแล้วเหรอ งมงายว่ะ!!!

    แต่เข้าใจคำว่าฟางเส้นสุดท้ายไหมค่ะ คนกำลังจะจมนำ้ต่อให้โยนอะไรมา เค้าก็คว้าทั้งนั้นละค่ะ

    "เอาสิ โทรเลย!" พ่อบอกด้วยความร้อนรน

    โชคดีเหลือเกินที่ตอนนั้นพี่เค้ายังไม่ได้นอน เค้าจึงรับปากว่าจะดูให้โดยขอเวลาทำสมาธิก่อน

    15 นาทีผ่านไป....
    สามชีวิตแดกไอติมไปหมดสามแท่งแล้วกับนำ้อีกหนึ่งขวด นั่งจ้องหน้าจออย่างใจจดใจจ่อ

    ตู็ด---- ตู็ด----- ตู็ดดดดดดด!!!!!

    "โทรมาแล้ว!!! รีบรับเร็ว!!!" ฉันกับพ่อตะโกน
    น้องฉันกดรับแล้วเสียงนุ่มนวลชวนให้อุ่นใจก็ดังมาจากในโทรศัพท์

    "ฮัลโหลค่ะ  นี่ครูดรีมนะค่ะ พี่ดูจากไพ่แล้วไพ่บอกว่าตอนนี้คุณแม่อยู่ในที่ๆมีีนำ้อะค่ะ"

    พวกเราอึ้ง" ที่ๆมีนำ้นี่คือยังไงค่ะ ทะเลหรือแม่นำ้ เป็นแหล่งนำ้ธรรมชาติหรือเปล่าค่ะ"

    "ค่ะ เป็นที่ๆอยู่ใกล้แหล่งนำ้ธรรมชาติมีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ"

    พวกเราสามคนมองหน้ากัน หรือว่าจะเป็นชลบุรี!?

    เราจึงถามอีกคำถาม "ถ้าเราไปจะเจอเค้าไหมค่ะ?"

    "อืมมม จากที่ดูจากไพ่นะค่ะบอกว่าไม่น่าเจอค่ะหรือถึงเจอก็ไม่น่าพากลับได้ ตอนนี้คุณแม่เค้ามีลักษณะประมาณว่าหลงทางอะค่ะ โดยเฉพาะในแง่ของจิตใจ เค้าดูสับสนมากเลย แล้วเค้าก็รอคุณพ่อไปง้ออยู่นะค่ะ"

    "จริงเหรอครับ!!! "พ่อขึ้นเสียง

    "ค่ะ แต่พี่ก็เพิ่งเป็นหมอดูได้ไม่นานอาจจะมีตรงบ้างไม่ตรงบ้างนะค่ะ"

    แต่บอกตรงๆว่าความรู้สึกเราคือต่อให้เป็นมาแค่สามชั่วโมงก็เชื่อค่ะ ขอแค่มีคนช่วยบอกว่าให้ไปหาที่ไหนก็พอ 

    เรากล่าวขอบคุณอย่างยกใหญ่และวางสายพร้อมกับขับรถซิ่งไปชลบุรีทันที

    ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้เที่ยงคืน


  • ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงชลบุรี เราตัดสินใจที่จะเริ่มหาจากคอนโดของเราใกล้ที่ทำงานแม่ที่ชลบุรีก่อน

    แต่แน่นอนว่าไม่เจอ

    "ยังเร็วเกินไปที่จะถอดใจ ลองไปหาที่อพาร์ตเมนต์หลังที่ทำงานแม่ก่อนละกัน"
    พ่อพูดปลุกใจพวกเรา ซึ่งบางทีอาจจะตัวเองด้วย

    เราเคยพักกับแม่หลายต่อหลายครั้งที่อพาร์ทเมนต์นั้นจึงค่อนข้างเป็นไปได้ที่เม่จะอยู่ที่นั่น
    แต่เราผิดหวังมาถึงสองครั้งแล้ว รอบนี้เราจึงเรียนรู้ที่จะไม่คาดหวังอะไรมากนัก

    พ่อจอดรถตรงที่จอดรถหลังอพาร์ทเมนต์ แล้วพวกเราก็ลงจากรถไปหาพนักงานที่ล็อบบี้

    "ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่ามีผู้หญิงลักษณะ------/ตรงนี้ขอปกปิดข้อมูลนะคะ/มาพักไหมค่ะ เราเป็นครอบครัวของเค้านะค่ะ เค้าหายตัวไปจากบ้านได้สักพักแล้ว" พวกเราถามโดยไม่คาดหวังอะไรนัก

    "มาค่ะ" ใช่คุณ------ ------ หรือเปล่าค่ะ" 

    "อะไรนะ!  เค้ามาพักจริงๆหรอค่ะ" ฉันถามด้วยใบหน้าแตกตื่น สีหน้าและท่าทีของน้องกับพ่อเปลี่ยนไปทันที

    "ใช่ค่ะ อยู่ห้อง 208 จะโทรจากที่นี่ก็ได้นะค่ะ" พนักงานตอบ

    ฉันหันไปมองหน้าพ่อ พ่อบอกว่า "โทรเลยครับ รบกวนด้วย"

    ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดูเหมือนเครื่องมือสยองขวัญทันที 
    "ใครจะคุยกับแม่ละ" ฉันถาม พวกเรามองหน้ากันตาปริบๆ

    สุดท้ายน้องสาวฉันก็ไปถือโทรศัพท์เรียบร้อย โดยมีพวกเรายืนมองด้วยสายตาหวาดหวั่นอยู่ข้างๆ

    "แม่ค่ะเรามารับแม่นะ กลับบ้านกันเถอะค่ะ"

    "ไม่!! แม่ไม่กลับ มารับทำไม ไม่ต้องมายุ่ง!!!" เสียงแม่ฟังดูบ้าคลั่ง ชวนให้พวกเราขนลุก
    พวกเรายิ่งกว่าใจแป้ว น้องสาวพยายามขอร้องให้แม่ฟังเหตุผล แต่ไม่มีคำใดจะสื่อถึงเลย แม่เอาแต่ตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคายกร้าวร้าว สุดท้ายแม่ตะโกนว่า "ให้พ่อขึ้นมา! เดี๋ยวนี้ !!!"

    และสายก็ขาดไป

    ใจจริงฉันนะค่ะ ตอนนั้นอยากกระโดดขึ้นรถกลับบ้านเลยค่ะ คำที่หมอดูพูดก็ผุดขึ้นมาทันที ฉันมีลางสังหรณ์ว่าเรื่องนี้ต้องจบไม่สวยแน่นอน ฉันหันไปมองหน้าพ่อแล้วก็รู้เลยว่า ถอยกลับไม่ได้แน่นอน

    เอาวะ ถ้าจะตายก็ตายกันให้หมดนี่แหละ

    ตอนอยู่ในลิฟท์ บรรยากาศประหนึ่งงานศพ หน้าพ่อซีดขาวราวกับกระดาษ 
    เมื่อออกจากลิฟท์ เหงื่อก็ผุดออกมา ถ้อยคำที่หมอดูกับแม่พูดวนซำ้กันอยู่ในหัว

    "พ่อค่ะ ถอยกลับตอนนี้ยังทันนะค่ะ" ฉันเอ่ย

    พ่อมองหน้าฉัน ดวงตาของพ่อมีหลายอารมณ์ปนกันอยู่ในนั้น เหนื่อยล้า โกรธ เกลียดชัง สับสน แต่ที่อยู่ลึกที่สุดคือ ความเสียใจ....

    ฉันรู้ว่าพ่อก็รู้สึกอยากหนีเหมือนกันฉัน แต่พ่อเป็นคนอย่างนี้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อไม่เคยหนี โดยเฉพาะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากเรื่องของตัวเอง

    และแล้วพวกเราก็มาถึงประตูหน้าห้อง 208

    พ่อฉันเคาะประตูไป

    แล้วประตูก็เปิดออกมา
     






เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in