เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คนแปลกหน้าในบ้านฉันLOTUS
การหายตัวไป
  • สามทุ่มแล้ว แม่ก็ยังไม่กลับมาบ้าน ไม่มีการติดต่อใดๆจากเธอมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว และเราก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้ด้วย ไม่ว่าจะโทรหรือไลน์ ไม่มีใครตอบ
    ซึ่งนี่เป็นเรื่องแปลก แปลกมาก ไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน
    ปกติเธอจะกลับบ้านตั้งแต่หกโมงทุกวัน

    แล้วเธอไปอยู่ที่ไหนกัน???

    ฉันพยายามมองเป็นเรื่องปกติ ไม่แน่โทรศัพท์แม่อาจจะเสีย หรือไม่แน่แม่อาจจะแค่หาเวลาอยู่คนเดียวสักพักหลังจากเกิด "เรื่องนั้น" ขึ้น 

    "ไม่แน่นี่อาจจะเป็นแค่เซอไพรส์เล่นๆจากแม่ก้ได้?" น้องสาวฉันบอก

     ตรงกันข้ามกับการพยายามปิดซ่อนความร้อนใจของฉันและน้อง พ่อนั้น เห็นได้ชัดว่ากังวลกับการหายตัวไปของแม่มาก เค้าเดินเข้าเดินออกประตูตลอด สายตามองออกไปข้างนอกทุกๆสิบนาที คาดหวังว่าตัวเองจะเห็นไฟหน้าจากรถฟอร์จูนเนอร์ของแม่ผ่านหน้าต่าง

    แต่เธอก็ยังไม่กลับมา

    สึ่ทุ่มแล้ว ความพยายามที่จะอดทนรอของพ่อก็หมดลง
    "พ่อจะออกไปตามหาแม่ที่คอนโดแถวเซ็นทรัลมีใครจะไปกับพ่อบ้าง?"
    แน่นอนว่าฉันและน้องตามพ่อไป
     
    ภายในรถ พวกเรากลบความกังวลใจด้วยการถกเถียงกันว่าการหายตัวของแม่ครั้งนี้เกิดจากอะไร
     
    "ยังไงก็คงไม่พ้นเรื่องนั้นแหละ" น้องสาวฉันบอก 
    ฉันเห็นด้วยเพราะยังไงมันก็น่าจะมีแค่"เรื่องนั้น"เรื่องเดียวที่จะให้แม่ทำอะไรแบบนี้ได้

    "พ่อค่ะแล้วถ้าแม่ทำอะไรกับ passport, working license และ driving license ของพ่อจริงๆเราจะทำยังไงดี?" ฉันถามพ่อ

    "พ่อก็ไม่รู้ แต่เห็นแม่บอกว่าแม่จะเผาทิ้งไม่ให้พ่อเหลืออะไรแม้แต่อย่างเดียว"

    ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดหรอก

    ก่อนหน้าที่แม่จะหายไป แม่โทรมาบอกพ่อตอนเช้าว่าแม่ได้เอา passport, working license และ driving license ของพ่อมาจากกระเป๋าและเมื่อพ่อเช็กดูปรากฏว่ามันหายไปจริงๆ เมื่อพ่อถามว่าเพื่ออะไร แม่บอกว่าเธอจะเผาทิ้งเพื่อแก้แค้นให้กับ"เรื่องนั้น"
    แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อแม่ได้เลย
    พ่อร้อนใจมากจนไม่สามารถทำงานได้ในวันนั้นต้องมานั่งรอแม่ที่บ้าน

    แต่แม่ก็ไม่ติดต่อมาอีกเลยหลังจากนั้นและก็ไม่กลับมาที่บ้านด้วย


    เรื่องมันเลยเถิดไปถึงขนาดนี้ได้ยังไงกัน? ฉันคิดด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ

    "แต่หนูว่าแม่เค้าไม่น่าจะเผาทิ้งจริงๆหรอกนะ" น้องสาวผู้มองโลกในแง่ดีเสมอบอก
    "พ่อก็หวังว่าอย่างนั้นนะ" พ่อพูด สภาพพ่อย่ำแย่มาก ความเหนื่อยล้าฉายชัดออกมาผ่านใบหน้าของพ่อ
    มือของพ่อกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน พ่อดูแก่ขึ้นไปราวสิบปีตั้งแต่ "เรื่องนั้น" เกิดขึ้น
     
    "ถึงแล้ว! ลองไปหาดูกัน" พ่อพูด พลางมือควานหาคีย์การ์ดที่จะเปิดห้องพร้อมกับจอดรถไปด้วย
    ห้องของพวกเราที่ปล่อยว่างนั้นอยู่ชั้นแปด ความจริงแม่อาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่ก็ได้ แต่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้นออกมา แน่นอนว่ารวมถึงฉันด้วย

    ที่หน้าห้อง พ่อดึงคีย์การ์ดออกมาแตะกับตัวล็อก
    ประตูสีขาวเปิดออก ข้างในนั้นมืดมิด
    ไม่มีใครอยู่ในนั้น ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของใครมาเยี่ยมเยียนด้วยซำ้

    แล้วแม่หายไปอยุ่ที่ไหนกัน???

  • พวกเรากลับมาตั้งหลักกันในรถ พร้อมกับคำถามมากมายเต็มหัว

    "พ่อเป็นไปได้หรือเปล่าที่แม่จะอยู่คอนโดที่กรุงเทพ " น้องเริ่มเปิดบทสนทนา

    "แต่วันนี้เห็นแม่บอกว่าเมื่อวานว่าวันนี้จะไปทำงานที่ชลบุรีไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ลองหาแถวนั้นดูละ?"

    "หนูว่ามันมีความเป็นไปได้ทั้งคู่นะ เราจะเริ่มหาที่ไหนกันดี"

    "พ่อไม่ได้เอาคีย์การ์ดของคอนโดที่กรุงเทพมา ยังไงก็ตามกลับไปบ้านก่อนละกัน "

    เมื่อถึงบ้านพ่อไปเช็กคีย์การ์ดของคอนโดที่กรุงเทพ แล้วปรากฏว่ามีครบทุกอัน

    แสดงว่าแม่ไม่ได้เอาไป แล้วแม่ไปอยู่ที่ไหนกัน
    พวกเรากลับขึ้นรถพร้อมกับความรู้สึกเคว้งคว้าง
    "พ่อค่ะ เป็นไปได้ไหมว่าแม่อาจจะไม่ได้อยู่ที่คอนโดไหนเลย ไม่แน่นะ... แม่อาจจะพักที่ไหนก็ไม่รู้"
    ในที่สุดฉันก็เอ่ยสมมุติฐานที่กวนใจฉันออกมา
    "ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะไปหาแม่ที่ไหนดี? "น้องถาม

    "พ่อก็ไม่รู้" เสียงพ่อสั่น พ่อฟุบหน้ากับพวงมาลัย ฉันกับน้องเห็นดังนั้นก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี

    ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มเกือบครึ่ง สามชีวิตอยุ่ในรถที่จอดอยู่ในปั็มนำ้มันพลางคิดถึงความเป็นไปได้ว่าแม่จะไปพักอยู่ที่ไหนกันแน่ 

    เมื่อย้อนนึกกลับไป มันช่างเป็นประสบการณ์ที่เหนือจินตนาการจริงๆ ตั้งแต่เกิดมา 18 ปีไม่เคยคิดแม้แต่สักครั้งว่าตลอดชีวิตของการเกิดมาเป็นคนว่าจะเจออะไรแบบนี้

    และถ้าเป็นไปได้... ก็ไม่อยากเจออีกแล้ว
    แต่ตอนนั้นพวกเราทุกคนไม่รู้เลยว่าเรื่องราวที่เกิดหลังจากนั้นจะแย่ขึ้นได้เลวร้ายชนิดที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว









เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in